“อืมมม…มันไม่เลวเลย”
ผมพูดขณะที่ฟาร์ร่าเล่าให้ฟังเกี่ยวกับข้อมูลทั้งหมดที่เธอรวบรวมมา ประเด็นหลักคือเกี่ยวกับเซลด้า ผมบอกเธอให้มุ่งความสนใจไปที่ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเธอ และข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับอดีตของเธอ ถึงขนาดที่ราล์ฟไม่รู้เกี่ยวกับเธอเลย และคงเป็นเรื่องยากที่จะรับข้อมูลจากภายนอก
“นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่ฉันสามารถรวบรวมมาได้นายท่าน…”
ฟาร์ร่าพูด ซึ่งผมก็ลูบหัวเธอ
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของฟาร์ร่าขณะที่ผมกำลังลูบหัวเธออยู่ ในขณะเดียวกันผมก็เริ่มคิดถึงสิ่งที่เป็นไปได้ที่ตัวเองสามารถทำได้ และในตอนที่ผมกำลังคิดอยู่นั้นเอง ประตูห้องของผมก็ถูกเคาะพร้อมกับเสียงของราล์ฟที่ดังขึ้นมา
“ออสติน…ยุ่งอยู่เหรือเปล่า?”
“เปล่าครับ เข้ามาได้เลย”
ผมตอบ ซึ่งหลังจากที่ผมพูดจบฟาร์ร่าก็หายเข้าไปในร่างกายของผมทันที ก่อนที่เปิดประตูจะเปิดออกพร้อมกับราล์ฟที่เดินเข้ามา
“ดูเหมือนว่าพวกนั้นอยากจะเจอนายนะ…”
ราล์ฟกล่าว
“มีคนติดต่อคุณมากี่คนครับ?”
ผมถาม
“ประมาณ 3 คน”
เขาตอบ
ผมเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามกลับ
“พวกเขาต้องการอะไรครับ?”
“การประชุมที่เรียบง่ายและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”
ราล์ฟพูดอย่างเยาะเย้ย ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นเรื่องธรรมชาติถ้านึกถึงสิ่งที่ผมแสดงให้พวกเขาดูก่อนหน้านี้แล้วหล่ะก็นะ ตอนนี้ผมค่อนข้างแน่ใจว่าตัวเองจะกลายเป็นหนึ่งในขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่แล้วอย่างแน่นอน ซึ่งแปลว่าดาร์กไนท์จะได้รับความสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ ในเวลานี้ข้อเรียกร้องที่ผมทำก็คงไปถึงหูของผู้มีอำนาจเหล่านั้นแล้ว พวกเขาอาจจะอยากใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มอำนาจภายในสภาสงคราม
แต่ผมก็ไม่ได้กังวลอะไรมาก ผมแน่ใจว่าสภาสงครามจะดำเนินการที่เหมาะสมอย่างแน่นอนเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น
“เราจะเอายังไงกันดี?”
ราล์ฟถาม
“ให้โอกาสพวกเขาอย่างเปิดเผย ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องนี้เพื่อทำให้พวกเขาระวังตัวไว้”
ผมตอบ แล้วราล์ฟก็พยักหน้า
“แล้วเราจะออกเดินทางกันเมื่อไหร่?”
เขาถามผมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ซึ่งผมก็ตอบไปว่า
“หลังจากเดทของผม…”
…
“คุณดูสวยจังครับ”
ผมพูดขณะมองเซลด้าที่เดินเข้ามาหา ตอนนี้เป็นวันถัดมาหลังจากเหตุการณ์ของผมแล้ว ซึ่งทำให้ผู้มีอำนาจส่วนใหญ่สั่นคลอนอีกครั้งหลังจากที่พวกเขารู้เกี่ยวกับผมและเซลด้า สัตว์ประหลาดที่สามารถใช้อาณาเขตได้ก่อนที่จะไปถึงระดับจักรพรรดิ และผมก็เอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้
แต่อีกครั้งที่ผมไม่สนใจพวกเสียงรบกวนทั้งหมดนั้นขณะที่จดจ่ออยู่กับ ‘เดท’ ของผม ด้วยข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่ฟาร์ราสามารถหามาให้ผมได้ ทำให้อย่างน้อยผมจึงสามารถทำให้เดทนี้ดำเนินไปตามปกติได้
นอกจากนี้ เมื่อคืนผมได้สืบค้นเกี่ยวกับชีวิตในอดีตของเธออย่างละเอียดแล้ว โดยพยายามหาข้อมูลข่าวลือและข้อมูลทั้งหมด และต้องบอกเลยว่าผมมั่นใจกับเดทนี้มาก
“ส่วนนายก็ดูเหมือนคนลึกลับ”
เซลด้าตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ดวงตาแมวของเธอจับจ้องมาที่หน้ากากบนใบหน้าของผม ซึ่งผมก็ตอบเธอกลับไป
“ถ้าคุณต้องการ ผมไม่กังวลที่จะรับความเสี่ยงครับ”
“โอ้?…บอกฉันหน่อยสิ”
เธอพูดด้วยความสนใจอย่างชัดเจนกับสิ่งที่ผมเสนอ
เมื่อได้ยินเช่นนั้นผมก็ตอบกลับไป
“ถ้าอย่างนั้นก็มากับผมสิ ไปผจญภัยที่ไหนสักแห่งกันเถอะครับ”
“เอาสิ”
เธอตอบทันที
ไม่นานเรา 2 คนก็เริ่มเดินไปยังศูนย์เคลื่อนย้ายหลักที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งผมและเซลด้าต่างตกเป็นจุดสนใจในขณะที่เราเดินผ่าน ซึ่งผมก็ทำเพียงแค่ยักไหล่และเซลด้าก็ทำเช่นกัน
“ท่านอยากไปที่ไหนกันเหรอครับ?”
จอมเวทย์ที่ดูแลจุดเคลื่อนย้ายถามเมื่อเราไปถึงด้านหน้าอย่างง่ายดายด้วยความอนุเคราะห์จากสถานะของผมและเซลด้า
“นี่คือพิกัดครับ”
ผมพูดแล้วส่งตำแหน่งที่ต้องการไปให้จอมเวทคนนั้นอ่านมัน หลังจากนั้นเขาก็พยักหน้า หลังจากได้รับการยืนยันแล้ว
เมื่อเห็นแบบนั้นเรา 2 คนก็เข้าไปในวงเวทย์ก่อนเราจะถูกเคลื่อนย้ายออกไป
ขณะที่วงเวทย์ล้อมรอบเรา คลื่นพลังงานก็เต้นเป็นจังหวะผ่านร่างกายของเรา และภายในไม่กี่วินาที เราก็พบว่าตัวเองถูกเคลื่อนย้ายไปยังภูมิประเทศที่น่าทึ่ง เรายืนอยู่บนขอบหน้าผาอันงดงามที่มองเห็นหุบเขาอันกว้างใหญ่ซึ่งปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี อากาศสดชื่นและกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าที่โชยมาตามสายลม
ดวงตาของเซลด้าเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้นขณะที่เธอมองภาพมุมกว้าง เสียงน้ำที่ไหลเชี่ยวจากระยะไกลดึงความสนใจของเราไปที่น้ำตกอันยิ่งใหญ่ที่ไหลหลั่นลงมาตามไหล่เขา ทำให้เกิดภาพทิวทัศน์ที่งดงาม สายรุ้งที่โค้งพาดผ่านหมอกช่วยเพิ่มความน่าหลงใหลให้กับสถานที่แสนอัศจรรย์นี้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ผมคิดว่าเราน่าจะเริ่มต้นเดทของเราด้วยการผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ หน่ะครับ”
ผมพูดพร้อมกับรอยยิ้มซุกซนบนริมฝีปาก
หางของเซลด้าและหูบนหัวของเธอกระตุกด้วยความคาดหวัง
“ฉันชอบความคิดของนายนะ”
เธอตอบด้วยดวงตาที่เป็นประกายไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความกระตือรือร้น
ผมล้วงเข้าไปในกระเป๋าที่ซ่อนอยู่แล้วดึงแผนที่ออกมา ซึ่งมีเส้นทางที่นำไปสู่ถ้ำที่ซ่อนอยู่หลังน้ำตก
“เรามาสำรวจสิ่งที่อยู่หลังม่านน้ำนั้นกันดีไหมครับ?”
ผมถามโดยยื่นแผนที่ให้เซลด้าดู
ดวงตาของเธอหรี่ลงขณะตรวจดูแผนที่ ในขณะที่สัญชาตญาณนักรบของเธอเข้ามาครอบงำ
“นายจะบอกว่ามีถ้ำลึกลับอยู่งั้นเหรอ? นำทางฉันไปเลย!”
เธอตะโกนออกมาด้วยจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันที่ถูกจุดประกายขึ้นมา ซึ่งเป็นไปดั่งกลอุบายที่ผมวางเอาไว้
‘เจ้านั่นน่าจะพร้อมแล้ว’
ผมภาวนาขณะที่เราเริ่มต้นการเดินทางตามเส้นทางที่ตัดผ่านป่าที่มีชีวิตชีวา เส้นทางเต็มไปด้วยดอกไม้แปลกตาและสิ่งมีชีวิตที่น่ารักที่ปรากฏตัวออกมาเป็นครั้งคราว ซึ่งเพิ่มสีสันที่แปลกประหลาดให้กับการผจญภัยของเรา ขณะที่เราเดินกันอยู่ผมก็เล่าเรื่องราวของผู้กล้าในสมัยโบราณและสัตว์ในตำนานให้กับเซลด้าฟัง ซึ่งผมเน้นไปที่เรื่องของเธอด้วย โดยเล่าออกมาพร้อมความหลงใหลเล็กน้อย ซึ่งทำให้ผมได้รับความสนใจจากเธออย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนนายจะรู้จักซากิราน่าดีจังนะ”
เธอพูดขณะที่เราเดินผ่านสถานที่ที่สวยงามแห่งนี้
“แน่นอนสิครับ เธอเป็นคนที่ทำให้ผมหลงใหลในตัวตนของผู้กล้าในอดีตครับ”
ผมกล่าว
“ทำไมหล่ะ?”
เธอถาม ซึ่งผมก็ตอบด้วยน้ำเสียงลังเลใจ
“ในเรื่องราวที่ผมได้ยินมา ดูเหมือนเธอจะใช้ชีวิตเพื่อเป็นผู้กล้าในการพิชิตและทำสงคราม แต่…”
“แต่?”
เซลด้าถามด้วยความสนใจผมอย่างเต็มที่
ผมมองเธอด้วยท่าทางดูเหมือนลังเลที่จะพูดถึงผู้กล้าที่เธออาจบูชา แต่สุดท้ายผมก็เริ่มพูดความในใจออกมาด้วยเสียงที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
“แต่ดูเหมือนเธอกำลังมองหาความสนุกสนานและความสุขเล็กๆ น้อยๆ ราวกับว่าเธอกำลังมองหาใครสักคนที่จะแบ่งปันความสุขด้วย…”
เมื่อผมพูดจบก็สังเกตุเห็นได้ว่าดวงตาของเซลด้ากลายเป็นขุ่นมัวเหมือนมีเมฆหมอกเข้ามาปกคลุม สีหน้าของเธอดูเหมือนอยู่ระหว่างการหวนนึกถึงเรื่องราวในความฝัน
ดังที่โบราณว่าไว้เหล็กต้องตีตอนที่มันยังร้อนอยู่
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงชอบเธอครับ ผมคิดว่าอย่างนั้น…”
ผมพูด
เมื่อได้ยินคำพูดของผม เซลด้าก็หันมาสนใจผมก่อนจะถาม
“ทำไมหล่ะ?”
“ผมก็แค่เข้าใจความรู้สึกนั้นได้ ความรู้สึกที่กำลังตามหาบางอย่างอยู่ และในตอนที่ผมมองเธอ ผมก็มองเห็นความรู้สึกเดียวกันนั้นในตัวเธอ…”
พูดแล้วผมก็เกาหน้ากากด้วยความ ‘อาย’ ก่อนจะพูดต่อ
“เซลด้า เธอทรงพลังพอที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้กล้าได้ แต่แม้แต่ผู้กล้าก็ยังต้องการใครสักคนที่อยู่เคียงข้างพวกเขา คนที่เข้าใจและสนับสนุนพวกเขา ผมคิดว่าบางทีเราอาจจะเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนกัน…”
เซลด้าตั้งใจฟังขณะที่ความระวังตัวของเธอค่อยๆ ลดระดับลงและปล่อยให้ตัวเองไร้การป้องกัน
ท่าทางของเซลด้าอ่อนลง ในขณะที่มีบางสิ่งที่ลึกล้ำกว่านั้นฉายแวววาวอยู่ในดวงตาของเธอ เธอเอื้อมมือออกมาเพื่อประสานกับผมอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดขึ้นมา
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้พบกับคนที่เข้าใจฉันได้ขนาดนี้”
เธอกระซิบด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความอ่อนแอ
“ขอบคุณที่ทำให้ฉันนึกถึงอดีต”
‘ขั้นตอนแรกเสร็จสิ้น’
ดูเหมือนว่าการต่อสู้และเอาชนะเธอจะมีผลมากกว่าที่ผมคิดไว้ แถมบรรยากาศแบบนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แน่นอนว่าเธอยังไม่ได้รักผม แต่ตอนนี้เธอกำลังพิจารณาผมในฐานะผู้สมัครที่จริงจังในเรื่องความรัก
พวกเราต่างเงียบกันในขณะที่เสียงน้ำที่ตกลงมาดังขึ้นเมื่อเราเข้าใกล้น้ำตก ในแต่ละย่างก้าวทำให้ความคาดหวังในดวงตาของเซลด้าทวีความรุนแรงมากขึ้น จนกระทั่งเรามาถึงบนหน้าผา ความรู้สึกของระอองน้ำเย็นๆ หยดลงบนใบหน้าของพวกเรา ในตอนนั้นเองที่พวกเราหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกันก่อนจะก้าวผ่านม่านน้ำเข้าสู่ถ้ำที่ซ่อนอยู่
ภายในถ้ำเปล่งประกายด้วยคริสตัลเรืองแสงอันนุ่มนวลอย่างบางเบา หินย้อยและหินงอกก่อให้เกิดการก่อตัวที่ซับซ้อน เช่น ประติมากรรมน้ำแข็งที่เรียงรายอยู่ตามผนังถ้ำ อากาศเต็มไปด้วยความลึกลับและพลังเวทย์ ในขณะที่เสียงฝีเท้าของพวกเราสะท้อนไปทั่วบริเวณ
เมื่อเราเดินลึกเข้าไปในถ้ำก็พบกับความท้าทายระหว่างทาง เช่น ปริศนาที่ต้องไข, บททดสอบความแข็งแกร่งและช่วงเวลาที่ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีม ด้วยอุปสรรคแต่ละอย่างทำให้ความมุ่งมั่นและนิสัยชอบความท้าทายของเซลด้าส่องประกายออกมา ซึ่งเธอก็สนุกสนานกับความตื่นเต้นในการเอาชนะการบททดสอบแต่ละครั้ง
จนในที่สุดเราก็มาถึงใจกลางถ้ำ ซึ่งมีสมบัติล้ำค่ารออยู่ โต๊ะขนาดใหญ่พร้อมอาหารหลายอย่างที่ถูกเตรียมไว้ กลิ่นอันเย้ายวนอบอวนไปทั่วห้องที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามและมีน้ำตกอยู่ด้านหลัง
“เริ่มกันเลยไหม?”
ผมถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้มซึ่งเธอก็จอบกลับมาในทันที
“จัดเตรียมมาพร้อมเลยนะ”
“อย่างน้อยฉันก็ต้องทำให้ได้ขนาดนี้อยู่แล้วเพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้หญิงที่สวยขนาดนี้”
ผมตอบ ก่อนจะเดินไปยืนอยู่หน้าโต๊ะและถอดหน้ากากออกทำให้ใบหน้าของผมสว่างไสวด้วยแสงไฟ
“เรามาทานอาหารกันเลยไหมคุณผู้หญิง?”
ผมพูดพร้อมโค้งคำนับเบาๆ
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต
