POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) - ตอนที่ 701 เผชิญหน้ากันตรงๆ!
ท่ามกลางแสงแดดที่สอดส่องลงมาสภาพแวดล้อมตอนนี้เต็มไปด้วยความร้อน
ดงซูบิน นั่งอยู่ในสํานักงานจ้องมองไปที่หน้าต่างและพยายามคิดเรื่องต่างๆอยู่ในหัวเขาเองก็รู้ว่ายังมีผู้บริหารในมณฑลต่างกําลังจับจ้องเขาอยู่คนเหล่านั้นเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
ของเขาและกําลังรวมตัวกันเพื่อให้การื้อถอนป้ายหยุดชะงักและสํานักงานเขตกวางหมิงทํางาน ต่อไปไม่ได้
ในตอนนี้ทางสํานักงานเขตกวางหมิงไม่สามารถเข้าไปจัดการที่เกิดเหตุได้
สํานักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์เองก็พยายามยื้อเวลา
สํานักบริหารเมืองเองก็ไม่ให้ความร่วมมือในครั้งนี้
ตอนนี้ทุกหน่วยงานเล็งเป้ามาที่ดงซูบินและนั้นร่วมถึงสํานักงานเขตกวางหมิงก็เช่นกัน
ดงซูบินรู้ดีว่าเรื่องนี้ต้องได้รับการจัดการเป็นอย่างดีไม่เพียงแต่เพื่อภาพลักษณ์เท่านั้นและก็ไม่ใช่เพราะงานของเขาด้วยแต่นั้นหมายรวมถึงอีกหลายสิบชีวิตที่อาจจะต้องตายจากป้ายโฆษณาของบริษัทไวน์เพื่อสุขภาพหลังเดือนนั้นนี่มันไม่ใช่การเล่นของเด็กๆอีกต่อไปและก็มันไม่ใช่การประนีประนอมสิ่งที่สามารถแก้ไขได้ตอนนี้คือดงซูบินต้องการให้ป้ายโฆษณาทั้งหมด
ของโรงกลั่นเหล้าองุ่นถูกรื้อทิ้งไปให้หมดในพื้นที่การดูแลของสํานักงานเขตกวางหมิง ไม่มีที่ว่างสําหรับการเจรจา!
โจวหยินหยูเองก็ถอนหายใจออกมา:“เลขาซูบินฉันควรทําอย่างไรตอนนี้”หวังหยูรินเองก็เป็นคนไม่คิดอะไรซับซ้อน“หรือเราต้องออกไปรื้อถอนตัวเอง?”
“สิ่งนี้ไม่เป็นไปตามระเบียบและป้ายเหล่านั้นก็ไม่ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว” โจวหยินหยูพยายามสนับสนุนข้อมูล
“คุณสามารถเข้าพบกับผู้อํานวยการสํานักงานด้านอุตสาหกรรมและพาณิชย์ได้แต่นั้นก็หมายถึงสัปดาห์หน้าเลย”ตอนนี้ในใจของหวังหยูรินคิดว่าสํานักเขตกวางหมิงนั้นเหมือนจะถูกลอยแพแล้ว
แต่ดูเหมือนดงซูบินจะไม่ได้กังวลเรื่องนี้เลย“วันนี้พักผ่อนกันก่อนเถอะกลับไปกันได้แล้วฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”
โจวหยินหยูและหวังหยูรินมองหน้ากันและเดินออกจากห้องไป
ดงซูบินมองดูนาฬิกาของเขาและหยิบกระเป๋าแล้วเดินลงบันไดไปที่ลานบ้าน
ณ สํานักงานเขตกวางหมิงดูเหมือนเจ้าหน้าที่ๆทํางานล่วงเวลาจะกระซิบเบาๆกัน”ตั้งแต่เลขาธิการซูบินมาดูเหมือนเขตของเราจะไม่มีใครกล้าเข้าหาเลยนะ”“ใครบอกไม่มีกัน ตั้งแต่เลขาซูบินมาประจําที่นี้มี ปัญหามากมายตามมาทั้งนั้น”“อันที่จริงการจัดการปัญหากับพวกป้ายผิดกฎหมายพวกนี้มันเป็นเรื่องของทางเจ้าของป้าย
กับทางสํานักงานบริหารเมืองไม่ใช่หรือยังไงกัน!”
“อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรและต้องเร่งรีบจัดการขนาดนั้นไม่ใช่หรอ ดูเหมือนเลขาซูบินจะโดนรังแกนะในครั้งนี้”
สายตาของดงซูบินค่อยๆเย็นชาลงโดนรังแกอย่างงั้นหรอ? คนอย่างเรานี้นะจะโดนรังแก! อันที่ปัญหาที่ดงซูบินเจอเมื่อมาทํางานที่สํานักงานเขตกวางหมิงนั้นจะมีความยากง่ายสลับกันไปแต่
ก็ไม่ได้ทําให้เขาหวั่นไหวกับการทํางานเลย ต่อให้งานที่จะต้องดําเนินการประจําจะยากขึ้นเมื่อเขาสร้างปัญหาขึ้นมาก็ตาม แต่ถ้าใครคิดว่าดงซูบินถูกรังแกนั้นถือเป็นการคิดผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงที่สุด ซงชิงหมิง? โรงกลั่นเหล้าองุ่น? โอ้แกคิดว่าฉันจะจัดการกับที่นั้นไม่ได้อย่างงั้นหรอ?ดงซูบินคิดว่านี้มันเป็นเรื่องไร้สาระมากสําหรับเขาอันที่จริงมีอย่างน้อยสิบวิธีที่จะทําให้ซงชิงหมิง
ปฏิบัติตามคําสั่งของเขา! ต่อให้ดงซูบินจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากมณฑลก็ตาม?นั้นหน่วยงาน
อื่นไม่ให้ความร่วมมือ?ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล! มีมีใครคาดเดาได้ว่าสิ่งที่ดงซูบินสามารถทําได้เหนือจิตนาการขนาดไหน!
ดงซูบินขับรถตรงไปที่ร้านอาหารและดูเหมือนเขาจะไม่ได้ทานข้าวเที่ยงด้วย เขาหิวนิดหน่อยหยุดที่ประตูของโรงงาน ดงซูบินไม่ได้รีบเข้าไปแต่แตะโทรศัพท์และกดหมายเลขโทรศัพท์ของโรงกลั่นเหล้าองุ่นที่เขาจดไว้เขาต้องการเจรจากับซ่งชิงหมิงเป็นครั้งสุดท้ายและนั้นก็เป็นคําขาดสุดท้ายเช่นกันต่อให้เขาจะเดาไว้ก่อนแล้วว่าซงชิงหมิงจะไม่ได้ทําตามสิ่งที่เขาคิดก็ตามแต่แน่นอนการโทรในครั้งนี้เป็นการแสดงถึงการปะทะกันแบบซึ่งหน้าเขาจะไม่เล่นรอบกัดมันไม่ใช่สไตล์ของดงซูบินสไตล์ของดงซูบินคือตาต่อตาฟันต่อฟันเขาจะไม่ซ่อนตัวและเผชิญหน้ากับศัตรู!
ณ โรงงานไวน์เพื่อสุขภาพและโรงกลั่นเหล้าองุ่น
สํานักงาน
ซงชิงหมิงกําลังคุยกับผู้อํานวยการถังผู้อํานวยธนาคารเพื่อการอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน
“ผู้อํานวยการถังเงินกู้ในครั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของคุณ”ซงชิงหมิงมอบบุหรี่แก่เขาตอนนี้ผู้อํานวยการถึงเปรียบเสมือนคนชี้ชะตาให้กับโรงงานของซงชิงหมิง
ผู้อําานวยการถึงพยักหน้าเล็กน้อย“การประเมินของวันนี้จะต้องผ่านแน่ๆ วางใจได้เลยทุกอย่างถูกเตรียมการไว้หมดแล้ว”
ซงชิงหมิง ยิ้มและกล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณที่เป็นธุระทําให้มันถูกต้องเป็นไปตามระเบียบด้วย…”
“เรื่องทั้งหมดน่าจะเสร็จทุกอย่างไม่เกินสัปดาห์หน้า.” ผู้อํานวยการถัง กล่าวว่า: “ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะจัดการให้เสร็จในสัปดาห์เช่นกัน”
ซงชิงหมิงเองก็รู้สึกดีเมื่อได้ยินเช่นนั้น “อันที่จริงโรงงานของเราต้องการเงินทุนด่วนราวๆ 10 ล้านหยวนคงจะไม่มากไม่น้อยเกินไป”
“เร็วที่สุดคือสัปดาห์หน้า เพราะต้องดําเนินการหลายอย่าง ทางเราก็จะรีบดําเนินการให้“หวังว่าจะไม่เป็นการรบกวนพี่ถังมากเกินไป” ซงชิงหมิงกับผู้อํานวยการถังเองก็ค่อนข้างมีความสัมพันธ์อันดีให้แก่กัน
หลังจากพูดไปสองสามคํา ผู้อํานวยการถังก็กลับไป ซ่งชิงหมิงเดินไปส่งเขาออกไปด้วยความโล่งอกเมื่อเขากลับมา โทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น
เรื่องเงินกู้ได้รับการจัดการแล้วซงชิงหมิงเองก็กําลังอารมณ์ดีเขาจึงรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่สดใส”สวัสดี”
อีกด้านหนึ่ง:”เจ้านายผู้อํานวยการสํานักงานถนนกวงหมิงโทรมาต้องการที่จะคุยกับคุณจะให้ฉันโอนสายไปหาคุณหรือไม่”
ซ่งชิงหมิง ขมวดคิ้ว“โอนสายมา”
วินาทีต่อมา เสียงของดงซูบินก็ดังขึ้น“บอสซ่งหรอ?”
“เลขาซูบิน” ซ่งชิงหมิงยิ้มและพูดว่า:“มีอะไรหรือเปล่า?”
ดงซูฐินกล่าวอย่างแผ่วเบา:”บางสิ่งที่ฉันอยากจะบอกคุณป้ายโฆษณาของบริษัทของคุณส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความปลอดภัยของประชาชนในระแวกนั้นฉันคิดว่าถ้ามีอุบัติเหตุที่ คล้ายกันในตอนเช้าไม่มีใครอยากเห็นมันฉันหวังว่ายอาซงจะสามารถทําได้ คิดให้มากขึ้นแล้วรื้อป้ายโฆษณาโดยเร็วที่สุดบอสซ่งเป็นนักธุรกิจแต่ฉันคิดว่านักธุรกิจที่ดีไม่ควรสนใจแค่ผลกําไรที่อยู่ตรงหน้า เล็กๆน้อยๆความรับผิดชอบต่อสังคมก็จําเป็นด้วยช่วยพิจารณาสิ่งที่ฉันเสนอไปด้วย?”
รับผิดชอบต่อสังคม?
แกเป็นใครมาสั่งสอนฉันให้รับผิดชอบต่อสังคม?
ซ่งชิงหมิงถอนหายใจและส่ายหัว“ผมบอกไปแล้วว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุในอนาคตเราจะหาคนเสริมความแข็งแรงของป้ายโฆษณาแต่การรื้อถอนออก…โรงงานของเรารับไม่สามารถทําได้ และผมคิดว่ามันไม่จําเป็น” “”
สํานักงานเขตกวางหมิงได้ติดต่อกับทางสํานักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์และสํานักงานบริหารเมืองแต่ดูเหมือนซงชิงหมิงได้เขาพูดคุยกับผู้บริหารของสองหน่วยงานก่อนหน้านี้แล้ว
โดยรู้ว่าทั้งสองแห่งไม่ได้ร่วมมือกับดงซูบิน,อีกทั้งซงชิงหมิงมีแผนการที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีกอย่างไรก็ตามเขาคาดหวังไว้ว่าเลขาธิการซูบินจะไม่มีทางทําอะไรเขาได้ดังนั้นแน่นอนว่าเขาจะ ไม่ฟังคําสั่งของดงซูบิน ถึงแม้ชื่อเสียงของดงซูบินนั้นจะมีการบอกเล่ากันมาอย่างมากมายแต่การได้เผชิญหน้ากันเมื่อวานนี้ซ่งชิงหมิงก็ไม่ได้รู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้หน้ากลัวอย่างที่เสียงที่เขา
ร่ำลือมาและผู้บริหารในหน่วยงานต่างๆนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาและที่เขารู้มากไปกว่านั้นคือดงซูบินนั้นเป็นคนที่หวังอันชิต้องการกําจัดมากที่สุดดังนั้นทั้งในแง่ของธุรกิจและตําแหน่งซงชิงหมิงจึงเป็นจะต้องมีเป็นศัตรูกับดงซูบินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดงซูบินกล่าวว่า: “ถ้าเช่นนั้นนี้คือการเตือนครั้งสุดท้าย บอสซ่ง คุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณไม่เห็นด้วยกับการน่าป้ายโฆษณาออก”
ซงชิงหมิงเย้ยหยัน“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น
ดงซูบินยิ้ม“เนื่องจากโรงกลั่นเหล้าองุ่นของคุณตัดสินใจเช่นนี้ฉันเองก็คงจะปล่อยไปไม่ได้ป้ายโฆษณาของคุณจะต้องถูกรื้อแต่ไม่ต้องกังวลบอสซ่งฉันจะรอคุณอยู่ที่เขตฉันจะรอให้คุณกับมาบอกฉันว่าคุณจะเป็นคนรื้อถอนมันเอง !” ตุ๊ด ตุ๊ดโทรศัพท์ถูกตัดสายในทันที!
ซ่งชิงหมิงเองได้แต่หัวเราะออกมา
ฉันจะขอรื้อถอนมันด้วยตัวเอง?เขากําลังพูดบ้าอะไรกัน ?