God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1058
ตอนที่ 1058
ในช่วงเช้าตรู่ ลั่วฉวนลุกขึ้นจากที่นอน เดินไปยังหน้าต่าง จากนั้นจึงเปิดมันออก
อากาศเย็นผสานกับความชื้นพัดผ่านเข้ามา น้ำที่เกาะอยู่ระหว่างช่องหน้าต่างเริ่มหยดลงมาจนทำขอบหน้าต่างด้านล่างเปียกชื้น
ทั้งโลกถูกย้อมด้วยม่านแห่งสายฝนที่ไร้ทีท่าหยุดตก
หลังหาวลากยาวและยืดเส้นไปมา อากาศเย็นในยามเช้าก็ทำให้เกิดรู้สึกได้ถึงพลังงานที่เอ่อล้นในร่าง
“อรุณสวัสดิ์เถ้าแก่”
“อรุณสวัสดิ์”
หลังล้างหน้าเรียบร้อยเขาค่อยลงมายังชั้นล่างเพื่อเปิดประตูร้านที่ล็อคอยู่
แม้ว่าในตรอกนี้จะมีเพียงร้านต้นตำรับ และต่อหน้าผู้แข็งแกร่ง ประตูร้านก็ไม่ต่างอะไรกับของประดับ แต่ประเด็นนั้นอยู่ที่ระบบรักษาความปลอดภัยของร้าน ที่แม้เป็นขอบเขตราชันระดับสูงสุดมาเยือน หากมาด้วยประสงค์ร้ายจะไม่มีทางเข้ามา แต่หากเป็นลูกค้าจะยินดีเปิดต้อนรับเสมอ
แต่มันคงให้ความรู้สึกแปลกถ้าหากถึงเวลาปิดร้านแล้วไม่ได้ล็อคประตู
เมื่อเปิดประตูเรียบร้อยแล้ว สองร่างที่คุ้นเคยจึงปรากฏในสายตา
“อรุณสวัสดิ์เถ้าแก่” อานเหวยหยาเผยยิ้มสดใสกล่าวทักทาย
ปิงชวงตามนางเข้ามาพร้อมเงยหน้าสี่สิบห้าองศามองลั่วฉวนด้วยดวงตาสีชาด
“อรุณสวัสดิ์” ลั่วฉวนเกิดสงสัยขึ้นมาว่าเหตุใดทั้งสองถึงมาแต่เช้า แต่ท่าทีของเขาก็ไม่ได้เผยความสงสัยออกไปแต่อย่างใด
เขาหันกลับเข้าร้าน เดินไปยังชั้นวางสินค้าเพื่อหยิบของเตรียมไปรดน้ำต้นไม้โลก
“เถ้าแก่ไม่สงสัยหรือว่าเหตุใดข้ามาแต่เช้า?” อานเหวยหยาเดินตามปิงชวงเข้ามา ดวงตาของนางมองตามลั่วฉวนที่เดินไปมาในร้าน
“หากมีอะไรก็กล่าวออกมา” ลั่วฉวนรับคำอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ตอนนี้เขาไปหยุดยืนตรงหน้าต้นไม้โลก ขวดโคล่าถูกบิดเปิดออกก่อนจะเทลงไป
“เรื่องมัน…” อานเหวยหยาตอนนี้พลันเปลี่ยนหัวข้อ “เดี๋ยวนะ เถ้าแก่ทำอะไรอยู่กัน?”
“รดน้ำต้นไม้” ลั่วฉวนตอบกลับ
“รดน้ำต้นไม้?” อานเหวยหยาเผยสีหน้าเคร่งเครียดก่อนจะพึมพำ “หรือเป็นเราที่ไม่รู้ความเอง…”
ทางด้านปิงชวงตอนนี้ไปหาที่นั่งเล่นโทรศัพท์วิเศษแล้ว ส่วนว่านางทำอะไรอยู่นั้นลั่วฉวนพอจะคาดเดาได้ คงเป็นการเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดอย่างแน่นอน
เพราะตอนนี้ปิงชวงคว้าตำแหน่งอันดับหนึ่งของแอพไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดต้นตำรับอย่างเหนียวแน่น กระทั่งว่าสร้างช่องว่างระหว่างอันดับที่สองอย่างไกลลิบ
“ถ้าคิดจะทานมื้อเช้า ขึ้นไปชั้นสองบอกกับเหยาซือหยาน นางน่าจะทำทันอยู่” ลั่วฉวนกล่าวบอกก่อนจะไปเตรียมชานมสำหรับตนเอง
“ทราบแล้ว” รับคำเรียบร้อยอานเหวยหยาจึงพุ่งตัวขึ้นไปยังชั้นสอง
สาเหตุที่นางมาแต่เช้าเช่นนี้ ไม่น่ามีอะไรอื่นนอกจากฝากท้อง…
แต่ก็ต้องกล่าว ลั่วฉวนเกิดสงสัยขึ้นมาเล็กน้อยว่าเมื่อครู่อานเหวยหยาคิดกล่าวอะไร
ช่างมัน ทานมื้อเช้าให้เรียบร้อยค่อยว่ากล่าวก็แล้วกัน
คิดได้เช่นนี้ลั่วฉวนจึงนำชานมที่เพิ่งหยิบจากเครื่องไปเทใส่รากของต้นไม้โลก
จากนั้นจึงเด็ดใบออกมาส่วนหนึ่ง
หลังอยู่ที่ร้านต้นตำรับมาก็นานไม่น้อย ต้นไม้โลกคุ้นชินแล้ว ภายใต้สถานการณ์ปกติทุกวี่วันแทบจะไม่ตอบสนองแต่อย่างใด
แต่หากมีอะไรพิเศษ เช่นนั้นจะใช้การเขย่ากิ่งก้านและใบไม้เป็นการทักท้วง แม้ว่าจะทักท้วงไม่เคยสำเร็จก็ตาม…
ต้องกล่าวว่าการใช้ใบของต้นไม้โลกเป็นรางวัลแก่เทียบอันดับโหมดอารีน่าของหอคอยแห่งการทดสอบ ถือเป็นการที่ลั่วฉวนตัดสินใจผิด
ประเด็นคือการปรากฏของใบไม้เหล่านี้สู่โลกภายนอกสร้างความเคลื่อนไหวอย่างใหญ่โต เขาได้ยินมาว่ามูลค่าของแต่ละใบพุ่งสูงถึงหลักแสนผลึกวิญญาณ
ตอนนี้ลั่วฉวนจึงพิจารณาปรับเปลี่ยนกฎของเทียบอันดับอารีน่าเสียใหม่ ส่วนว่าจะเปลี่ยนแปลงเป็นอะไรนั้นยังไม่ทราบ
เหยาซือหยานค่อนข้างประหลาดใจที่อานเหวยหยาโผล่มา แต่เพราะฝากท้องทานอาหารด้วยหลายครั้งแล้วจึงพอเข้าใจได้
ผ่านไปครู่หนึ่งกลิ่นหอมของอาหารเช้าจึงลอยปรากฏในร้าน ปิงชวงตอนนี้เก็บโทรศัพท์วิเศษล้างมือรอแล้ว นางกำลังนั่งสงบนิ่งรอคอยมื้ออาหาร
“ก่อนหน้านี้เหมือนมีอะไรจะพูดใช่หรือไม่? ตอนนี้พูดกล่าวออกมาได้” ลั่วฉวนบอกกล่าวกับอานเหวยหยาที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“ข้านึกว่าไม่อยากทราบเสียอีก” อานเหวยหยาถอนหายใจเสียงเบา
“มีเรื่องอะไรหรือ?” เหยาซือหยานเกิดสนใจจึงร่วมวงสนทนา
“เรื่องโบราณสถาน”อานเหวยหยาเผยยิ้มมีเลศนัย “ในเทือกเขาจิ่วเหยาใกล้เคียงนครจิ่วเหยา มันมีโบราณสถานกำลังจะปรากฏขึ้น”
อาการตอบสนองของลั่วฉวนค่อนข้างเกินกว่าที่อานเหวยหยาคาดคิด ถึงกับว่าทำนางฉงนใจ
“โอ้” ลั่วฉวนเพียงพยักหน้ารับด้วยอาการสงบ ราวกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องใดกับตน
อาการตอบสนองของเหยาซือหยานจึงเกินกว่าปกติมาเล็กน้อย “โบราณสถานครั้งก่อนเพิ่งปรากฏไม่นาน ครั้งนั้นไม่ทราบด้วยซ้ำว่าด้านในมีอะไรคงอยู่”
แม้โบราณสถานถูกราชวงศ์สัตว์อสูรอัญเชิญมาในครั้งก่อน แต่ต่อให้ไม่มีการอัญเชิญมันก็จะปรากฏในทวีปเทียนหลันอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ทราบว่าเป็นเมื่อใด
“หืม? เถ้าแก่คล้ายไม่สนใจเรื่องนี้เลยหรือ” อานเหวยหยาเกิดสงสัยขึ้นมา
“ทำไมถึงต้องสนใจด้วยกัน?” ลั่วฉวนถามกลับ
“ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนที่โบราณสถาน เถ้าแก่ออกไปทำการค้านัดพิเศษ” อานเหวยหยาเตรียมข้อมูลถึงสิ่งที่ลั่วฉวนเคยไปทำก่อนหน้านี้มาเป็นอย่างดี
“…ครั้งก่อนค่อนข้างพิเศษเล็กน้อย” ลั่วฉวนเงียบไปครู่ก่อนจะให้คำตอบที่เหมาะสม
หากไม่ใช่เพราะภารกิจเพิ่มระดับดาว เขาก็คงไม่มีทางออกไปไกลถึงสถานที่เช่นโบราณสถาน อีกทั้งยังต้องพบเจอสิ่งประหลาดมากมาย
อานเหวยหยามองทางต้นไม้โลก จากนั้นจึงเป็นลูกแก้วขุมนรกที่เป็นประหนึ่งเครื่องประดับ ตอนนี้นางค่อยพยักหน้ารับ “โอ้ เหมือนข้าจะเข้าใจแล้ว”
เข้าใจอะไรกัน? ที่พูดนั่นมั่นใจแค่ไหน?
ลั่วฉวนตอนนี้คาดเดาถึงความคิดในหัวของมังกรสาวว่าน่าจะเป็นอะไร แต่เขาก็เกียจคร้านเกินกว่าจะอ้าปากบอกกล่าวให้ถูกต้อง
หากเข้าใจ เช่นนั้นก็เข้าใจไป อย่างไรแล้วตัวตนของเขาในสายตาของนางก็ลึกลับอยู่แล้ว ปล่อยให้นางเข้าใจไปเองก็ไม่น่าเป็นอะไร
“แต่โบราณสถานที่จะปรากฏครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษ เถ้าแก่ไม่คิดอยากไปตรวจสอบหน่อยหรือ?” อานเหวยหยายังคงถาม
ลั่วฉวนส่ายศีรษะตอบพลางทานอาหารเช้าไปด้วย
ทำไมจึงต้องไป? มีเวลาว่างก็จัดการงานตรงนี้กับนอนงีบหลับไม่ดีกว่าหรือ?
“กล่าวถึงเรื่องนี้ ทราบเรื่องโบราณสถานที่กำลังจะปรากฏได้ยังไงกัน?” เหยาซือหยานเผยความสงสัยออกมา
“พรสวรรค์ทางเผ่าพันธุ์” อานเหวยหยากล่าวตอบ
“พรสวรรค์ทางเผ่าพันธุ์?” เหยาซือหยานทวนคำเสียงเบาก่อนจะยิ้มอย่างอับจน “ทราบแล้ว”
“มีเรื่องสงสัยเล็กน้อย” คำของลั่วฉวนดึงความสนใจของทั้งสอง (ปิงชวงไม่เคยสนใจบทสนทนาใดตั้งแต่แรกแล้ว) เขากล่าวถามไปพลางตักอาหาร “ทวีปเทียนหลันมีเรื่องราวอะไรกับโบราณสถาน? ทำไมพวกมันถึงปรากฏขึ้น?”