ฮั่นเซินยังคงคิดต่อไป ทุกครั้งที่หว่านเอ๋อไปถึงจักรวาลพันธุกรรมและพลังทองคำของเธอปรากฏขึ้น เธอจะรู้สึกอ่อนล้า ฮั่นเซินเชื่อว่าปัญหาอยู่ที่ร่างกายของเธอ ตอนนี้ที่เขาสามารถคิดเกี่ยวกับมันได้มากขึ้น เขาเริ่มเชื่อว่ามันคล้ายกับสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ จักรวาลเจโนห้ามพลังทั้งหมดที่ไม่ใช่ของที่นั่น
ร่างกายของหว่านเอ๋อจำเป็นต้องมีการจำกัดพลังทองคำของเธอหากร่างกายของเธอจะฟื้นตัวได้
โหมด Super God Spirit ของฮั่นเซินไม่เข้ากันกับพลังของเธอ มันจำกัดพลังโหมดซูเปอร์ก็อดสปิริตแบบย้อนกลับของเธอ มันทำให้ร่างกายของเธอกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ฮั่นเซินยังคงสับสนเกี่ยวกับบางสิ่ง หลังจากที่หว่านเอ๋อร์กลับชาติมาเกิด ร่างกายของเธอควรจะเป็นของเผ่าพ่อมด พวกเขามาจากจักรวาลเจโน แม้ว่าเธอจะถูกจำกัดโดยจักรวาลเจโน แต่ทำไมเธอถึงมีพลังของชีวิตที่ผ่านมา?
ฮั่นเซินคิดหาความเป็นไปได้หนึ่งอย่างสำหรับปริศนานี้อย่างรวดเร็ว บางทีร่างของแม่มดหวานเอ๋ออาจจะไม่ใช่ของเธอในตอนแรกก็ได้ มันอาจมาจากฉินซิ่วที่ไปยังโลกนั้น
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกสักพัก ฮั่นเซินก็ไม่คิดว่านั่นจะถูกต้องเช่นกัน เผ่าพันธุ์ยีนของฉินซิ่วคือพระเจ้าแห่งราชาโลก พลังของเขาควรจะคล้ายกับพลังของพระเจ้าโลก เพื่อให้เขาสามารถรวมพลังกับพระเจ้าโลกและทำลายโลกได้
พลังโหมดจิตวิญญาณซูเปอร์พระเจ้าของเขาไม่ใช่พลังของพระเจ้าแห่งโลก ฮั่นเซินคิดว่ามันแปลก เขาไม่เข้าใจมันในตอนนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขารู้แน่นอน หญิงสาวผมบลอนด์ที่เขากำลังมองอยู่นั้นคือหว่านเอ๋ออย่างแท้จริง และเธออาจจะถูกผสมผสานกับหว่านเอ๋อสองคนจากทั้งสองจักรวาล
“หมายความว่าเมื่อพระเจ้าแห่งโลกใส่ฉันและหวานเอ๋อเข้าไปในอุโมงค์ที่เชื่อมสองโลก มันควรจะดึงหวานเอ๋อของแม่มดและรวมเธอกับหวานเอ๋อในอดีตของเธอเพื่อฟื้นคืนชีพหวานเอ๋อใช่ไหม?” ฮั่นเซินตกใจ เขาไม่สามารถมั่นใจได้ว่าการเดาของเขาถูกต้อง
โหมด Super God Spirit ของร่างกายฮั่นเซินถูกจำกัดโดยกฎของโลก ตอนนี้พลังร่างกายของว่านเอ๋อแข็งแกร่งมากขึ้นเพราะว่านเอ๋อจากสองโลกได้รวมกัน ฮั่นเซินรู้สึกว่าโหมดซูเปอร์ก็อดสปิริตของเขาถูกจำกัดอย่างรุนแรง
แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจากหว่านเอ๋อพอสมควร เขาก็แทบจะรู้สึกถึงร่างกายและพลังโหมดซูเปอร์ก็อดสปิริตของเขาไม่ได้เลย
“ถ้าอันเอ๋อร์คนนี้อยากฆ่าใคร คนในโลกนี้จะมีใครที่หวังจะหยุดเธอได้บ้าง?” ฮั่นเซินรู้สึกเย็นวาบไปทั้งสันหลัง
ฮันเซนเข้าใจว่าโหมดซูเปอร์ก็อดสปิริตนั้นน่ากลัวมาก เมื่อเขาสามารถใช้มันได้โดยไม่มีข้อจำกัดที่กำหนดไว้ เขาก็สามารถต่อสู้กับผู้มีอำนาจในโลกแตกได้ เขายังสามารถเอาชนะพวกเอลิตระดับต่ำของโลกแตกได้ด้วย
ตอนนี้พลังของหว่านเอ๋อร์เหนือกว่าพลังของฮั่นเซิน ท้ายที่สุดแล้ว พลังของหว่านเอ๋อร์จากทั้งสองโลกได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว พลังของเธอได้กลายเป็นพลังของสองคน ผลกระทบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง
พลังที่หว่านเอ๋อร์ใช้ทำให้หัวใจของฮั่นเซินสั่นสะท้าน
ในขณะนั้น ดวงตาของหว่านเอ๋อเปิดเผยม่านตาสีทองที่เปล่งประกายเหมือนดวงอาทิตย์คู่หนึ่ง
ดวงตาของเธอสวยมาก แต่ขาดความอบอุ่น ดังนั้น ดวงตาของเธอจึงดูเย็นชา
“เจ้าหญิงอัลฟา ข้าชื่อสกุลฉิน…” ฉินจิงเจินให้ทุกคนคำนับต่อหน้าหญิงสาวผมบลอนด์ เขาหวังว่าจะได้รับพรจากเลือดของเธอ ฮั่นเซินรู้ว่าทุกอย่างกำลังจะแย่ลง ด้วยสถานการณ์ของหว่านเอ๋อร์เป็นเช่นนั้น เธอจะเป็นเหมือนหว่านเอ๋อร์ผมบลอนด์ เธอจะไม่รู้จักใครเลย
ในอดีต โหมดเทพเจ้าอันยิ่งใหญ่ของฮันเซนสามารถยกเลิกพลังของหวานเอ๋อได้ ตอนนี้มันผ่านไปนานแล้ว และพลังโหมดเทพเจ้าซูเปอร์ของเขาก็กำลังถูกกดขี่ พลังทองคำของหวานเอ๋อร์ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็ยังสามารถระเบิดได้ ฮั่นเซินสงสัยว่าเขามีพลังที่จะหยุดหว่านเอ๋อได้หรือไม่
ฮั่นเซินอธิษฐานกับตัวเองว่า “หวังว่าสิ่งต่างๆ จะไม่แย่เหมือนที่ฉันคิดไว้” หวังว่าจินซิ่วจะไม่เลวร้ายอย่างที่ฉันคิด
สำหรับคนอย่างฮั่นเซิน พวกเขามีพรสวรรค์ในการทำให้ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นจริง มันไม่ใช่ว่าเขามีคุณสมบัติพิเศษอะไร มันก็แค่เขาสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ได้ตามที่มันเป็นจริงเท่านั้น ถ้าเขาคิดว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งอาจเกิดขึ้น มีโอกาสสูงที่เขาจะถูกต้อง
หว่านเอ๋อ ลอยอยู่ในอากาศ ผมบลอนด์ของเธอปลิวลง เธอเหมือนเทพเจ้าที่มองลงมาที่ฉินจิงเจินจากที่สูง เธอยังคงดูเย็นชาอยู่มาก ฉินจิงเจิ้นรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอย่างมาก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาไม่สามารถช่วยแต่ถอยหลังได้เมื่อทหารและพระหลายคนเคลื่อนเข้ามาปกป้องเขาและชินไป
หว่านเอ๋อร์ในที่สุดก็เคลื่อนไหว ทันใดนั้น เธอก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าชินไป๋ เธอเร็วมากจนแม้แต่ยามที่ทรงพลังที่สุดก็ยังไม่เห็นว่าเธอเคลื่อนไหวอย่างไร
เมื่อเห็นว่าน์เอ๋อร์จับหัวของฉินไป๋ ยามและพระสงฆ์คนอื่นยังไม่ทันตอบสนอง มีเพียงฉินจิงเจิ้นที่อยู่ข้างๆ ฉินไป๋เท่านั้นที่สังเกตเห็น ร่างกายของเขารวบรวมพลังที่น่ากลัว เขาเรียกพลังที่เหมือนฟ้าร้องและทำลายโลกขณะที่เขาชกไปที่มือของหว่านเอ๋อ
ฮั่นเซินต้องยอมรับว่าเขาประเมินกษัตริย์ต่ำไป กษัตริย์ธรรมดามักจะยุ่งอยู่กับกิจการทางธุรกิจ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยฝึกฝนการต่อสู้ถึงระดับสูงสุด
แม้ว่าชาวจีนในอาณาจักรฉินจะยืมพลังจากภายนอก แต่ถ้าพวกเขาไม่มีพลังหรือเจตจำนงในตัวเพียงพอ ก็ยากที่จะควบคุมพลังเลือดของเทพเจ้าและเผ่าพันธุ์ทางพันธุกรรมที่ทรงพลังได้ดี
พลังของฉินจิงเจิ้นไม่อ่อนแอ ฮั่นเซินสามารถบอกได้ว่าเขาฝึกฝนอย่างหนัก
เขายังไม่ถึงระดับ Break World แต่เขาเป็นคนประเภทที่หายากในโลกของมนุษย์ หมัดที่เขาเหวี่ยงออกไปต้องมีพลังของราชินีแห่งการตัดหัวแน่นอน
มือของหวานเอ๋อร์ดูไม่แข็งแรงเลย มันดูไม่เหมือนว่ามันมีพลังอะไรเลย มันก็แค่มือของเธอกำลังลุกไหม้ด้วยเปลวไฟสีทอง
ปัง!
เมื่อหมัดของฉินจิงเจินกระทบลงบนมือของหว่านเอ๋อ ร่างของพระราชาก็ปลิวไปเหมือนว่าวที่ขาดสาย ขณะที่เขาลงมา เขาก็ไอออกมาพร้อมกับเลือดจำนวนมาก หมัดที่ทรงพลังของเขาถูกกลืนหายไปทันทีที่สัมผัสกับแสงทอง ไม่มีแม้แต่หยดหรือจุดเดียวที่เหลืออยู่เลย มันไม่แม้แต่จะส่งเสียงออกมา
“พระราชาของข้า!” ปุโรหิตหลักตะโกนออกมา เขาบินไปและจับร่างของฉินจิงเจิน แต่เขาก็พ่นเลือดออกมาเช่นกัน เขาชนกำแพงกับฉินจิงเจิ้น
มือของหว่านเอ๋อร์ยังคงเคลื่อนไปจับหัวของชินไป๋ ชินไป่ยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ เขาไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน เขาไม่เคยเห็นพ่อผู้ภูมิใจของเขาต้องตกอยู่ในความยุ่งยากเช่นนี้มาก่อน
ร่างหนึ่งวูบไป ฮั่นเซินจับกุมฉินไป๋และถอยกลับเหมือนเงา
ไม่ว่า Qin Bai จะเป็นคนเลวแค่ไหน เขาก็ยังเคยดีต่อ Han Sen เสมอ ดังนั้น ฮั่นเซินจึงไม่อยากเห็นเด็กชายถูกฆ่าตรงหน้าเขา
ในเวลาเดียวกัน ภาพวาดบนผนังของห้องบ่อน้ำแห่งโชคชะตาเริ่มเปล่งแสง ชายชราที่อยู่ในภาพวาดมีแสงของพระเจ้า เขาเดินออกมาจากภาพเหมือนเทพเจ้า เขายืนอยู่ตรงหน้าหว่านเอ๋อ
ชายชรายังคงถือไม้เท้าสีดำของเขาอยู่ ร่างกายของเขาเปล่งประกายด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์เมื่อเขามองไปที่หว่านเอ๋อและกล่าวว่า “ข้าสัญญาว่าจะปกป้องวัดนี้” ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณก็ไม่สามารถฆ่าที่นี่ได้
