God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1054
ตอนที่ 1054
เดี๋ยวนะ ทำไมรู้สึกเหมือนกลิ่นอายมันคุ้นเคย?
ทหารรับจ้าง มุมมองบุคคลที่หนึ่ง สุสานประหลาด…
ลั่วฉวนเกิดนึกอะไรขึ้นมาได้
ใช่แล้ว นี่ต้องเป็นผลกระทบจากความบิดเบือนของข้อมูลรากฐานอย่างแน่นอน
ตอนนี้เขาเริ่มไปอ่านในส่วนของความคิดเห็น แม้ว่าเรื่องราวเพิ่งมีเพียงเท่านี้ แต่เสียงตอบรับค่อนข้างดีไม่ใช่น้อย
“ปล่อยไว้ขาดตอนเช่นนี้? ชักสงสัยแล้วสิว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเล่าขาน”
“รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว”
“ตอนใหม่จงมา ขออย่าได้สั้นเช่นนี้อีก”
“…”
หลายคนต่างฝากความคิดเห็นกันเอาไว้ คล้ายว่าพวกเขาจะชื่นชอบแนวการเขียนและเรื่องราวเช่นนี้พอสมควร
หลังอ่านเรียบร้อย เขาจึงกลับออกจากแอพนักอ่าน และเปิดแอพไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดขึ้นมาแทน
ตอนนี้จำเป็นต้องผ่อนคลายสักเล็กน้อย อย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งทำงานหนักไป
ระหว่างเล่นเกม เวลามักจะผ่านไปเร็วกว่าที่คาดคิดเสมอ
ลั่วฉวนทราบความจริงเรื่องนี้ดี
เวลาทำการในช่วงเช้าของร้านจึงจบลง
ตอนนี้เป็นเวลาของมื้อกลางวัน
“…ทวีปเทียนหลันแบ่งออกโดยคร่าวเป็นห้าภูมิภาค?” ลั่วฉวนกล่าวถามขึ้น
“ถูกต้อง มีที่ราบศูนย์กลาง ภูมิภาคทางใต้ ภูมิภาคทางเหนือ ภูมิภาคตะวันตก และก็ภูมิภาคตะวันออก ที่พวกเราอยู่ตอนนี้คือที่ราบศูนย์กลาง” เหยาซือหยานเผยความสงสัย “เหตุใดเถ้าแก่จึงถามกัน?”
“เพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้” ลั่วฉวนกัดอาหารเข้าปากพลางตอบ “ตอนนี้ข่าวคราวของร้านต้นตำรับน่าจะแพร่กระจายไปทั้งทวีปเทียนหลันแล้วใช่หรือไม่?”
ห้าภูมิภาครวมกันคือทวีปเทียนหลัน รอบด้านคือทะเล เขารู้สึกว่าทวีปแห่งนี้ค่อนข้างจะเป็นแผ่นดินผืนใหญ่มหาศาล
“เรื่องนี้จะว่ายังไงดี?” เหยาซือหยานครุ่นคิด “ยากจะตอบอย่างแม่นยำได้”
“หือ?” ลั่วฉวนเกิดสงสัยจนมองเป็นการสอบถาม
“ตำหนักจักรกลสวรรค์ตั้งอยู่ภูมิภาคทางตะวันออกของทวีปเทียนหลัน ภูเขาจักรวาลอยู่ทางภูมิภาคตะวันตก นิกายสักการะจันทราของเย่ว์หลิงอยู่ภูมิภาคทางตอนเหนือ หุบเขาโอสถอยู่ค่อนไปทางภูมิภาคทางใต้กับที่ราบศูนย์กลาง สี่สถาบันต่างตั้งอยู่ในที่ราบศูนย์กลาง…” เหยาซือหยานไล่เรียงลำดับของขั้วอำนาจที่เป็นลูกค้าร้านต้นตำรับ “ยังมีขั้วอำนาจใหญ่อีกมากที่พวกเรายังไม่ทราบ เรื่องนี้ข้าจึงไม่อาจตอบอย่างชัดเจนได้”
ลั่วฉวนเกิดสะท้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย
เพียงเวลาไม่กี่เดือน ร้านต้นตำรับได้ก้าวหน้าไปจนถึงจุดที่วันนี้ในทวีปเทียนหลันได้รู้จักร้าน มันทำเขานึกถึงคำของปู้หลี่เกื๋อเมื่อวันนั้น ว่ากลิ่นของอาหารที่หอม แม้อยู่ในตรอกลึกก็ยังมีคนตามเข้าไป
“นอกจากกองกำลังที่อยู่ใกล้เคียงจักรวรรดิเทียนชิง กองกำลังใหญ่จากอีกสี่ภูมิภาคก็ยังสามารถมาที่นี่กันได้ด้วยเส้นทางพิเศษ จะมีก็เป็นกองกำลังเล็กหรือประเทศเล็กที่เพียงได้ยินข่าวคราวของร้านต้นตำรับ ทว่าพวกเขาไม่มีกำลังมากพอจะมาเยือนร้าน” เหยาซือหยานกล่าวบอก
ลั่วฉวนพยักหน้ารับ เรื่องนี้ถือว่าเข้าใจได้
ดังที่เคยกล่าวไป นี่ก็เพียงไม่กี่เดือนตั้งแต่ร้านต้นตำรับเปิดกิจการ มันคงแปลกหากทั่วทุกหัวมุมของทวีปเทียนหลันจะทราบเรื่อง
จากนั้นทั้งสองก็ยังคงพูดคุยกันไปเรื่อย
ส่วนใหญ่จะเป็นเหยาซือหยานที่กล่าว ลั่วฉวนเพียงรับคำบ้างเป็นครั้งคราว
ไม่ช้าจึงเริ่มเวลาทำการของร้านช่วงบ่าย
ซึ่งก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากช่วงเช้า
ในร้านมีลูกค้าหลายคนเข้ามาใช้บริการ ชานมยังคงได้รับความนิยม แน่นอนว่าเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงแทบจะเต็มแน่น
บ่ายวันนี้ภัตตาคารเซียนหงส์อมตะปิดทำการ ทว่าในครัวค่อนข้างวุ่นวาย
อากาศที่อบอวนด้วยกลิ่นหอมของนมและชา มันมากเกินไปจนทำเหล่าพ่อครัวเกิดรู้สึกเหนื่อยล้าหลังพยายามสูดดมอยู่นาน
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว? นี่ผ่านมาสองวันแล้วนะ!” สั่วว่านจินมองผู้คนที่งานยุ่งพร้อมกล่าวคำออกอย่างโกรธเกรี้ยว
ไม่มีใครตอบ มีเพียงเสียงเครื่องครัวที่กระทบกันไปมา
เมื่อร้านต้นตำรับเปิดขายชานม สั่วว่านจินก็เล็งเห็นโอกาสเปิดธุรกิจเพิ่มเติม
ที่เหล่าพ่อครัวกำลังทำอยู่ตอนนี้ คือหาทางทำชานมออกมาให้ได้ และนี่ก็ใช้เวลามาแล้วทั้งสิ้นสองวัน
“นายท่าน เหมือนว่าข้าจะทำสำเร็จแล้ว” เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน พ่อครัวผู้มากพรสวรรค์ภูมิใจนำเสนอสิ่งที่อยู่ในหม้อ สีหน้านั้นค่อนข้างภูมิใจไม่น้อย
“สำเร็จแล้ว?!” สั่วว่านจินเดินเข้ามาหาด้วยความเร็วสูงซึ่งขัดกับร่างอ้วนฉุ เขาสำรวจมองและรับชมผลลัพธ์เป็นของเหลวสีขาวและน้ำตาลที่ผสานต่อกัน มันคือน้ำชาอันงดงามที่มีของเหลวสีขาวแทรกเป็นวังวนพร้อมมีกลิ่นหอม ทั้งยังมีรสสัมผัสของนมอย่างเด่นชัด
“ภายนอกดูไม่ค่อยต่างเท่าไหร่” สั่วว่านจินรับภาชนะมาพร้อมเกิดข้อสงสัยขึ้น
จากนั้นจึงดื่มลงไปและเริ่มพิจารณารสชาติ
ไม่กี่วินาทีถัดจากนั้นเขาค่อยพยักหน้ารับด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงตบที่ไหล่ของพ่อครัวผู้มากพรสวรรค์
สีหน้าสั่วว่านจินเผยยิ้มแย้ม “รสชาติใกล้เคียงมาก เรื่องสรรพคุณไม่มีก็เข้าใจได้ เท่านี้มากพอแล้ว เรื่องของชานมยกให้เจ้า หากต้องการใช้ผลึกวิญญาณเพิ่มเติมให้พูดคุยกับผู้จัดการได้เลย”
“รับทราบเจ้านาย!” พ่อครัวผูนั้นพยักหน้ารับพร้อมจับไหล่ตนเองที่โดนตบรุนแรงไปเมื่อครู่
สั่วว่านจินคือเถ้าแก่แห่งภัตตาคารเซียนหงส์อมตะ เขาคือผู้ทำให้ภัตตาคารแห่งนี้เป็นที่เลื่องลือในนครจิ่วเหยา นั่นก็เพราะความสามารถในการเล็งหาโอกาสและความสามารถในการควบคุมคุณภาพ
ตอนนี้ชื่อเสียงของภัตตาคารเซียนหงส์อมตะถูกร้านน้อยหยวนก่วยที่เพิ่งเปิดไม่นานจนแทบมิด สั่วว่านจินแทบคิดไม่ออกว่าควรทำยังไง กระทั่งความคิดสู้ยังพบว่ายากจะมีได้
แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็เพียงแค่ด้านของชื่อเสียง
อย่างไรแล้วหยวนก่วยก็ถือเป็นเทพแห่งอาหารที่เหล่ายอดฝีมือแห่งทวีปเทียนหลันให้การยอมรับ สั่วว่านจินทราบดีว่าภัตตาคารเซียนหงส์อมตะไม่มีทางสู้ในด้านนี้ได้
…..
หลังเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดจบตา ลั่วฉวนค่อยวางโทรศัพท์วิเศษลง
สายตาเขาสำรวจมองเหล่าลูกค้าที่ไปมา รวมถึงท้องฟ้าขมุกขมัวนอกร้าน ในใจตอนนี้อดไม่ได้ที่จะเกิดความหมองหม่นตามอากาศอย่างไม่ทราบสาเหตุ
หนึ่งวันได้ผ่านพ้นไปอีกครั้ง
“เถ้าแก่ ไว้พรุ่งนี้พวกเรามาใหม่”
“เถ้าแก่ พี่ซือหยาน พบกันใหม่วันพรุ่งนี้…”
ลูกค้าเริ่มกล่าวลากลับกันไปคนแล้วคนเล่า
จำนวนของชาวทะเลที่มาใช้บริการร้านวันนี้ค่อนข้างน้อยกว่าตอนแรก พวกเขาบางส่วนก็เพียงแค่อยากรู้จึงมาในครั้งแรกกันก็เท่านั้น
แม้ว่าจะยังชื่นชอบสินค้าที่ทางร้านมีขาย แต่ความสนใจของพวกเขาก็สูญเสียไปง่ายเช่นเดียวกัน
หลังทานอาหารมื้อเย็นเรียบร้อย ก็ถึงเวลาไปเดินเล่นในต่างโลก
ลั่วฉวนเกิดรู้สึกว่าตนชอบประสบการณ์เช่นนี้ที่ดำเนินอยู่ทุกวันเข้าให้เสียแล้ว
ที่ทวีปเทียนหลัน เขาคือเถ้าแก่ร้านต้นตำรับผู้ซึ่งได้รับความนับถือจากผู้คนนับไม่ถ้วน แต่ที่ต่างโลกแห่งนี้ เขาก็เพียงคนสัญจรธรรมดา
ไม่มีใครทราบตัวตนของเขา ที่เป็นก็เสมือนนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่ต่อให้เดินไปไหนก็ไม่มีใครรู้จัก เขาสามารถเดินท่องไปในโลกอันแปลกใหม่แห่งนี้และเปิดรับประสบการณ์ทางอารยธรรมของต่างโลกได้อย่างเต็มที่
ผ่านไปหลายครั้ง วัฒนธรรมของที่นี่ก็กลายเป็นเขาชื่นชอบขึ้นมา ที่นี่กลายเป็นดูเหมือนโลกในนิยายยิ่งกว่าชีวิตที่ร้านต้นตำรับ
แต่ก็ยังมีเรื่องหนึ่งที่เขาสงสัย ไม่ทราบว่าลัทธิแห่งการทำลายล้างที่ถูกจับตัวไปนั้นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
เท่าที่จำได้ คือพลังเวทมนตร์ที่พวกเขาใช้ครั้งนั้นเหมือนจะเกิดการกลายพันธุ์ขึ้น มันเป็นความไม่บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจากหายนะ
หรือในโลกแห่งนี้จะมีตัวตนเช่นเทพมารปรากฏคงอยู่?
ลั่วฉวนเกิดสงสัยขึ้นมาในใจ
และเขาคาดหวัง ว่าจะมีโอกาสได้รับคำตอบจากข้อสงสัยที่เกิดขึ้น
บางทีนั่นอาจเป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ และอาจเป็นคู่หูที่ดีให้แก่ก้อนดำน้อยได้