POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) - ตอนที่ 667 เทพเจ้ามาเยือนมณฑลตาเฟิง!
- Home
- All Mangas
- POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง)
- ตอนที่ 667 เทพเจ้ามาเยือนมณฑลตาเฟิง!
EP 667 เทพเจ้ามาเยือนมณฑลตาเฟิง!
ณ มณฑลต้าเฟิง, ลานกว้างสํานักงานส่งเสริมการลงทุน
ดูเหมือนอากาศในตอนนี้พึ่งผ่านฝนตกมามีแดดสาดส่องมาเล็กน้อยและบริเวณถนนยังมีแอ่งน้ำอยู่บ้างช่วงเวลาสิบโมงกว่าๆ
หลังจากส่งนายกเทศมนตรีโยฮวา ไปที่คณะกรรมการพรรคเขตแล้ว ดงซูบินขับรถเพียงสองนาทีและไปที่สํานักส่งเสริมการลงทุนอีกแห่งบนถนนเพิ่งลงจากประตูและเข้าไปข้างในดงซูบินเห็นแพนเซินจี้และเลขานูการหม่าตอนนี้มีการปะทะกันของเจ้าหน้าที่สํานักงานส่งเสริมการ ลงทุนหนานฉานและต้าเฟิงข้างในดงซูบินได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นก็คือนายกเทศมนตรีหวังนายกเทศมนตรีแห่งต้าเฟิงและเจ้าหน้าที่ของสํานักงานส่งเสริมการลงทุนแห่งต้าเฟิงซึ่งอยู่ตรงกลางของลานกว้างซึ่งน่าจะมีกัน 17 ถึง 18 คน และดูเหมือนคนเหล่านั้นกําลังแสดงท่าทีไม่พอใจออกมา
ทางต้าเฟิงพูดจาอย่างไรไร้เหตุผล? อ่า?ตอนนี้มันทําให้เลขาหม่าเริ่มจะฟิวส์ขาดแต่ตัดกลับมาที่นายกเทศมนตรีหวังเขากับมีใบหน้าเรียบเฉยราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ทําอะไรผิด “เลขาหม่าฉันขอย้ำ นักลงทุนเหล่านี้มาที่เขตของเราและพวกเขาต้องการที่จะมาลงทุนกับเราอยู่แล้วฉันเองไม่ได้ไปแย่งนักลงทุนของหนานฉางเลย”
แพนเซินจี้ พูดด้วยความโกรธ: “ท่านนายกเทศมนตรีหวังนักลงทุนเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางต่าเฟิงเลยนะ?”
นายกเทศมนตรีหวังเองก็ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านกับคําพูดเหล่านั้นแต่อย่างใด:“ผู้อํานวยการ
แพนคงยังไม่ทราบเรื่องนี้นักลงทุนเหล่านี้ดูเหมือนบางคนเองทางเราก็ไม่เคยเห็นหน้าคาดตากันมาก่อนแต่ถึงยังไงก็ตามพวกเขาก็ดูเหมือนจะเป็นพวกที่วิสัยทัศน์กว้างไกลเห็นถึงโอกาสในการลงทุนในเขตอํานาจของต้าเฟิงเราเองคงจะปล่อยนักลงทุนเหล่านี้ไปกับทางคุณไม่ได้หรอก
อันที่จริงนักลงทุนเหล่านี้ควรอยู่ที่นี้ก่อนสักสองสามวัน ทางหนานฉางเองก็อาจจะต้องรอไปก่อนจนกว่าพวกเขาจะทัวร์ที่นี้จนเสร็จ”
เลขาหม่าเองเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกกดดันแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ยอมเด็ดขาด “เราจะไปรับตัวพวกเขาเดียวนี้!”
แพนเซินจี้มองไปที่นายกเทศมนตรีหวัง: “ตอนนี้นักลงทุนอยู่ที่ไหน”ลูกพี่ลูกน้องของเขาเคยทํางานเป็นผู้อํานวยการสํานักงานส่งเสริมการลงทุนในเขตต้าเฟิงแพนเซินจี้ยังสามารถเจรจาเรื่องนี้ได้อยู่ แต่ตอนนี้ลูกพี่ลูกน้องของเขาเกษียณแล้วแน่นอนว่าเมื่อถึงวัยเกษียณแล้วทางนั้นก็คงช่วยเหลืออะไรเขาไม่ได้อยู่ดี
“เรื่องนั้น ฉันเองก็บอกไม่ได้”ดูเหมือนนายกเทศมนตรีหวังพยายามจะยั่วโมโหคนจากหนานฉาง“คุณก็รู้ว่างานต้อนรับไม่ใช่หน้าที่ของฉัน”
เลขาหวังได้แต่ชี้นิ้วมาที่เขาและโกรธจนพูดไม่ออก!
คราวนี้เขตหนานฉางมาที่เมืองหลวงเพื่อรับนักลงทุนชาวญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เป็นคนของสมาคมการค้าเมื่อเห็นสิ่งที่ทางมณฑลต้าเฟิงท่ากับพวกเขามันทําให้พวกเขานั้นโมโหเอามากๆนี้มันเป็นการกระทําที่น่ารังเกียจเอามากๆพวกเขากล้าทําได้ยังไงกันอย่างไรก็ตามคนที่มาจากหนานฉางนั้นไม่ใช่พวกที่จะเข้าปะทะโดยตรง ท้ายที่สุดมันอยู่ในพื้นที่ของศัตรูโดยทั่วไปแล้วเมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้คนส่วนใหญ่จะพยายามคิดไตร่ตรองหาวิธีการแก้ไขสถานการณ์เงียบๆเพื่อดูว่ามีที่ว่างสําหรับการโต้กลับบหรือไม่ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะยอมเสียเวลาในการหาวิธีทางในการพานักลงทุนกลับไป
ดงซูบินที่เดินเข้าไปก่อนที่จะจ้องไปที่กลุ่มสนทนาของเลขาหม่ากับนายกเทศมนตรีหวังเขาเงยหน้าขึ้นเขาเองม่สนใจว่าคุณเป็นใคร และไม่สนด้วยซ้ำว่าคนๆนั้นจะอยู่ในตําแหน่งไหนเขาก้าวไปข้างหน้าและผลักฝูงชนชี้ไปที่หน้าของนายกเทศมนตรีหวังแล้วตะโกน:นายกหวัง! หยุดหาเรื่องไร้สาระพวกนี้ได้แล้ว! อย่ามาทําเป็นไขสือจะดีกว่า?และก็ควรสงบปากสงบค่าเอาไว้ด้วย
นะ! คุณนะไปติดต่อนักลงทุนจากโตเกียวมาตอนไหน?คุณเองก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่หรอ? คิดว่าพวกเราโง่หรือยังไงกัน? คุณนี่มัน ****เวรเอ๋ย! คิดว่าอยู่ในตําแหน่งสูงแล้วจะทําอะไรตามอําเภอใจ ได้หรือยังไงกัน? นิสัยของคุณนี้มันไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ?มันน่ารังเกียจมากกับการกระทําเช่นนี้และน่ารังเกียจมาด้วยเมื่อคนที่ทําอยู่ในฐานนายกเทศมนตรี! ดูเหมือนตอนนี้ประชาชนที่อยู่รอบข้างจะมองมายังดงซูบินในทันที
เมื่อนายกเทศมนตรีหวังได้ฟังก็ถึงกับโกรธจัด
ผู้คนรอบๆ คณะกรรมการการลงทุนของมณฑลต้าเฟิงก็ยกสายตาขึ้นและกล่าวว่านั้นใคร!ทําไมถึงกล้าพูดเช่นนั้นออกมา?
เมื่อผู้คนระแวกได้ยินเสียงที่ตะโกนออกมาก็แทบจะช็อก!
แน่นอนวีรกรรมที่ดงซูบินเคยทําไว้กับที่นี้นั้นทุกคนที่อยู่ที่นี้จะจําได้ไม่ลืม คนอื่นๆ อาจยังไม่รู้จักเขาแต่คนที่มาจากสํานักส่งเสริมการลงทุนที่รับผิดชอบสมาคมพ่อค้าแห่งประเทศจีนจะไม่รู้ได้
อย่างไร ?
ใบหน้าของนายกเทศมนตรีหวังก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน “พูดแบบนี้ได้ยังไง!”
เจ้าหน้าที่ของหนานฉางเช่นหม่ายี่ และ แพนเซินจี้ ต่างก็มองไปที่ดงซูบินพวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าดงซูบินจะพูดเช่นนั้นออกไปหลายคนถึงกับตะลึงทุกคนรู้ว่านายกเทศมนตรีโยฮวา เป็นเลขาธิการเก่าของสํานักงานเขตกวงหมิงและยังอาศัยในหอพักที่นั้น และแน่นอนใน
ฐานะนายกเทศมนตรีเธอเองก็รีบมาที่นี้อย่างใจร้อนแต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะคว้าชายที่แข็งแกร่งอย่างดงซูบินให้ขับรถมาส่งเธอด้วย
ดูเหมือนเลขานุการหม่าเองรับรู้ได้เลยว่าเรื่องนี้จะไม่จบลงง่ายๆอย่างแน่นอน หลี่หวู่กล่าวว่า:
“ผู้อ่านวยการซูบิน!”
ดงซูบินยังคงจ้องมองไปที่ดวงตาของนายกเทศมนตรีหวัง“ฉันจะพูดแบบนี้ได้อย่างไร?ฉันจะพูดแบบนี้ฉันไม่สนใจใครทั้งนี้เน!”
หวังโบชี้ไปที่เขา: “แก”
“นี้คือสิ่งที่ฉันเป็น!” ดงซูบินขัดจังหวะ:”เข้าใจไหมหวังโบ!ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันคุณจําไม่ได้แล้วหรอว่าเกิดอะไรขึ้น?มันหนักหนาพอที่จะทําให้จดจําไหม!ทําไมไม่หัดสร้างผลงานด้วย
ตัวเองบาง พยายามที่จะมั่วแต่แย่งผลงานจากคนอื่น!คุณเข้าใจที่ฉันพูดไหม? รู้ไหมฉันหมายถึงอะไร? ฉันไม่เคยเห็นมณฑลของคุณนั้นสามารถยืนได้ด้วยตัวเองเลย! อีกทั้งเรื่องการดึงเงินการ ลงทุนด้วยตัวเองก็ยังทําไม่ได้? แล้วจะต้องรอเมื่อไรถึงจะบอกเรื่องนี้รอให้พวกเขากลับไปที่หนานฉางก่อนอย่างงั้นหรอมีโครงการส่วนเกินและการแย่งนักลงทุนของคุณมันมีมูลค่าอหลาย พันดอลลาร์มันสามารถช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในมณฑลของเราได้!เมื่อเป็นการบรรเทาความยากจน! ”
ปากของ ดงซูบินทําให้คนหลายคนอารมณ์เสียแต่ก็ไม่ใครกล้าที่จะโต้แย่งชายที่ได้ฉายาว่าเทพเจ้าอย่างแน่นอนดูเหมือนทางต่าเฟิงเองจะเงียบไปหมดแล้ว
และตอนนี้เจ้าหน้าที่จากหนานฉางรู้สึกว่าพวกเขาชิงความได้เปรียบมาได้แล้วและเมื่อรู้ว่าดงซูบินชายผู้แข็งแกร่งที่สุดได้เขามาสนับสนุนพวกเขาและดูเหมือนจะรู้ว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับทาง
ตาเฟิงอย่างแน่นอน!
แน่นอนหวังโบเองได้รับบทเรียนจากการมีปัญหากับดงซูบินมานานแล้วโดยรู้ว่าเขาไม่
สามารถเอาชนะดงซูบินได้ และเขาไม่ได้โกรธเคืองกับเรื่องนั้นเลย และเขาก็จากไปเจ้าหน้าที่สํานักงานส่งเสริมการลงทุนของมณฑลต้าเฟิงหลายคนเห็นแล้วและตามนายกเทศมนตรีหวังกลับไปเข้าไปในอาคารสํานักงานด้วยมีเพียงพนักงานบางคนที่อยู่ด้านล่างอยู่เมื่อหวังโบจากไปเลขานุการหม่าบ่นว่า:“เลขาซูบินคุณกําลังทําอะไรอยู่?” ดงซูบินกล่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า:”คนแบบนี้จะต้องเจอแบบนี้ถ้าเขากล้าที่จะคว้านักลงทุนของเราผมก็ไม่ยอมเหมือนกันต่อให้พูดแต่สิ่งดีๆไปก็ไม่มีประโยชน์เขาจะไม่ยกเลิกความคิดแน่นอนดังนั้นผมจึงต้องหักหน้าเขาด้วยวิธีการนี้!”
เจ้าหน้าที่ของหนานฉางต่างหัวเราะจนร้องไห้ออกมาในทันทีและเทพเจ้าก็คือเทพเจ้าความคิดแตกต่างจากคนอื่นนั้นคือสิ่งที่คุณแตกต่างจากคนอื่นสินะ ?
ครั้ง
ตามด้วย นอกสํานักงานส่งเสริมการลงทุนมณฑต้าเพิ่งดูเหมือนทุกอย่างจะกลับมาคึกคักอีก
“นั่นคือดงซูบิน
?”
“เป็นเขาเอง พึ่งมา เขามาได้ยังไง”
“เขามาถึงที่นี้ต้องเกิดเรื่องใหญ่บางเรื่องขึ้นแน่ๆ!”
“ใช่แล้ว เขาคือจุดสูงสุดของสมาคมพ่อค้าแห่งประเทศจีน”
“นี่ อย่าพูดอย่าพูดไปเถอะไม่สําคัญสําหรับเรามันเป็นเรื่องของพวกเบื้องบนนูน” “ผู้คนในมณฑลต้าเฟิงตกตะลึงและมองไปที่ดงซูบินทั้งหมดก็จากไปและกลับไปที่อาคารสํานักงาน
เหว่ยหยาน, แพนเซินจี้ หม่าเฟ่ย และ คณะทํางานของหนานฉางล้วนทั้งหมดล้วนรู้ถึงวีระกรรมของดงซูบินอยู่ในหนานฉาง เท่านั้น ที่แต่จริงๆแล้วฉายาของดงซูบินในฐานะเทพเจ้าแห่งความโชคร้ายได้แพร่กระจายมาถึงมณฑลต้าเฟิงแล้ว