(One Useless Rebirth) เกิดใหม่อีกครั้งอย่างไร้ [Yaoi] - ตอนที่ 36
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด เต๋อชูเหอคว้าแขนของเขาไว้แน่น ลูกกระเดือกของเขาขยับเล็กน้อย “โทรศัพท์นี่…” เขาพูดเสียงเบา
“มันเป็นของแม่ขอฉัน หลังจากที่เธอกับพ่อจากฉันไป ฉันก็ใช้มันต่อจากเธอ ข้อความประจำวันของเธอและพ่อจำนวนมากถูกเก็บไว้ในโทรศัพท์เครื่องนี้ ดังนั้นฉันจึงต้องการเรียกดูเป็นครั้งคราว” เหอไป่อธิบายไม่กี่คนและคลายแขนของเต๋อชูเหอ เพื่อปลอบโยนเขาอีกครั้ง
“ฉันแปลงภาพของข้อความของพวกเขาเป็นไฟล์ข้อความ ดังนั้นไม่ต้องกังวล แล้วมันก็เป็นความผิดของฉันจริง ๆ อ้อ! แล้วทำไมคุณมาที่นี่ได้ล่ะ”
ไฟล์ข้อความจะเหมือนกับข้อความต้นฉบับได้อย่างไร?
เต๋อชูเหอดึงมือของเขากลับมาอย่างเชื่อฟัง เขารู้สึกหดหู่ใจลึก ๆ ที่เห็นเหอไป่ พยายามปลอบโยนเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกและความคิดต่าง ๆ ที่เขาเองก็ไม่สามารถเข้าใจได้
“ฉันย้ายมาที่นี่และได้ยินเสียงของคุณ ตอนที่เดินผ่าน ฉันจึงมาหาคุณ” เขาถือโอกาสเปลี่ยนหัวเรื่องและหันไปหาบาร์บีคิวในสนาม “คุณมาทำอะไรที่นี่? เออ เพื่อของคุณ? แล้ว…พวกคุณเป็นใคร?”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยื่นดูการแสดงมาเป็นเวลานาน “…ไม่มีอะไรแล้ว พวกเราลาล่ะครับ”
“อืม…” หนิวจุนเจี๋ยและพ่อครัวที่คอยช่วยเหลือกันในน้ำ บอกกันคนอื่นถึงการปรากฏตัวของพวกเขา ‘เราจะ..ขึ้นไป และพูดอะไรได้ไหม’ ตอนนี้บรรยากาศระหว่างเหอไป่และเต๋อชูเหอแปลก ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่เต็มใจที่จะเข้าไปขัดจังหวะพวกเขา ตอนนี้พวกเขาคุยกับจบแล้ว เขาจึงรู้สึกสะดวกใจที่จะพูดออกไปได้
อีกทั้งพ่อครัวยังตัวหนักมาก และต้องพยุงเขาในน้ำ เกือบจะฆ่าแขนของเขาก็ว่าได้เลย…
เหอไป่พูดไม่ออกและพบว่าเขาหมกมุ่นกับการสนทนากับเต๋อชูเหอมากจนลืมว่ามีคนอื่นอยู่ในสนามด้วย เขารีบกระโดดลงสระ ว่ายน้ำและช่วยพวกเขาออกมา มันเป็นเสียงสัญญาณเตือนภัยเมื่อตรวจพบสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในสนาม ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยดังขึ้น
หนิวจุนเจี๋ยเรียกคนรับใช้ให้พาเต๋อชูเหอและพ่อครัวเข้าไปในบ้าน เพื่อเปลี่ยนชุด ในขณะที่เขาและเหอไป่เพิ่งเช็ดตัวด้วยผ้าขนหนู เมื่อพันผ้าขนหนูไว้รอบเอว พวกเขากลับมาทำบาร์บีคิวต่อ
“นั่นเต๋อชูเหอเหรอ?” หนิวจุนเจี๋ยถามอย่างกะทันหัน
เหอไป่เหลือบมองเขาอย่างแปลก ๆ “อืม? นายก็เพิ่งเรียกชื่อเขานี่”
หนิวจุนเจี๋ยจับมือเขา “ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันเคยดูวิดีโอและรูปถ่ายของเขา ตอนนี้ฉันเห็นเขาอยู่ตรงหน้า แต่ฉันอยากจะยืนยันให้แน่ใจ เพราะมันแตกต่างออกไปนิดหน่อยนี่…”
เสียงของเขาจางหายไป ทันใดนั้นเขาก็หันไปทางบ้านและลอบเข้าไปใกล้เหอไป่ ลดเสียงลง
“ไป่ บอกฉันมาตามตรง …กับเต๋อชูเหอ..ชอบกันเหรอ?” เมื่อคิดถึงบรรยากาศระหว่างเหอไป่และเต๋อชูเหอแล้ว คนอื่นจะขัดขวางพวกเขาไม่ได้
เหอไป่มองเขาด้วยความสงสัย “นาย เข้าใจผิดแล้ว”
หนิวจุนเจี๋ยกดไหล่ของเหอไป่ และพูดอย่างจริงจัง
“อย่าเบี่ยงประเด็น บอกความจริงมา ฉันถึงจะปล่อย”
เหอไป่จับมือของหนิวจุนเจี๋ยและพูดด้วยท่าทีจริงจังว่า “เพื่อนรัก นายควรหยุดดูละครน้ำเน่า อย่าคิดว่าใครจะเหมือนกับนล็อค”
ล็อคเหรอ? ผู้ชายตัวหนาที่เคยติดพันเหอไป่? เขาถอยศีรษะเล็กน้อยพร้อมกับตัวสั่น ความเย็นวิ่งไปตามกระดูกสันหลังของเขา แต่เขาปฏิเสธที่จะยอมแพ้ “นั่นมัน ..มันต่างออกไป ฉันกำลังถามคุณว่า เต๋อชูเหอ เป็น…”
“ไม่ เขาไม่ใช่…”
เหอไป่หันกลับมาและผลักกุ้งย่างเข้าไปในปากที่อ้าค้างของหนิวจุนเจี๋ย เขาตบบ่าหนิวจุนเจี๋ยและถามด้วยความจริงใจว่า “นายยังจะเป็นเพื่อนร่วมห้องอยู่ไหม”
หนิวจุนเจี๋ยตัวสั่นอย่างกะทันหัน เอามือหนีบปาก เขาอยากจะคายกุ้งย่างนั้นออกมา
เหอไป่พูดต่อด้วยใบหน้าที่ใจดี “เพราะงั้นอย่าสงสียรสนิยมทางเพศของเรา เต๋อชูเหอชอบผู้หญิง โดยเฉพาะคัพดี ไม่ก็สาวที่ขาเรียวสวย ตอนนี้เขาทำตัวแปลก ๆ เพราะเขารู้สึกผิดแล้วก็โทษตัวเองมากกินไปเรื่องโทรศัพท์น่ะ อย่าโง่ เข้าใจ๋?”
“สาวคัพดี? สาวขาเรียวเหรอ?” หนิวจุนเจี๋ยลืมความสงสัยของเขาทันที พร้อมกับมีดวงตาที่สดใส “ว้าว ผู้ชายคนนี้ มีสเปคเดียวกับฉันเลย ไม่แปลกที่เขาจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ในอนาคตของครอบครัวเรา รสนิยมเดียวกัน!”
“…”
“ฉันมีวีดีโอสาวขาเรียว กับสาวคัพดีเยอะเลยล่ะ แต่พวกนายมักจะปฏิเสธที่จะดูด้วยกัน ยังไงซะ เต๋อชูเหอเป็นคนอ่อนโยนถ้าฉันเชิญเขามาดูวิดีโอเขาจะ…” เสียงหัวเราะที่สกปรกของหนิวจุนเจี๋ยขัดคำพูดของเขาเอง
“…เอาล่ะ ยังไงก็ตาม”
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เต๋อชูเหอก็เห็นชายหนุ่มคนนั้นที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหอไป่ ก่อนที่จะงอแขนของเขารอบไหล่ของเหอไป่ แล้วพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน อีกทั้งเหอไป่ไม่ได้ขัดขืนเลย ปล่อยให้แขนของเขา “ล่วงล้ำ” ร่างกายของเขา เขาย่างอาหารบนเตาบาร์บีคิวอย่างระมัดระวัง พยักหน้าเป็นครั้งคราวเหมือนเสียงตอบรับ
ความรู้สึกของการปราบปรามโจมตเต๋อชูเหออีกครั้ง แต่ดูเหมือนจะแตกต่างจากความรู้สึกก่อนหน้านี้
เขาผ่อนคลายตัวเองและคลายเสื้อผ้าที่ไม่รัดรูป จากนั้นเขาก็เดินไปหาพวกเขา พร้อมกับพูดเสียงที่ดังขึ้น
“ไป่ คุณกำลังปิ้งอะไรอยู่เหรอ? กลิ่นหอมดีจัง”
เหอไป่และหนิวจุนเจี๋ยมองกลับไปเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงของเขา หนิวจุนเจี๋ยกำลังมองไปที่ขายาวของเต๋อชูเหอ สายตาเต็มไปด้วยความอิจฉา “นายสังเกตเห็นไหมว่าเขามีซิกซ์แพ็กตอนที่เสื้อผ้าเขาเปียกน้ำด้วยน่ะ? บ้าจริง! ฉันคิดว่าผู้ชายที่อ่อนโยนคนนี้จะต้องมีความอ่อนแอและบอบเบา”
เหอไปตีศอกเข้ากับเขา และตอบกลับเต๋อชูเหอ จากนั้นเขาก็บอกกับหนิวจุนเจี๋ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
: “นี่เป็นวิธีที่นายจะเข้ากับพรีเซ็นเตอร์ในอนาคตของครอบครัวนายรึไง”
“ไม่นะ!” หนิวจุนเจี๋ยทำหน้าเคร่งเครียดทันที และปล่อยมือจากไหล่เหอไป่ ยิ้มให้เต๋อชูเหอ เขายังพูดด้วยเสียงเบา ๆ กับเหอไป่ : “ก็มองเฉย ๆ มารยาททางสังคมของฉันดีเยี่ยมจะตาย” จากนั้นเขาก็เดินไปหาเต๋อชูเหอ และวางมือบนไหล่ของเต๋อชูเหอ พลางพูดเสียงดังพร้อมรอยยิ้มสดใส
“สวัสดีครับ ชูเหอ คุณหิวไหม? มาชิมอาหารของไป่สิ ฝีมือการทำอาหารของเขาสู้ลุงหูไม่ได้ก็จริง แต่ก็ไม่เลวเลยทีเดียว”
เหอไป่รู้สึกอึดอัดเกินไปที่จะมองเขา จึงหันหลังกลับไปปิ้งบาร์บีคิวต่อ การผสมผสานระหว่าบุคลิกที่น่ารำคาญของเต๋อชูเหอและพฤติกรรมแปลก ๆ ของหนิวจุนเจี๋ย นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทนดูได้
“โอ้ใช่? งั้นฉันต้องชิมสักหน่อยแล้ว” เต๋อชูเหอหยุดหลบแขนของหนิวจุนเจี๋ย ปล่อยให้หนิวจุนเจี๋ยเอาแขนของเขามาโอบไหล่ของตนเอง เต๋อชูเหอถามด้วยรอยยิ้มว่า
“แล้วคุณเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขาหรือเปล่า? ฉันเพิ่งรู้จักเขาได้ไม่นานและเขาไม่ได้พูดถึงเพื่อนของเขาเลย”
เมื่อเห็นเขาเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ หนิวจุนเจี๋ยรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น
“มากกว่านั้นอีก เราเป็นเพื่อนร่วมห้องกันน่ะ เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน! ตอนแรกฉันไม่คุ้นเคยกับชีวิตในหอพัก เขาจึงเป็นคนช่วยฉันจัดเตียงอยู่นานสองนานและซักผ้าปูที่นอนและผ้าห่มให้ฉัน เขาเป็นเพื่อนที่ดี” เขายกนิ้วขณะที่เขากำลังพูด
รอยยิ้มของเต๋อชูเหอดูแข็งกระด้าง แต่ในไม่ช้าเขาก็ปกปิดมันได้ เขาเดินตามหนิวจุนเจี๋ยและนั่งลงข้าง ๆ เตาบาร์บีคิว เมื่อมองดูร่างของเหอไป่ เขาพยายามอย่างหนักที่จะงอตัวลงและถามว่า “งั้นเขาช่วยคุณซักผ้านวมด้วยไหม สวีทกันสุด ๆ ไปแล้วใช่ไหมล่ะ?”
“ไม่ใช่แค่ผ้านวมเท่านั้นนะ ตอนที่ฉันป่วย ไป่ก็ดูแลฉันตลอด เข้าเช็ดหน้าให้ฉันด้วยซ้ำ…นั่นล่ะ หลังจากนั้นฉันก็นับว่าเขาเป็นน้องชายของฉันเลย!” หนิวจุนเจี๋ยนั่งหน้าเหอไป่พลางพูดอย่างไม่เห็นแก่ตัวว่า “เพื่อของไป่ก็เป็นเพื่อนของฉันด้วย ถือว่าที่นี่เป็นบ้านของคุณเลย ตามสบายเลยฮะ”
เหอไป่กลอกตาและกลืนเนื้อย่าง
เต๋อชูเหอสังเกตเห็นเหอไป่ ที่จิ้มเนื้อ ก็ยิ้มอย่างอันตราย เขาหันไปหาหนิวจุนเจี๋ยและขยับเข้าไปใกล้ ๆ พลางพูดเบา ๆ ว่า “ไป่เป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยม เราต่างก็ชอบเขา น่าเสียดายที่ฉันอาศัยอยู่ในหอพักเพียงช่วงเวลาสั่น ๆ เพราะอาชีพการงานของฉันน่ะแหละ…”
หลังจากพ่อครัวกลับมา เหอไป่ก็ส่งงานปิ้งบาร์บีคิวให้เขา เขานั่งข้างสองคนนั้นพร้อมกับจานเนื้อในมือ เพียงเพื่อจะพบว่าพวกเขาคุยกันเหมือนพี่น้องที่ดี
เหอไป่ “…” ฉันหายไปเอาเนื้อและเติมถ่านแปบเดียว เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?
“ใช่แล้วล่ะ! ฉันคิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่บริสุทธิ์ คนอื่น ๆ ต่างเต็มไปด้วยความหึงหวงและยากที่จะรับมือ แต่ฉันคิดผิด! ฉันชอบอารมณ์ของเขา เยี่ยมไปเลย” หนิวจุนเจี๋ยยกเบียร์ขึ้นด้วยความตื่นเต้น
เต๋อชูเหอหัวเราะและพูดคุยกับเขา ทำตัวเหมือนเป็นคนใจดีและมีน้ำใจ
“คุณปลื้มฉัน ฉันไม่ได้ตรงไปตรงมาและเป็นมีอิสระเหมือนคุณ ฉันยังคงถูกจำกัดอิสรภาพมากเกินไป”
“โอ้ คุณผู้ชาย ช่างน่ารักเสียจริง”
“ทุกคำพูดมาจากใจฉันเลยนะ”
จากนั้นพวกเขาก็กินดื่มกันต่อไป
เหอไป่ส่งสายตามองเต๋อชูเหอเพื่อเตือนให้เขาหยุดกระตุกเพื่อนร่วมห้องผู้ไร้เดียวสาของเขาเสียที