The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 196
ตอนที่ 196 พลังสายฟ้าเทพเจ้า
บรรยากาศหน้าร้านบาร์บีคิวค่อนข้างจะอึมครึม ลูกค้าที่มารอต่างรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องมานั่งรอคิวแบบไม่มีกําหนดเช่นนี้
พนักงานที่อยู่ข้างในร้านเดินสวนกันอย่างวุ่นวายไม่แพ้พนักงานรับคิวข้างนอกร้าน พนักงานเสิร์ฟจากในร้าน นําน้ําออกมาบริการลูกค้าที่ต่อแถวอยู่บริเวณข้างหน้าร้าน
หวังลิ่งคิดว่ามันเสียเวลาเปล่า จากอัตราเข้าและออกของลูกค้า ดามาราจาอาจจะทํางานเสร็จก่อนที่พวกเขาจะทันได้ถึงหน้าร้านเสียอีก
แต่ทันใดนั้นเองก็มีเด็กผู้หญิงจากแถวข้างหน้าสุดเดินมาหาโทยะด้วยใบหน้าเขินอาย
เด็กผู้หญิงคนนี้มาจากเกิร์ลกรุ๊ปวงหนึ่งซึ่งได้รับเชิญให้มาเต้นที่ตําหนักตระกูลเสี่ยว แต่ทว่าเพื่อนสมาชิกในวงจํานวนหนึ่งไม่ว่าง จึงทําให้มีที่ว่างเหลืออยู่
อันที่จริงแล้วมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรที่สมาชิกวงมากันไม่ครบ แต่ทันทีที่เธอมองผ่านฝูงชนไปเธอสังเกตเห็น “หนุ่มหล่อ” 2คนยืนอยู่ข้างหลัง
โทยะไม่ได้พูดอะไรเขาแค่ยิ้มกลับไปเพียงเท่านั้น และเพราะเหตุนี้เองพวกเขาก็ถูกเชิญร่วมโต๊ะกับเกิร์ลกรุ๊ปทั้งอย่างนั้น
หวังลิ่งเห็นว่ามีคนจํานวนกว่าร้อยคนยืนเข้าแถวรอ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้รับหมายเลขแล้ว หวังลิ่งคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางถึงคิวของเขาอย่างแน่นอน
เขาแอบคิดไปถึงความคิดก่อนหน้านี้ “หน้าตาดีมีประโยชน์อะไร” …
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ‘ในยุคที่หน้าตาคือทุกสิ่งแบบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้หากหน้าตาดีพอ!’
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องต่อแถวแล้ว หวังลิ่งยังคงรู้สึกไม่สบายใจ เขายอมรับว่าเขาชอบการอยู่คนเดียวมากกว่าและรู้สึกแปลกที่ต้องรับประทานอาหารกับคนแปลกหน้าที่แม้แต่ยังไม่เคยแชทออนไลน์กันมาก่อน
แต่หวังลิ่งก็ต้องรอบรับว่าเด็กผู้หญิงกลุ่มนี้น่ารักกันทุกคน ทั้งกลุ่มรวมโทยะและหวังลิ่งแล้วมีทั้งหมด10คน พนักงานต้อนรับพาพวกเขาไปยังห้องส่วนตัว เด็กผู้หญิงสวมกระโปรงสีดําตากลมโตแนะนําตัวกับพวกเขา “พวกนายเรียกฉันว่าแบมบูก็ได้ ฉันเป็นรองกัปตันของวง”
แรกเริ่มพวกเธอมีด้วยกัน12คนที่จะต้องมารับประทานอาหารที่ร้านบาร์บีคิวแห่งนี้แต่มี4คนที่ไม่ว่าง พวกเธอนั้นถูกเชิญให้มาแสดงที่นี่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในร้านอาหารแห่งนี้ทางตระกูลเสี่ยวจึงออกให้เป็นกรณีพิเศษ…หรืออาจจะพูดได้ว่าบัตรกํานัลในมือของพวกหวังลิ่งก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป
หลังจากเข้ามายังห้องพิเศษ หวังลิ่งขยับตัวเองเข้าไปนั่งอยู่ในมุมมุมหนึ่งโดยไม่แสดงสีหน้าใดออกมา
“ขอโทษทีนะทุกคน คนคนนี้เขาพูดไม่เก่งนะ…” โทยะอธิบาย
แบมบูส่ายหัว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พวกเราเป็นคนเชิญพวกคุณมาเองกินตามสบายเลยนะคะ”
แต่ละคนส่งเมนูอาหารต่อกันหลังจากที่สั่งของตนเองเสร็จแล้ว เมื่อถึงตาหวังลิ่งเขาเสกเรียกถุงพลาสติกออกมาในมือ
“นี่คือ…” โทยะจอมอมตะจําได้ว่าเขาเคยเห็นถุงนี้ที่ไหนมาก่อน
มันคือขนมบะหมีรสเกี้ยวน้ําซึ่งคุณปู่ของหวังลิ่งเป็นคนทําก่อนหน้านี้
หวังลิ่งคิดว่าในที่สุดเขาก็หาโอกาสกินมันได้เสียที หลังจากเอามันไปย่างสักนิดมันคงจะอร่อยขึ้นเป็นกอง
โดยไม่พูดพร่ําทําเพลงหวังลิ่งนําขนมบะหมี่ของเขาไปวางบนถาดย่าง ไม่นานนักกลิ่นของขนมบะหมีซึ่งทําพิเศษโดยคุณปู่ของเขาก็ลอยตลบอบอวลไปทั่วห้อง
หลังจากที่เด็กผู้หญิงเกิร์ลกรุ๊ปได้กลิ่นของขนมบะหมี่เกี๊ยวน้ําเรียกน้ําตา น้ําตาของพวกเธอก็เริ่มไหลออกมา
“สาวๆมีอะไรรึเปล่า?” โทยะจอมอมตะรู้สึกใจหายที่เห็นนัยน์ตาแดงๆจากการร้องไห้ของพวกเธอ
แบมบูสั่งน้ํามูกออกและดวงตากลมโตของเธอก็เต็มไปด้วยหยดน้ําตา “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน…”
กลิ่นหอมที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ มันสามารถทําให้คนที่สูดดมเข้าไปคิดถึงอาหารฝีมือคุณแม่ของพวกเขา
และเพราะเหตุนี้เอง ก่อนที่บาร์บีคิวในห้องพิเศษนี้จะเริ่มต้นขึ้น ทุกคนภายในห้องยกเว้นหวังลิ่งก็ต่างกันหน้าก้มตาเช็ดคราบน้ําตาของตนเอง
แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ กลิ่นของมันไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงในห้องนี้ มันลอยออกไปทั่วร้านบาร์บีคิวจนทําให้คนในร้านทุกคนต่างนั่งร้องไห้ตามๆกันไป…
…………….
บรรยากาศหน้าร้านบาร์บีคิวค่อนข้างจะอึมครึม ลูกค้าที่มารอต่างรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องมานั่งรอคิวแบบไม่มีกําหนดเช่นนี้
พนักงานที่อยู่ข้างในร้านเดินสวนกันอย่างวุ่นวายไม่แพ้พนักงานรับคิวข้างนอกร้าน พนักงานเสิร์ฟจากในร้านนําน้ําออกมาบริการลูกค้าที่ต่อแถวอยู่บริเวณข้างหน้าร้าน
หวังลิ่งคิดว่ามันเสียเวลาเปล่า จากอัตราเข้าและออกของลูกค้า ดามาราจาอาจจะทํางานเสร็จก่อนที่พวกเขาจะทันได้ถึงหน้าร้านเสียอีก
ดามาราจานั้นเป็นหัวหน้าแผนกบริการของตําหนักตระกูลเสี่ยว
เมื่อพวกเขาเข้ามาภายในห้องทํางานของดามาราจา หวังลิ่งเห็นผู้ชายร่างท้วมไว้ผมทรงสลิคแบ็ค(slickedback)สีดํานั่งอยู่ข้างในตัวของผู้ชายคนนั้นเปียกโชกไปด้วยเหงื่อและยังคงมีแว่นก็อกเกิ้ล(goggles)ห้อยอยู่รอบคอของเขา ซึ่งเขาใช้มันเพื่อป้องกันแสงจ้าจากสายฟ้าเทพเจ้า [สายฟ้าเทพเจ้าเป็นชื่ออาวุธศักดิ์สิทธิ์นะครับ…ผู้แปล]
“พี่โทยะ?” ดามาราจาลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ด้วยความดีใจเมื่อเห็นโทยะจอมอมตะ
ทั้งสองคนเคยพบกันและมักจะไปดื่มเหล้าด้วยกันบ่อยครั้ง
สายฟ้าดามาราจามองไปยังหวังสิ่งซึ่งยืนเงียบและทําความเคารพโดยการยกกําปั้นขึ้นมาแนบอก “นี่คงเป็น คุณรุ่นพี่หลิง? คุณหลิงดูเด็กกว่าที่ผมคิดเอาไว้เยอะเลยนะเนี่ย…”
และก็เหมือนทุกคน เมื่อสายฟ้าดามาราจาเห็นหวังลิ่งเป็นครั้งแรกเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายซึ่งมีพลังมหาศาลกลับมีรูปลักษณ์ภายนอกเด็กขนาดนี้… การดูแลรักษาร่างกายของเขามันดีเกินไปแล้ว!!
หวังลิ่งไม่ได้ว่าอะไรเขาแค่พยักหน้าให้เป็นการทักทายก่อนที่เขาจะนําเอาเศษใบมีดที่แตกจากอาวุธโบราณของกัวผีออกมา
ดามาราจาขมวดคิ้วเป็นปม
“มีอะไรรึเปล่า?” โทยะถาม
ดามาราจาหยิบแว่นขยายจากโต๊ะทํางานของเขามาส่องดูเศษใบมีด “อืม…ฉันคิดว่ามันได้รับความเสียหายมากกว่าเห็นจากในรูปถ่าย รอยแตกมันไม่สม่ําเสมอจึงทําให้ยากต่อการเชื่อมติดกัน”
“แล้วซ่อมมันได้ไหม?”
“แน่นอนมันสามารถซ่อมได้ ให้เวลาฉันสองวัน เดี๋ยวฉันขอเอาเศษพวกนี้ไปด้วย” เมื่อพูดจบสายฟ้าดามาราจาเงยหน้าขึ้นมามองหวังลิ่ง “แต่ว่าฉันมีเรื่องจะขอร้องเล็กน้อย”
โทยะรู้สึกไม่ดี “นายตั้งใจจะทําอะไร? คุณหลิงเขาไม่ได้ว่างขนาดนั้น!”
สายฟ้าดามาราจา “พี่โทยะโปรดวางใจ ฉันไม่ลักพาตัวแฟนหนุ่มของพี่หรอก” [อ่าวชิบหายหวังลิ่งไปเป็นแฟนโทยะเมื่อไหร่…ผู้แปล]
โทยะ “…” [นี่ก็ไม่ปฏิเสธด้วย -0-]
สายฟ้าดามาราจาไม่พูดจาอ้อมค้อม “ฉันได้ยินข่าวลือเรื่องพลังของรุ่นพี่หลิงมานาน และในที่สุดก็มีโอกาสได้พบเจอตัวเป็นๆ ฉันหวังว่ารุ่นพี่หลิงจะช่วยทําให้คําขอร้องของฉันเป็นจริง…”
“นายอยากจะประลองฝีมือกับรุ่นพี่หลิง?” โทยะตกใจกับคําขอของสายฟ้าดามาราจา
“ฉันรู้ว่าในเรื่องพละกําลังฉันคงไม่อาจสู้รุ่นพี่หลิงได้ ฉันจึงอยากให้รุ่นพี่หลิงยืนนิ่งๆและให้ฉันต่อย ฉันอยากจะทดสอบพลังที่แท้จริงของสายฟ้าเทพเจ้า” ดามาราจาพูดด้วยน้ําเสียงจริงจัง
จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครที่จะไม่แสดงอาการหลังจากรับหมัดอันทรงพลังของเขาที่ถูกเสริมแกร่งโดยสายฟ้าเทพเจ้ามาก่อน [ตัวแตกแน่ไอดามาราจา…ผู้แปล]