God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1050
ตอนที่ 1050
ในช่วงบ่าย ร้านต้นตำรับก็ยังคงเปิดทำการตามปกติ
ตลอดทั้งช่วงบ่ายก็เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรโดดเด่นควรให้กล่าวถึง
ลั่วฉวนทั้งนอนงีบกลางวัน เขียนนิยาย เล่นโทรศัพท์วิเศษ จนสุดท้ายเวลาทำการของร้านช่วงบ่ายค่อยหมดลง
ระหว่างนี้เขาก็คิดถึงการพากย์บทบาทกลอรี่ไปด้วยว่าจะมีบทพูดใดบ้าง
“เช่นนั้นเถ้าแก่ พวกเราไปก่อน ไว้พบกันใหม่” อวี่เว่ยกล่าวลากับลั่วฉวน
“ไว้พบกันคืนนี้” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ
ลูกค้าเริ่มกลับไปคนแล้วคนเล่า พวกเขาหายไปท่ามกลางสายฝนยามราตรีภายนอกร้าน
“เถ้าแก่ เมื่อครู่พูดถึงเรื่องอะไรกันหรือ?” ปู้หลี่เกื๋อเผยความสงสัยรุดเข้ามาสอบถาม ดวงตาสีดำขลับนั้นราวกับเผยประกายใคร่อยากได้ทราบ
“บทบาทใหม่ของกลอรี่จะเปิดให้เล่นในวันพรุ่งนี้ แต่มีบางส่วนที่ต้องจัดการให้เสร็จเสียก่อน” ลั่วฉวนกล่าวบอก
ลูกค้าหลายคนต่างทราบเรื่องกลอรี่กำลังจะมีบทบาทใหม่ให้เล่น ดังนั้นเรื่องนี้ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังแต่อย่างใด
“เรื่องนี้นี่เอง” ปู้หลี่เกื๋อพยักหน้ารับ “คราวนี้มีตัวละครเพิ่มเข้ามาเท่าไหร่กัน?”
“ห้า” ลั่วฉวนตอบกลับ
“มากมายขนาดนั้น?” ปู้หลี่เกื๋อเกิดประหลาดใจพร้อมเผยสายตาคาดหวัง “เถ้าแก่ ให้ข้าอยู่ช่วยอะไรไหม?”
ช่วย? หรือว่าทำเพื่อคลายข้อสงสัยตัวเจ้ากันแน่?
“ไม่ใช่ว่ามีเรียนกับหยวนก่วยต่อหรอกหรือ?” ลั่วฉวนตอบรับด้วยอาการสงบ
ปู้หลี่เกื๋อชะงัก จากนั้นจึงถอนหายใจ “ข้าเกือบลืม เช่นนั้นขอตัวก่อน”
หลังกล่าวล่ำลาเรียบร้อย เขาจึงฝ่าสายฝนเดินออกไปยังร้านหยวนก่วยที่อยู่ไม่ไกลเพื่อเล่าเรียน
เมื่อลูกค้าในร้านกลับกันไปหมดแล้ว อีกหนึ่งวันทำการของร้านต้นตำรับก็จบลงไป
หลังรอคอยอยู่ครู่หนึ่ง เหยาซือหยานจึงเริ่มไปเตรียมมื้อเย็น
“เถ้าแก่ เตรียมการถึงไหนแล้ว” เหยาซือหยานสอบถามไปเรื่อยระหว่างทานอาหาร
“ก็เกือบครบแล้ว” ลั่วฉวนตอบกลับ “แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาด้วยละนะ”
จากปากคำของลั่วฉวน งานพากย์เสียงจะเป็นเหล่าราชวงศ์สัตว์อสูรรับกันไปเต็มที่
อย่างไรแล้วบทบาททั้งหมด ตัวตน และความแข็งแกร่งในกลอรี่ก็แตกต่างกันไปคนละด้าน ดังนั้นนักพากย์เสียงจะต้องเข้าใจถึงนิสัยตัวละครและกล่าวบทพากย์ออกมาให้เหมาะสม
กระนั้นลั่วฉวนเชื่อมั่น ว่าเหล่าราชวงศ์สัตว์อสูรที่แม้ไม่เคยทำงานพากย์เสียงมาก่อน พวกเขาจะทำงานนี้สำเร็จอย่างมีคุณภาพแน่นอน
“ลองไหม?” ลั่วฉวนเกิดนึกอะไรขึ้นได้
“ข้าหรือ?” เหยาซือหยานชะงัก
“ใช่” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ “ข้าคิดว่านักบุญแห่งแสงน่าจะเหมาะนะ”
นักบุญแห่งแสงโรแลนด์เป็นหนึ่งในตัวละครของกลอรี่ ภาพลักษณ์คือหญิงสาวที่ถือพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาสีม่วงราวผลึกแก้ว เส้นผมก็ยาวพลิ้วไหวเป็นสีม่วงงดงาม
ครั้งลั่วฉวนสร้างตัวละครนี้ขึ้น เขามีแหล่งอ้างอิงเป็นเหยาซือหยาน
เหยาซือหยานคล้ายลังเล ทว่าสุดท้ายก็พยักหน้าตอบรับ
ในกลอรี่ยังมีบทบาทของชาวไซเรน ดังนั้นครั้งนี้จึงมีชาวไซเรนเข้าร่วมด้วย
ลั่วฉวนนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาส่งข้อความออกไป
นครไซเรน
เสียงร้องอันไพเราะของเหล่าไซเรนดังปรากฏขึ้นขับขานเป็นบทเพลง นี่เป็นเสียงของพวกนางที่ร้องไประหว่างเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด
“เถ้าแก่ส่งข้อความมา?” ยี่ลาที่กำลังเล่นไพ่อยู่ตระหนักถึงโทรศัพท์วิเศษที่ปรากฏการแจ้งเตือน
หลังนำออกมารับชมหน้าจอ นางถึงกับต้องเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา
“มีอะไรหรือ?” อีกหนึ่งไซเรนที่ร่วมวงเล่นไพ่กล่าวถาม
“เถ้าแก่ขอให้ข้าไปพากย์เสียง” ยี่ลากล่าวตอบ
“พากย์เสียง?” ไซเรนผู้อื่นเผยความฉงนใจ
“ตอนเลือกเล่นตัวละครในกลอรี่ พวกเขาจะมีเสียงพูดตอบรับออกมา” ยี่ลาอธิบาย
“น่าสนใจ”
“ข้าจำได้ว่าในกลอรี่มีตัวละครไซเรนอยู่ใช่ไหม? ถ้าข้าเข้าไปเล่นแล้วเลือกตัวนางก็จะได้ยินเสียงของยี่ลา?”
“ไปเถอะ เถ้าแก่น่าจะรออยู่เป็นแน่…”
“งั้นข้าขอตัวก่อน” ยี่ลาเผยยิ้มตอบก่อนจะมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสกลางนครไซเรน
เมื่อผ่านประตูแสงไป ยี่ลาจึงปรากฏตัวในร่างครึ่งงู พอมาถึงร้านต้นตำรับนางก็พบลั่วฉวนกับเหยาซือหยานที่อยู่ในร้าน
“รอคนอื่นที่เหลือมาก่อน” ลั่วฉวนกล่าวบอก
“ทราบแล้ว” ยี่ลาพยักหน้าตอบรับ
รอคอยไม่นาน น่าจะราวไม่กี่นาที เสียงพูดคุยก็ดังปรากฏจากภายนอกร้าน
แม้ว่าฝนตก เสียงของหู่ขวงก็ยังคงได้ยินดังชัด
เหล่าราชวงศ์สัตว์อสูรร่วมยี่สิบมาถึงร้านต้นตำรับ พิจารณาจากสีหน้าตื่นเต้นของพวกเขาแล้วคงคาดหวังกับงานครั้งนี้ไม่ใช่น้อย
“เถ้าแก่ พวกเรามากันยี่สิบหกคน น่าจะพอกระมัง?” เหยาซือเย่ว์เผยยิ้ม
“พอ” ลั่วฉวนพยักหน้าตอบก่อนจะลุกขึ้น “ในเมื่อมากันพร้อมแล้วก็อย่าได้เสียเวลา ทางนี้เลย”
ภายใต้ลั่วฉวนออกนำ ทุกคนในร้านจึงมุ่งตรงไปยังมิติขายอาวุธ
เพราะที่นั่นไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงก้องสะท้อนภายในร้านยามบันทึกเสียง ทั้งยังเงียบสงัด
“งานที่ต้องทำไม่ยาก ทุกคนเพียงแค่กล่าวบทพูดออกมา” ลั่วฉวนสำรวจมองรอบก่อนจะหยุดที่หู่ขวง “หู่ขวง เจ้าก่อนเลย”
“หือ ข้าก่อนหรือ?” หู่ขวงเผยดวงตาเบิกกว้างประหลาดใจ ผู้อื่นตอนนี้ผลักเขาออกมาด้านหน้า ซึ่งก็ไม่ทราบว่าใครผลัก ตอนนี้เขาทำได้เพียงแต่ก้าวออกไปต่อแล้ว
เขาถึงกับต้องหันหลังมองหา “มือดี” ที่ผลักตนออกมา ที่ได้รับตอบกลับจากกลุ่มคนทางด้านหลังคือรอยยิ้ม
“หู่ขวง เหมือนเจ้ารอแทบไม่ไหวเลยงั้นสิ” เหยาซือหยานเผยยิ้ม
“ข้าหรือรอไม่ไหว?” หู่ขวงบ่นอุบอิบ เขาทราบว่าตอนนี้ลังเลไปก็ไม่ได้อะไร ตอนนี้มีแต่ต้องออกนำแล้ว “เถ้าแก่ คิดว่าข้าเหมาะสมกับบทบาทใดกัน?”
“กู่หลงเอ๋า” ลั่วฉวนคิดไปครู่ก่อนจะเผยคำตอบ
“เถ้าแก่ก็คิดเห็นเช่นเดียวกันนี้งั้นหรือนี่” หู่ขวงถอนหายใจ “งั้นเริ่มกันเลยไหม?”
“รอก่อน” ลั่วฉวนกล่าวบอก เขามีเรื่องต้องทำก่อนจะเริ่มพากย์
ยกตัวอย่างก็เช่นให้ตัวละครของกลอรี่ปรากฏออกมา
“ได้ยินเสียงประหลาดอะไรไหม?” อวี่เว่ยขมวดคิ้ว “เหมือนเสียงกรีดร้องของอากาศที่ถูกฉีกกระชาก”
“รับชมท้องฟ้า” หนึ่งในราชวงศ์สัตว์อสูรตระหนักถึงอะไรบางอย่าง ทว่าไม่ช้าก็ทราบว่าเลือกใช้คำผิด “ไม่สิ ที่นี่ไม่มีท้องฟ้า…”
ทุกคนไม่ได้ยินประโยคหลัง ทว่าสายตาหันมองทิศทางด้นบนกันทั้งสิ้น ความมืดยังคงเป็นสีดำสนิท แต่มันคล้ายจะมีจุดที่แตกต่างออกไป
ตอนแรกมันเป็นจุดประกายขนาดเล็กที่เคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว ไม่ช้าจึงเผยซึ่งร่างมังกรดำให้ทุกคนได้เห็น
ความเร็วการเคลื่อนตัวนั้นค่อนข้างสูง เสียงกรีดผ่านอากาศและมิติดังปรากฏให้ได้ยิน แต่เพียงไม่กี่วินาที ร่างมังกรที่เข้ามาใกล้กลุ่มคนทางด้านร่างก็เผยให้เห็นถึงเกล็ดสีดำเงางามพร้อมปีกที่กระพือ
ตู้ม!
เสียงดังสนั่นปรากฏพร้อมคลื่นอากาศอัดกระแทก ร่างมังกรดำนัยน์ตาสีทองปรากฏให้เห็นกันตรงหน้า
เป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบและน่าเกรงขาม
ไม่กี่วินาทีหลังความเงียบงัน เสียง “โอ้” ลากยาวจึงดังปรากฏตาม
กระทั่งมีเสียง “แชะ” ของการถ่ายภาพ เป็นยี่ลาที่เผยอาการตื่นเต้นนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาถ่ายภาพมังกรดำ