The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms - ตอนที่ 511
บทที่511
ผู้แปล : N.
“ในตอนนี้หนูเองก็ได้เริ่มทำการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นไปแล้ว แต่โดยมาตรฐานของธนาคารเลือดและสต็อกอวัยวะในประเทศนั้นอยู่ในภาวะฉุกเฉินตลอดทั้งปี มันจึงไม่มีผลมากเท่าที่ควร” แดงน้อยได้แสดงรายการที่จำเป็นเร่งด่วนเช่น กรุ๊ปเลือด และ อวัยวะ ออกมา
ปัญหานี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่โรงพยาบาลฮองซินอินเตอร์เนชั่นแนลเท่านั้นที่ประสบปัญหา แต่เป็นปัญหาที่โรงพยาบาลทุกแห่งในโลกต้องเผชิญ
วิธีการแก้ปัญหาทั่วไปคือการเรียกร้องให้อาสาสมัครมาบริจาคเลือดหรืออวัยวะ แต่วิธีนี้มันก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เขาต้องการได้อยู่ดี ดังนั้นลูชินจึงจำเป็นที่จะต้องคิดหาทางออกจากสถานการณ์นี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด
ไม่กี่วันต่อมาก็ได้มีผู้เสียชีวิตรายแรกที่โรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนล!
ความตายในโรงพยาบาลนั้นไม่ใช้สิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ไม่ใช่ทุกโรคที่สามารถรักษาได้ และตัวโรงพยาบาลเองก็ไม่ใช้ศาลเจ้าที่คนจะมาขอพรต่างๆ
แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้โรงพยาบาลฮองซินอินเตอร์เนชั่นแนลได้ถูกผลักดันให้ไปอยู่ในแนวหน้าของความสนใจของคนทั้งโลกทันที เพราะเวลานี้การเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากโรคที่รักษาไม่หาย แต่เนื่องจากผู้เสียชีวิตนั้นเกิดไตวายขึ้นอย่างกะทันหันและทางทีมแพทย์ไม่สามารถหาไตที่เข้าคู่กันได้
โดยปกติแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่มีใครถูกตำหนิ และถึงแม้ว่าทางโรงพยาบาลฮองซินอินเตอร์เนชั่นแนลจะออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากความคาดหวังที่สูงของประชาชนต่อโรงพยาบาลฮองซินอินเตอร์เนชั่นแนล มันจึงทำให้เหตุการณ์ตายครั้งแรกนั้นส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก
พวกสื่อเองก็เป็นเหมือนหมาป่าที่ได้กลิ่นเลือด พวกเขาต่างก็รีบวิ่งมาทำข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที
ข่าวภาคค่ำ : “ได้มีผู้เสียชีวิตขึ้นเป็นคนแรกในโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนล!”
ข่าวฮอต: “เกิดเหตุเสียชีวิตขึ้นเป็นคนแรกในโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนล หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับวิธีการรักษาของพวกเขา!?”
เอเอนิวส์ : โรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนล # เสียชีวิตเป็นคนแรก # .”
บีบีบนิวส์ : “การตายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ของโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนล มันอาจหมายความว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับกระบวนการรักษาจริงๆใช้ไหม?”
นกเพนกวินนิวส์ : “เกิดกรณีการเสียชีวิตของโรงพยาบาลฮงซินอินเตอร์เนชั่นแนล”
……
สื่อส่วนใหญ่ต่างก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้กันจำนวนมาก นั้นจึงทำให้ประชาชนบางกลุ่มที่ไม่ทราบความจริง ต่างก็คิดว่าเหตุการณ์ที่ผู้ป่วยเสียชีวิตนั้นเกิดจากกระบวนการรักษาโรคมะเร็ง
“ฉันคิดเอาไว้แล้วว่าวิธีการรักษาโรคมะเร็งอะไรนั้นเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งเพ!”
“มีปัญหาอะไรกันแน่? มันเป็นแค่เดือนกว่าๆเท่านั้นที่พวกเขาเปิดทำการ! อย่าบอกนะว่ามันกำลังจะเจ๋ง!”
“มันเป็นเรื่องจริงใช้ไหม?!”
แต่ก็มีบางคนที่ออกมาอธิบายความจริงของเหตุการณ์นี้: “พวกกลุ่มคนฉลาด! ไม่เห็นหรือไงว่าผู้ป่วยที่เสียชีวิตนั้นเกิดจากสาเหตุของไตวาย! มันไม่ได้เกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งแต่อย่างใด ”
” ใช้! ฉันเองก็ได้ติดตามข่าวนี้มาอย่างระมัดระวังเช่นกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเราไม่สามารถตำหนิพวกเขาได้ หากทีมแพทย์ไม่สามารถหาไตที่ตรงกับผู้ป่วยได้ยังไงพวกเขาก็ไม่มีทางรักษาได้อยู่ดี ”
” เอาละ! แยกย้ายกลับไปทำงานได้แล้ว! พวกนายว่างมากหรือไงถึงมาโพสต์อะไรเสียๆหายๆแบบนี้! “
หลังจากนั้นไม่นานทางโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลเองก็ได้ออกมาแถลงการณ์ประณามผู้ผลิตข่าวลือและกล่าวว่าพวกเขาจะพยายามอย่างดีที่สุดในการแก้ปัญหานี้
…
“มันจะแก้ไขได้จริงเหรอ?” จินแพนผู้อำนวยการโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลได้ถามตัวเองขึ้นมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะส่ายหัวออกมา: “เห็นได้ชัดว่าในปัจจุบันนีเป็นปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้”
“ประธานลูครับ! มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆกับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น เพราะโรงพยาบาลของเรานั้นพึ่งจะก่อตั้งขึ้นมาได้ไม่นานมานี้เอง ไอ้เรื่องอย่างเลือดธนาคารและธนาคารอวัยวะมันจึงมีข้อจำกัดเป็นอย่างมาก”
“ดังนั้นตอนนี้ผมจึงอยากจะเสนอว่าเราควรจะเพิ่มเงื่อนไขในการรับผู้ป่วย โดยการปฏิเสธผู้ป่วยที่ต้องการการปลูกถ่ายอวัยวะหรือการถ่ายเลือดขนาดใหญ่ออกไป หรือเราอาจจะ…. “
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เพราะวิธีการนี้มันทำให้เป้าหมายที่เขาตั้งเอาไว้ว่าโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลนั้นจะเป็นสถาบันการแพทย์ที่ดีที่สุดในโลกนั้นกลายเป็นเรื่องตลกไป
นอกจากนี้เขาไม่ได้เปิดโรงพยาบาลเพื่อทำเงิน เพราะถ้าหากเขาต้องการเงินจริงๆ ทำไมเขาถึงไม่ทำเพียงผลิตยาขายออกไปเท่านั้น ด้วยวิธีนั้นเขาจะไม่ต้องมาค่อยกังวลกับปัญหาที่อาจจะตามมา แต่ที่เขาเปิดโรงพยาบาลนี้ขึ้นมาก็เนื่องมาจากมันเป็นเป้าหมายของเขาในการแก้ปัญหาโรคที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ และเขาต้องการทำให้โรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลนั้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการแพทย์ในอนาคต
“แล้วกรณีอื่นล่ะ?” ลูชินได้ถาม
“ ครับ! ผู้ป่วยบางรายที่สามารถถ่ายโอนได้ในตอนนี้เราได้ถ่ายโอนพวกเขาไปยังโรงพยาบาลอื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ป่วยบางรายที่ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ด้วยเราจะทำการติดตามพวกเขาอย่างใกล้ชิด” จินแพนได้พูดออกมา
ที่เป็นแบบนั้นก็เนื่องมาจากผู้ป่วยบางคนลังเลที่จะขอรับการถ่ายโอนไป เพราะพวกเขารู้ว่าถึงแม้ว่าพวกเขาจะไปโรงพยาบาลอื่นๆก็ตาม พวกเขายังคงประสบปัญหาการขาดเลือดหรืออวัยวะอยู่ดี ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าถ้าพวกเขายังคงอยู่ในโรพยาบาลแห่งนี้
“แดงน้อย! หนูมีทางออกอื่นไหม?” ลูชินได้ถามขึ้น
ได้ปรากฏตัวละครของแดงน้อยขึ้นมาทันที ก่อนที่เธอจะพูดว่า : “ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ! แต่หนูได้ทำการเพิ่มเงื่อนไขในระบบคัดกรองเข้าไปแล้ว เราจะทำการปฏิเสธผู้ป่วยบางรายที่เป็นเคสที่จำเป็นจะต้องทำการผ่าตัด แต่ผู้ป่วยบางคนที่เราได้รับตัวมาแล้วนั้นอาจจะต้องการการรักษาเพิ่มเติมหรืออาการของพวกเขแย่ลง มันจึงไม่สามารถรับรองได้ว่าวิธีการนี้จะประสบผลสำเร็จ “
สมองควอนตัมนั้นสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างไม่เป็นปัญหา แต่มันไม่สามารถทำนายอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และการเปลี่ยนแปลงในร่างกายมนุษย์นั้นเองก็เป็นอะไรที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้จากข้อมูลที่มี ทุกนาทีและทุกวินาทีสถานการณ์ของผู้ป่วยอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิด
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เขาไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะหาวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ
ภาพลักษณ์ของแดงน้อยยังคงฉายอยู่เบื้องหน้าลูชิน และเธอก็พูดขึ้นว่า: “พ่อ! เมื่อไม่นานมานี้หนูได้พบเพื่อนใหม่ แต่เธอมีอาการป่วยที่หนักเป็นอย่างมาก พ่อสามารถช่วยเธอได้ไหม?”
เป็นที่เข้าใจของคนส่วนใหญ่ว่า พวกปัญญาประดิษฐ์นั้นเป็นเพียงการรวมตัวกันของข้อมูลเท่านั้น จึงเป็นเรื่องยากอย่างมากที่จะมีคนสนใจตัวตนของพวกเขาจริงๆ
“ และในตอนนี้เธอเองก็ยังได้เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนลแห่งนี้แล้วด้วย” หลังจากพูดจบแดงน้อยก็ได้ฉายฉากหนึ่งขึ้นมา ซึ่งนี้เป็นฉากหนึ่งในห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลหงซินอินเตอร์เนชั่นแนล
บนเตียงของโรงพยาบาล ได้มีร่างเล็กๆนอนอยู่บนนั้น และเธอเองก็กำลังคุยกับพยาบาลเสมือนจริงที่ปรากฏขึ้น
พยาบาลเสมือนเหล่านี้เป็นโปรแกรมอัจฉริยะที่สามารถตัดสินปัญหาของโรคและให้บริการการพยาบาลสำหรับผู้ป่วยได้
ภาพได้ถูกขยายใหญ่ขึ้น และลูชินได้เห็นภาพนั้นชัดเจนมากขึ้น ปรากฏว่าผู้ป่วยที่นอนอยู่บนเตียงนั้นเป็นเพียงเด็กหญิงอายุสี่หรือห้าขวบเท่านั้น เธอมีร่างกายเล็กและผิวสีเหลืองๆ อาการป่วยของเธอทำให้เธอดูเหมือนดอกไม้ที่บอบบางและมันอาจจะถูกทำลายได้เพียงแค่สัมผัสเบาๆ
แม้ว่าเธอจะดูไม่สบาย แต่ดวงตาของเธอกับเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความไร้เดียงสาเป็นพิเศษ
“ พี่สาว! คุณเหนื่อยมากไหม?” เด็กหญิงตัวน้อยได้ถามพยาบาลเสมือนจริงที่อยู่ข้างๆเธอ
พยาบาลเสมือนจริงทำเพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดว่า :“ ไม่เลย! ฉันเป็นเพียงโปรแกรมที่ชาญฉลาด ดังนั้นฉันจึงไม่รู้สึกเหนื่อย”
เด็กหญิงตัวเล็กยังคงแสดงอาการอยากรู้อยากเห็นอีกว่า :“ แล้วทำไมหนูถึงรู้สึกเหนื่อยและบางครั้งก็รู้สึกเจ็บด้วย!”
พยาบาลเสมือนจริงได้ตอบกลับมาว่า: “นั้นก็เพราะเธอกำลังป่วยอยู่ มันจึงทำให้เธอรู้สึกอ่อนแอ แต่ฉันรับรองได้ว่าอีกไม่นานอาการป่วยของเธอจะหายดีขึ้น”
เด็กหญิงตัวน้อยที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้ถอนหายใจออกมาอย่างเสียใจและพูดว่า “หนูก็อยากจะดีขึ้นในเร็วๆนี้เหมือนกัน เพราะหนูไม่อยากจะทำให้พ่อแม่ของหนูเศร้าอีกแล้ว . “