God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1052
ตอนที่ 1052
ค่ำคืนนี้ไร้ซึ่งความฝัน
วันถัดมาช่วงเช้าตรู่
ลั่วฉวนได้ส่งห้าตัวละครใหม่เข้าสู่กลอรี่
ระหว่างถือโทรศัพท์วิเศษเล่นอยู่ เสียงของเหยาฮุยเฉินก็ดังออกมาจากตัวโทรศัพท์วิเศษ
“…ดังที่ได้เห็น ใบไม้สีเขียวทั้งห้าที่ปรากฏในมือข้านี้คือสภาวะอันสมบูรณ์แบบ ห้าใบไม้ที่สีแตกต่างกัน รวมถึงลวดลายดอกไม้จะปรากฏที่ตรงกลางขอใบไม้…”
เหยาฮุยเฉินที่ปรากฏบนหน้าจอกำลังถือสมุนไพรยาหน้าตาแปลกประหลาด ขนาดนั้นราวแขนขนาดเล็ก เป็นห้าใบไม้ที่สีสันอ่อนเข้มไม่เท่ากัน ที่ตรงกลางของใบจะปรากฏลวดลายกิ่งก้านพร้อมดอกไม้ตูมสีเขียวปรากฏ และรอบตัวมันยังมีแสงอ่อนจางประดับอย่างงดงาม
วิดีโอที่สองของ “โถงเล่าเรียนแห่งหุบเขาโอสถ” ยังคงได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งหลาย ข้อความแชทสดมากมายจะปรากฏคำว่า “ทราบแล้ว” ประหนึ่งอยู่ในชั้นเรียน
ด้วยผลผลิตที่มากขึ้น รวมถึงคุณภาพที่ดี หุบเขาโอสถภายใต้การนำของเหยาฮุยเฉินกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ที่เป็นแนวหน้า
“เถ้าแก่ รับชมอะไรอยู่หรือ?” เหยาซือหยานนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามก่อนจะกล่าวถาม
“วิดีโอของหุบเขาโอสถ” ลั่วฉวนตอบกลับ
“ของหุบเขาโอสถ? ใช่โถงเล่าเรียนแห่งหุบเขาโอสถหรือเปล่านะ?” เหยาซือหยานค่อนข้างมีความประทับใจอันดีต่อวิดีโอที่เหยาฮุยเฉินทำการอัพโหลด
“ใช่” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ
“จำได้ว่านี่เพิ่งผ่านไปสองวันนับตั้งแต่วิดีโอก่อนหน้านี้เองนี่? จัดทำออกมาได้รวดเร็วไม่น้อย” เหยาซือหยานเผยความเห็น
“ยังไงแล้วก็เป็นการรวมกำลังกันของทั้งหุบเขาโอสถจัดทำขึ้น” ในความเห็นของลั่วฉวน หากเป็นทีมจัดทำวิดีโอ ความเร็วเช่นนี้ถือว่าเข้าใจได้
“นั่นก็จริง” เหยาซือหยานพยักหน้ารับ
หลังทานมื้อเช้าเรียบร้อย เวลาทำการของร้านต้นตำรับก็เริ่มขึ้น ปู้หลี่เกื๋อและปู้ฉืออีแทบจะเดินเข้ามาทันทีที่ถึงเวลา
สถาบันวิญญาณเมฆากำลังปรับเปลี่ยนหลักสูตรการสอนศิษย์ ช่วงนี้ปู้ฉืออีจึงไม่ค่อยได้มาร้านพร้อมปู้หลี่เกื๋อทุกวัน
“เถ้าแก่ ตัวละครใหม่ในกลอรี่เปิดให้เล่นหรือยัง?” ปู้หลี่เกื๋อและปู้ฉืออีเดินมาจนถึงหน้าโต๊ะรับเงิน ปู้หลี่เกื๋อเผยอาการตื่นเต้นจนถึงที่สุด “เมื่อคืนข้าควรลาพักเรียนกับอาจารย์ ทำเอาข้าพลาดโอกาสได้เห็นตัวละครในกลอรี่ปรากฏตรงหน้าในโลกความเป็นจริงเสียได้ แค่คิดก็เสียดายแทบตายแล้ว”
เหล่าสัตว์อสูรราชวงศ์เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ส่งข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการพากย์เสียงออกไปในกลุ่มแชทและโพสต์ ลูกค้าทั้งหลายถึงกับเกิดนึกอิจฉากันขึ้นมาอย่างถ้วนหน้า
“ทั้งห้าตัวละคร เข้ากลอรี่ไปเลือกเอาได้เลย” ลั่วฉวนตอบกลับ ตัวเขาตอนนี้กำลังพิมพ์งานผ่านโทรศัพท์วิเศษอยู่
“เถ้าแก่เขียนนิยายอยู่หรือ?” ปู้ฉืออีตระหนักเห็น “หาได้ยาก วันนี้มีตอนพิเสษได้ไหม? วันละตอนข้าว่ามันน้อยเกินไปน่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องเดิม แต่เป็นเรื่องใหม่” ลั่วฉวนไม่เงยหน้าขึ้นตอบ ดวงตานั้นยังคงจับจ้องที่หน้าจอโทรศัพท์วิเศษ
หลังเงียบงันไปครู่ ทั้งปู้ฉืออีและปู้หลี่เกื๋อต่างเผยเสียงอุทานร้องดังออกมา
“ผลงานใหม่? เป็นอะไรกัน?” ดวงตาปู้หลี่เกื๋อแทบเกิดประกายไฟแห่งความอยากรู้
ลั่วฉวนส่ายศีรษะปฏิเสธที่จะตอบ ความหมายนั้นกระจ่างชัด
ปู้ฉืออีค่อยสงบใจลงก่อนจะหันไปทางเหยาซือหยาน “พี่ซือหยานก็ด้วย พิมพ์อะไรอยู่หรือ?”
“เรื่องราว” เหยาซือหยานตอบรับ
“เรื่องราวอะไรกัน?” ปู้ฉืออียังคงสงสัย
“กลอรี่ เถ้าแก่นำเสนอตัวละครใหม่ ผลงานของข้าเองก็ต้องปรับรับให้เหมาะสมด้วย” เหยาซือหยานเผยยิ้มตอบ
“เป็นเช่นนี้นี่เอง” ปู้ฉืออีพยักหน้ารับ จากนั้นจึงถามต่อ “แล้วเมื่อใดท่านพร้อมนำผลงานให้อ่านในแอพนักอ่านกัน?”
ตั้งแต่ที่ได้ทราบว่าลูกค้าทุกคนสามารถนำเสนอผลงานของตัวเองผ่านแอพนักอ่านได้ ตอนนี้ก็มีหลากหลายผลงานปรากฏขึ้นในทุกวัน
“หลังผ่านไปอีกสักพักหนึ่ง ต้องเขียนโครงเรื่องให้มากกว่านี้ก่อน จากนั้นค่อยนำมาลงรายละเอียดปรับแก้ไปทีละน้อย” เหยาซือหยานกล่าวตอบ
ปู้หลี่เกื๋อคล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ ตอนนี้จึงเผยสีหน้าประหลาดออกมา “เถ้าแก่เขียนผลงานใหม่ แล้วผลงานเก่าจะไม่มีต่อแล้ว?”
ไม่ใช่” ลั่วฉวนเงยหน้าขึ้นมองปู้หลี่เกื๋อ เขาทราบว่าอีกฝ่ายกังวลอะไร
“งั้นก็ดีแล้ว” ปู้หลี่เกื๋อถอนหายใจโล่งอก
แม้คาดหวังในตัวละครใหม่ของกลอรี่ แต่เพราะมีคนไม่มากพอให้เริ่มเกม ตอนนี้จึงไปซื้อสินค้าอื่นระหว่างรอคนอื่นมาถึงจะได้พร้อมเล่น
เหมือนว่าหลายคนจะมีความคิดเดียวกับปู้หลี่เกื๋อ ไม่ช้าลูกค้าทั้งหลายก็เริ่มมากันถึงร้านคนแล้วคนเล่า แม้การต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พวกเขายังไม่รอให้ครบสามนาทีหลังใส่น้ำร้อนก็ทานกันเข้าไปแล้ว
เอเลน่าเดินออกจากประตูแสง ก่อนนางจะทราบว่าอะไรเป็นไร ตอนนี้ก็โดนลากไปนั่งตรงเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงพร้อมถูกใส่หมวกให้เรียบร้อย
“เอ่อ… นี่คิดทำอะไรกันน่ะ?” ไซเรนสาวหันมองรอบด้วยความสงสัย นางยังไม่เข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนี้คืออะไร
“ก็ต้องเป็นกลอรี่อยู่แล้วไงล่ะ รวมเจ้าด้วยมีครบสิบคนพอดีเลย” กู่หยุนซีนั่งลงด้านข้างนางพร้อมตอบคำถามของเอเลน่า
ด้วยฐานะลูกค้าผู้ภักดีต่อร้านต้นตำรับ กู่หยุนซีจึงลากเจียงเหวิ่นฉางมาถึงร้านแต่เช้าตรู่
“จำนวนคนครบถ้วน เริ่มกันได้เลย” ปู้หลี่เกื๋อไม่รอบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแล้ว ตอนนี้จึงมุ่งตรงไปนั่งที่เครื่องเล่นเกมเสมือนจริงพร้อมเข้าเล่น
เมื่อมาถึงห้องเลือกตัวละครอันคุ้นเคย เสียงอันตระการดังปรากฏขึ้น แม้ได้ฟังหลายครั้งแล้วก็ยังต้องนึกทึ่งอยู่ดี
ม่านแสงเลือกตัวละครปรากฏตรงกลางห้อง ตัวละครของกลอรี่จะยืนเป็นเงาอยู่ด้านหลังอย่างเงียบงันเพื่อรอคอยการเริ่มศึก
“สิบห้าตัวละคร มีเพิ่มขึ้นมาให้เลือกอีกตั้งห้าแน่ะ!” เจียงเหวิ่นฉางเผยอาการตื่นเต้น
“เลือกกันดีกว่า” ปู้หลี่เกื๋อกำลังตื่นเต้น เขาแทบไม่อาจรอได้ไหวอีกต่อไป
สายตาเขามองไปยังตัวละครตรงมุมหนึ่ง เป็นร่างในชุดเกราะสีดำ ถือดาบหัก และสวมใส่หน้ากากประหลาด
เขารู้สึกได้ว่าดวงตาที่อยู่ตรงกลางหน้ากากกำลังจ้องมองมาที่ตนเอง!
ทั้งตัวละครถูกรายล้อมไว้ด้วยออร่าอันประหลาดที่ไม่ทราบว่าคืออะไร
“ข้าคือผู้บัญชาแห่งอัคคี!”
เสียงตอบรับประหนึ่งคำรามดังปรากฏ อสูรเพลิงเซารอนบนหน้าจอคล้ายมีชีวิตขึ้นมาครู่หนึ่งพร้อมอัคคีเพลิงที่พวยพุ่ง
“ตกใจหมด?!” เจียงเหวิ่นฉางเผยอาการตื่นตกใจ เพราะการตอบสนองเช่นนี้ไม่เคยมีในเกมมาก่อน
“จงสดับฟังเสียงกระซิบแห่งโลก”
“ความผิดของผู้คนต้องถูกชำระล้าง!”
“ข้าคือผู้มาจากความเป็นนิรันดร์และมีชีวิตอมตะ!”
ขณะแต่ละคนเลือกตัวละคร เสียงที่แตกต่างกันออกไปก็เริ่มดังปรากฏขึ้นมา
แม้ว่าเหมือนไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงใหญ่โต แต่ก็มากพอให้ลูกค้าทั้งหลายตื่นเต้นยินดีกันได้
ปู้หลี่เกื๋อเพ่งสมาธิ ผ่อนลมหายใจ จากนั้นจึงเลือกตัวละครใหม่
“ความมืดมาเยือน”
เสียงอันราบเรียบที่ไม่ได้มีการขึ้นลงของเสียงแต่อย่างใด แต่มันมากพอแสดงถึงความลุ่มลึก จิตสังหารอันไร้ขอบเขต มันราวกับมาจากก้นบึ้ง
ลวดลายดวงตาบนหน้ากากสีดำคล้ายเบ่งบานออกเป็นสีแดงชาด ดาบหักในมือเริ่มเผยไอหมอกสีดำ
ภาพเริ่มปรากฏในใจของปู้หลี่เกื๋อ เป็นคนผู้หนึ่งที่ถือดาบมือเดียวกำลังเดินเดียวดายบนทุ่งน้ำแข็งอันไร้ขอบเขต…
“เลือกกันได้ครบแล้ว เริ่มกันได้เลย” ปู้ฉืออีกล่าวคำดังขึ้นมา
สภาพรอบด้านแปรเปลี่ยน เกมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว