Rise of the White Dragon การตื่นขึ้นของมังกรขาว - ตอนที่ 280

ตอนที่ 280: ซากปรักหักพัง

วันรุ่งขึ้นเป็นเช้าวันเสาร์ ไม่ใช่ว่าวันในสัปดาห์มีความสำคัญ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น หลายคนไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันอะไร

“ฉันจะอยู่ต่ออีก 2 วันก่อนจะกลับไปที่หอคอย” ลูเอน ซึ่งนั่งอยู่รอบโต๊ะในห้องนั่งเล่นพูด ขณะมองดูเลเนอร์ “เธออยากอยู่บนโลกอีกสัก 2-3 วันหรือไม่ หรือเธออยากกลับไปกับเราไหม”

เมื่อไมร่าได้ยินสิ่งนี้ เธอก็แสดงสีหน้าเศร้า เธอไม่ต้องการแยกจากหลานสาวที่เธอเพิ่งพบ เช่นเดียวกันสำหรับ คาธารีน่า เธอได้พูดคุยกับเลเนอร์เป็นอย่างมาก ไม่นานเธอก็รู้ว่าทั้งสองคนมีอะไรที่เหมือนกันมากการได้ อยู่กับเธอเป็นเรื่องสนุก เช่นเดียวกับที่เธอรู้สึกอยากใกล้ชิดกับเลเนอร์มากขึ้น

คริสตินาไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ที่รุนแรงมากนัก เธอใช้เวลานานกว่าจะชอบใครซักคน แต่อย่างน้อยเธอก็เห็นเลเนอร์ ในแง่ดี แม้ว่าเธอจะเฉยเมย แต่ก็ไม่อึดอัดที่จะอยู่ใกล้เธอ

“เกี่ยวกับเรื่องนั้น..” เลเนอร์ลังเล เธอต้องการอยู่ แต่ส่วนหนึ่งของเธอต้องการจะกลับไป เธอรู้สึกเหมือนอยู่บนสะพาน หลังจากครุ่นคิดแล้ว เธอก็ถามว่า “ท่านพ่อ ท่านตั้งใจจะอยู่ในหอคอยนานเท่าใด”

ลูเอนตอบโดยไม่คิด “โดยเฉลี่ยแล้ว 1 เดือน นั่นเป็นเวลาที่เราประเมินว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะได้รับอาหารเสริมที่เพียงพอเพื่อกลับไปฝึกฝน”

“1 เดือนไม่นานนัก” เลเนอร์ยิ้มซึ่งเป็นรอยยิ้มที่หายาก แม้จะเป็นเพียงเศษไม้เล็กๆ แต่ก็สวยงาม “ฉันจะอยู่ที่นี่ คราวหน้าฉันจะกลับไป ถ้าใช้เวลานานกว่านี้ ฉันก็ยังกลับไปคนเดียวได้”

ลูเอนอดไม่ได้ที่จะผิดหวังเล็กน้อย แต่ส่วนหนึ่งก็มีความสุขอย่างน้อยลูกสาวของเขาก็แสดงความสนใจในแม่และน้องสาวของเขา

“นายกลับมาแล้ว” เสียงเย้ายวนของนอร่าสามารถยินได้แต่ไกล

อิงกริดขมวดคิ้วทันที เธอแสดงความรำคาญเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าก็สามารถซ่อนมันได้

ลูเอนมองไปที่นอร่า ซึ่งตอนนี้สวมชุดที่ค่อนข้างเปิดเผย เผยให้เห็นร่างกายที่เย้ายวนของเธอ แม้ว่าจริงๆ แล้วเธอสวยมาก แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ลูเอนเพ้อฝันเกี่ยวกับเธอ เขาชอบรูปลักษณ์ที่สวยงามของเธอเพียงไม่กี่วินาที จากนั้นก็กลายเป็นไม่แยแส “เลเนอร์ต้องการใช้เวลาอีก 2-3 วันกับแม่และพี่สาวของฉัน”

“อืม” นอร่าแสดงรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ “ดีที่เธอสามารถมีช่วงเวลาแห่งความสงบสุขได้ แต่ถ้าใครกล้าทำร้ายเธอ…”

ลูเอนพูดก่อนที่นอร่าจะพูดจบ “ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอคือสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกตอนนี้”

“ถ้านายว่าแบบนั้น…” นอร่าเปลี่ยนเรื่อง “ไปเถอะ ฉันเจอซากปรักหักพังแล้ว”

“… ตกลง” ลูเอนพยักหน้า เป็นเรื่องปกติที่นอร่าจะทำแบบนี้ ย้อนกลับไปในชีวิตก่อนหน้านี้ เมื่อใดก็ตามที่นอร่าพบสิ่งที่ดี เขาจะเป็นคนแรกที่รู้ เห็นได้ชัดว่าไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อสังเกตเห็นรูปลักษณ์แปลก ๆ ของอิงกริด ลูเอนอธิบายสั้น ๆ ว่าซากปรักหักพังเป็นอย่างไรในแง่ของหอคอย “ไม่เหมือนกับซากปรักหักพังบนโลก ซากปรักหักพังในหอคอยนั้นมีค่า เนื่องจากสามารถสร้างจากสิ่งมีชีวิตในนักรบลำดับที่ 6 ได้ หรือแม้แต่จากสิ่งมีชีวิตในนักรบลำดับที่ 7 ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไป ไม่ได้”

“คุณเคยพบนักรบล่าดับที่ 7 มาก่อนหรือไม่” อิงกริดรู้สึกทั้ง

“อืม” นอร่าเป็นคนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ายวนของเธอด้วยความภาคภูมิใจว่า “ในกลุ่มของเรา ลูเอน เป็นคนที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเสมอ สิ่งที่ดีที่สุดเกิดขึ้นรอบตัวเขาตลอด จนการค้นหาซากปรักหักพังของจักรพรรดิน้ำแข็ง”

“มีเรื่องอย่างนั้นหรือ? แต่ฉันได้เรียนรู้ว่าจักรพรรดิน้ำแข็ง”

นอร่าขัดขึ้น “ฮ่าฮ่า ยังมีชีวิตอยู่เหรอ?” เธอเย้ยหยัน “เอาจริง ๆ ตอนนี้เป็นจักรพรรดิตัวปลอม แม้ว่าเขาจะใกล้จะบรรลุนักรบลำดับที่ 7 แต่เขาติดอยู่ในอาณาจักรนี้มาเกือบพันปีแล้ว”

“ฉันสู้เขาแล้ว” ลูเอนมองไปที่อิงกริด “ไม่ใช่ว่าเขาแข็งแกร่ง แต่เขาไหลลื่นมากเกินไป…”

“ชิ การพูดถึงเขาทำให้อารมณ์เสีย” นอร่าลิ้นของเธอด้วยความรังเกียจ

ขณะที่พวกเขาคุยกัน พวกเขาก็ออกจากเมืองไปแล้ว ที่เท้าของลูเอนและอิงกริด เมฆก่อตัวขึ้น นอร่าสร้างปีกค้างคาวคู่หนึ่ง เมื่อบินเข้าไป นอร่ากำลังนำทาง ขณะที่เธออธิบายต่อไปเกี่ยวกับซากปรักหักพังที่เธอพบ

“แม้ว่าฉันจะไม่คิดว่ามันเป็นซากปรักหักพังที่ใครบางคนจากนักรบล่าดับที่ 7 ทิ้งไว้ แต่แน่นอนว่าเป็นคนที่ทำให้มันเป็นนักรบลำดับที่ 6” นอร่ายิ้มให้ลูเอน

เป็นการเดินทางเกือบ 10 ชั่วโมงโดยบินด้วยความเร็วที่มากกว่า 2 มัค

“ฉันเหนื่อย…ขอฉันยืนบนก้อนเมฆกับนายหน่อยเถอะ” นอร่าทำหน้าเหนื่อย ดูเหมือนภรรยาที่โดนทำร้าย

ลูเอนไม่ตอบ เขามองไปที่อิงกริดแทน

“ก็ได้” อิงกริดถอนหายใจ “คุณอุ้มเธอไปด้วยก็ได้”

“ตกลง” ลูเอนพยักหน้าและมองไปที่นอร่า

“…” นอร่าไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่เห็น แต่อย่างน้อยเธอก็ได้สิ่งที่ต้องการ แม้ว่ากระบวนการจะแตกต่างไปจากที่เธอจินตนาการไว้ก็ตาม หรือบางที เธอรู้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้นในลักษณะนี้ แต่หวังว่าจะไม่… มันยากที่จะเข้าใจ เธอชอบลูเอนที่เป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ เนื่องจากเธอไม่ใช่เป้าหมายความรักของเขา มันจึงทำให้เธอเสีย

“ขอบคุณ.” นอร่าตอบแบบไม่สุภาพ แต่เธอยอมรับ แต่ก่อนที่เธอจะได้นั่งข้างลูเอน อิงกริดก็เข้ามาแทรกแซงและนั่งข้างเธอ นอร่ายอมแพ้และนั่งลงข้างอิงกริด อิงกริดยิ้มให้นอร่าด้วยท่าทางที่พอใจ

“…” นอร่าสูดหายใจเข้าลึกๆ เด็กคนนี้กำลังทำให้ฉันบ้า! อย่างน้อยเธอก็สามารถควบคุมตัวเองได้และไม่ทำอะไรที่เธอจะเสียใจในภายหลัง

นอร่าหันกลับมาสนใจลเอนอีกครั้ง “ลูเอน ยินดีด้วยที่ได้เป็นนักรบลำดับที่ 5” เธอพูดออกมาด้วยความจริงใจ “ฉันหวังว่าในไม่ช้คุณจะไปถึงนักรบลำดับที่ 6 อีกครั้ง จากนั้นฝันร้ายของศัตรูของนายจะกลับมา เมื่อพวกเขารู้ว่าจักรพรรดิมังกรขาวยังไม่ตาย”

“อืม” ลูเอนแสดงท่าทางที่มีเสน่ห์เมื่อเขากล่าวต่อ “ไม่เหมือนเมื่อก่อน ฐานการฝึกฝนของฉันดีกว่า แม้แต่เทคนิคของฉัน… ฉันรู้สึกว่าเมื่อฉันไปถึงนักรบลำดับที่ 6 พลังของฉันจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนอย่างน้อย 2เท่า”

“ฮ่ะ” นอร่าหัวเราะคิกคักอย่างมีเสน่ห์ “ฉันรอไม่ไหวแล้ว”

อิงกริดพูดไม่ออก เธอรู้สึกแปลกแยก มันเหมือนเป็นการสนทนาที่ไม่เข้าท่าสำหรับเธอ แม้จะเข้าใจบางสิ่งแต่เธอก็ไม่สามารถหาเวลาที่เหมาะสมจะพูดได้

นอร่าเห็นเช่นนั้นก็ยิ้ม เธอตั้งใจทำมัน เธอรู้จักลูเอนมาเป็นเวลานาน และเธอก็รู้เรื่องราวในอดีตของเขามากมาย ใช่ อิงกริดอาจรู้หลายสิ่งหลายอย่างที่เธอไม่รู้ แต่นอร่าก็รู้สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับลูเอนเช่นกันที่อิงกริดไม่รู้ และอย่างน้อยเธอก็ได้เปรียบ อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่เธอคิด

ลูเอนมองไปที่อิงกริด เขาจับมือเธอ เขายิ้ม “อิงกริด ดูนี่สิ สวยไหม?”

ด้านล่างพวกเขา เครื่องบินทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง แต่ที่น่าประหลาดใจคือมีทะเลดอกไม้กระจายอยู่บนพื้น ตกแต่งทั้งฉากด้วยดอกไม้ มันเป็นภาพที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในเวลาเดียวกัน

“สวยมาก” อิงกริดพึมพำอย่างเพ้อฝัน

“คุณชอบไหม ผมจะทำให้เลวีเอธานยึดครองดินแดนนี้ได้ถ้าคุณต้องการ” ลูเอนพูดอย่างใจดี

“เอาจริงนะ คุณจะทำอย่างนั้นจริงๆ เหรอ” หัวใจของอิงกริดเต้นแรง เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังนั่งรถไฟเหาะแห่งอารมณ์ มันเหมือนกับที่เขาเสนอทั้งหมดนี้ให้กับเธอไม่ใช่หรือ? เธอจะไม่มีความสุขกับมันได้อย่างไร?

แม้แต่นอร่าที่ไม่สนใจเรื่องพวกนี้มากนักก็มองดูอิงกริดด้วยความอิจฉา เธอรู้ว่าลูเอนเลิกพูดถึงอดีตแล้วและได้พบสถานที่นี้เพื่อเอาใจอิงกริด สิ่งนี้ทำให้เธออารมณ์เสีย

“แน่นอน” ลูเอนหอมแก้มอิงกริด ในไม่ช้าเขาก็จากไปและนำเลวีเอธานออกมาในรูปดาบ แต่ในไม่ช้าร่างของเลวีเอธานก็เปลี่ยนไป มันกลายเป็นผืนดินขนาดมหึมาลอยผ่านความคิดของลูเอน เขาสั่งให้มันออกไป “ยึดที่ดินผืนนี้”

ขณะที่ทำสิ่งนี้ พลัง Qi เชิงลบของเขาถูกดูดออกไป เขาต้องใช้ Qi เป็นจำนวนมากเพื่อให้บรรลุความสำเร็จดังกล่าว ในตอนนี้เลวีเอธานอ่อนแอเกินกว่าจะทำสิ่งนี้เพียงลำพัง

“เหลือเชื่อ! ตามที่คาดไว้ ลูเอน ยอดเยี่ยมมาก” อิงกริดประหลาดใจกับสิ่งที่เธอเห็น

ในอากาศ อนุภาคของพลังงานเริ่มปรากฏขึ้น เมื่อฉากด้านล่างเริ่มหายไปและทิ้งปล่องภูเขาไฟที่มีความกว้างไม่กี่กิโลเมตร ในไม่ช้า ส่วนหนึ่งของเลวีเอธานก็เริ่มเติบโต ทีละเล็กทีละน้อย ผืนดินและดอกไม้ แม้แต่สัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนนั้นก็เริ่มปรากฏขึ้นในเลวีเอธาน

หลายนาทีผ่านไป แม้ว่าสำหรับอิงกริด และสาหรับนอร่าดูเหมือนจะเป็นเพียงเวลาสั้นๆ แต่สำหรับผู้หญิง 2 คน สิ่งที่พวกเธอได้สัมผัสได้นั้นช่างสวยงามเหลือเกิน ลูเอนลอยตัวและในฐานะพระเจ้า เขาเริ่มทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น มันช่างวิเศษและสวยงามในเวลาเดียวกัน