(One Useless Rebirth) เกิดใหม่อีกครั้งอย่างไร้ [Yaoi] - ตอนที่ 32
ขาวและขาว : ทำไมคุณเงียบไปล่ะ? โกรธรึเปล่า?
ขาวและขาว : ผมขอโทษนะที่ทำเกินไป ผมไม่ควรไปตามหาคุณที่ Red Guest เลย
หลังจากได้รับอีกสองข้อความเต๋อชูเหอก็สงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว และดูข้อความทั้งหมดของเหอไป่ ส่งมาอยางจริงจังราวกับว่า เขากำลังอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในที่สุดเขาก็ได้รับข้อสรุปว่าเหอไป่ไปหาเขาที่ Red Guest ที่เป็น “ผู้ซื้อ” ในมุมมองของเขา!
Red Guest, ลูกพี่ลูกน้อง… เจียงซิ่วเหวิน! ทำไมเหอไป่ถึงคิดว่าเจียงซิ่วเหวินน่าเชื่อถือกว่าเขาล่ะ!
เต๋อชูเหอคิ้วขมวด เขาพิมพ์ด้วยความโกรธและดวงตาของเขาก็กวาดไปมองยังกระจกตรงหน้า ก่อนที่จะส่งข้อความไป เมื่อเห็นร่างที่ผมลงมากของตนเอง เต๋อชูเหอหยุดชั่วขณะและลบข้อความที่แก้ไขแล้ว อย่างรวดเร็ว ถูกหน้าผากของเขาและนิ่งเงียบไปสองสามวินาที เขาปรับโหมดอารมณ์และพิมพ์ช้า ๆ
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : มันเป็นไรหรอก ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงฉัน ^-^
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : ทำตัวตามสบายเถอะ ถ้าคุณรู้สึกลำบากใจที่จะรับของขวัญของฉัน เรามาแลกเปลี่ยนของขวัญกันนะ
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : แปบหนึ่งนะ ฉันมีเรื่องด่วนน่ะ
ขณะที่หยุดคุยกับเหอไป่ เต๋อชูเหอกดหมายเลขโทรศัพท์ของเจียงซิ่วเหวิน แล้วโทรออก พร้อมกับถามออกไปทันทีที่ปลายสายกดรับ “นายพูดอะไรกับเหอไป่”
เจียงซิ่วหวิน : “…อืม”
เต๋อชูเหอ : “?”
สิบนาทีต่อมาเต๋อชูเหอได้รับคำดุด่าจากเจียงซิ่วเหวิน วางโทรศัพท์มือถือลงอยางไม่แยแส และมองไปที่ท้องฟ้าที่มืดมิดด้านนอก มันน่าตื่นเต้นมากที่ชีวิตมีขึ้น ๆ ลง ๆ เมื่อการปฏิบัติทางสังคมลดลงในแต่ละวัน ผู้คนที่ใจดีและมีอารยธรรมอย่างเหอไป่ก็หายากมากขึ้น
เต๋อชูเหอถอนหายใจยาว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งและโทรไปหาคนขายผลไม้ บอกให้เขาเตรียมผลไม้อีกหนึ่งกล่องและส่งไปที่สตูดิโอ Red Guest ในเมือง B หลังจากนั้นเขาก็ปิดโทรศัพท์มือถืออย่างไม่เต็มใจและทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างไม่ใส่ใจ จากความจริงที่ว่า สิ่งที่เขาปิดบังไว้มีแนวโน้มที่จะถูกเปิดเผย เต๋อชูเหอพบว่าเขาไม่สามารถติดต่อเหอไป่ได้อย่าที่ต้องการ…ทำได้ก็ต่อเมื่อถึงเวลาเท่านั้น
เหอไปรออยู่นาน แต่ไม่ได้รับข้อความใด ๆ เช่น “ฉันกลับมาแล้ว” จากผู้ซื้อ
ผลไม้กล่องใหญ่กว่าเดิมถูกจัดส่งด่วนในบ่ายวันถัดไป ปากของเหอไป่กระตุกเล็กน้อยเมื่อเขามองไปที่กล่องใบนั้น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาเต๋อชูเจอ
“ขออภัยหมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้”
“…”
ดังนั้นเมื่อเขาเข้าไปพูดคุยเรื่องการทำงานที่ยี่เค่อ พนักงานทุกคนต่างก็ตากตะลงกับผลไม้ “สินบน” ที่ช่างภาพหนุ่มพยายามใช้กับพวกเขา
“คุณใจดีจัง” หลินเซี่ยที่ไม่รู้จะตอบสนองอย่างไรกล่าวขึ้น เธอไม่เคยเห็นใครที่ให้ผลไม้กับพาร์ทเนอร์ในการพบกันครั้งแรกมาก่อน
“เพื่อนของผมส่งผลไม้มาให้ผมมากมาย แต่ผมทานเองไม่หมด คุณช่วยรับไปบางส่วนได้ไหมครับ” เหอไป่ดูเขินอายและยกมือขึ้นด้วยท่าทางขอร้อง
“ผมรู้ว่าคนที่ทำงานในวงการแฟชั่นให้ความสำคัญกับอาหารของตนเองมาก คำขอร้องของผมอาจทำให้คุณรู้สึกอึดอัด แต่น่าเสียดายที่จะปล่อยให้ผลไม้สด ๆ เสียเปล่าดังนั้น…ขอโทษด้วยใจจริงที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อนครับ”
เหอไป่ให้เหตุผลสำหรับการนำผลไม้มาแบ่งปัน เป็นที่ประทับใจต่อคนในห้องประชุม ดูเป็นมิตรกับเด็กหนุ่มที่น่ารักมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อเห็นว่าลูกน้องที่ “ผู้คลั่งไคล้งานศิลปะ”ของเธอ จับจ้องไปที่ถุงผลไม้ ด้วยความประหลาดใจหลินเซี่ยก็ขมวดคิ้ว เธอเหลือบมองเหอไป ยิ้มตบโต๊ะแล้วพูดว่า “พักเบรกก่อนล่ะกัน ฉันเกรงว่าทุกคนคงจะหิวกันมากแล้ว พักสักชั่วโมงเถอะ”
ทุกคนต่างตกละลึงและส่งเสียงเชียร์ ขอบคุณเหอไป่ พวกเขาอาจใช้เวลาพักอีกครึ่งชั่วโมง
ด้วยความกระตือรือร้นของพวกเขา เหอไป่จึงถูกรวมเข้ากับทีมหลังจากสนทนาเพียงเล็กน้อย
หลินเซี่ยมอง รอยยิ้มที่รักใคร่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ขณะที่ความคิดมากมายเข้ามาครอบงำจิตใจของเธอ ไม่แปลกใจที่ คุณเค่อพูดถึงเหอไป่ ในขณะที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มที่มีทักษะในการดึงดูดคนอื่นเข้ามาด้วยวิธีการที่เป็นธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพเป็นพิเศษซึ่งทำให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างน่าทึ่งมากกวาคนในสังคมทั่วไป
เนื่องจากเขาเป็นช่างภาพมืออาชีพจริง ๆ คนที่มีความสามารถและน่ารักเช่นนี้จะเป็นที่ต้องการอย่างมากในอนาคต
การรับประทานอาหารของพวกเขาใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการพุดคุยสนทนาและทำงานที่เหลืออย่างมีประสิทธิภาพในบรรยากาศแห่งความสามัคคีและความอบอุ่น
“นั่นคือทั้งหมด ก่อนลงนามในสัญญา คุณต้องถ่ายภาพตัวอย่างชุดหนึ่ง เพื่อประเมิน ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจนะคะคุณเหอ” หลินเซี่ยวางเงื่อนไขสุดท้ายของบริษัทของเธอ
เหอไป่ปิดสัญญาและพยักหน้าเห็นด้วย “ตัวเลขนั่นที่คุณเสนอให้ถือว่าดีมาก ดผมจะมอบผลงานที่น่าเชื่อถืออย่างเต็มที่เป็นการตอบแทน ขอบคุณมากครับที่มอบโอกาสนี้ให้กับผมคุณหลิน ขอถามได้ไหมครับว่าจะถ่ายภาพตัวอย่างเมื่อไหร่”
หลินเซี่ยมองดูเวลา แล้วก็ยิ้มกว้าง “ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะให้คุณเริ่มตอนนี้เลย”
“ตอนนี้เหรอครับ?” เหอไป่ประหลาดใจกับคำพูดของเธอ เพราะใกล้จะสี่โมงเย็นแล้ว
“ใช่แล้ว ตอนนี้ค่ะ” หลินเซี่ยลุกขึ้นยืนและแสดงท่าทางไปที่ประตู “สตูดิโอพร้อมแล้ว นางแบบและเสื้อผ้าก็พร้อมแล้ว ตามฉันมาค่ะ”
ดูเหมือนพวกเขาเตรียมตัวกันเป็นอย่างดี
เหอไป่หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ เขายืนขึ้นด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติแล้วหยิบกระเป๋ากล้องขึ้นมา
อาจารย์ซวีเคยบอกเขาว่า ความต้องการทักษะการถ่ายภาพนั้นแตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับมุมมองของคุณ เมื่อคุณโฟกัสไปที่นางแบบ คุณจะใช้เทคนิคไหนก็ได้ที่ต้องการ ขอเพียงแค่ถ่ายออกมาให้ดี อย่างไงซะ ทักษะส่วนใหญ่ทักษะจะเป็นค่อนข้างซับซ้อน เมื่อต้องโฟกัสอยู่ที่ชุดของพวกเขาและเป้าหมายของคุณก็ไม่มีอะไรมาก ไปกว่าการช่วยดึงความงามของเสื้อผ้าออกมา
ในฐานะที่เป็น บริษัทเสื้อผ้ายักษ์ใหญ่ อย่างยี่เค่อ มีแบรนด์ย่อยมากมาย รวมถึงสินค้าฟุ่มเฟือนที่ออกแบบสำหรับกลุ่มที่มีรายได้สูงและแบรนด์ระดับกลางที่มุ่งเป้าไปที่ครอบครัวที่มีฐานะดี นางเงือกน้อยที่เขาจะถ่ายทำในวันนี้เป็นความพยายามครั้งใหม่ของยี่เค่อ ซึ่งเป็นแบรนด์หรูราคาเบา ที่มุ่งเน้นไปที่เด็กสาววัยรุ่นในครอบครัวที่มีการบริโภคสูง
มีช่างภาพจำนวนมากที่สามารถถ่ายภาพแบรนด์หรูได้ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สอดคล้องกับสไตล์แบรนด์ของยี่เค่อ เหอไป่ตระหนักดีว่าสิ่งที่ยี่เค่อต้องการคือ “สไตล์” ของเขามากกว่าทักษะ ดังนั้นงานของเขาในวันนี้คือการสร้างรูปถ่ายในสไตล์ที่เคยถ่ายให้หยางฟู่ ในการถ่ายรูปเสื้อผ้าวันนี้
“ตลาดเป้าหมายของนางเงือกน้อยคือเด็กผู้หญิงที่มาอายุระหว่าง 12 -18 ปี ดังนั้นสไตล์จึงมีความแฟนตาซีและไร้เดียงสา ตอนนี้แบรนด์ยังออกสูงตลาด ดังนั้นรูปของคุณจะเป็นที่นิยมอันดับแรง” หลินเซี่ยอธิบายให้เขาฟังและส่งเอกสารให้ “วันนี้คุณจะไปถ่ายทำซีรีส์เจ้าหญิง ซึ่งเป็นชุดหลักของเรา ต่อไปนี้เป็นภาพร่างรวมถึงซีรีส์ต้นฉบับ ฉบับปรับปรุง และเวอร์ชั่นสุดท้าย นอกจากนี้รายละเอียดผ้าลักษณะการตกแต่งและองค์ประกอบ การออกแบบยังรามอยู่ในนี้… คุณมีเวลา 15 นาที ในการทำความรู้จักกับสิ่งเหล่านี้และสตูดิโอแห่งนี้ การถ่ายทำจะเริ่มตรงเวลา มาเลย ฉันหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับคุณ”
เหอไป่หยิบเอกสารที่แสดงถึงความไว้วางใจและความคาดหวัง ทำให้หลินเซี่ยยิ้มอย่างมั่นใจ “ขอบคุณครับ ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อมอบภาพถ่ายที่ถูกใจพวกคุณทุกคน”
รอยยิ้มกระจายไปทั่วใบหน้าของหลินเซี่ย ที่มีให้เหอไป่ เหอไป่ตบไหล่เธอก่อนจะออกจากสตูดิโอ เพื่อหาที่เงียบ ๆ ในการทำงาน
เอกสารมีความหนาและเนื้อหาซับซ้อน ซึ่งเหอไป่ค่อนข้างไม่คุ้นเคยสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ในชาติที่แล้วเป็นหลัก เขาพบว่ามันกระตุ้นความกระตือรือร้นของเขา ไม่ใช่แค่ความท้าทายที่น่าตื่นเต้น แต่เป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับการพัฒนาของเขา
เมื่อหลินเซี่ยโทรหาเขาในวันก่อน เธอถามเพียงว่าเขาต้องการถ่ายภาพเสื้อผ้าให้กับแบรนด์ผู้หญิงที่เพิ่งเปิดตัวหรือไม่ โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดของแบรนด์ว่าอยู่ในระดับใด ซึ่งหมายความว่าภาพถ่ายของเขามีแนวโน้มที่จะถูกจัดโชว์ในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ซึ่งเข้าถึงได้หลายกลุ่มที่มีการบริโภคสูงและเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาของเขา เนื่องจากรูปถ่ายของเขาถูกนำมาใช้โดยแบรนด์ นอกจากนี้หากเขาครอบครองตำแหน่งช่างภาพเครื่องแต่งกายของนางเงือกน้อยนี่ได้ เขาก็จะเข้าสู่แวดวงแฟชั่นการถ่ายภาพและออกจากการเป็นช่างภาพฝึกหัดมาเป็นช่างภาพตัวจริงเสียที.