God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 655-656
ตอนที่ 655 : รบกวนข้อมูล
หลังจากที่ฉู่หยางได้ยินคำถามของลั่วฉวน เขาจึงชะงักไปครู่ก่อนจะตอบ “ดาบเก้าทัณฑ์พิบัติ”
เหมือนว่าที่คาดเดาจะไม่ผิดแล้ว
ลั่วฉวนมองออกไปภายนอกร้านเพื่อยืนยันว่าฉู่หยางมาด้วยตนเอง
“เถ้าแก่มีอะไรหรือ?” ฉู่หยางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม เพราะจากท่าทีของเถ้าแก่เขาพบเห็นว่าผิดปกติ
“มีพี่น้องอีกเก้าคนใช่หรือไม่?” ลั่วฉวนเอ่ยถาม
“หือ?” ฉู่หยางเกิดสับสนไม่ทราบว่าเหตุใดลั่วฉวนเอ่ยคำถามนี้ออกมา
ท่าทีตอบสนองของฉู่หยางก็มากพอจะเป็นคำตอบของคำถามแล้ว
เหมือนว่าจะไม่ใช่
ลั่วฉวนนึกเสียดาย
เขามาถึงตรงหน้าโต๊ะรับเงินก่อนจะนั่งลง
ที่อีกฝั่งหนึ่ง ฉู่หยางเดินตามเฉินหยิงเฟิงไปรับชมสินค้าทั้งหลายภายในร้านแล้ว
เหยาซือหยานมองลั่วฉวนด้วยความสงสัย
นางรู้สึกว่าเถ้าแก่วันนี้แปลกออกไป
“ระบบ นี่เรื่องอะไรกัน?” ลั่วฉวนเรียกในใจขณะนอนบนเก้าอี้ยาว
แม้ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง ลั่วฉวนก็ยังรู้สึกว่ามันผิดปกติ!
“เจ้าของร้านสามารถเข้าใจว่าเป็นความผิดเพี้ยนทางข้อมูลภายใต้ความว่างเปล่าก็ได้” ระบบตอบกลับมา
“ความผิดเพี้ยนทางข้อมูล?”
ลั่วฉวนไม่เข้าใจคำอธิบายนี้
ระบบจึงเริ่มอธิบายเพิ่มเติม
ตัวลั่วฉวนต้องใช้ความพยายามไม่น้อยกว่าจะเข้าใจโดยคร่าว
ก่อนอื่นก็เป็นเรื่องแนวคิดของความว่างเปล่าและอวกาศ
ความว่างเปล่าคือสิ่งดั้งเดิม ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้
ทุกสิ่งอย่างกำเนิดจากความว่างเปล่า และความว่างเปล่าอยู่เหนือสรรพสิ่ง ภายใต้ความวิ่งเปล่าคือตัวตนคงอยู่อย่างมีเหตุและผล
ในความว่างเปล่าไม่มีแนวคิดเรื่องระยะทาง ทั้งหมดทั้งมวลที่มนุษย์ทำความเข้าใจนั้นไม่มีอยู่จริง
ความว่างเปล่าก็คือ “ไม่มีอะไร” โดยสมบูรณ์ เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
จักรวาลถือกำเนิดในความว่างเปล่า ราวกับเศษผลึกแก้วที่ล่องลอยแยกตัวออกจากความว่างเปล่า
ข้อมูลในหนึ่งจักรวาลจะข้องเกี่ยวกับจักรวาลอื่นและเกี่ยวพันกันเป็นห่วงโซ่สะท้อนและแปรเปลี่ยนซึ่งกันและกันไปมา
ยกตัวอย่างวรรณกรรมที่มีให้อ่าน มันอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในโลกอื่นทว่าเป็นเรื่องแต่งในโลกนี้ หลังเกิดความเชื่อมโยงทางข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกันจึงเกิดขึ้นเป็นวรรณกรรม…
“หรือก็คือ นี่เป็นสถานการณ์ที่เกิดจากผลกระทบของข้อมูลงั้นหรือ? เรื่องราวเช่นนี้ก็มีด้วย?”
“…ถูกต้อง” ระบบรับคำ
บทสนทนากับระบบจึงจบลงที่เท่านี้
ลั่วฉวนกำลังย่อยข้อมูลที่ระบบบอกให้ทราบอยู่ภายในใจ
แม้ข้อมูลเกิดความผันแปรขึ้น แต่ข้อมูลมันจะผันแปรในทวีปเทียนหลันเกินไปบ้างแล้ว…
อู๋เทียน นิกายสักการะจันทรา ขุนนางโชกเลือด…
และยังมี ดาบเก้าทัณฑ์พิบัตินั่นทำให้ลั่วฉวนเกิดคิดขึ้นมา ว่าข้อมูลเหล่านี้อีกไม่ช้าคงทยอยเผยตัวกันออกมา
ถัดจากนั้นเขาจึงเอ่ยคำถามกับระบบ ว่าทำไมข้อมูลที่ผันแปรทั้งหลายเหล่านั้นจึงมาปรากฏในนครจิ่วเหยา
จากแนวคิดเรื่องข้อมูลที่ผันแปรเช่นนี้ โอกาสที่จะได้พบเจอเองต้องกล่าวได้ว่าน้อยนิด
ด้วยผู้คนมากมายในโลกหล้า โอกาสได้พบเจอกับตัวเองที่ทราบมันสมควรแทบจะมีศูนย์หลังทศนิยมหลายตัวด้วยซ้ำ
“สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลไม่เพียงพอ” ระบบตอบกลับมา
ลั่วฉวนชะงัก
คำอันคุ้นเคยที่ไม่ได้ยินมาพักหนึ่งแล้ว
ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วลั่วฉวนก็คร้านจะโต้เถียง
หลังครุ่นคิดหลายเรื่องราว ก็ทำเอาเขาเสียพลังงานไปไม่ใช่น้อยแล้ว
ลั่วฉวนหลับตาลงพยายามปล่อยให้ความคิดไหลไปก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรา
หลังผ่านเวลายาวนาน แม้เป็นสภาพแวดล้อมเช่นร้านต้นตำรับที่มีเสียงจอแจ ลั่วฉวนก็ยังหลับได้
ตอนที่ 656 : สุดยอดนักดาบ
อีกทางหนึ่ง ฉู่หยางกำลังตามเฉินหยิงเฟิงไปเรียนรู้เรื่องราวในร้านต้นตำรับ
สินค้าทั้งหลายเขาล้วนสนใจทั้งสิ้น
“จริงด้วย” ฉู่หยางคล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ “ตอนมาถึงพบเห็นภัตตาคารเซียนหงส์อมตะบอกว่ามีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับแท่งเครื่องเทศขาย”
“นั่นเป็นเถ้าแก่อนุญาตให้ทำเอง” เฉินหยิงเฟิงพยักหน้ารับ
ถัดจากนั้นเขาจึงอธิบายโดยคร่าว
ฉู่หยางเผยความสงสัยขณะรับฟัง
แต่ไม่ช้าเขาจึงเผยความนับถือต่อลั่วฉวนที่อยู่หลังโต๊ะ
ตัวตนเช่นเถ้าแก่ที่ยิ่งใหญ่แต่ก็ยังทำตัวประหนึ่งคนธรรมดา นี่จึงสมควรเป็นแบบอย่างให้ผู้ฝึกตนทั้งหลาย!
“แล้ว… ได้เล่นเกมหรือไม่?” ฉู่หยางกล่าวออกอย่างตะกุกตะกัก เป็นเขาเงียบเสียงไปครู่ก่อนจะกล่าวออก
หากมีคนบอกต่อเขาว่าเกมสามารถดึงดูดผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนมาได้ แรกได้ยินเขาคงไม่เชื่อเป็นแน่
แต่แล้วตอนนี้…
เขาได้เห็นกับตาถึงผู้ฝึกตนที่แข็.แกร่งทั้งหลาย กระทั่งขอบเขตราชันหลายคนก็มารวมตัวกันที่นี่!
กลายเป็นว่าเขามาช้าไปเสียด้วยซ้ำ
“ไปกัน รับชมทางด้านนั้น” เฉินหยิงเฟิงพบเห็นท่าทีของฉู่หยางจึงหัวเราะยินดี
ทั้งสองก้าวเดินไป
หน้าจอแสดงผลตรงหน้าปรากฏภาพวูบวาบไปมาขนาดทำฉู่หยางนึกทึ่ง
ก่อนจะมาเขาก็ได้ทราบข้อมูลเรื่องร้านต้นตำรับจากหลินฟานมาบ้างแล้ว
แต่ได้ฟังคำกล่าวก็เหมือนจินตนาการไปเอง ได้เห็นของจริงจึงค่อยเชื่อ
เครื่องเล่นเกมเสมือนจริงของร้านต้นตำรับเป็นสิ่งยากอธิบาย
ยิ่งไปกว่านั้นหลินฟานยังไม่เคยเล่น เขาก็ได้แค่ทำตัวเสมือนผู้รู้…
ตอนนี้ทั้งสองต่างยืนรับชมด้านหลังฉินมู่เสวี่ย
หน้าจอตรงหน้าเผยภาพอันตระการตา
เป็นเกล็ดหิมะที่ปลิวว่อนกระจายทั่วพื้นที่พร้อมหมู่เมฆหนาบนท้องฟ้า ดวงตะวันราวกับแทบไม่อาจส่องแสงลงมายังเบื้องล่าง ที่พบเห็นมีเพียงร่างเงาสีขาวไม่กระจ่างชัด รอบด้านเป็นหน้าผาและภูเขาสูงชันพร้อมพายุหิมะ
ประกายแสงดาบปรากฏวูบวาบกระจายทั่ว เหล่านั้นบ้างก็พุ่งไปทางโน้น พุ่งไปทางนี้ ยามเมื่อพุ่งสู่ยอดเขามันจึงเกิดเสียงดังสนั่นพร้อมหิมะที่ถล่มลงมานับไม่ถ้วน
บนยอดของภูเขาหิมะปรากฏสองร่างกำลังห้ำหั่นต่อกัน
หนึ่งนั้นยืนบนพื้นนิ่งงัน มันเป็นหญ้าสีเขียว
คมมีดของใบหญ้าที่เหวี่ยงสะบัดไปมาเผยความคมกริบพร้อมอำนาจทำลายล้าง
อีกฝั่งหนึ่งคือร่างอันเพรียวงามของฉินมู่เสวี่ย
นางถือดาบยาวประหนึ่งผลึกน้ำแข็งเอาไว้ ชุดสีขาวของนางมีเกล็ดหิมะและน้ำแข็งเกาะตามสภาพอากาศราวผู้เพิ่งผ่านเรื่องราวโชกโชนมา
ด้วยเผชิญหน้ากับการโจมตีของหญ้าดาบเก้าใบ มันแทบไม่มีพื้นที่ให้หลบเลี่ยง
ร่างนั้นประหนึ่งเงาภูตผีเคลื่อนไปมาต้านรับหญ้าดาบเก้าใบอยู่ตลอด
“นี่… ต่อสู้กันดุดันเพียงนี้เลยหรือ?” เฉินหยิงเฟิงประทับใจ
คู่ต่อสู้ของโหมดท้าทายชั้นที่ห้าก็คือหญ้าดาบเก้าใบ
ความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายถูกกำหนดจำกัดเอาไว้ที่ขอบเขตคืนต้นกำเนิด
พิจารณาจากสถานการณ์การต่อสู้ พลังอำนาจทำลายล้างของมันเกินกว่าผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ที่ขอบเขตทัดเทียมมันไกลโพ้น!
ฉู่หยางจับจ้องหน้าจอไม่กระพริบ เขาแทบลืมเลือนหายใจด้วยซ้ำ
เขาได้เห็นอะไร?
นักดาบ!
เป็นสุดยอดนักดาบ!
หญ้าดาบที่เขาได้เห็น คือสุดยอดนักดาบอย่างจริงแท้
มันเป็นหนทางอันแตกต่างจากเคล็ดดาบเก้าทัณฑ์พิบัติของเขาอย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้ในใจฉู่หยางบังเกิดความยินดีขึ้น
เพราะเขารู้สึกว่าตนได้พบเห็นอีกเส้นทางที่จะนำไปสู่ยอดเขาแห่งวิถีดาบแล้ว!