Super System Modifier - ตอนที่ 359
Chapter 359
เมือง E นั้นอยู่ใกล้ที่สุด.
หลินเฟยพาเด็กสาวออกเดินทาง เขาเคยไปเมืองนี้มาก่อน ดังนั้นหลินเฟยจึงไปถึงได้อย่างรวดเร็ว.
จุดหมายของเขาคือ ห้างสรรพสินค้า.
เด็กสาวลิสรายการเมื่อคืนนี้ มีของเยอะแยกเลยทั้ง ตู้เย็น,แอร์,เตียง,เก้าอี้,โซฟา,เครื่องดูดควัน…
ถ้าไม่ไปที่ห้าง ของพวกนี้ก็อาจจะได้ไม่หมด.
เมื่อทั้งสองเดินไปตามถนน เห็นซอมบี้จำนวนมากเดินเตร่อยู่ตามถนน.
ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงครั้งที่สองของโลก มีซอมบี้มากขึ้นหลายเท่าตัว แต่โชคดีที่ความแข็งแกร่งของมันไม่มากและไม่มีสติปัญญา.
พวกมันจะตอบสนองก็ต่อเมื่อได้ยินเสียงเท่านั้น.
ขณะที่เด็กสาวเดิน เธอก็ฆ่าซอมบี้พวกนี้ด้วยพลังของเธอ และพลังของเธอก็เพิ่มขึ้นทีละนิดๆ.
ผมของเธอครึ่งนึงกลายเป็นสีฟ้า.
หลินเฟยเคยคิดว่าถ้าผมของเด็กสาวเปลี่ยนเป็นสีผ้าทั้งหมด และเขาก็คิดถึงตัวละครที่มาจากบ้านเกิดของเขา เจ้าหญิงผมฟ้าทวินเทล…
“ในเธอลองทำผมทวินเทลดีไหม?”หลินเฟยคิดไปไกล”บางทีเราอาจจะสอนให้เธอร้องเพลงได้.”
ยอดเยี่ยม.
“ทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงฆ่าได้ไม่หมด?”เด็กสาวขมวดคิ้ว”มันเกือบจะเหมือนกับว่าคืนชีพได้.”
หลินเฟยพูด”ยังไงก็ตาม มันมีจำนวนมหาศาล.”
เขาชำเลืองมองไปรอบๆและพูดว่า”ถ้าเจอผู้รอดชีวิต ก็ให้ถามว่าห้างไปทางไหน ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่าจะไปห้างงั้นหรอ.”
“ข้างนอกมีซอมบี้มากมายขนาดนี้ มีใครอยู่ข้างนอกได้ยังไง?”เด็กสาวโบกมือและศรน้ำแข็งก็แทงหัวซอมบี้ที่อยู่ห่างออกไป 30 เมตร.
แต่ในเวลานี้.
มีเหล่าหนุ่มสาวยืนอยู่หน้าห้าง.
“นี่คือห้างใหญ่ มันต้องมีอาหารอยู่ในนั้น”มีคนหนึ่งพูดออกมา.
“แต่ฉันได้ยินว่ามีเชสเตอร์อยู่ด้านใน”มีบางคนขมวดคิ้วพูด”พวกนี้จัดการยาก ผิวทองแดงกระดูกเหล็กของมันรวมทั้งยังมีความยืดหยุ่นแถมยังว่องไวอีกด้วย.”
“เราแค่กลุ่มคนผู้มีพลังเลเวล B มันไม่อาจฆ่ามอนเตอร์เลเลวล S ได้…”
มีคนพูดทันทีว่า”แต่ในนั้นมีอาหารอยู่ ถ้าหาอาหารไม่ได้แล้ว คนแก่กับเด็กจะอดตาย.”
หลายคนเงียบทันที.
วัยรุ่นชายคนหนึ่งกระซิบ”ฉันไม่แนะนำให้มานะ คนแก่กับเด็กไม่กี่คนจะไปมีค่าอะไรให้ช่วย?”
“มันเป็นการคัดเลือกของธรรมชาติ ต้องเอาตัวให้รอดไม่งั้นก็ตาย การรอดตายนั่นก็คือชะตากรรมของเขา.”
“ตอนนี้มันเป็นวันสิ้นโลก เรายังป้องกันตัวเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ…”
“นายพูดบ้าอะไร?”ชายหนุ่มที่ดูเป็นหัวหน้าพูดทันที”ถ้าไม่อยากมาก็กลับไปเลย อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก!”
วัยรุ่นหนุ่มมองคนอื่นอยู่ครู่หนึ่งและค่อยๆถอยหลังเดินจางไป.
“ไม่นาน พวกนายก็จะถูกพาไปตายเพราะความยุ่งยากเหล่านั้น.”
เมื่อพูดเสร็จ เด็กชายก็หันหลังวิ่งออกไปทันที.
“ฉันเห็นด้วยกับความคิดของเขา”วัยรุ่นหญิงค่อยๆถอยหลัง”มันเป็นการคัดเลือกจากธรรมชาติ สิ่งต่างๆก็ต้องมีการแข่งขันกัน ผู้ถูกเลือกจะเป็นผู้อยู่รอดและคนอ่อนแอจะไม่มีคุณสมบัติที่จะรอดในท้ายที่สุด.”
เธอก็หันและวิ่งออกไป.
ตอนแรกมี 4 คน ตอนนี้เหลือแค่เด็กหนุ่ม 2 คน.
“แล้วนาย?”ชายหัวหน้ามองวัยรุ่นหนุ่มข้างๆ.
“อย่ามองฉันอย่างนั้น”วัยรุ่นหนุ่มอีกคนยิ้ม”ฉันคิดว่าพวกเขาเป็นเด็กที่น่ารักดีนะ มันไม่ช่วยอะไรเลย.”
“ยิ่งไปกว่านั้น”เขายิ้มจนสุดปากของเขา”ฉันวิ่งเร็วมาก แม้ว่าจะเป็นเชสเตอร์ มันก็ไม่อาจจับฉันได้.”