God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 992
ตอนที่ 992
เหยาฮุยเฉินรู้สึกว่าเหวินเทียนจีนั้นถ่อมตนเกินไป ทั้งยังเผยใบหน้ายิ้มแย้มอยู่โดยตลอด
“ก็ถือเป็นคำอธิบายที่ดี” เหยาฮุยเฉินทำได้เพียงพยักหน้าตอบรับ
เหวินเทียนจีหันมองทางหยวนก่วยที่นั่งอยู่ด้านข้างและจึงเผยยิ้ม “ขอแสดงความยินดีต่อเถ้าแก่หยวนที่ค้นหาศิษย์พบแล้ว”
เถ้าแก่หยวนกลายเป็นคำเรียกหาใหม่ต่อหยวนก่วยโดยเหล่าลูกค้า ซึ่งก็เหมือนดังที่ลูกค้าทั้งหลายพร้อมใจกันเรียกลั่วฉวนว่าเถ้าแก่
“ขอบคุณ” หยวนก่วยพยักหน้ารับ
คนทั้งสามพูดคุยกันเสียงเบา ดังนั้นจึงไม่ได้กระทบอะไรต่อลูกค้าคนอื่นในหมู่บ้านซากุระแห่งนี้
เพราะป้าย “งดใช้เสียง” ประดับเอาไว้เด่นชัด ผู้ใดเข้ามาซื้อกาแฟดื่มที่นี่จึงต้องพยายามเบาเสียงเข้าไว้
เสียงเปียโนภายใต้ต้นซากุระยังคงดำเนิน บทเพลงและกลิ่นหอมของดอกซากุระกลายเป็นสิ่งชำระล้างจิตใจให้แก่เหล่าลูกค้า ราวกับได้ชักนำเอาตนกลับคืนความเยาว์วัยก็ไม่ปาน
ซึ่งนี่ก็คือบทเพลงคำโกหกเดือนสี่
ณ พระราชวังหลวง
จี้อู๋ฮุยมีงานอดิเรกยามเช้าอันเรียบง่าย
นั่นก็คือการดื่มชา
ไอน้ำที่ร้อนได้ที่ปรากฏจากแก้ว ลอยขึ้น และเลือนหายไป
ทั้งห้องมีแต่กลิ่นชาหอมกรุ่นแผ่กระจาย
“องค์เหนือหัว เพราะการประชุมเมื่อวานตอนเช้า ข้าราชบริพารทั้งหลายยังคงต่อว่าถึงเรื่องนี้” ปู้คังเฉียงเผยยิ้มกล่าวคำออก
ขุนนางใต้ในชุดเครื่องแบบสีแดงเข้มนั่งอยู่เก้าอี้ด้านข้าง
“ไม่เห็นต้องใส่ใจ” จี้อู๋ฮุยเผยยิ้มก่อนจะโบกมือตอบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทิ้งงานเสียหน่อย
ทั้งสองกำลังหารือต่อกันถึงเรื่องจักรวรรดิเทียนชิง
วันนี้การพัฒนาจักรวรรดิเทียนชิงเป็นไปด้วยอัตราก้าวหน้าสูงล้ำ ดังนั้นมันจำเป็นต้องมีแผนการที่ดีรองรับ
“องค์เหนือหัว ข้ารู้สึกว่ามีเรื่องต้องบอกกล่าว” เหล่าไปที่อยู่ไม่ไกลตอนนี้ลุกขึ้นและก้าวเดินเข้ามา
จี้อู๋ฮุยและปู้คังเฉียงจึงมองด้วยความสงสัยตอบกลับมา
เหล่าไป่หันมองทางปู้คังเฉียง “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับปู้หลี่เกื๋อ”
……
รับชมข้อมูลบนโทรศัพท์วิเศษ สีหน้าปู้คังเฉียงต้องกลายเป็นเคร่งเครียด
“ปู้หลี่เกื๋อได้ผู้อาวุโสหยวนก่วยรับตัวเป็นศิษย์งั้นหรือ?” จี้อู๋ฮุยถึงกับชะงักไปยามได้ทราบ ภาพร่างปู้หลี่เกื๋อเริ่มปรากฏในใจเขาก่อนจะเผยยิ้มบางและส่ายศีรษะ “ขุนนางใต้ ปู้หลี่เกื๋อกลายเป็นยอดเยี่ยมขึ้นมาเสียแล้ว”
ปู้คังเฉียงเผยสีหน้ายิ้มแย้มตอบรับ “องค์เหนือหัวชมเกินไปแล้ว”
ด้วยตัวตนเทพแห่งอาหารของหยวนก่วย ปู้คังเฉียงทราบดี
อีกทั้งการฝึกฝนโดนหลักก็ยังเป็นเพื่อความแข็งแกร่ง คิดก้าวเดินบนหนทางแห่งอาหารไม่มีใดผิด
ตอนนี้เขาจึงเริ่มคิดอ่านในใจ ว่าเมื่อกลับบ้านไปแล้วควรต้องเตรียมการอะไรบ้าง
…..
ข่าวคราวเรื่องหยวนก่วยรับตัวปู้หลี่เกื๋อเป็นศิษย์นั้นแพร่กระจายในนครจิ่วเหยาในช่วงเช้า
แน่นอนว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับทางราชวงศ์ด้วย
และภาคีเงาแสวงมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะพวกเขากำลังหาทางร่วมมือกับทางราชวงศ์
ขณะมองพระราชวังหลวงที่อยู่ด้านหลัง หลินฟานอดไม่ได้ที่จะนึกว่าราวกับฝันไป
เมื่อครู่จักรพรรดิเทียนชิงได้หารือกับเขาถึงเรื่องภาคีเงาแสวงภายในนครจิ่วเหยา
เมื่อหลายเดือนก่อน เขายังไม่เคยคิดว่าจะก้าวจนมาถึงจุดนี้
“อิทธิพลของการข่าวนี้เหมือนดังฝันไปจริง”
หลินฟานหัวเราะเบาะกับตนเองขณะเดินไป
…..
เวลาทำการช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หากเทียบกับเมื่อวาน จำนวนไวน์หยกที่ขายได้แทบไม่ต่างกัน
สาเหตุหลักก็เพราะลูกค้าทั้งหลายที่มีกำลังซื้อมากพอจะซื้อไวน์หยกนั้นไม่ใช่แห่กันมาซื้อตั้งแต่เมื่อวาน
ในช่วงระยะเวลาอันสั้น จำนวนขายย่อมลดลงทีละน้อย จนสุดท้ายจะกลายเป็นคงที่
ทว่าลั่วฉวนก็ไม่ใส่ใจเรื่องนี้แต่อย่างใด
ช่วงพักกลางวัน ก็ต้องพูดถึงมื้อเที่ยง
เหยาซือหยานบอกลั่วฉวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเช้า เพราะเขาหลับยาวจนถึงเวลาพักเที่ยง
“หือ แจ้งเตือนคำขอเป็นเพื่อน?” หน้าจอโทรศัพท์วิเศษปรากฏแสงสว่างขึ้นพร้อมข้อความ
เขาจึงหยิบมันขึ้นมาดู
ข้อความแจ้งเตือนประจักษ์แก่สายตา
“โนริเอลต้องการเป็นเพื่อนกับท่าน”
โนริเอล?
รูปนั้นเป็นเด็กสาวดวงตาและเส้นผมสีดำ
ลั่วฉวนครุ่นคิดและนึกย้อน สุดท้ายจึงได้ทราบว่าไม่มีตัวตนเช่นนี้อยู่ในความทรงจำ
คงเป็นใครสักคนที่เขาไม่รู้จัก
ไม่ทราบเลยว่าทำไมจึงขอเป็นเพื่อนเข้ามา
“เถ้าแก่มีเรื่องอะไรหรือ?” เหยาซือหยานพบเห็นท่าทีลั่วฉวนแปลกไป
“มีลูกค้าส่งคำขอเป็นเพื่อนผ่านทางแอพแชท” ลั่วฉวนตอบกลับไป
“เช่นนั้นก็รับ บางทีอาจมีเรื่องอยากสอบถามก็เป็นได้” เหยาซือหยานไม่คิดอะไรมากความ
ลั่วฉวนพยักหน้ารับก่อนจะมองรูปภาพอีกฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง
ก็ยังพบว่าไม่คุ้นเคยแม้แต่น้อย
แต่ในเมื่อมีโทรศัพท์วิเศษ เช่นนั้นก็คงเป็นลูกค้าของที่ร้าน
แต่นัยน์ตานั้นดูคุ้นเคย ทว่าเขานึกไม่ออกว่าเคยพบเจอที่ไหน
ช่างมัน ค่อยถามหลังตอบรับก็ได้
ลั่วฉวนจึงกดตอบรับ
“เป็นยังไงบ้าง ตอบรับหรือยัง?” เด็กสาวผมบลอนด์จับจ้องหน้าจอโทรศัพท์วิเศษ
“เพิ่งส่งไปเมื่อครู่จะเร็วเพียงนั้นได้ยังไง” โนริเอลถอนหายใจอย่างอับจน จากนั้นจึงถอยไปเล็กน้อยเพื่อเว้นระยะห่างกับเด็กสาวผมบลอนด์
เพิ่งบอกวิธีใช้งานโทรศัพท์วิเศษให้เอวานน่าเมื่อครู่ เผลอไปพริบตาเดียวนางก็กดส่งคำขอเป็นเพื่อนออกไปแล้ว
“ลั่วฉวนตอบรับท่านเป็นเพื่อน”
ข้อความแจ้งปรากฏบนหน้าจอ
“เรียบร้อย!” เอวานน่าที่สนใจรับชมหน้าจอโดยตลอดอุทานออก
พร้อมกับข้อความแจ้งเตือนว่าสำเร็จ มันก็ปรากฏว่ามีข้อความส่งเข้ามาใหม่
“มีเรื่องอะไรหรือ?”
โนริเอลคิดไปครู่ คิ้วสีดำนั้นขมวดเล็กน้อย
ไม่รู้จักทั้งชื่อและภาพ ไม่แปลกหากจะถาม
“เถ้าแก่กำลังถามเจ้าอยู่นะ” เอวานน่าย้ำเตือน
“ข้าทราบ” โนริเอลพยักหน้ารับและคิดอยู่ว่าควรตอบยังไงดี
ลั่วฉวนรอคอยอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าก็ยังไม่ได้คำตอบ
เขาจึงทานมื้อเที่ยงต่อ
“เถ้าแก่ ลูกค้าคนนั้นถามว่าอะไรหรือ?” เหยาซือหยานเกิดสงสัย
“ยังไม่ตอบอะไร” ลั่วฉวนตอบกลับ
หน้าจอโทรศัพท์วิเศษสว่างปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“ตอบค่อนข้างช้า”
ขณะสรุปกับตนเองในใจ เขาก็หยิบโทรศัพท์วิเศษขึ้นมา
“เถ้าแก่ ไม่พบกันนาน”
ไม่พบกันนาน?
ลั่วฉวนฉงนใจ
เหมือนว่าจะไม่มีลูกค้าที่รูปลักษณ์คุ้นเคยเช่นนี้มาก่อน นึกย้อนแล้วก็ไม่มี
หรือจะเพราะเขาลืมจนสนิท?
ลั่วฉวนไม่เร่งรีบที่จะตอบกลับ
พิจารณาจากคำกล่าว ถัดจากนี้น่าจะบ่งบอกตัวตน
และก็ไม่เหนือจากที่ลั่วฉวนคาดเดา
ไม่ช้าข้อมูลจึงเผยออกมาให้ทราบ
“นับจากวันนั้นที่เกาะก็ผ่านไปนานระดับหนึ่งแล้ว ข้านึกถึงวันคืนเหล่านั้น ไม่ทราบว่าจะได้พบเถ้าแก่อีกเมื่อไหร่”
พบเห็นโนริเอลส่งข้อความแนะนำตัวออกไป เอวานน่าจึงพยักหน้ารับด้วยความพอใจ
นางชื่นชอบวัฒนธรรมมนุษย์ของทวีปเทียนหลัน หนังสือที่อยู่ในห้องนางเป็นตัวอย่างที่ดี
แน่นอนว่ายังมีอีกมาก
เกาะงั้นหรือ?
ครั้งไปยังโพ้นทะเล นอกจากชาวไซเรนที่นครไซเรน ก็มีเพียงอสูรกายปลาหมึกที่เป็นลูกค้าของร้านต้นตำรับ
แต่ชื่อโนริเอลนี้ รวมเข้ากับภาพลักษณ์เด็กสาวงดงามดวงตาและเส้นผมสีดำ…
ลั่วฉวนถึงกับเหม่อไปครู่