The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 208
ตอนที่ 208แผนบุกของจอมมารเฒ่า
เจียงหลิวเย่สังเกตเห็นว่าตั้งแต่ที่จอมมารเฒ่าได้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีเขาก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปอย่างมากFriendCircleในWeChatของเจียงหลิวเยู่นั้นมีข่าวลือแปลกประหลาดออกมามากมายและจอมมารเฒ่าผู้ซึ่งได้มีโอกาสเผชิญกับเทคโนโลยีสมัยใหม่แน่นอนว่าเจียงหลิวเยี่ย่อมมีความรู้เหนือกว่าผลจึงออกมาว่าตอนนี้จอมมารเฒ่ามีสภาพเป็นคนแก่ที่เชื่อทุกสิ่งทุกอย่างตามFriendCircle
เจียงหลิวเย่คิดมาตลอดว่าพวกคําทํานายนั้นดูไม่น่าเชื่อถือ..แต่ด้วยการที่จอมมารเฒ่าเป็นคนพูดเธอก็ไม่กล้าที่จะขัด
หลังจากปล่อยให้ความเงียบครอบงําบรรยากาศอยู่นานเธอจึงทําการเปลี่ยนหัวข้อสนทนา“คุณจอมมารคุณมีแผนสําหรับค่ายฝึกของพวกนักเรียนที่จะมาถึงแล้วหรือยัง?”
“แน่นอนสิฉันวางแผนไว้หมดแล้ว”หลังจากพูดจบก็มีเสียงหัวเราะดังออกมาจากหน้ากาก“ตัวฉันน่ะได้ทําการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตไว้หมดแล้วประตูระหว่างมิติล่าสุดนั้นเกิดขึ้นเมื่อหกปีก่อนใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว”เจียงหลิวเยตอบอย่างจริงจัง“แต่หลังจากการบุกไม่นานกองทัพปีศาจก็ล่าถอยกลับไปด้วยเหตุผลบางอย่างแต่อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลได้สรุปว่าราชาปีศาจนั้นกลัวพลังของนายพลยจึงตัดสินใจล่าถอยกลับไป”
“นั่นเป็นไปไม่ได้เลย”จอมมารกัวผีตอบกลับมาแทบจะในทันทีจากหน้ากากผีดิบ“เจียนฉวนและตัวฉันนั้นรู้จักกันมานานและฉันก็รู้ถึงพลังของเขาดีไม่ว่าเขาจะเก่งกาจเพียงใดมันก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะทําให้ราชาปีศาจในตอนนั้นหวาดกลัวและล่าถอยกลับไปได้…”
เจียงหลิวเย่นั้นรู้สึกสงสัย“ท่านจอมมารทําไมจู่ๆถึงพูดเรื่องประตูระหว่างมิติ?”
“นั่นก็เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่จะดูดพลังชีวิต”จอมมารเฒ่าตอบ“พระจันทร์จะเต็มดวงในอีกสองวันตัวฉันนั้นรู้ดีว่าเขตอาคมแบบไหนที่จะดึงดูดพลังด้านมืดเพื่อสร้างประตูระหว่างมิติขึ้นมาฉันจะใช้มันเพื่อดึงดูดความสนใจเมื่อประตูมันปรากฎบนโลกแล้วถึงตอนนั้นฉันจะพาเธอไปตามแผน
จอมมารกัวผีนั้นไม่อยากจะเปิดเผยตัวเองก่อนที่เขาจะฟื้นคืนสภาพเดิมอย่างสมบูรณ์ถ้าหากเขาเรียกประตูระหว่างมิติสําเร็จสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นก็จะถูกโยนไปให้เหล่าปีศาจเสียเอง
เมื่อได้ยินดังนี้เจียงหลิวเย่ก็เข้าใจทุกอย่างอย่างแจ่มแจ้งมันเป็นแผนที่จะสร้างความสับสน
แต่ทว่าพวกเขาจะทําสําเร็จอย่างราบรื่นหรือเปล่า…
เจียงหลิวเยู่ไม่กล้าที่จะฟันธงเพราะในใจเธอนั้นยังคงรู้สึกกังวล
วันอังคารที่14มิถุนายนของปีการศึกษาที่1
วันที่ทั้ง6โรงเรียนจะเข้าร่วมการฝึกทหารก็มาถึง
นักเรียนจากทั้ง6โรงเรียนในเขตไปหยวนจะมารวมตัวกันซึ่งโรงเรียนประจําเขตทั้ง4โรงเรียนก็ได้เข้าร่วมด้วยนั่นทําให้ค่ายฝึกครั้งนี้ดูคึกคักและดึงดูดความสนใจจากบุคคลภายนอกได้มาก
หัวหน้าอาจารย์ที่คอยดูแลเด็กๆคราวนี้คืออาจารย์ดังเมื่อหวังลิ่งมาถึงโรงเรียนในตอนเช้าเขาเห็นรถบัสหลายคันจอดเรียงกันอยู่ริมถนนหน้าโรงเรียน
ขณะนี้อาจารย์ดังก็ยังคงอยู่ในการประชุมอาจารย์ในช่วงเช้าอยู่ในขณะที่เหล่านักเรียนแต่ละห้องเข้าแถวอยู่ที่หน้าประตูโดยมีตัวแทนที่รับผิดชอบด้านกีฬาควบคุมและดูแล
บริเวณหน้าโรงเรียนอันดับที่60นั้นยังคงมีรูปแกะสลักหินเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยรากไม้และตะไคร้ต้นปาล์มที่ดูน่าสงสารตามข้างทางเดินและบริเวณที่แน่นขนัดเต็มไปด้วยเด็กนักเรียนนับรวมๆก็ไม่ต่ํากว่า300คน
ภายในแถวกัวหาวเหลือบมองไปรอบๆ”ฉันได้ยินว่าครูฝึกที่จะเป็นคนนําได้เดินทางมาถึงโรงเรียนแล้ว
“แล้วพวกเขาอยู่ไหนหล่ะ?“เสี่ยวหัวเฉิงกระซิบถามกลับ
“ซุนหรงพึ่งจะกลับมาจากโรงเรียนอันดับที่59ฉันคิดว่าเธอคงจะมีข้อมูลสําคัญติดไม้ติดมือกลับมาหลังจากไปแลกเปลี่ยนเป็นเวลาหลายวันเธอคงจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลกับบรรดาอาจารย์ในตอนช่วงเช้าฉันได้ยินมาว่าครูฝึกเหล่านั้นได้เดินทางมาพร้อมกับซุนหรง…”
กัวหาวพูด”ฉันได้ยินมาจากลุงๆของฉันว่าครูฝึกเหล่านี้อยู่ระดับGoldClassซึ่งซุนหรงได้ใช้อํานาจของม่านน้ําฮวงโหทุกคนในนั้นเก่งกาจและมีระดับพลังที่สูงพอสําควรยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังเคยเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ปีศาจบุกเมืองเมื่อหกปีก่อน”
“พวกเขาเก่งกาจขนาดนั้นเชียว?”
“พวกเขายังมีสิ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือพวกเขาล้วนแต่มีทักษะทางด้านปรุงยาเป็นเลิศ…”ทันทีที่กัวหาวพูดจบมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับหวังสิ่งที่สัมผัสพลังวิญญาณที่คุ้นเคยได้ท่ามกลางฝูงคนด้วยเหตุผลบางอย่างทําให้หวังลิ่งรู้สึกไม่สบายใจ
และก็เป็นอย่างที่หวังลิ่งคิดทันใดนั้นเองก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้นและหวังลิ่งก็ได้เห็นร่างของผู้ชายที่ดูดีคนหนึ่งค่อยๆลอยลงมาจากฟ้า
ผู้ชายรูปร่างผอมใบหน้าหล่อเหลาด้วยผมสีเทาแต่งกายในชุดจีน…
เมื่อโทยะจอมอมตะปรากฏตัวท่าโพสของเขานั้นดูดีมากเหมือนพระเอกที่ปรากฏกายในหนังทุกๆการเคลื่อนไหวไม่อาจละสายตาได้แม้แต่การลงจากกระบี่บินก็ยังดูดี
แน่นอนว่าถ้าเป็นผู้ฝึกตนที่ระดับสูงกว่าจะไม่รู้สึกประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวเหล่านั้นเลยแต่ทุกวันนี้ผู้ฝึกตนที่แสดงภาพยนต์ไม่จําเป็นต้องพึ่งสลิงคนเหล่านั้นล้วนฝึกฝนร่างกายมาอย่างดีจนทําให้พวกเขานั้นสามารถเคลื่อนไหวอย่างสวยงามได้ทุกท่าทาง
แต่ถึงอย่างนั้นเบื้องหน้าเหล่านักเรียนที่อยู่เพียงระดับแรกเริ่มลมปราณการเคลื่อนไหวที่สวยงามของโทยะจอมอมตะบวกกับลักษณะชนชั้นสูงและชุดจีนนั้นทําให้บรรดานักเรียนต่างตื่นเต้นกับภาพที่พวกเขาเห็น
หวังสิ่งซึ่งยืนต่อแถวอยู่นั้นกลับไม่ได้แสดงสีหน้าหรือท่าทางอะไรออกมาเลย
พูดกันตามตรงเขากลับรู้สึกไม่สบายใจเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าครูฝึกที่จะมานําพวกเขานั้นคือโทยะ
มันเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสําคัญที่ครูใหญ่เซ็นให้แก่การฝึกทหารครั้งนี้ในการที่จะชนะการแข่งขันครั้งนี้40%มาจากครูฝึกและอีกที่เหลือ60%นั้นมาจากศักยภาพของเด็ก50%และจากโชคอีก10%
โทยะจอมอมตะนั้นไม่ได้ถูกจ้างมาถูกๆเขาแค่รับแต่งคอสเพล์ก็ได้เงินไม่ต่ํากว่าล้านหยวนแล้วถ้าหากใครอยากให้เขาปรุงยาให้นอกเหนือไปจากค่าจองตัวพวกเขายังต้องเตรียมเงินไม่ต่ํากว่าสิบล้านในการปรุงยา…นี่เป็นแค่เพียงค่าตัวและค่ายาของนักปรุงยาระดับแนวหน้า
แม้ว่าทางโรงเรียนจะใช้เส้นสายของม่านน้ําฮวงโหในการเชิญโทยะมาเป็นครูฝึกในครั้งนี้ได้หวังลิ่งก็คิดว่าพวกเขาคงจ่ายเงินไปไม่น้อยกับเรื่องนี้
ในขณะที่เขากําลังคิดถึงเรื่องเหล่านั้นโทยะก็ได้เดินผ่านมาทางเขาพอดีชุดจีนสีขาวของเขานั้นพลิ้วไหวตามการเคลื่อนไหวทําให้บรรดาเด็กสาวต่างตกอยู่ในภวังค์
เมื่อโทยะเดินผ่านไปทางลานกว้างเล็กๆเขาไม่สามารถรับรู้ได้ถึงพลังวิญญาณของหวังสิ่งที่อยู่ท่ามกลางเด็กนักเรียน
แต่เมื่อชายหนุ่มผมเทาเดินเข้าใกล้แถวของห้องพิเศษชั้นปีที่หนึ่งห้องสามและเห็นหวังลิ่งเพียงไม่กี่วินาทีภายในหัวของเขานั้นก็ว่างเปล่าไปเป็นที่เรียบร้อย
“หลิงเฉินเหริน?”
“หึม…นี่มันเรื่องอะไร?!”
“ทําไมหลิงเงินเหรินถึงมาปรากฏอยู่ในที่แห่งนี้กัน?”