The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 511 Telling Olivia The Truth
“หรือก็คือเธออยากจะยุติการหมั้นของเราสินะ?”
ผมถามด้วยเสียงไม่พอใจขณะที่โอลิเวียเข้ามากอดผม หลังจากช่วงเวลาของการร่วมรักที่เข้มข้นและการเล่นบทเจ้านาย-ทาสกันไป เราทั้ง 2 คนก็มานอนอยู่บนเตียงโดยที่โอลิเวียกอดผมอย่างแนบแน่น แม้ว่าเธอจะชอบเล่น ‘ละคร’ แบบนั้นเป็นครั้งคราว แต่สิ่งที่เธอชอบมากกว่าคือการทำให้ผมตามใจและให้ความรักเธอ
“ไม่หรอก ฉันอยากให้มันเกิดขึ้นแต่เป็นในความลับก่อน ฉันอยากให้มันเป็นทางการเพื่อเยาะเย้ยแคทเธอรีนในตอนที่ฉันได้หัวใจของนาย 100% แล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉันเลยอยากเลื่อนมันออกไปก่อนหน่ะ”
“เข้าใจแล้ว…”
ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงผิดหวังเล็กน้อย
เมื่อเห็นดังนั้นโอลิเวียก็ตกใจเล็กน้อยและพูดออกมา
“แต่ถ้านายคิดว่ามันยากหรือไม่ชอบ ฉันก็พร้อมที่จะประกาศเรื่องนี้ต่อสาธารณะนะ!”
‘เพื่อ? เพื่อให้หัวของฉันไปขึ้นเขียงเหรอ? ไม่ใช่ว่าพวกเธอจะทำได้…’
ผมซ่อนความคิดที่แท้จริงของตัวเอาไว้ขณะสลัดความผิดหวังออกไปและจูบลงที่จมูกของโอลิเวียแล้วพูด
“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก อะไรที่ทำให้เธอมีความสุขก็ทำให้ฉันมีความสุขเหมือนกัน และฉันเองก็รู้สึกว่ามันยากที่จะตัดสินใจทั้งหมดเมื่อส่วนหนึ่งของฉันยังคิดถึงแคทเธอรีนอยู่”
คำพูดของผมทำให้ดวงตาของโอลิเวียหรี่ลงอย่างอันตราย เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็แก้ไขคำพูดของตัวเอง
“อย่าเข้าใจผิดหล่ะ ความคิดถึงของฉันเป็นเพราะครอบครัวที่ฉันเคยอยู่ด้วยกันกับแคทเธอรีน โดยเฉพาะลูกๆ ของฉัน คนที่ฉันคิดถึงคือแคทเธอรีนที่ฉันแต่งงานด้วย เธอคงไม่คิดว่าความรู้สึกเหล่านั้นของฉันจะจางหายไปง่ายๆ หรอกใช่ไหม?”
เมื่อพูดจบ สีหน้าของผมก็กลายเป็นซับซ้อน ความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกๆ ปรากฏบนใบหน้าของผม ทำให้โอลิเวียมองมาด้วยความเจ็บปวดและความอิจฉาอย่างรุนแรง เรื่องที่ผมได้สร้างครอบครัวกับแคทเธอรีนมันต้องฆ่าเธอจากภายในแน่ๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโอลิเวียจะใช้การหมั้นนี้เป็นเครื่องมือเพื่อยกระดับตัวเองให้เหนือแคทเธอรีน ซึ่งจะทำให้ข้อมูลนั้นไปถึงมาร์ลีน บังคับให้พวกเธอต้องร่วมมือมากขึ้นเพื่อควบคุมโอลิเวียก่อนที่เธอจะมีอำนาจเต็มที่
‘ถึงแม้ว่าการหมั้นจะเดินหน้าไปได้ แต่ครอบครัวของฉันก็จำเป็นต้องเห็นด้วย’
และเมื่อคิดถึงผู้หญิง 3 คนนั้นที่บ้าน ผมมั่นใจว่าพวกเธอจะหยิบยกประเด็นอื่นขึ้นมาอย่างแน่นอนเมื่อเรื่องนี้ถูกหยิบยกขึ้นมา ผมมั่นใจว่าครอบครัวของตัวเองคงจะไม่ยอมให้การหมั้นนี้เกิดขึ้นแน่ แต่สิ่งที่ยากคือการทำให้โอลิเวียไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ของเรา
แน่นอน เธอต้องการซ่อนมันเพราะความภาคภูมิใจในการเอาชนะใจผมได้อย่างสมบูรณ์ แต่เมื่อครอบครัวของผมคัดค้านการหมั้นอย่างแรงกล้า โอลิเวียจะไม่อดกลั้นตัวเองอย่างแน่นอน เธออาจจะพูดถึงความสัมพันธ์ของเราหรืออาจจะขอให้ผมเปิดเผยเรื่องราวเอง ในเวลานั้นทุกอย่างจะซับซ้อนมากขึ้นสำหรับผม อาจจะถึงขั้นสูญเสียความไว้วางใจจากครอบครัวไปเลยก็ได้
“นายคิดอะไรอยู่เหรอ?”
โอลิเวียถามทันทีเมื่อเห็นว่าผมเงียบไป
ผมส่ายหัวแล้วตอบด้วยรอยยิ้ม
“เปล่าหรอก แค่คิดว่าฉันจะเสนอการหมั้นนี้กับครอบครัวยังไงดีหน่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม โอลิเวียก็ส่ายหัวแล้วตอบ
“นายไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก ฉันเพิ่งได้ข่าวจากท่านแม่ของฉันว่าเธอกำลังจะมาที่นี่เพื่อพูดคุยเรื่องนี้กับครอบครัวของนายโดยตรงหน่ะ”
“เธอรู้ใช่ไหมว่าปู่ของฉันมีสิทธิ์ในการตัดสินใจสำคัญในเรื่องนี้…”
ผมตอบ
“งั้นท่านพ่อของฉันจะดูแลเรื่องนี้เองในท้ายที่สุด…”
โอลิเวียตอบ แต่หน้าผมยังดูอึดอัดอยู่
“มีอะไรรึเปล่า?”
โอลิเวียถามด้วยความสงสัย
เมื่อเห็นดังนั้นผมก็ตอบ
“เห้อออ… ไม่มีอะไรหรอก แค่รู้สึกว่าครอบครัวของฉันคงไม่ยอมรับการหมั้นนี้หน่ะ”
คำตอบของผมทำให้โอลิเวียขมวดคิ้วก่อนจะถามกลับมา
“ทำไมล่ะ?”
“การที่ฉันหมั้นกับเธอหมายความว่าฉันจะต้องแต่งงานเข้าไปในราชวงศ์ แม่, น้าและปู่ของฉันไม่มีความสนใจที่จะให้ฉันเข้าไปในวงการของแผนการและการทรยศหักหลังหน่ะ”
เมื่อผมหยุดพูด ผมก็กุมมือโอลิเวียเพื่อให้กำลังใจในขณะที่พูดต่อ
“นอกจากนี้แม้แต่อาจารย์ของฉันเองก็อาจจะไม่เห็นด้วยเหมือนกัน เพราะขุมกำลังทั้งหมดของสมาคมนักธนูจะตกอยู่ภายใต้จักรวรรดิ ฉันมั่นใจว่าเธอคงคิดเรื่องทั้งหมดนี้มาแล้วใช่ไหม?”
ผมพูดจบพร้อมกับคำถามที่โอลิเวียเริ่มตอบ
“ใช่ ฉันคิดเรื่องทั้งหมดนั้นแล้ว แต่ฉันมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถทำให้ครอบครัวของนายเข้าใจได้”
‘ฉันโคตรไม่คิดอย่างนั้นเลยนะ’
เมื่อผมเก็บความคิดไว้ในใจ โอลิเวียก็พูดต่อ
“นอกจากนี้ ถ้าครอบครัวของนายต่อต้านการเข้าร่วมทางการเมืองของเรา เราก็สามารถเปิดเผยความสัมพันธ์รักของเราให้พวกเขารู้ได้หนิ”
‘แล้วเธอหรือฉันก็จะถูกฆ่าโดยแม่ของฉันหรือไม่ก็แม่ของเธอหน่ะสิ’
ขอย้ำอีกครั้งว่าผมคงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ก็ไม่ใช่ว่าโอลิเวียจะรอดพ้นจากอาการบาดเจ็บหรือรอดชีวิตมาได้
“อ่า เกี่ยวกับเรื่องนั้น ก่อนที่เราจะคุยกันต่อ ฉันคิดว่าควรบอกอะไรบางอย่างที่สำคัญกับเธอก่อนหน่ะ”
เมื่อผมพูดอย่างนี้ น้ำเสียงของผมก็ก็จริงจังอย่างผิดธรรมชาติ ขณะที่ความลังเลและความรักเต็มอยู่ในสายตาของผม
“อะไรงั้นเหรอ?”
โอลิเวียถามกลับด้วยความจริงจังที่เข้ากับสถานการณ์
“ก่อนที่เราจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งไปกว่านี้ ฉันคิดว่าควรบอกเธอเกี่ยวกับความจริงเรื่องที่ฉันออกจากตระกูลเพื่อเดินทางก่อนหน่ะ และเหนือสิ่งอื่นใด ความจริงของสิ่งที่ฉันต้องเผชิญ ซึ่งอาจจะทำให้ฉันไม่รอดชีวิตกลับมา”
คำพูดสุดท้ายของผมได้รับความสนใจเต็มที่จากโอลิเวีย
เมื่อเห็นดังนั้นผมก็พิงพนักเตียงขณะที่ยังคงกอดโอลิเวียไว้ก่อนจะมองขึ้นไปที่เพดานและที่เริ่มพูด
“เธอจำตอนที่ฉันต่อสู้เพื่อพี่น้องและปลุกสายเลือดของฉันได้ไหม?”
“จำได้สิ”
โอลิเวียตอบ
“เรื่องราวเริ่มจากตรงนั้น…”
…
“นี่มัน…นี่มัน…นี่มัน…”
นี่คือสิ่งที่โอลิเวียพูดซ้ำๆ ขณะที่ผมเล่าความจริงของเรื่องราวของตัวเองให้เธอฟัง เรื่องราวที่สั่นสะเทือนโอลิเวียถึงแก่น ความรู้สึกเจ็บปวด, ความสุข, ความประทับใจและความกลัวผ่านเข้ามาในเธอมากมาย และจนถึงตอนนี้โอลิเวียก็ดูเหมือนกำลังประมวลผลข้อมูลที่ผมให้เธออยู่
“ชู่ววว… มานี่… มา… สำหรับตอนนี้ ใจเย็นๆ ก่อนนะโอลิเวีย จัดระเบียบข้อมูลที่ฉันให้ไปก่อนแล้วเราค่อยมาคุยกันต่อนะ”
พูดอย่างนี้แล้วผมก็ลูบผมของโอลิเวียขณะที่เธอวางหัวบนอกของผม ไม่นาน ร่างกายที่เหนื่อยล้าของเธอก็หลับไปภายใต้คำพูดของผม
เมื่อมองดูร่างกายของโอลิเวียที่นอนหลับอย่างไร้เดียงสา ผมก็ยิ้มออกมา อนาคตที่รออยู่ข้างหน้าจะยากสำหรับผมแน่ๆ แต่เมื่อผ่านมันไปได้แล้ว รางวัลที่ได้รับจะหอมหวานสำหรับผมอย่างแน่นอน
ด้วยความคิดเช่นนี้ ผมก็หลับไปขณะกอดโอลิเวียไว้ เพราะภายใน 2 วันแม่ของเธออาจจะมาถึง และในช่วงเวลานั้น ผมยังมีงานต้องทำอีกมาก
…
“หรือก็คือนายคือผู้กล้าในตำนานที่ได้รับเลือกให้นำโลกไปสู่อนาคตงั้นเหรอ?”
โอลิเวียถามขณะที่ผมวางช้อนลงในปากของเธอ เธอกัดเบาๆ และน้ำจากไส้กรอกก็กระเด็นออกมาจากปากของเธอ ในตอนนั้นเองที่ผมขยับมือเพื่อเช็ดมันออกด้วยผ้าเช็ดหน้า
ตอนนี้เป็นวันถัดไป ช่วงเช้าแล้ว เรา 2 คนตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น และผมก็ทำอาหารเช้าให้ซึ่งตอนนี้เรากำลังป้อนอาหารกันอยู่ การกระทำของผมทำให้แก้มของโอลิเวียมีสีแดงระเรื่อ
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่โดยรวมก็ใช่”
ผมตอบขณะที่อ้าปากรับอาหารที่โอลิเวียยื่นให้
“แล้วก็มีองค์กรลับที่มีอำนาจเทียบเท่ากับสภาสงคราม ที่กำลังหว่านเมล็ดแห่งสงครามและความตายอย่างลับๆ อยู่สินะ?”
โอลิเวียถามก่อนที่ผมจะป้อนอาหารให้เธออีกครั้ง
“นั่นแหละส่วนสำคัญ”
ผมตอบกลับขณะที่โอลิเวียป้อนอาหารให้ผมอีก
“แล้วยุคแห่งความเสื่อมทรามก็อาจจะกลับมา?”
เมื่อโอลิเวียถามเช่นนี้ น้ำเสียงของเธอก็แสดงถึงความกังวลอย่างมาก ซึ่งเธอก็มีสิทธิ์ที่จะกังวลแหละนะ เรื่องราวของยุคที่ความไว้วางใจเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถหามาได้คือเรื่องราวสยองขวัญที่ถูกเล่าขานต่อกันมา
“นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันพยายามจะหยุดมันไว้”
ผมตอบขณะที่วางช้อนลง
“แล้วนายก็ต่อสู้กับเรื่องทั้งหมดนี้เพียงคนเดียวเหรอ?”
โอลิเวียถามด้วยความภูมิใจและความกังวลที่แสดงออกในสายตาของเธอขณะที่เธอจับมือผมบนโต๊ะ
“ในตอนเริ่มต้นก็ใช่อยู่ แต่ตอนนี้ฉันมีคนที่ไว้ใจและองค์กรที่มีพลังอยู่ภายใต้การควบคุมของฉันแล้ว”
ผมตอบ
“ดาร์กไนท์ใช่ไหม?”
โอลิเวียถาม
“อ่า”
ผมตอบ ซึ่งโอลิเวียได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ
“พอคิดว่านายมีอำนาจพอที่จะควบคุมองค์กรนั้นได้แล้ว ดูเหมือนว่านายยังมีสิ่งที่ทำให้โลกช็อคอยู่อีกสินะ”
โอลิเวียพูดพร้อมกับหรี่ตา
“นั่นแหละคือเรื่องจริง”
ผมตอบด้วยการยักไหล่
มีช่วงเวลาของความเงียบระหว่างเรา ขณะที่โอลิเวียสูดลมหายใจลึกแล้วถามด้วยความจริงจังอย่างยิ่ง
“งั้นนายมีอะไรที่ปิดบังฉันอยู่อีกหรือเปล่า?”
“มีสิ”
ผมตอบทันที ทำให้บรรยากาศในห้องเย็นลง
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต