God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1057
ตอนที่ 1057
“ก็ได้ ข้ายอมรับ นั่นฝีมือข้าเอง” อานเหวยหยากล่าวออกมาอย่างไม่เต็มใจ
เหยาซือหยานเกิดสงสัยขึ้นมา “ทำไมถึงกระจายข่าวลือที่ดูไม่น่ามีประโยชน์อย่างนั้นกันล่ะ?”
แม้ว่าข่าวลือเรื่องราวของเผ่าพันธุ์มังกรจะแพร่กระจายไปทั่วทวีปเทียนหลัน แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใหญ่โตอะไรมากไปกว่าหัวข้อการสนทนาระหว่างร่วมวงโต๊ะอาหาร
“เผ่าพันธุ์มังกรครั้งหนึ่งเคยอยู่ที่ทวีปเทียนหลันมาอย่างยาวนาน หากไม่คอยมีข่าวคราวอะไรของพวกเขาก็จะถูกลืมเลือนน่ะสิ” อานเหวยหยากล่าวตอบเสียงเบา
“งั้นทำไมถึงไม่เผยตัวในทวีปเทียนหลันเสียเลยล่ะ?” เหยาซือหยานฉงนใจ
อานเหวยหยาส่ายศีรษะ “พวกเรามีเหตุผลของพวกเราเอง”
พบเห็นว่าเกินกว่านี้ไม่น่าได้ทราบ เหยาซือหยานจึงไม่ถามต่อ แต่เลือกที่จะสนทนาหัวข้ออื่น
ปิงชวงและลั่วฉวนต่างก็เป็นผู้ฟังที่ดีระหว่างทานอาหาร
ฟ้ามืดลงจนสนิท แสงดาวไม่มีปรากฏยาวนานเพราะเมฆฝน มันจึงเป็นเหมือนดังความมืดมิดจนไม่อาจมองเห็นขอบเขต
ที่ประตูเมืองนครจิ่วเหยา พลังวิญญาณยังคงทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานให้กำเนิดแสงสว่าง และที่ใกล้เคียงก็มีทหารรักษาการณ์ยืนอยู่ในบริเวณที่แสงส่องสว่าง
เพราะอากาศเริ่มเย็นลง ทั้งคนทำงานและประชากรอื่นของนครจิ่วเหยาจึงต้องปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย
เวลาเช่นตอนนี้แทบไร้ผู้คนสัญจร มีเพียงแต่แสงจากถนนสองฟากข้างที่ค่อนข้างสลัวเพราะสายฝน
หัวหน้าหน่วยทหารรักษาการณ์หาวลากยาวพลางนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาดูเวลา เขาเริ่มคิดถึงเตียงอุ่นที่บ้านแล้ว
ขณะปล่อยความคิดไหลไปเรื่อย เสียงของฝนก็คล้ายลดทอนเบาลงไป เขาหันมองความมืดที่อยู่ไกลห่างอย่างเหม่อลอยและปล่อยความคิดจมลงไป
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า วันนี้คล้ายว่าไม่น่าจะมีใครออกมาเดินแล้ว อย่างน้อยเขาก็คิดอย่างนั้น
“หัวหน้า เล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดกันไหม?” เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งกล่าวถาม
“ตอนนี้อยู่ระหว่างทำงานนะ คิดว่าจะหย่อนยานได้หรือยังไง?” หัวหน้าหน่วยกล่าวต่อว่า
“ผิดไปแล้วขอรับ” อีกฝ่ายจึงรีบสำนึกความผิดพร้อมตอบรับคำกลับมา
“ทราบความผิดแล้วก็ดี มาเล่นไพ่กันดีกว่า” หัวหน้าหน่วยตอนนี้ถูไถมือไปมา “อากาศหนาวเกินไปแล้ว”
“ด้านนอกค่อนข้างเย็นไม่น้อย” ลั่วฉวนยื่นมือออกไปรับรู้ถึงอากาศภายนอกร้าน
อานเหวยหยากับปิงชวงเพิ่งหายไปจากหน้าร้าน จากที่ลั่วฉวนคาดเดา ทั้งสองน่าจะไปอยู่ในมิติพิเศษซึ่งแยกตัวกับโลกนี้อย่างสิ้นเชิง
“จริงด้วย” เหยาซือหยานพยักหน้ารับเห็นพ้อง สายตาของนางมองที่โทรศัพท์วิเศษ
“ดูอะไรอยู่กัน?” ลั่วฉวนเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“บันทึกทหารรับจ้างในแอพนักอ่าน” เหยาซือหยานตอบคำกลับมา “ช่วงนี้อ่านติดตามทุกวันเลย เว่ยฉิงจู่ทำได้ดีไม่น้อย”
ลั่วฉวนไปหาที่นั่งก่อนจะนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมา เขาคิดเปิดแอพนักอ่านเพื่อหาอะไรอ่านบ้าง
แอพนักอ่านตอนนี้มีผลงานหลายสิบ ทั้งยังครอบคลุมหมวดหมู่หลากหลาย
รับชมเทียบอันดับ “บันทึกทหารรับจ้าง” อยู่ที่อันดับห้า กล่าวได้ว่าทำได้ดีเลยทีเดียว
ลั่วฉวนเกิดสนใจ
ครั้งก่อนเพียงได้อ่านแต่ตอนแรก ส่วนที่เหลือเขาไม่ได้ติดตาม
ไม่ได้เข้าไปรับชมหลายวัน ตอนนี้น่าจะมีตอนเพิ่มขึ้นไม่ใช่น้อยแล้ว
และเหมือนว่าเว่ยฉิงจู่จะให้ความสำคัญเป็นงานใหม่อย่างจริงจัง ดังนั้นจึงทุ่มเทความพยายามพอสมควร
วันนี้เขาเริ่มทำการอ่านอย่างมีจุดหมาย
ณ ภูเขาสุสานที่ลึกลับและไม่มีผู้ใดคาดเดาได้ กองกระดูกสัตว์อสูรกระจัดกระจายทั่วแห่งแหน พื้นดินยังปรากฏรอยแยก หน่วยทหารรับจ้างกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤต…
โครงเรื่องมีความเกี่ยวเนื่องและพลิกผันไปมา
เมื่อลั่วฉวนพบว่าอ่านถึงตอนล่าสุดแล้ว กลายเป็นว่าตอนนี้รู้สึกค้างคา
ทำได้ไม่เลว
ลั่วฉวนเผยข้อสรุปประเมินอยู่ในใจ
ถัดจากนั้นจึงถึงเวลาใช้เครื่องเล่นเกมเสมือนจริงเข้าใช้งานโหมดทั่วไป ซึ่งก็ไม่มีอะไรพิเศษให้กล่าวถึงมากนัก
หลังเล่นอยู่พักหนึ่งลั่วฉวนค่อยหาวก่อนจะออกจากโลกเสมือนจริงเตรียมไปนอน
“ระดับความละเอียดของโลกได้เข้าถึงข้อกำหนด” เสียงของระบบที่เหมือนหายไปนานได้ดังขึ้นในใจ
“ได้แล้ว?” ลั่วฉวนสะกดความยินดีที่เกิดขึ้นไว้ “นั่นหมายความถึงสามารถแทรกแซงโลกใบนี้ได้ตามใจ ไปยังประเทศอื่นหรือเมืองอื่น รวมถึงเปิดร้านด้วยก็ได้?”
ลั่วฉวนคิดอยากเปิดร้านภายในเกมที่ทางร้านดำเนินอยู่
แต่ก็ต้องกล่าว ว่าทำไมถึงอยากเปิดร้านกันด้วย?
จะอะไรก็ช่าง ทำไมถึงอยากเป็นเถ้าแก่ซ้อนเถ้าแก่?
มันไม่ใช่เพียงแค่การเป็นเถ้าแก่ มันมีจุดพลิกผันมากกว่านั้น
โลกใหม่ เรื่องราวใหม่ และประสบการณ์ใหม่…
หลายความคิดปรากฏในใจของลั่วฉวนในทันทีที่ปรากฏเรื่องนี้ขึ้นมา
“ในเชิงทฤษฎีแล้วทำได้ แต่ต้องผ่านเงื่อนไขที่กำหนดเสียก่อน” ระบบตอบกลับมา
“งั้นก็ปล่อยไปก่อน ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากล่าวกันอีกที” ความง่วงชนะทุกสิ่ง ลั่วฉวนตอนนี้ไม่คิดเสียเวลานอนอันมีค่าไปกับการสำรวจโลกใหม่แต่อย่างใด
เขากลับออกจากเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงพลางเอียงคอไปมาเพื่อยืดเส้น
ทางด้านเหยาซือหยานกำลังใช้โทรศัพท์วิเศษ มือหนึ่งถือแก้วชานมเอาไว้
“ขอตัวขึ้นไปก่อน” ลั่วฉวนกล่าวบอก
“เดี๋ยวข้าปิดร้านให้” เหยาซือหยานรับคำ
เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสอง หลังอาบน้ำชำระกายเรียบร้อยเขาค่อยกลับห้องตนเอง
หน้าต่างยังคงเปิดอยู่ แต่อุณหภูมิภายในห้องนั้นอบอุ่นสบายเหมือนดังชั้นล่าง
และเมื่อปิดหน้าต่าง เสียงฝนที่เคยดังก็เงียบหายลงไปมาก
หยาดฝนตกกระทบหน้าต่างและไหลลงทิ้งไว้ซึ่งคราบน้ำ
แสงไฟสลัวจากถนนภายในเมือง ประกอบกับคราบน้ำผ่านหน้าต่าง มันยิ่งทำให้ดูเป็นแสงที่เบลอจนชวนให้ง่วง
มันเหมือนดังภาพฝัน
เมื่อนอนลงบนเตียง สายตาตอนนี้ดูเวลาที่โทรศัพท์วิเศษ
เพียงดีดนิ้วแสงในห้องก็ดับลง
ราตรีสวัสดิ์
ที่ชั้นล่างของร้าน เหยาซือหยานที่ดื่มชานมเสร็จเรียบร้อยจึงลุกขึ้นไปปิดประตูร้าน
ประตูร้านคือสิ่งที่ช่วยกันสายลมและสายฝนจากภายนอกร้านไม่ให้เข้ามา
นางเกิดนึกย้อน ครั้งแรกพบเถ้าแก่ มันก็เป็นค่ำคืนที่ฝนตกเช่นเดียวกัน
คิดถึงเรื่องราวเก่าก่อน รอยยิ้มพลันปรากฏที่ใบหน้าของนาง เสียงฮัมเพลิงดังปรากฏขณะนางเดินขึ้นไปชั้นสองเตรียมนอน
ณ พระราชวังหลวง จี้อู๋ฮุยที่ตอนนี้กำลังตรวจดูรายงานทั้งหลาย เขากำลังหารือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับข้าราชบริพารผ่านโทรศัพท์วิเศษ องค์หญิงน้อยแห่งจักรวรรดิเดินเข้ามาพร้อมขนมสดใหม่ที่เพิ่งทำก่อนจะวางบนโต๊ะ
ผลึกวิญญาณพิเศษภายในห้องเป็นแหล่งให้ความสว่าง เว่ยฉิงจู่และคณะกำลังหารือต่อกันถึงโครงเรื่องเพื่อเตรียมส่งตอนใหม่ขึ้นไปในวันพรุ่งนี้
ร้านของหยวนก่วยก็ยังคงมีแสงไฟสว่าง ปู้หลี่เกื๋อตอนนี้ยังมีพลังงานเปี่ยมล้นถือตำราหนาด้วยสองมือ หยวนก่วยนั่งอยู่เคียงข้างจิบชาพลางรับชมและตอบคำถามที่ปู้หลี่เกื๋อสงสัย
นครไซเรนยังคงคึกคักเหมือนดังเคย แม้มีชาวไซเรนส่วนใหญ่ออกเดินทางไปท่องเที่ยวกันแล้ว ชาวไซเรนที่ยังคงอยู่เมืองก็ไม่ใช่เหงาหงอย ตอนนี้กระทั่งร่วมกันขับขานบทเพลงอันไพเราะ
เสียงหนึ่งดังปรากฏจากถ้ำ เหยาฮุยเฉินกำลังรับชมผลิตผลของวิดีโอ “โถงเล่าเรียนแห่งหุบเขาโอสถ” พร้อมกับนักปรุงยาอาวุโสหลายคนที่วุ่นวายกันอยู่ภายในห้อง
ทางด้านมังกรทองคำ ตอนนี้กำลังนอนกลิ้งกับพื้นไปมาในมิติส่วนตัวพร้อมสภาพที่ใกล้หลับ ส่วนกลางของร่างนั้นจะยกขึ้นและลงไปมาเป็นจังหวะของการหายใจ ส่วนปิงชวงยังคงถือโทรศัพท์วิเศษเล่นไปพลางเอนกายพิงร่างมังกรใหญ่โต แสงจากหน้าจอโทรศัพท์วิเศษสะท้อนผ่านนัยน์ตาของนางท่ามกลางความมืดมิด…