POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) - ตอนที่ 564 การรวมตัวของผู้บริหาร

EP 564 การรวมตัวของผู้บริหาร

ในวันถัดมา.

ช่วงเช้าวันศุกร์

ดงซูบินเองตั้งใจตื่นแต่เช้า เขาเริ่มแปรงฟัน ล้างหน้า และรับประทานอาหารเช้า ก่อนที่จะยืนอยู่ที่หน้าต่างของห้องดูรถออดี้ รถประจําตําแหน่งของนายกเทศมนตรีโยฮวา และเพียงไม่กี่นาทีต่อมา, ดงซูบินก็พร้อมที่จะออกจากห้องไปเพื่อไปทํางานแล้ว เขาคว้ากระเป๋าและจับลูกบิดประตู
แนบฟังเสียงจากภายนอก

เขาได้ยินเสียงเปิดประตูที่ชั้นล่าง

“ไปกันเถอะ” มันเป็นเสียงต่ําของเก๋งโยฮวา

“แล้วคืนนี้ลูกจะกลับมาไหม” เสียงนี้มาจากแม่ของเกิง

“เดี๋ยวหนูจะบอกอีกทีนะ”

“ถ้าอย่างงั้นถ้าจะกลับมาให้โทรหาแม่ด้วยนะ”

เสียงฝีเท้าเริ่มเบาลง เหมือนว่าเธอเดินลงบันไดไปชั้นล่างสุดแล้ว

ดงซูบินเปิดประตูทันทีที่เขาได้ยินเช่นนั้น แต่ขณะที่ดงซูบินเดินลงประตูห้องพักของเก๋งเซียงก็ปิดลง เสียงรองเท้าส้นสูงที่อยู่ใต้ชั้นที่สี่ ชั้นที่สาม และชั้นสองนั้นเร็วมาก เสียงของแต่ละขั้นก็สงบนิ่ง “ทรงพลัง” ดงซูบินรีบมากเช่นกันเห็นแค่ปลายผมของเกิงโยฮวาแวบๆ และไม่ยิ้มกลับมาที่ทางเดินระหว่างชั้นหนึ่งกับชั้นสอง “ดูเหมือนวันนี้เธอจะไม่ได้แต่งตัวทางการสักเท่าไร” เปลี่ยนรองเท้าส้นสูง ข้อเท้านุ่มเหยียบบนรองเท้า “ขาของเธอที่ถูกคลุใด้วยถุงน่องสั้นสีดําบาง ๆ” เธอชั่งดูทั้งมีเสน่ห์จริง หญิงสาวที่ดูงดงามในสไตส์แบบผู้ใหญ่

ในที่สุดดงซูบินก็เดินลงมาทันเจอเธอที่ทางเดิน”, “นายกเทศมนตรีโยฮวา โปรดรอสักครู่ ‘ เกิงโยฮวามองกลับมาที่ดงซูบิน” “…อืม”

“คุณทานข้าวหรือยัง”

“ฉันทานเรียบร้อย”

ในเวลานั้นเกิงโยฮวาไม่ได้ลดความเร็วของฝีเท้าลงเลยเธอตั้งใจเดินไปที่รถออดี้อย่างใจจดใจจ่อ อีกทั้วงเปิดประตูอย่างรวดเร็วและนั้งลงบนรถอย่างรวดเร็ว. .

นั้นแสดงให้เห็นว่าเธอคงไม่พอใจกับเรื่องของที่อยู่ภายในสูทในคืนก่อนหน้านี้

ดงซูบินถึงกับตบหน้าผากตัวเองเหมือนกับเสียดาย เขาตั้งใจตื่นเช้า เพื่อมาพบกับเก๋งโยฮวา

“แต่ดูท่าทางที่เธอทํากับเขานั้นชัดเจนมากว่าเธอไม่อยากคุยกับเขาเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อคืน ซึ่งเหมือนกับสิ่งที่ดงซูบินคิดไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ดงซูบินก็คิดไว้อีกทางว่าเธออาจจะเข้าใจเหตุผลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ แต่ไม่เป็นอย่างที่เขาคิดไว้เลยสักนิด เพราะท่าทีของเธอเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเมื่อเจอหน้าเขา แสดงว่าเรื่องเมื่อคืนก็เปรียบเสมือนว่าดงซูบินได้พยายามลวงละเมิดความเป็นส่วนตัวของเธอไปแล้ว แน่นอนว่ายังไม่ร่วมถึงเรื่องที่ดงซูบินเข้ามา แย่งตําแหน่งที่ควรจะเป็นของน้องชายของเธอ และการที่แกล้งดื่มหนักจนน้องชายของเธอถึงกับ

ต้องเขาโรงพยาบาล อีกทั้งการสั่งอาหารบูดเมนู หญิงสาวอายุสี่สิบ “ความขัดแย้งมากมายที่ซ้อนเข้าด้วยกัน” นั้นเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ไขด้วยคําว่าใจกว้าง

ในช่วงเช้า.

สํานักงานเขตกวางหมิง

ดงซูบินพึงมาถึงที่สํานักงาน“โจวหยินหยูรีบเคาะประตูและเข้าไปในห้องของเขาพร้อมกับเอกสารมากมาย เธอยิ้มและพูดว่า:”ท่านเลขาค่ะ เมื่อวานแฟนของฉันฝากมาขอบคุณสําหรับเรื่อง บุหรี่ที่ทางคุณมอบให้นะคะ”

ดงซูบินยิ้ม “ผมยินดี ถ้ายังไม่พอก็มาบอกฉันได้เลยฉันยังมีอีกเยอะเลย”

“ค่ะ… พอดีว่าวันนี้มีเรื่องสําคัญที่ทางคุณต้องตรวจสอบดู”

โจวหยินหยูวางเอกสารลงบนโต๊ะของดงซูบิน “มีประกาศในเขตนี้ชั่วคราว ในตอนเช้าที่เฟิงเดียน จัดประชุมเพื่อส่งเสริมการก่อสร้างและการจัดการบ้านในละแวกสําหรับผู้สูงอายุในอาคารที่ทําการรัฐบาลมณฑล และขอให้ผู้อํานวยการสํานักงานในพื้นที่ใกล้เคียงและผู้ปฏิบัติงานของสํานักงานกิจการพลเรือนเข้าร่วม เดิมทีจะจัดขึ้นที่สํานักงานกิจการพลเรือนเมื่อเดือนที่แล้ว แต่มาช้าเพราะขั้นตอนบางอย่าง ตอนนี้สถานที่นัดพบได้เปลี่ยนเป็นเขตการปกครองมณฑลแล้ว ไม่รู้ว่า มีเรื่องสําคัญอะไร ทางมณฑลดูท่าจะให้ความสําคัญกับการประชุมครั้งนี้ และนี่คือข้อมูลและเอกสารที่จัดทําโดยสภาและส่วนราชการค่ะ”

“เวลาสิบโมงอย่างงั้นหรอ?” ดง ซิ่วปิน พลิกเอกสารดู“”โอเค“รถพาซ่ายังอยู่ไหม?” อยู่หลังสํานักงานค่ะ” ฉันจะจัดคนขับรถให้ ” “ไม่เป็นไรเดียวฉันขับไปเอง”

ดงซูบินพยักหน้าและมองดูนาฬิกาของเขา “ดงซูบินดูไม่ได้รีบร้อนที่จะต้องไป” ครั้งล่าสุด ทางมณฑลได้มีข้อสั่งการให้ดําเนินโคงการเกี่ยวกับผู้สูงอายุ “เรายังขอให้ทางเขตรวบรวม

รายงานการทํางาน” ตอนนี้มีงานบริหารสถานรับเลี้ยงเด็กอีกงานที่ต้องดําเนินการ ใช่ดงซูบินก็ไม่รู้ว่างานไหนที่มณฑลให้ความสําคัญมากกว่ากัน เท่าที่เขารู้ การพัฒนาผู้สูงอายุในเขตหนางฉาง เป็นหนึ่งในโครงการที่ดีที่สุดในเมืองเฟิงโจวและดูเหมือนเทียบกันสมัยอยู่ที่หยานไท เรื่องนี้จะดูไม่ค่อยสําคัญเท่าไรหนัก? มีสถานที่อื่นอีกมากมายที่ต้องใช้เงินทุนและกําลังคนหรือไม่? แต่ทําไมเดือนนี้ประเด็นด้านการพัฒนาผู้สูงอายุถึงมาแรงเหลือเกิน? อย่างไรก็ตามดงซูบินก็ยังไม่เข้าใจ “เนื่องจากคณะกรรมการเขตและรัฐบาลให้ความสําคัญกับเรื่องดังกล่าวแน่นอนว่า ดงซูบินทําได้แต่เพียงต้องเตรียมพร้อมรับนโยบายเหล่านี้ไว้” เขาอ่านเอกสารตั้งแต่ต้นจนจบในสํานักงาน จากนั้นเขาก็เอาของลงไปชั้นล่างแล้วเดินไปที่สนามหลังบ้าน ขึ้นรถแล้วดงซูบินไม่ได้ตั้งใจจะขับคาเยนไปแต่อย่างไร.

เขามาถึงสํานักงานมณฑลหนานฉาง

เนื่องด้วยความล่าช้าในการอ่านเอกสาร ในขณะที่ดงซูบินมาถึงช้าไปหน่อย” มีรถจํานวนมากจากหลายเขตมาจอดอยู่ในลานกว่างของสํานักงานเขตแล้ว” ดงซูบินก้าวขึ้นไปชั้นบนชั้นหกห้องประชุมใหญ่

ดูเหมือนที่นั่งจะเต็มแล้ว บรรยากาศดูเคร่งขรึมกว่า” ยกเว้นเจ้าหน้าที่ไม่กี่คนที่กระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง” คนส่วนใหญ่ยังคงนิ่งเงียบ มีเลขาสองสามคนนั้งอยู่ที่เก้าอี้จัดเรียงเอกสาร “ไม่มีป้ายชื่อบนโต๊ะ ไม่มี “เห็น” ที่ที่นั่งด้านล่าง ดงซูบินหลือบมองเขาและไม่รู้จักใครเลย” จากนั้นเขาเดินห่างออกไปสองก้าว สุ่มหาที่นั่งแถวหลังและนั่งลง “รอการประชุมอย่างเงียบๆ” มีคนอายุต่ํากว่า 30 น้อยมาก “ดังนั้น ดงซูบินซึ่งอายุยี่สิบต้นๆ มีสายตาที่เฉียบคมมาก -จับใจเวลาเขาเข้ามา” โดยเฉพาะหลายคนชาเลืองมองมาที่เขาและมองดูเขา

สองสามครั้งนี่เป็นครั้งแรกที่ดงซูบินมาที่มณฑลเพื่อพบเขตอื่นๆนั้นร่วมถึงสํานักงานที่ดูรอ

เฉพาะเขตถนนด้วย และดูเหมือนจะไม่มีใครรู้จักเขา

ถัดจากดงซูบินนั่งข้างเจ้าหน้าที่อายุราวๆ 30 ปี “เป็นผู้อํานวยการเหล่ย ของสํานักงานกิจการ สังคม” หลังจากมองไปที่ ดงซูบิน ดูเหมือนชายคนนั้นกําลังคิดอะไรอยู่ในใจ เขาคิดว่าชายหนุ่ม วัยละอ่อนคนนี้เป็นผู้บริหารในเขตหนานฉางอย่างงั้นหรอ? เขาจึงพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า”คุณ?”

“ดงซูบินหันหน้าของเขา” และพูดว่า: “ผมดงซูบิน เลขาธิการสํานักงานเขตกวางหมิง” ใบหน้าของชายคนนั้นตกตะลึง“ต้องใช้เวลาสักครู่ก่อนที่เขาจะจําได้” เขารีบเอื้อมมือออกไป

“..อ๊ะ ยินดีที่ได้รู้จัก.”

“เช่นกันครับ” “ดงซูบินจับมือกับเขา

คําว่า “คุณ” ในปากของบุคคลนั้นถูกแทนที่ด้วยคําว่า “ท่าน” ทันทีท่าทีของเขาเปลี่ยนไป ดงซูบินเองคิดว่าชายคนนั้นท่าอะไรผิดหรือเปล่า มันทําให้เขาเกิดความสงสัยขึ้นและก็ได้รู้ความจริงว่า” ชายคนนั้นมีตําแหน่งเป็นรองดงซูบินอยู่มากเขาเป็นเพียงผู้อํานวยการสํานักงานประจําถนนเท่านั้น และดูเหมือนชายคนนั้นก็แปลกใจว่าเด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆคนนี้หรอที่เป็นเลขาธิการเขตกวางหมิง

ดูเหมือนชายคนนั้นจะคาดการณ์ว่าภูมิหลังของดงซูบินนั้นต้องไม่ธรรมดา เพราะถ้าขึ้นมาตามระบบปกติมันต้องใช้เวลาหลายปีมากกว่าจะถึงจุดนี้ได้ เพราะมันต้องใช้เส้นสายทางการเมือง ผลงานมากมายที่จะทําให้เขาได้รับตําแหน่งนั้นได้ ตอนแรกเขาคิดว่าเกิงโยฮวาน่าจะเป็นคนในระดับ บริหารที่อายุน้อยที่สุดในระดับเขตหนานฉางแล้ว” นายกเทศมนตรีโยฮวาดูเหมือนจะเป็นเพียงผู้บริหารและผู้อํานวยการคณะทํางานพรรคของสํานักงานเขตที่ อายุเพียง 27! ?

ยังมีเลขาธิการที่อายุเพียงยี่สิบต้นอยู่อีกหรอ?

ชั่งหน้าแปลกใจจริงๆ! .