Omni Genius – อัจฉริยะสุดขั้ว - ตอนที่ 387
ตอนที่ 387 ทดสอบความสามารถ
เมื่อฉินฟางกลับมาถึงมหาลัย หลังจากจัดการเรื่องราวของน้าสาวของมู่ฉิงซีเสร็จ เขาก็ไม่มีอะไรทำ จริงๆจะว่าไม่มีอะไรทำก็คงไม่ถูกนัก มันมีมากมายนั่นแหละ แต่ว่าเขาได้เลือกจะปิดมือถือ และปิดการรับรู้ของตัวเองทุกอย่างในวันนั้น… เพราะว่าหลังจากเสร็จเรื่องราวนี้ เขารู้สึกเพลียมากๆ และอยากจะกลับไปใช้ชีวิตอย่างเด็กวัยรุ่นนักศึกษาธรรมดาปกติ และอยู่กับตัวเองสักหนึ่งวัน เขาจึงเลือกที่จะทำแบบนี้
ตลอดเวลาทั้งวันนั้น ฉินฟางไปในทุกๆที่ที่เขาอยากจะไป ทำในทุกๆสิ่งที่เขาต้องการอยากจะทำ ในฐานะนักศึกษาธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งมันทำให้สมองของเขาปลอดโปร่งขึ้น และเขารู้สึกว่าทั้งร่างกายและจิตใจของเขาได้รับการพักผ่อนและเยียวยาที่ดีมากๆ
เช้าวันต่อมา หลังจากการพักผ่อน ….
ฉินฟางตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมด้วยอารมณ์ที่สดใสมากๆ เขาจัดการทำธุระส่วนตัวในยามเช้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยิบกระเป๋าและมุ่งหน้าไปยังห้องสมุดทันที …
เป้าหมายของเขาในวันนี้ที่เลือกมาห้องสมุด เพราะว่าเขาเบื่อเต็มทนกับการเรียนเนื้อหาในชั้นเรียนที่เขาอ่านจนจำเข้าสมองไปทุกตัวอักษรแล้ว ฉะนั้นวันนี้เขาจึงได้มาที่ห้องสมุดก็เพื่อจะหาอ่าน และยืมหนังสือของปีหน้าทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้เขาสามารถทบทวนบทเรียน และอ่านทุกตัวอักษรได้ไปในตัวโดยไม่ต้องเข้าเรียน ซึ่งที่ฉินฟางสามารถทำแบบนี้ได้ก็เพราะมหาลัยของเขานั้นไม่ได้กำหนดให้เขาต้องเข้าเรียน เขาเพียงแค่ต้องสอบให้ผ่านเมื่อวันสอบมาถึงเท่านั้น
ห้องสมุดของมหาลัยนั้นอยู่ไม่ไกลจากหอพักชายมากนัก ฉินฟางเพียงแค่ต้องเดินตัดบริเวณสนามกรีฑาซ้อมวิ่งมาราวสิบนาทีก็ถึง
ฉินฟางเดินเข้าไปถึงห้องสมุดก่อนจะกล่าวทักทายบรรณารักษ์อย่างสุภาพ และติดต่อขอข้อมูลรายชื่อหนังสือที่เขาต้องการทันที โดยฉินฟางได้ลิสรายชื่อหนังสือทั้งหมดมาแล้ว เขาได้จัดการยื่นรายชื่อหนังสือทั้งหมดให้บรรณารักษ์อย่างรวดเร็ว
บรรณารักษ์นั้นตาโตเป็นไข่ห่านทันที เมื่อเห็นหนังสือที่ฉินฟางต้องการทั้งหมด ซึ่งเท่าที่ดูมันมีอยู่ทั้งหมด สิบเอ็ดเล่ม และสี่ในสิบเอ็ดเล่มนั้นเป็นหนังสือที่มีความหนามากกว่าห้าร้อยหน้า ซึ่งเป็นเนื้อหาของปีหน้าทั้งหมด บรรณารักษ์ไม่เข้าใจอย่างมากว่านักศึกษาตรงหน้าของเขานี้จะต้องการหนังสือทั้งหมดนี้ไปทำอะไรกัน ถ้ามายืมแค่เล่มหรือสองเล่มเขาก็พอจะเข้าใจว่าเอาไปศึกษาไว้เผื่อปีหน้า แต่นี่สิบเอ็ดเล่มและเป็นเนื้อหาของปีหน้าทั้งหมด คนๆนี้จะเอามันไปทำไมกัน
“นักศึกษา … ทำไมถึงจะยืมไปทีเดียวล่ะ ไม่ค่อยๆยืมไปทีละเล่มงั้นหรอ ?….” บรรณารักษ์ถามด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก “ถ้าเธอยืมไปทีเดียวแบบนี้กว่าจะอ่านทั้งหมดจบ มันต้องใช้เวลานานมากนะ เผื่อรุ่นพี่ รุ่นน้อง หรือแม้กระทั่งเพื่อนๆเธอที่เขาต้องการจะอ่านบ้างจะไม่ได้ใช้เอา …”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ …” ฉินฟางตอบอย่างสุภาพด้วยรอยยิ้ม “ผมขอเวลาแค่สามวันเท่านั้น … เดี๋ยวผมนำมันมาคืน …”
“เธอกำลังจะบอกว่า เธอจะอ่านพวกมันทั้งหมดในสามวันงั้นหรอ ?….” บรรณารักษ์เริ่มสงสัย
ฉินฟางไม่ได้เอ่ยปากพูด เขาเพียงแต่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มเท่านั้น
“ …………” เมื่อเห็นท่าทีของฉินฟางนั้น บรรณารักษ์ถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วครู่
“ถ้า …. เธอ …. ว่างั้นจริงๆ ฉันขอทดสอบความสามารถของเธอหน่อยได้ไหม ?” บรรณารักษ์พูดอย่างตะกุกตะกัก “คือฉันไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้เธอยืม แต่พอดีฉันต้องระวังไว้น่ะ ช่วงนี้มันมีนักศึกษาบางคนที่มายืมหนังสือเยอะๆ พวกเล่มแพงๆ แล้วก็ลาออกจากมหาลัยไปเลย พอเราไปตามหาทีหลังก็พบว่า นักศึกษากลุ่มนั้นได้เอาหนังสือของเราไปขายที่ร้านหนังสือมือสอง และเอาเงินชิ่งหนีไปน่ะ”
“อืมมม ผมเข้าใจแล้ว คุณอยากจะทดสอบผมยังไงละ …?” ฉินฟางเอ่ยปากถาม
“ก็แค่ เธอเลือกหนังสือมาเล่มนึง … ฉันจะให้เวลาเธออ่านทั้งหมดสามชั่วโมง หลังจากนั้นฉันจะขอทดสอบความสามารถของเธอหน่อย ส่วนจะทดสอบยังไง เธอจะรู้หลังจากที่เธออ่านหนังสือเล่มที่เธอเลือกเสร็จไปแล้ว …”