“ใจเย็นๆ ตอนนี้เราต้องจัดการกับเรื่องนี้ก่อน”
พูดเสร็จผมก็ส่งไฟล์อีกชุดหนึ่งให้เขา ซึ่งเลโอนาร์โดก็รีบรับไปและเริ่มเปิดดู ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นเขาก็ย่อยข้อมูลได้และใบหน้าของเขาก็แสดงความโกรธเคืองอย่างชอบธรรมอีกครั้ง
“ไอ้พวกนี้ควรจะตกนรกอเวจีปอยเปต”
“ฉันรู้ และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่”
ผมพูดพร้อมจิบกาแฟต่อ
“ฉันได้ยินมาว่าเบลกำลังชวนให้นายเข้าร่วมกับเขางั้นเหรอ?”
“ใช่ เขาคอยเข้าหาฉันอยู่เสมอ และฉันเคยคิดว่าเขาเป็นคนดีเหมือนกับปีศาจออสติน แต่ดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิดอีกแล้ว”
เลโอนาร์โดพูดพร้อมกับถอนหายใจอย่างเศร้าๆ แล้วจิบกาแฟของเขาด้วยใบหน้าที่แสดงความขมขื่น
ผมที่เห็นดังนั้นจึงถามขึ้นมา
“มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ?”
คำถามของผมทำให้เขาไม่สบายใจ ใบหน้าของเขาแสดงความลังเลใจก่อนจะตอบ
“มันเกี่ยวกับเพื่อนของฉัน โซเนีย ฉันไม่สามารถติดต่อเธอได้เลย ข้อมูลทั้งหมดที่ฉันรู้คือสายเลือดอีกครึ่งหนึ่งของเธอถูกปลุกขึ้นและกำลังฝึกพิเศษอยู่กับเจ้าหญิงไนล่าอยู่”
เลโอนาร์โดพูด และผมก็ถามต่อ
“นายเป็นห่วงเธอเหรอ?”
“ใช่ เธอตัดการติดต่อกับฉันทั้งหมดและฉันกลัวว่าออสตินอาจทำอะไรบางอย่างกับเธอ”
ได้ยินดังนั้นใบหน้าของผมก็เปลี่ยนเป็นครุ่นคิด ความเงียบปกคลุมระหว่างเราอีกครั้งก่อนที่ผมจะพูด
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้างและจะขอให้คนของฉันตรวจสอบเรื่องนี้ให้เอง”
คำตอบของผมทำให้ใบหน้าของเลโอนาร์โดสว่างขึ้น
“จริงเหรอ?”
เขาถามซึ่งผมก็ตอบ
“แน่นอน ไม่งั้นจะมีเพื่อนไว้ทำไมหล่ะ? นอกจากนี้นายก็เป็นสมาชิกของ Illuminati(อิลลูมินาติ) แล้วด้วย เมื่อนายมีระดับที่สูงขึ้น นายจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรและพลังได้มากกว่านี้อีก”
พอได้ยินคำตอบของผม ใบหน้าของเลโอนาร์โดก็แสดงความลังเลอีกครั้ง เขาทำหน้าลำบากใจขณะถามต่อ
“ถ้าเป็นไปได้ฉันขอเยี่ยมชมสถานที่และพบกับสมาชิกคนอื่นได้ไหม?”
เมื่อเขาถามเช่นนี้ โต๊ะก็เงียบลง
สายตาของผมจ้องไปที่เขาขณะที่เขาเริ่มขยับตัวอย่างไม่สบายใจบนที่นั่งของเขา
‘ดูเหมือนว่าดาบดูแรนดัลของเขาจะต้องการหลักฐานและข้อมูลเพิ่มเติมสินะ’
คนที่คอยดูแลเลโอนาร์โดที่ไร้เดียงสาและเลือดร้อนให้มีชีวิตอยู่คือดาบเลือดเย็นที่ใส่ใจรายละเอียดและการวางแผนมากกว่าเลโอนาร์โด
เมื่อเห็นว่าความเงียบทำให้เขาเหงื่อออก ผมจึงตอบด้วยรอยยิ้มจางๆ
“ได้สิ ไม่มีปัญหา เราสามารถไปที่นั่นได้ตอนนี้เลย”
“ตอนนี้เลยเหรอ?”
เลโอนาร์โดถามกลับด้วยความประหลาดใจ
“ใช่สิ ตอนนี้เลย”
ผมพูดและลุกขึ้นจากที่นั่ง
และแล้วเรา 2 คนก็เริ่มออกจากร้านกาแฟ ไม่ช้าเราก็เดินไปตามถนนที่สว่างไสวเข้าไปในร้านเสื้อผ้าทั่วไปในย่านช้อปปิ้ง
พอเราเข้าไปในร้านก็มีพนักงานขายที่ดูสวยเดินมาหาผม เมื่อเห็นเธอที่เดินเข้ามาผมก็พูดรหัสลับออกมา
“ฉันกำลังมองหาชุดที่รวบรวมแก่นแท้ของอุบายเที่ยงคืนอยู่”
สายตาของพนักงานขายจับจ้องมาที่ผมหลังจากที่ผมพูด เธอพยักหน้าเบาๆ เพื่อยืนยันคำพูดของผม จากนั้นประตูที่ซ่อนอยู่ที่มุมก็เปิดออก เผยให้เห็นทางเดินมืดที่เชื้อเชิญเข้าสู่โลกที่ซ่อนเร้นที่รออยู่หลังฉากแสงระยิบระยับ
“ไปกันเถอะ”
ผมพูดกับเลโอนาร์โดที่ตกตะลึงขณะที่เดินเข้าไปในประตูบนผนัง โดยมีเลโอนาร์โดที่เดินตามหลังมา
บรรยากาศเปลี่ยนไปเมื่อเราก้าวผ่านประตู ความรู้สึกของพลังงานเวทย์มนตร์ห่อหุ้มเรา หมุนวนและส่องแสงระยิบระยับราวกับกระแสน้ำที่มองไม่เห็น
ทางเดินที่มีแสงสลัวนำเราลึกเข้าไปในโลกใต้ดิน ห่างจากถนนที่พลุกพล่านและแสงไฟสว่างไสวของเมืองด้านบน ผนังของอุโมงค์ประดับด้วยพรมที่มีลวดลายซับซ้อนเล่าเรื่องราวการต่อสู้ที่เคยสู้, ความลับที่ถูกเก็บไว้และชัยชนะที่ได้รับ
เลโอนาร์โดเบิกตากว้างทุกย่างก้าว ความตื่นเต้นของเขาเห็นได้ชัดเจนขณะที่เขาซึมซับทุกสิ่งรอบตัว
ขณะที่เราเดินอยู่ ผมก็เริ่มอธิบายความสำคัญของสถานที่นี้ ซึ่งเป็นหัวใจขององค์กรที่คอยปกป้องโลกแฟนตาซีจากความมืดมิดที่คืบคลานเข้ามา
“ยินดีต้อนรับสู่ Nexus Sanctum”
ผมพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพและภาคภูมิใจ
“ที่นี่คือหนึ่งในฐานที่มั่นหลักของ Illuminati เป็นสถานที่ที่เก็บวัตถุโบราณที่มีพลังจากอดีตต่างๆ, หนังสือความรู้โบราณที่ถูกเก็บรักษาไว้และสถานที่จัดการประชุมของสมาชิกระดับสูง”
ดวงตาของเลโอนาร์โดเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ ความอยากรู้อยากเห็นของเขาทำให้เขาดูดซับทุกสิ่งที่เห็น
ไฟคบเพลิงที่เรียงรายอยู่บนผนังให้แสงสีทองอบอุ่นส่องสว่างทางเดินขณะที่เราเดินลึกเข้าไปในใจกลางของ Sanctum
เราผ่านห้องที่เต็มไปด้วยคริสตัลลึกลับที่เปล่งแสงนุ่มนวล แต่ละคริสตัลแสดงถึงอาณาจักรต่างๆ ที่พึ่งพาการปกป้องของ Illuminati
“ภายในกำแพงเหล่านี้มีสมบัตินับไม่ถ้วน”
ผมกล่าวต่อ
“ตั้งแต่ดาบเวทย์มนตร์ที่สามารถตัดผ่านเนื้อหนังของนักรบ ไปจนถึงเครื่องรางที่สามารถบิดเบือนเวทมนตร์เองได้ แต่ละสิ่งประดิษฐ์มีเรื่องราวของมัน”
เมื่อเราเข้าใกล้ห้องโถงกลาง ความยิ่งใหญ่ของสถานที่ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น เสาหินขนาดใหญ่ผุดขึ้นจากพื้น พื้นผิวของมันแกะสลักด้วยอักขระและสัญลักษณ์ที่เปล่งพลังงาน ในศูนย์กลางของห้องมีรูปปั้นขนาดใหญ่เป็นตัวแทนของสิ่งมีชีวิตในตำนานที่มีปีกยื่นออกมาและดวงตาที่ดูเหมือนจะทะลุทะลวงเข้าไปในจิตวิญญาณ
“นี่คือ Guardians’ Ascendant”
ผมอธิบายพร้อมกับชี้ไปที่รูปปั้น
“มันเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีในอุดมการณ์ของเรา นั่นคือการปกป้องอาณาจักรจากเงามืดที่พยายามจะรุกรานเข้ามา”
เลโอนาร์โดหายใจเข้าลึกพร้อมกับสายตาที่จับจ้องไปยังรูปปั้น
“มัน… งดงามมาก”
เขาพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ขณะที่เราเดินต่อไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผมก็แนะนำเลโอนาร์โดให้รู้จักกับสมาชิกคนสำคัญของ Illuminati เราพบกับเอลฟ์ที่เงียบขรึมซึ่งมีภูมิปัญญาหลายศตวรรษสะท้อนอยู่ในแววตาของเธอ, จอมหลอกลวงผู้มีเสน่ห์ที่มีความสามารถในการรวบรวมข้อมูลจากเงามืดและนักเวทย์ผู้ทรงพลังซึ่งปลดปล่อยพลังลึกลับออกมาตลอดเวลา ทุกการพบเจอทำให้เลโอนาร์โดทั้งประหลาดใจและอึ้งอยู่บ้าง ความอยากรู้อยากเห็นของเขาทำให้เกิดคำถามมากมาย
“พวกเขาเป็นใคร?”
เขาถามด้วยน้ำเสียงเงียบๆ ขณะที่เราเดินผ่านกลุ่มคนที่กำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับแผนที่แห่งความชั่วร้ายที่เชื่อมโยงถึงกัน
“พวกเขาคือเสาหลักขององค์กรของเรา”
ผมตอบ
“สมาชิกแต่ละคนมีความแข็งแกร่งเฉพาะตัว พวกเราร่วมกันทำให้มั่นใจว่าโลกของเราจะปลอดภัยจากกรงเล็บของความมืด”
เมื่อเราสิ้นสุดการทัวร์ของ Nexus Sanctum ดวงตาของเลโอนาร์โดก็เปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นจากสิ่งแปลกใหม่ที่พบเจอ
“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าทั้งหมดนี้มีอยู่จริง”
เขาพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ฉันอยากเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่เพื่อปกป้องอาณาจักรนี้”
ผมยิ้มพร้อมกับตบไหล่เขาเบาๆ
“ทัศนคติและความมุ่งมั่นของนายคือสิ่งที่เราต้องการ แต่อย่าลืมว่าเส้นทางนี้มันไม่ง่ายหล่ะ มันต้องการความทุ่มเท, ความเสียสละและความภักดีที่ไม่หวั่นไหว”
สายตาของเลโอนาร์โดสบกับผมด้วยความตั้งใจของเขาที่ไม่สั่นคลอน
“ฉันพร้อมรับทุกอุปสรรคที่เข้ามาแล้ว”
“ดี นายยังเก็บตราที่ฉันให้ไว้อยู่ใช่ไหม?”
ผมถามขณะที่เรา 2 คนนั่งในสถานที่ที่ตกแต่งอย่างดี ความยิ่งใหญ่รอบๆ ยังคงทำให้เลโอนาร์โดทึ่ง
“ฉันเก็บไว้อยู่”
เขาตอบ ซึ่งผมก็พูดต่อ
“ดี เก็บมันไว้หล่ะ ในตอนที่นายมีแต้มมากกว่านี้ นายจะสามารถเข้าออกที่นี่ได้อย่างอิสระ”
คำพูดของผมทำให้ดวงตาของเลโอนาร์โดส่องประกาย ผมสามารถบอกได้เลยว่าเขาคงกำลังคิดถึงตอนที่เขากลายเป็นระดับสูงของ Illuminati อยู่ว่าจะเป็นอย่างไร
“แต่ก่อนอื่น ก่อนที่เราจะไปถึงจุดนั้น เราต้องจัดการกับเบลเสียก่อน”
คำพูดของผมทำให้เลโอนาร์โดจริงจังก่อนเขาจะพยักหน้ารับ
เมื่อเห็นดังนั้นผมก็พูดต่อ
“ก่อนอื่น ฉันต้องการให้นายเข้าร่วมกลุ่มของเบล, ตีสนิทกับเขาและพยายามสืบมาว่าทุกอย่างทำงานอย่างไร เพื่อที่จะเป็นคนใน มันจะอันตรายมาก แต่นายทำได้ใช่ไหม?”
คำพูดของผมทำให้บรรยากาศหนักอึ้ง แต่เลโอนาร์โดก็ไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใด เขากลับพยักหน้ารับอย่างจริงจัง
“แน่นอน ฉันจะทำทุกอย่างที่ทำได้ ฉันจะไม่ปล่อยให้โลกนี้ต้องทนทุกข์ทรมาน”
“ดี นั่นคือเหตุผลที่นายจะเป็นส่วนสำคัญของเหล่าผู้กล้าในอนาคตของโลก”
คำพูดของผมทำให้เลโอนาร์โดยิ้มอย่างภูมิใจ หลังจากนั้นเราก็ใช้เวลาสักพักในการคุยรายละเอียด ไม่ช้าผมก็พาเขาไปทัวร์อีกหลายที่เพื่อทำให้เขาทึ่งและพาเขากลับไปยังทางที่เราเข้ามา
และในตอนนั้นเองที่อยู่ๆ เลโอนาร์โดก็ถามขึ้นมา
“เอ่อออ… มันเป็นไปได้ไหมที่ฉันจะแนะนำใครบางคนให้นายรู้จัก?”
เมื่อเห็นพฤติกรรมเขินอายของเขา ผมเลยถามขึ้นมา
“ผู้หญิงงั้นเหรอ?”
คำถามของผมทำให้ใบหน้าเขาแดงขึ้น ซึ่งผมไม่อยากจะเห็นเท่าไหร่
“คะ… คือ…”
เขาเริ่มตะกุกตะกัก แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ผมก็พูดขัดขึ้นมาซะก่อน
“ถ้าเป็นคนที่นายแนะนำ ผมมั่นใจว่าเธอจะไว้ใจได้ แต่ก่อนอื่นฉันต้องหาข้อมูลก่อนถึงจะสามารถตอบคำถามของนายได้ นายเข้าใจฉันใช่ไหม?”
“แน่นอน”
เลโอนาร์โดตอบด้วยใบหน้าที่แสดงรอยยิ้มเบาๆ รอยยิ้มของคนที่ความรักกำลังผลิบาน
‘007 ทำงานได้ดี’
แต่ผมหล่ะสงสัยจริงๆ ว่าเลโอนาร์โดจะมีปฏิกิริยายังไงกันนะในตอนที่เขารู้ความจริง? คงจะเป็นภาพที่น่าดูทีเดียว
และด้วยคำพูดสุดท้าย เราก็เดินผ่านทางลับและออกมายังร้านเสื้อผ้าอีกครั้ง
ผมบอกลาเลโอนาร์โดก่อนจะเดินจากไป
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต
