POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) - ตอนที่ 704 การประชุมใหญ่เพื่อรับมือกับแผ่นดินไหว!
- Home
- All Mangas
- POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง)
- ตอนที่ 704 การประชุมใหญ่เพื่อรับมือกับแผ่นดินไหว!
EP 704 การประชุมใหญ่เพื่อรับมือกับแผ่นดินไหว!
ตอนเช้าวันนี้มีเมฆมาก
เมื่อเจ้าหน้าที่จากสํานักงานเขตกวางหมิงกําลังมาทํางานดูเหมือนเจ้าหน้าที่บางส่วนจะรู้เรื่องของเมื่อวานแล้วเรื่องที่ซ่งชิงหมิงเดินทางมาหาดงซูบิน
“ได้ยินข่าวเรื่องนี้หรือยัง”
“เรื่องนั้นใชไหม เรื่องป้ายโฆษณานะ”
“ฮะๆ นายไม่ได้เห็นสีหน้าของเจ้าของโรงกลั่นเหล้าองุ่น เขาหน้าซีดไปเลยล่ะ”
“ตอนนี้ชายที่ได้ฉายาว่าเทพเจ้าแห่งความโชคร้ายอยู่ที่สํานักงานของเราแล้วใครกันจะกล้าขวางกั้นเขาไว้ได้?
“แล้วเรื่องหลังจากนั้นล่ะ? แต่ดูเหมือนป้ายโฆษณาที่อยู่หน้บ้านของฉันตกเย็นตอนที่ฉันกลับไปเมื่อวานนี้มันถูกรื้อทิ้งไปจนหมดแล้วนะ”
“แล้วทําไมจู่ๆ เรื่องถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ ก่อนหน้านี้ซ่งชิงหมิงก็ประกาศแล้วว่าเขาจะไม่รื้อป้ายพวกนี้ออก”
“อันที่จริงก็ไม่รู้ที่ไปที่มาของเรื่องเท่าไรหรอกอย่างไรก็ตาม เลขาธิการซูบินไม่รู้ว่าจะใช้วิธีอะไรเขาสามารถจัดซ่งชิงหมิงได้ ทั้งๆที่ซ่งชิงหมิงไม่อยากจะรื้อมัน”
“สิ่งนี้เกิดขึ้นจริงหรือฉันรู้สึเมื่อวานฉันทํางานล่วงเวลาด้วย แต่ฉันรู้ว่าเมื่อวานมันตื่นเต้นมาก”“เมื่อวานที่ฉันแอบเห็นเจ้าของโรงกลั่นเหล้าเองก็เห็นว่าทําตัวไม่ถูกเลยดูเกอเกอกั้งกั้งหลังจากพูดคุยกันเสร็จและดูเหมือนเขาจะอายมากๆด้วยหลังจากพูดคุยกับเลขาซูบินจบ?” ในตอนนั้นดงซูบินก็มาทํางานพอดีถึงแม้เขาจะไม่ได้ยินบทสนทนาของลูกน้องของเขาแต่เขาก็รับรู้ได้ว่าทั้งคู่กําลังพูดเรื่องอะไรอยู่จึงกระทืบเท้าเป็นการเตือนไป
เมื่อป้ายถูกรื้อถอน ดงซูบินแสดงให้ทุกคนเห็นถึงอํานาจที่อยู่เบื้องหลังของดงซูบินอีกครั้ง
และมันคืออํานาจที่ไม่ธรรมดาการกระทําครั้งนี้คือการส่งสัญญาณให้กับผู้นําคนอื่นๆที่คิดจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาการที่ใครคิดจะมาเป็นศัตรูกับดงซูบินตอนนี้ก็เหมือนการขุดหลุมฝังศพตัวเองต่อให้เป็นเลขาธิการคณะกรรมการมณฑลอย่างหวังอันชิก็แทบจะไม่ใช้คู่ต่อสู้ของเขา!
ตอนนี้ดงซูบินอย่างเห็นจริงๆว่าใครกันจะกล้ามีปัญหากับเรื่องที่เขาพึงแสดงให้ทุกคนเห็นไป!
ใครกันที่จะโง่พอเข้ามาปะทะกับดงซูบินตอนนี้!
รู้ไว้สะด้วยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเพราะซงชิงหมิงเริ่มมีปัญหากับเขาก่อน!
ตอนนี้ดงซูบินกําลังเดินตามแผนของเขาที่วางไว้หลังจากได้รับข่าวแผ่นดินไหว”ฉันจะจัดการทุกคนที่พยายามจะขวางทางฉัน” ดงซูบินพยายามจะเปลี่ยนแปลงความคิดของคนอื่นๆอย่างไร
ก็ตาม เขายังไม่สามารถทําอะไรได้ไม่มากตอนนี้เพราะด้วยอํานาจทางการเมืองของเขาที่สะสมอยู่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ํามากเมื่อคิดถึงแผ่นดินไหวที่กําลังจะมาถึงไม่นานหลังจากนี้ดงซูบินจึง
พยายามจะสร้างให้เขาเป็นจุดสนใจและพยายามลดความเสียหายของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นให้
ได้มากที่สุดและพยายามจะทําทุกอย่างที่ทําได้ในเขตพื้นที่ที่เขาดูแลอยู่เขาจะไม่ยอมให้ประชาชนในพื้นที่เขาต้องตายจากเหตุการณ์นี้แม้แต่คนเดียวนี่ไม่ใช่เพียงเพื่อความปลอดภัยของ
ประชาชนในเขตของเขาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการรักษาตําแหน่งของเขาเองจากภัยพิบัติแผ่นดิน
ไหวและจะกลับมาทีอํานาจในหนานฉางแห่งนี้อีกครั้งหลังเรื่องทุกอย่างสงบ
ณ สํานักเลขาธิการ
ทันทีที่เขาเข้ามาดงซูบินโทรศัพท์หาลูกน้องของเขาทันที”ผู้อํานวยการโจวป้ายโฆษณาของโรงกลั่นเหล้าองุ่นถูกรื้อถอนไปจนหมดหรือยัง”
ในตอนท้ายของโทรศัพท์โจวหยินหยูยิ้มและพูดว่า:”ฉันเพิ่งส่งคนไปดูในตอนเช้าและดูเหมือนว่ามันจะถูกรื้อถอนจนหมดแล้ว”
“ฉันเข้าใจแล้ว” ดงซูบินกล่าวว่า: “ในอนาคตจะต้องมีการขออนุญาตสําหรับป้ายโฆษณาดังกล่าวคุณเองควรจะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนคุณต้องตรวจสอบเอกสารและตรวจสอบคุณภาพก่อน นอกจากนี้ไม่ใช่แค่เพียงโรงกลั่นเหล้าองุ่นแห่งเดียวเท่านั้นแต่ป้ายโฆษณาอื่นๆที่มีแล้วติดตั้งแล้วในเขตของเราทั้งหมดในทุกวันนี้ยังต้องแก้ไขและตรวจยืนยันอย่างถี่ถ้วน เมื่อพบป้ายที่ไม่ผ่านเกณฑ์แล้วจะต้องถูกรื้อถอนทันทีโดยไม่มีการเจรจาใดๆสุดท้าย จะมีการจัดทํารายงานและเอกสารจะถูกส่งไปยังมณฑล”
“เข้าใจแล้วฉันจะดําเนินการตามที่คุณสั่ง”
“เอาล่ะดำเนินการตามนี้อย่างเคร่งครัด”
ในที่สุด ดงซูบินก็ได้ดําเนินเสร็จสิ้นตามแผนไปหนึ่งแผน
เขารู้ว่าจะมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่อีก 20 วันข้างหน้าและแผ่นดินไหวก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว!ดงซูบินไม่มีเวลาที่จะมาชักช้าแล้วและตอนนี้สายตาของเขาจริงจังเขาเปิดคอมพิวเตอร์ทันที
และเริ่มพิมพ์อะไรบางอย่างและพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องบนอินเทอร์เน็ตและเอกสารบางอย่างที่เขามีอยู่และเริ่มแผนต่อไปนี้…
เป็นเรื่องเกี่ยวกับความนิยมของความรู้เรื่องแผ่นดินไหว
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าช่วงเวลาของแผ่นดินไหวถึงแม้จะเป็นแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์บ้านหรือกําแพงก็จะไม่ถล่มในทันที เมื่อมันเกิดขึ้นจะมีเวลาให้คนที่อยู่อาศัยมีเวลาในการเตรียมตัวอยู่ อาจจะห้าวินาทีบางทีสิบวินาทีขนาดบ้านหลังที่เก่าแก่ที่สุดก็ยังพอทนแรงของแผ่นดินไหวได้อยู่บ้างอย่างน้อยบ้านเหล่านั้นก็ไม่ได้ทํามาจากกระดาษและบ้านทุกหลังมีระดับการต้านทานแผ่นดินไหวในระดับหนึ่งนอกจากนี้ที่ต้าเฟิงยังเป็นจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ในหนานฉางจะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้นดังนั้นเมื่อเกิดแผ่นดินไหวการตอบสนองจึงเป็นสิ่งสําคัญที่สุดดงซูบินเห็นสถิติง่ายๆและการสอบสวนจากข้อมูลก่อนหน้านี้คนส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตในแผ่นดินไหวเกิดจากการไม่รู้วิธีการเอาตัวรอดหรือไม่มีบังเกอร์ที่เหมาะสมจึงทําให้เกิดการเสียชีวิตขึ้นมาได้
ดงซูบินจได้ว่าหลักการของการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวเขาได้รับการศึกษาในขณะที่เขาเรียนอยู่ชั้นประถมด้วยซ้ำแต่เขาไม่ได้สนใจมันมากนักหลายปีผ่านมาเขาได้ก็แทบจะลืมวิธีการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวไปจนหมดอย่างมากที่สุดเขาสามารถจ่าจุดหนึ่งหรือสองจุดได้ นี่เป็นเรื่องจริงสําหรับนักศึกษาอย่าว่าแต่คนอื่นเลยดงซูบินเชื่อว่าทุกคนส่วนใหญ่แทบจะลืมเรื่องการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวไปกันจนหมดแล้วดังนั้นดงซูบินควรให้ความสําคัญกับการทํางานในด้านนี้หากทุกคนเชี่ยวชาญก็เป็นการประเมินที่ระมัดระวังที่สุดเพราะจะมีผู้คนเกือบพันชีวิตที่เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในเขตอํานาจการดูแลของสํานักงานเขตกวางหมิงดงซูบินเพียงหวังว่าอัตราการเสียชีวิตจะลดลงครึ่งหนึ่งหลังจากเขาดําเนินการตามแผนที่เขาตั้งไว้ทั้งหมด
เราจะต้องเร่งดําเนินการตามแผนป้องกันให้เร็วที่สุด
ดงซูบินเองคิดว่าเขาคงแบกรับความรับผิดชอบที่ทําให้ผู้คนในเขตการดูแลของเขาตายขนาด
นั้นไม่ได้ เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับมันเขามีความคิดบางอย่างอยู่ในหัว เขาจึงให้ทางเจ้าหน้าที่ของเขาประสานงานกับผู้นําชุมชนทุกชุมชนและเรียกประชุมด่วนทันทีในช่วงเช้า.
ห้องประชุมใหญ่.
ดงซูบินเป็นคนสุดท้ายที่เข้ามาเขารอให้ผู้นําชุมชนทุกชุมชนเข้าไปในห้องประชุมให้ครบก่อน
และดูเหมือนหน้าตาของหลายๆคนดงซูบินเองก็จะคุ้นเคยอยู่แล้ว ซึ่งนี้ถือเป็นงานใหญ่ของเขตกวางหมิงมาก
เมื่อเห็นดงซูบินแล้วเกิงเซียงก็มองเขาอย่างลึกซึ้งด้วยการมองที่ “เลขาซูบินครับผมมารายงาน”ดงซูบินยิ้มและพูดว่า:“เกิงเซียงอย่างงั้นหรอ, บ๊ะ, คุณกลับมาเมื่อไหร่?”
“ผมเองพึ่งเรียนจบหลักสูตรและกลับมาในวันนี้” น้ําเสียงของเกิงเซียงดูธรรมดา
ดงซูบินเดินขึ้นไปและตบไหล่ของเขาอย่างเสน่หา“ยินดีตอบรับกลับมาสํานักงานเขตแห่งนี้ขาดคุณไปไม่ได้จริง….
เกิงเซียงเองก็กกล่าวออกมา “ยินดีเช่นเดียวกันครับ”
ดงซูบินยิ้มและพูดว่า: “ไปกันเถอะเปิดการประชุมชุมชนด้วยกัน”
เกิงเซียงขมวดคิ้วค่อนข้างอึดอัดและไม่เข้าใจว่าดงซูบินรู้สึกกระตือรือร้นกับเขามากแค่ไหนดงซูบินคงไม่คิดร้ายกับเขาอีกแล้วใช่ไหม?เกิงเซียงเองก็มีสีหน้าที่ดูตื่นตระหนก
ดูเหมือนคนในห้องประชุมจะพร้อมกันหมดแล้ว
ผู้เข้าประชุมแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือเจ้าหน้าที่ของสํานักงานเขตกวางหมิงและส่วนที่เหลือเป็นหัวหน้าชุมชน
ดงซูบินนั้งลงในตําแหน่งประธานและดึงไมโครโฟนมาใกล้ปาก เขาไม่อยากเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระหลังจากกล่าวคําเปิดงานง่ายๆสองสามประโยคเขาก็ตรงไปที่หัวข้อ:“การประชุมวันนี้ส่วนใหญ่เพื่อจัดการงานหลายอย่างทุกคนรู้จักแหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หวินชวนนั้นคือเหตุแผ่นดิน
ไหว แผ่นดินไหวในยูซุและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอินโดนีเซียและต่างประเทศก่อนหน้านี้ได้
สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้คนจํานวนมาก หลายคน้องสูญเสียบ้านที่พักอาศัยหรือแม้กระทั้งญาติพี่น้อง…” ในโลกแผ่นดินไหวไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่นั้นเกิดขึ้นแทบทุกวันดงซูบินร้อยเรียงเรื่องราวอย่างมีเหตุผลเขากล่าวว่าอันตรายจากแผ่นดินไหวตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงจบและน้ําเสียงของเขาก็หนักแน่น
เมื่อทุกคนฟังต่างก็มีการแสดงออกที่แตกต่างกัน
หลังจากพูดคุยกันเป็นเวลานานดงซูบินก็เหลือบมองลงมา“ด้วยเหตุนี้ฉันรู้สึกว่าจําเป็นต้องนําความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวมาเผยแพร่เป็นวาระภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่สามารถป้องกันได้
แต่ควรป้องกันไว้ล่วงหน้าและเตรียมพร้อมสําหรับการป้องกันแผ่นดินไหวและลดภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นเราจะต้องมีแผนป้องกันนี่คือสิ่งที่เราทําได้มันจําเป็นเราป้องกันมันได้”ดงซูบินกล่าวต่อว่า“ตั้งแต่วันนี้ฉันได้จัดการงานหลายอย่างนําโดยคณะกรรมการชุมชนในชุมชนต่างๆในแต่ละชุมชนภายใต้เขตอํานาจการดูแลของเขตกวางหมิงได้ดําเนินการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่นี้ถือเป็นนโยบายที่จะต้องนําไปปฏิบัติงานนี้ควรถือเป็นภารกิจหลักของเขตเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในชุมชนควรส่งเอกสารประชาสัมพันธ์ตามบ้านเรือนต้องมีการแจกจ่ายให้คบต่อให้ครัวเรือนนั้นจะอยู่ห่างไกลขนาดไหนก็ตามหรือจะเข้าถึงลําบากมากก็ตามมันต้องถูกแจกจ่ายในทุกครัวเรือนและทุกคน!”เสียงที่เงียบของการสนทนาก็ดังขึ้นทันทีและพวกเขาพิจารณาปัญหาที่เป็นจริงมากขึ้น
“การป้องกันแผ่นดินไหว? การเผยแพร่ความรู้?”
“นี่ไม่ใช่สภาวะวิกฤตไม่ใช่หรอ”
“จู่ๆเลขาซูบินก็จะดําเนินการเรื่องมันมาไดยังไง?จะต้องใช้กําลังคนและทรัพยากรงบประมาณมากแค่ไหน”
“โบรชัวร์ ประชาสัมพันธ์ ครอบครัว ราคาเท่าไหร่จะให้ทางชุมชนออกเหรอ?” เจ้าหน้าที่สํานักงานเขตเช่นเกิงเซียและโจวยินหยู ไม่คิดว่าดงซูบินจะพูดเรื่องนี้ออกมาด้วยซ้ำมันกระทันหันเอามากๆ และมันก็อธิบายไม่ได้.การป้องกันแผ่นดินไหวแบบไหนกัน? ของแบบนี้มักจะทํากันตามภารกิจของสํานักป้องกันแผ่นดินไหว เห็นได้ชัดว่าไม่มีคําแนะนําดังกล่าวในข้างต้น
และแม้ว่าจะมีการทําประชาสัมพันธ์แล้วจะนําไปใช้กับทุกคนได้อย่างไร? สิ่งนี้จําเป็นหรือไม่? เงินประจําปีของสํานักงานเขตของพวกเขาเองก็ไม่ได้มีมากมายขนาดนั้นมันจะต้องใช้เงินมากแค่ไหนกัน?
ตอนนี้หลายคนถึงกับพูดไม่ออกและไม่รู้ว่าดงซูบินกําลังคิดอะไรอยู่แต่ ดงซูบินได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการให้นโยบายการป้องกันแผ่นดินไหวเป็นนโยบายหลักเขาไม่ได้ขอค่าแนะนำจากใคร เขาพูดออกมาด้วยตัวเองว่า: “โบรชัวร์ใครจะรับผิดชอบในการพิมพ์และการผูกรับผิดชอบในการติดตามข้อมูลลงในโบชัวร์เงิน เรื่องเหล่านี้ให้เข้ามาประสานกับผู้อํานวยการโจวในการหารือเรื่องนี้” ดงซูบินมองไปที่หวังหยูริน”ฉันขอย้ำว่างงานนี้ให้ความสําคัญสูงสุดแม้ว่ายังมีภารกิจเรื่องอื่นๆให้หยุดลงชั่วคราวเพื่อให้แน่ใจว่าแผนนี้จะดําเนินไปอย่างราบรื่นจําเป็นต้องทําโดยเร็วที่สุดคุณไม่ ต้องรอพิมพ์ให้ครบทุกเล่มจะพิมพ์เล่มเดียวแล้วพรุ่งนี้รอดูความคืบหน้าก็ได้”
หวังยู่หลิงกระพริบตา“รับทราบค่ะฉันจะทํามันออกมาให้ดีที่สุด” ดงซูบินพยักหน้ารับคําพูดและอธิบายว่า“หลังจากกลับไปแล้ว ทางชุมชนจะต้องแบ่งงานกันให้ชัดเจนจัดการเรื่องนี้ให้ดีและหากมีปัญหาใดๆให้รายงานฉันโดยเร็วที่สุด”
ทุกคนไม่พูดอะไร และดูเหมือนทุกคนก็จะไม่กล้าพูดด้วย
แม้ว่าจะรู้สึกว่าสิ่งที่ดงซูบินท่านั้นดูไม่มีประโยชน์อะไรเลยแต่ทางชุมชนเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องท่าเท่านั้น
ดงซูบินมองไปที่ด้านล่างและพยักหน้าอย่างพอใจ “ดีล่ะ ปิดประชุม!”
เกิงเซียงเองส่ายหน้าเล็กน้อยและเขาดูเหมือนจะมีข้อสงสัยอยู่ไม่น้อย ดงซูบินไปโดนผีตัว
ไหนสิงมานะ? แล้วอยู่ดีๆทําไมเขาถึงเอาเรื่องแผ่นดินไหวขึ้นมาพูด?!.