ในจักรวาลเจโน่ ลิงเอ๋อร์นั่งอยู่บนเก้าอี้ในสวนอวกาศ เธอวางมือไว้ที่กรามเพื่อรองรับมันและจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อฝันกลางวัน “หลิงเอ๋อร์น้อย คิดถึงพี่อู่หังไหม?” ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เขายิ้มให้หลิงเอ๋อร์
“คุณปู่หยู่หาง!” คุณกลับมาเร็วมากเลย หลิงเอ๋อร์มองหวังหยู่หังด้วยความประหลาดใจ
สีหน้าของหวังหยู่หางดูหม่นหมอง “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณควรเรียกฉันว่าพี่อู่หัง” เธอยังเรียกฉันว่าตายายอยู่เลย ฉันแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
“แต่พวกเขาบอกว่าพ่อของฉันเรียกคุณว่าอา,” หลิงเอ๋อร์พูดพร้อมกับกระพริบตา
“เราไม่ใช่ญาติกัน ดังนั้นมันก็ไม่สำคัญหรอก” หวังหยู่หางกล่าว “ความสัมพันธ์ของเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขา” นายควรเรียกฉันว่า พี่ยูฮัง ต่อไปเถอะ “อ้อ แล้วน้องฟลาวเวอร์อยู่ที่นี่ไหม?” เขาอยู่ไหน?” หวังหยู่หางถาม “พี่ชายหลี่เฟยอยู่กับพี่สาวเมิ่งเอ๋อ พี่สาวซีโร่ และพี่สาวเสี่ยวเทียน,” หลิงเอ๋อร์อธิบาย “พวกเขาได้ไปที่ท้องฟ้านอกแล้ว” พวกเขาได้ยินว่า Mirror Lake มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นที่นั่น
“นั่นยอดเยี่ยมมากที่พวกเขาพบสิ่งใหม่ๆ” หวังหยู่หางกล่าวขณะขยำกำปั้นของเขา “ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะไปโลกต่อต้านสสาร” ฉันอยากเห็นฮั่นเซินเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากพูดจบ หวังหยู่หางก็เตรียมตัวที่จะออกจากสวนอวกาศ เขากำลังจะไปที่ทะเลสาบกระจก หลังจากเดินไปสองก้าว มือหนึ่งก็จับแขนเสื้อของเขา
“พี่ใหญ่ยูฮัง พาไป Outer Sky ได้ไหม?” ฉันอยากไปดูทะเลสาบกระจกด้วย หลิงเอ๋อร์มองหวังหยู่หังด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสาร
“ไม่มีทาง,” หวังหยูหางกล่าวพร้อมส่ายหัว “เธอเล็กเกินไป” มันอันตรายเกินไปสำหรับคุณที่จะไปที่นั่น เขาไม่ต้องการพาเจ้าหญิงคนนี้ไปที่นั่น
ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ สัตว์ทุกตัวในสวนอวกาศจะอยากกัดเขาเป็นชิ้นๆ
“พี่หยู่หาง พี่จะไม่พาฉันไปเหรอ?” หลิงเอ๋อจ้องมองหวังหยู่หางด้วยความเศร้าในดวงตาและกระพริบตา
“ฉันอยากพาเธอไป แต่จะอันตรายเกินไป” มีสัตว์ประหลาดน่ากลัวมากมาย… อ๊าก!” ก่อนที่หวังหยู่หางจะพูดจบ เขารู้สึกเหมือนร่างกายของเขาถูกพลิกกลับหัวเหมือนตัวอักษรตัวใหญ่ในภาษาจีน หลิงเอ๋อร์นั่งกลับลงบนเก้าอี้ของเธอ วางมือไว้ใต้คาง และมองไปที่หวังหยู่หัง ดวงตาของเธอเปล่งประกาย เธอยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไรถ้าเธอไม่อยากพาฉันไป” ถ้าเธอไม่พาฉันไป เธอต้องอยู่ที่นี่และเล่นกับฉัน อ่านได้ที่ daonovel.com เท่านั้น
“ไอ.” ไอ ฉันยุ่งจริงๆ ฉันไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนั้น ตอนนี้ กรุณาวางฉันลงด้วย” หวังหยู่หางต่อสู้กับคำพูดและร่างกายของเขา ไม่มีอะไรที่เขาพยายามทำได้ช่วยให้เขาหลบหนีได้ มันเหมือนกับเชือกที่มองไม่เห็นได้มัดเขาไว้
“พาฉันไปหรืออยู่ที่นี่แล้วเล่นกับฉัน” หลิงเอ๋อร์พูดพร้อมกับยิ้ม
หวังหยู่หางดูโกรธและถามว่า “หลิงเอ๋อร์น้อย ทำไมเธอถึงทำแบบนี้กับฉันได้?” ฉันคือปู่ของเธอ ยู่หัง แม่ของเธอไม่สอนให้เธอเคารพผู้ใหญ่หรือไง? หลิงเอ๋อร์ควรเป็นเด็กดี ดังนั้นหยุดเล่นซนและวางฉันลงเถอะ
“ใช่ค่ะ แม่สอนให้เคารพผู้ใหญ่ แต่คุณบอกว่าคุณคือพี่หยู่หาง ไม่ใช่คุณปู่หยู่หาง” หลิงเอ๋อร์พูดพลางกระพริบตา
“โอเค! โอเค! โอเค! ได้เลย! ฉันจะเล่นกับคุณ คุณอยากเล่นอะไร? พี่ใหญ่ยูฮังจะไปเล่นแล้ว หวังหยู่หางโกรธมาก แต่เขาไม่สามารถตอบโต้ได้ เขาต้องโทษตัวเองที่โง่เมื่อก่อน “มาเล่นเกมที่เธอชอบกันเถอะ ลิตเติ้ลซิกซ์” หลิงเอ๋อปรบมือ ลิงหูหกวิ่งมาหาเธอ มันวิ่งตรงไปข้างหน้าเธอ
หลังจากได้ยินคำพูดของหลิงเอ๋อ ตาของลิงหูหกก็สว่างขึ้นเมื่อมองไปที่หวังหยู่หาง
“คุณต้องการอะไร?” อย่าเข้ามาใกล้!” หวังหยู่หางมองไปที่ลิงหูหกซึ่งดูไม่ค่อยดี มันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ เขารู้สึกแย่มาก
ไม่มีคนมากนักที่ทะเลสาบกระจกของ Outer Sky แต่มีห้องปฏิบัติการขนาดใหญ่สร้างขึ้นที่นั่น
หลายคนกำลังตรวจสอบหน้าจอภายในอาคารอย่างจริงจัง หลายคนกำลังควบคุมเครื่องมือหลากหลายชนิด
เซี่ย ฉิง คิง ไม่สามารถช่วยถามได้ว่า “พี่สาวหยู่เฟย นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เธอไม่เข้าใจข้อมูลทั้งหมดและสิ่งที่เครื่องจักรกำลังทำอยู่
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Mirror Lake ได้แสดงเหตุการณ์แปลกๆ มากมาย ทั้ง Outer Sky ได้รับผลกระทบ
ผู้ที่สูงส่งไม่สามารถหาสาเหตุได้ พวกเขาได้ขอความช่วยเหลือจากกลุ่มชนชั้นสูงของสวนอวกาศ นั่นคือเหตุผลที่ฮั่นหยู่เฟยสร้างห้องทดลองใกล้ทะเลสาบกระจก ในความเป็นจริง ในทั้งสวนอวกาศ มีเพียงฮั่นหยู่เฟยเท่านั้นที่เก่งในเรื่องนี้ คนอื่นๆ ล้วนไม่มีประโยชน์
ฮั่นยูเฟยยังคงมองข้อมูลและกล่าวว่า “จากข้อมูลและข้อมูลที่ฉันได้รับ ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวต่อต้านวัตถุของทะเลสาบมิเรอร์ได้แข็งแกร่งขึ้น” สปริงต่อต้านวัสดุทำงานบ่อยขึ้น มันเคยเกิดขึ้นครั้งละสี่หรือห้าวัน ตอนนี้มันเกิดขึ้นวันละสองหรือสามครั้ง
“นั่นหมายความว่าอะไร?” เซียวชิงคิงถาม
“ตามข้อมูล มีสองความเป็นไปได้” อีกความเป็นไปได้หนึ่งคือโลกต่อต้านสสารกำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดบางอย่าง เขตกันชนระหว่างสองโลกได้รับผลกระทบ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้น ฮั่นหยู่เฟยหยุดชั่วครู่ เธอดูตื่นเต้นเมื่อพูดต่อว่า “หนึ่งในความเป็นไปได้คือมีพลังที่ทำลายอุปสรรคระหว่างสองที่ใกล้กับทะเลสาบกระจก”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป มีคนถามด้วยความดีใจว่า “พี่ใหญ่จะกลับมาจากโลกต่อต้านวัตถุไหม?”
ฮั่นหยู่เฟยส่ายหัว “ตามข้อมูลที่ได้รับจากผู้สูงส่ง การเคลื่อนไหวนี้มีอยู่แล้ว แต่ค่อนข้างอ่อนแอและไม่ได้ส่งผลกระทบที่ไหนในท้องฟ้านอก” ดังนั้น ไม่มีใครให้ความสนใจ ฉันมั่นใจว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้น มันอาจจะไม่ใช่ฮั่นเซิน
“หมายความว่าพวกสัตว์ในโลกต่อต้านสสารกำลังจะพยายามทะลุทะลวงทะเลสาบกระจกและเข้ามาในโลกของเราใช่ไหม?” เซี่ย ฉิง คิง ถามด้วยความตกใจ
“จนถึงตอนนี้ นั่นคือทฤษฎีที่น่าเชื่อถือที่สุด” ฮั่นยู่เฟยตอบ “ถ้าผ้าคลุมถูกฉีกออก จะเกิดอะไรขึ้น?” เซี่ยฉีงคิงถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและกังวล
“ฉันไม่รู้,” ฮั่นยู่เฟยกล่าวพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกาย “สิ่งเดียวที่ฉันรู้แน่ชัดคือเมื่อสองโลกเชื่อมต่อกัน เราจะรู้สึกถึงพลังของสองโลกทันที” บางทีเราอาจเป็นไท่ยี่ชั้นยอดของเผ่าพันธุ์เราและมีพลังจากสองโลกเพื่อเป็นเอลิตของโลกแตก
ดวงตาของเซี่ยฉีงคิงเปล่งประกายเมื่อเขาถามฮั่นยู่เฟยว่า “พลังแบบไหนคือพลังทำลายโลก?”
ตั้งแต่การต่อสู้ในห้องโถงเจโน่ จักรวาลเจโน่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลายครั้ง ทรัพยากรทั้งหมดเติบโตขึ้นอย่างบ้าคลั่ง หลายคนสามารถเลเวลอัพและพัฒนาได้ในอัตราที่เร็วขึ้นมาก เซี่ย ฉิง คิง ได้บรรลุระดับเทพสูงสุดแล้ว เขาไม่สามารถไปสูงกว่านี้ได้
เขาก็ไม่ต้องการเป็นเทพเจ้าเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงหยุด ไม่สามารถพัฒนาตนเองได้อีกต่อไป
“ฉันยังไม่ถึงระดับนั้น ดังนั้นฉันจึงไม่รู้รายละเอียดที่ถูกต้อง” ฮั่นหยู่เฟยดูเหมือนจะตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อเธอพูดว่า “ฉันรู้แค่ว่า การรวมพลังของโลกหลักและโลกที่สองเข้าด้วยกัน สำหรับแม่มด เป็นสิ่งที่ไท่ยี่เท่านั้นที่ทำได้” เหตุผลที่การบรรลุ Break World เป็นเรื่องยากก็เพราะว่าเราไม่สามารถรู้สึกถึงพลังของโลกอื่นได้ ถ้าหากทะเลสาบกระจกแตก เราจะสามารถรู้สึกถึงพลังของวัสดุต้านได้ทันที นั่นหมายความว่าการทำลายโลกจะง่ายขึ้นมาก
