God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1053
ตอนที่ 1053
“ทำไมรู้สึกเหมือนตัวละครใหม่เหล่านี้แข็งแกร่งนัก” เฉินอี้อี้ยืนด้านหลังปู้หลี่เกื่อพร้อมมองภาพบนหน้าจอ
เมื่อครู่หมอกสีดำได้แปรเปลี่ยนเป็นจิตแห่งความตาย มันเป็นผลให้สองคู่ต่อสู้ฝ่ายตรงข้ามถึงกับต้องเสียชีวิตไป
“อาชีพอื่นก็แข็งแกร่ง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผู้ใช้” เฉินโม่ที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะกล่าวคำทักท้วงขึ้น “อันที่จริงข้าอยากกล่าวมานานแล้ว น้องหญิง เจ้าไม่เหมาะจะเล่นกลอรี่สักเท่าไหร่”
เพื่อให้ได้รับประสบการณ์เกมก่อนจะตัดสินใจ เฉินโม่กล่าวคำที่คิดไว้อยู่นานแล้วออกมา
เฉินอี้อี้ชะงักพร้อมหันมองอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน สีหน้าของนางเจื่อนลง “พี่กำลังบอกว่าข้าเล่นกลอรี่ก็เหมือนไม่เล่น?”
เฉินโม่หันศีรษะหนีไม่มองตา “ไม่ใช่ เพียงแต่กล่าวว่าเจ้าไม่เหมาะกับการต่อสู้”
“นั่นก็เหมือนบอกว่าข้าเล่นก็เหมือนไม่เล่นนั่นแหละ!” เฉินอี้อี้เกิดโกรธเคืองขึ้นมา
เฉินโม่ตอนนี้ได้แต่ต้องเกาศีรษะและถอนหายใจอย่างอับจน
ผู้คนยังคงเดินทางมาเยือนร้านอย่างต่อเนื่อง
ยิ่งเวลาผ่านไป จำนวนลูกค้าก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ทางด้านปู้หลี่เกื๋อที่กำลังเล่นกลอรี่อยู่ก็ได้รับความนิยมถูกยืนมุงดู
แม้ว่าเมื่อคืนเหล่าราชวงศ์สัตว์อสูรพูดคุยกันไปไม่ใช่น้อย แต่ได้เห็นตัวละครใหม่กับตาตนเองก็ถือเป็นการเปิดหูเปิดตาได้ดีกว่า
ชานมเพิ่งเปิดขายได้ไม่นาน ตัวละครใหม่ของกลอรี่ก็ตามมาสมทบ ร้านต้นตำรับเพียงเริ่มเวลาทำการไม่นานก็คึกคักอย่างเต็มที่
ไม่ว่าด้านไหนก็ได้รับความนิยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ทางด้านลั่วฉวนตอนนี้เงยหน้าขึ้นมารับชมภายในร้าน ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจเขาอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ
ไม่ทราบเลยว่าหากมีสินค้าเป็นตัวละครของกลอรี่จะเป็นยังไง
จากสถานการณ์ปัจจุบัน น่าจะได้กระตุ้นยอดขายได้ดีไม่ใช่น้อย
แต่นั่นก็มีปัญหาอยู่บ้าง
ช่างมัน เอาไว้ว่ากล่าวภายหลังก็แล้วกัน
เขากลับมาพิมพ์งานต่อ
ขณะเวลาผันผ่านไป แม้ท้องฟ้ายังคงมืดมน แต่ช่วงเช้าเช่นนี้ก็ไม่ใช่ว่าไร้ซึ่งแสงจนมืดมิด
ณ ลานกว้างที่มีสายฝนร่วงหล่นโปรยปราย เสียงหยาดน้ำฝนตกกระทบกับพื้นก่อนจะเบ่งบานออกเป็นวงน้ำ ทั้งหมดเป็นภาพที่ชวนให้รับชม
“หัวหน้า วันนี้พวกเราไปร้านต้นตำรับกันไหม?” หนึ่งในสมาชิกหน่วยกล่าวถามพร้อมมองท้องฟ้าภายนอก
“วันนี้ยังไม่ไป” โจวหู่ส่ายศีรษะ ความตื่นเต้นที่ร้านต้นตำรับเปิดขายชานมซึ่งสามารถเสริมศักยภาพเมื่อวันก่อนได้สงบลงไปมากแล้ว
ชานมหนึ่งแก้วสิบผลึกวิญญาณสามารถช่วยเสริมศักยภาพ แต่ในแง่ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ มันยังห่างไกลจากน้ำแร่ที่ทำให้เห็นผลทันตา
ชานมจำเป็นต้องใช้เวลายาวนานสะสม เพียงแค่ไม่กี่วันยากจะเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น
“วันนี้ไปเทือกเขาจิ่วเหยากัน ดูว่าจะได้รับอะไรกลับมาบ้าง” โจวหู่มีแผนการอยู่ก่อนแล้ว
“หัวหน้า ข้าคิดว่าระหว่างออกล่าพวกเราเปิดถ่ายทอดสดไปด้วยน่าจะดี” หนึ่งในสมาชิกหน่วยเสนอความเห็น
“ถ่ายทอดสดผ่านแอพ?” โจวหู่ชะงัก จากนั้นเขาจึงครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้า “ได้ แต่ไม่ทราบเลยว่าจะมีคนรับชมมากน้อยเพียงใด”
ลั่วฉวนวางโทรศัพท์วิเศษลง
จากนั้นจึงโอนเอนคอไปมาเป็นการยืดเส้น
เขาลุกขึ้นไปหยิบเอาขวดโคล่าจากชั้นวางสินค้า
เอิ๊ก
แก๊สในกระเพาะเยอะเกินไปจึงเรอออกมา
หลังดื่มไปอึกใหญ่เรียกความสดชื่น จิตวิญญาณเขาราวกับได้รับการชำระล้าง
“เถ้าแก่”
เสียงเรียกอารมณ์ดีดังปรากฏ เว่ยฉิงจู่เผยยิ้มแย้มเดินเข้ามาภายในร้าน
สายลมอบอุ่นภายในร้านพัดผ่านเข้าหาตัวนางช่วยขับไล่ความชื้นที่เกาะจากภายนอกร้าน
“มีอะไรหรือ?” ลั่วฉวนวางขวดโคล่าลงกับโต๊ะพร้อมกล่าวถาม
เหยาซือหยานอยู่ด้านข้าง ตอนนี้ได้ยินคำของเว่ยฉิงจู่จึงหันมองมาด้วยความสงสัย
“เถ้าแก่เคยแนะนำให้ข้าเขียนผลงานลงแอพนักอ่านใช่ไหม?” เว่ยฉิงจู่เผยอารมณ์ค่อนข้างดี
“ใช่ เป็นยังไงบ้าง?” ลั่วฉวนพอจะคาดเดาผลลัพธ์ได้แล้ว
“มีหลายคนช่วยย้ำเตือนข้าผ่านความคิดเห็น และส่วนใหญ่ชอบที่ข้าเขียนนะ” เว่ยฉิงจู่กล่าวบอก
“ตอนนี้เขียนผลงานของตัวเองขึ้นมาแล้ว? ชื่อว่าอะไรกัน?” เหยาซือหยานเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“บันทึกทหารรับจ้าง” เว่ยฉิงจู่ตอบกลับมา
“จากประสบการณ์ของเจ้าเองหรือ?” เหยาซือหยานกล่าวถาม
“ประสบการณ์ส่วนตัวก็ส่วนหนึ่ง ยังมีอีกหลายส่วนที่ปรับแต่งไปบ้าง” เว่ยฉิงจู่ไม่คิดปิดบัง “เป็นโลกที่แตกต่างไปจากทวีปเทียนหลันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่ามีพลังเหนือธรรมชาติเหมือนกัน แต่ก็ค่อนข้างด้อยกว่าของทวีปเทียนหลัน”
ตั้งแต่ที่ลั่วฉวนนำเสนอผลงานนิยาย โลกหล้ามุมมองของลูกค้าทั้งหลายก็เริ่มแปรเปลี่ยนไป โลกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง สำหรับพวกเขาตอนนี้ถือว่ายอมรับกันได้แล้ว
“ไว้ข้าไปลองอ่านดูบ้าง” เหยาซือหยานพยักหน้ารับ “เผื่อจะได้แรงบันดาลใจอะไรมาปรับใช้”
“งั้นก็วิเศษแล้ว” เว่ยฉิงจู่ยิ้มตอบก่อนจะมองทางลั่วฉวน “เถ้าแก่ลองรับชมดูไหม?”
นางคาดหวังจะได้รับการประเมินจากลั่วฉวน ไม่ว่าจะทั้งเชิงบวกหรือเชิงลบก็คาดหวัง
“แน่นอน” ลั่วฉวนตอบรับ “ไว้เดี๋ยวหาโอกาสไปอ่าน”
หลังสนทนากันอยู่ไม่กี่นาที เว่ยฉิงจู่ก็ขอตัวแยกออกไป
ลั่วฉวนได้ทราบจากปากคำของนาง ว่าซ่งฉิวหยิ่งและหลินว่านฉวงต่างก็ได้รับอิทธิพลด้านนี้ เขาจึงวางแผนคิดไปลองอ่านดู
ลั่วฉวนตอนนี้ค่อนข้างอารมณ์ดี เพราะอย่างน้อยก็ได้บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ที่น่าจะเป็นกำลังหลักของแอพนักอ่านในภายหน้าได้แล้ว
จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์วิเศษขึ้นมาเตรียมเปิดอ่าน
ก่อนอื่นคือการสำรวจเทียบอันดับ
หน้าปกมังกรดำยังคงยึดครองตำแหน่งบนสุดอย่างเหนียวแน่น เรื่องนี้ถือว่าอยู่ในคาดการณ์
ถัดจากนั้นเขาจึงเริ่มมองหาผลงานของเว่ยฉิงจู่ “บันทึกทหารรับจ้าง”
หลังทำการค้นหา หน้าผลงานดังกล่าวจึงปรากฏบนหน้าจอ
หน้าปกเป็นภาพที่ถ่ายโดยใช้โทรศัพท์วิเศษ น่าจะเป็นสถานที่สักแห่งในป่าลึกมีสายลมเย็นพัดโชยที่หายไปในห้วงลึกของป่าอันมืดมิด
เริ่มการอ่าน
“ทหารรับจ้างเป็นอาชีพที่เก่าแก่และมีอยู่มาอย่างยาวนาน ด้วยเพราะเป็นคนมนุษย์ธรรมดา พวกเขาจะรวมกลุ่มเข้าด้วยกันเพื่อตอบรับคำจ้างวานงานของผู้ว่าจ้าง เมื่อทำสำเร็จจึงได้รับค่าตอบแทน ข้าเป็นหนึ่งในพวกเขาเหล่านั้น
เพราะยึดถืออาชีพทหารรับจ้าง หลากหลายอย่างที่แปลกประหลาดข้าจึงได้พบเจอ บางอย่างก็อาจเกินกว่าที่คนทั่วไปจะคาดคิดได้ถึง เหล่านั้นยากอธิบายให้เป็นคำสั้นกระชับได้
หลังผ่านเวลานานหลายปี ภาพฉากมากมายก็ยังคงตกค้างเป็นผลึกในความทรงจำข้า ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน…”
“ท้องฟ้าใสกระจ่าง แสงแดดร้อนแรงสาดส่องสู่พื้นแผ่นดิน ดวงตาข้าค่อนข้างแห้งภายใต้ความร้อนแรง ใบไม้ตามต้นไม้รอบด้านยังคล้ายจะห่อเหี่ยว ราวกับพวกมันไม่อาจทนต่อความร้อนเผาไหม้เช่นนี้ได้ไหว
วันนี้หน่วยของพวกเราได้รับคำจ้างวานที่แปลกประหลาด นั่นก็คือการไปสืบสวนภูเขาสุสาน ไม่ทราบว่ามันมีอะไรรออยู่ หัวหน้าหน่วยก็ไม่ได้บอกต่อพวกเรา เพียงแต่ทราบว่าค่าจ้างวานสูงล้ำ
แม้กระนั้นภารกิจนี้พวกเราก็พยายามทักท้วงแล้ว ชื่ออันชวนสะพรึงของสุสานเทือกเขาเซียนแทบจะเป็นตราประทับในใจผู้คน แม้เป็นสัตว์ในป่าและภูเขาหากเข้าไปยังยากกลับมาได้
แต่กลิ่นของเงินตรานั้นหอมหวานและชวนสะพรึง หากมากพอมันจะสะกดข่มความยั้งคิดเอาไว้ได้ ด้วยจำนวนค่าจ้างที่มากกว่าปกติหลายสิบเท่า หัวหน้าหน่วยเกิดต้องตาต้องใจจนตกลงรับภารกิจนี้มา…”