God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1046
ตอนที่ 1046
หลังทานอาหารเสร็จ ลั่วฉวนจึงหยิบโทรศัพท์วิเศษขึ้นมาเล่น
เมื่อครู่เหยาฮุยเฉินได้กล่าวก่อนกลับไป ว่าวิดีโอที่เคยกล่าวถึงได้อัพโหลดขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว
หลังผ่านมานาน สิ่งที่ผู้คนรอคอยกำลังจะได้รับชมกันแล้ว
ส่วนคุณภาพว่าจะดีเพียงนี้ เรื่องนี้ยังไม่ทราบ
เมื่อเปิดแอพวิดีโอขึ้นมา สิ่งแรกที่สำรวจมองคือเทียบอันดับ
วิดีโอที่อยู่แถวบนสุดทำเขาประหลาดใจ เพราะมันคือวิดีโอที่มีชื่อว่า “โถงเล่าเรียนแห่งหุบเขาโอสถ”
ภาพปกก่อนเข้ารับชมคือเตาหลอมเม็ดยาที่ทำขึ้นจากโลหะสีดำพร้อมอัคคีสีแดงชาดเผาไหม้อยู่ด้านล่าง มันสะท้อนย้อมเอารอบด้านกลับกลายเป็นสีแดง ด้านล่างเตาหลอมเม็ดยายังถูกเผาจากโลหะสีดำกลายเป็นแดงประกายขึ้นมา
เหยาฮุยเฉินเผยสีหน้าจริงจังในชุดเครื่องแบบสีขาวของหุบเขาโอสถ มือทั้งสองไพร่ไว้ด้านหลัง ท่าทีเคร่งขรึมที่เผยให้เห็นมันทำผู้รับชมเกิดความเคร่งเครียดจริงจังขึ้นมาได้
เพียงแรกรับชมก็ได้รับความประทับใจอันยอดเยี่ยม
วิดีโอมีส่วนประกอบหลายอย่าง เนื้อหานั้นสำคัญอยู่แล้ว แต่ยังมีชื่อ หน้าปก การเกริ่นนำ เหล่านี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญเพื่อให้เกิดความสำเร็จ วิดีโอของหุบเขาโอสถตระหนักทราบถึงเรื่อเหล่านี้เป็นอย่างดี
ด้วยความคาดหวังปรากฏขึ้นในใจ เขากดเข้าไปรับชม
ร่างของเหยาฮุยเฉินปรากฏขึ้น
มันไม่มีอะไรอย่างโลโก้เปิดวิดีโอ อย่างไรแล้วแอพวิดีโอก็เพิ่งเปิดใช้งานไม่นาน เรื่องนี้ค่อนข้างจะไกลตัวไปหน่อย
“หลังทำให้ทุกคนคาดหวังกันมายาวนาน ผ่านพ้นหลายวันวิดีโอที่เคยกล่าวถึงก็เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ส่วนชื่อนั้นหลังผ่านการหารือระหว่างสภาผู้อาวุโส พวกเราตัดสินใจตั้งชื่อว่า ‘โถงเล่าเรียนแห่งหุบเขาโอสถ’ ซึ่งเนื้อหานั้นจะแจ้งถึงรายละเอียดของยาวิเศษทั้งหลายให้ได้ทราบกัน”
ค่อนข้างน่าพึงพอใจ
ลั่วฉวนหยิบขนมใส่เข้าปากพลางรับชมต่อเนื่อง
“เถ้าแก่ดูอะไรอยู่หรือ?” เหยาซือหยานหันมองมาด้วยความสงสัย
“วิดีโอของหุบเขาโอสถ” ลั่วฉวนเผยหน้าจอโทรศัพท์วิเศษให้เห็น วิดีโอยังคงเล่นต่อเนื่อง
“เหมือนว่าจะเป็นเม็ดยารวมสมาธิ มันใช้เพื่อเร่งความเร็วการฝึกฝนได้” เหยาซือหยานตระหนักเห็นและกล่าวบอก
ตัวยาที่ปรากฏบนหน้าจอกลับกลายเป็นฝุ่นผง จากนั้นจึงแปรสภาพกลายเป็นเม็ดยาสีเข้มปรากฏในมือและเริ่มบอกเล่าถึงสรรพคุณของมัน
“…เม็ดยารวมสมาธิ ดังชื่อของมัน มันจะช่วยให้จิตเกิดความหนักแน่นขึ้น ผลลัพธ์คือเพิ่มความเร็วการฝึกฝน กล่าวโดยทั่วไปแล้วไม่เคยปรากฏผลข้างเคียง…”
การฝึกฝน สำหรับเขาแล้วถือเป็นคำที่ไม่ค่อยคุ้นเคยด้วย
อยู่ที่โลกนี้มาก็นาน ลั่วฉวนยังไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนตนเองเลยแม้แต่น้อย
พอได้ยินอะไรที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับตนเอง ความรู้สึกเบื่อก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดขึ้น
“สิ่งนี้ยังห่างไกลจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของร้านต้นตำรับ” เหยาซือเย่ว์กล่าวออกอย่างไม่คิดอะไรมาก “แต่เม็ดยานี้รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้ฝึกตน”
ถัดจากนั้นเหยาฮุยเฉินจึงเริ่มพูดกล่าวถึงการพิจารณาคุณภาพเม็ดยารวมสมาธิ จำนวนข้อความแชทสดตามเวลาของวิดีโอก็เพิ่มมากขึ้น เหมือนว่าประเด็นนี้จะไดรับความสนใจจากเหล่าลูกค้าพอสมควร
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่อาจคงสภาพเร่งการฝึกฝนยาวนาน นอกจากนี้แล้วยังซื้อได้แค่วันละครั้ง รวมถึงจำเป็นต้องใช้น้ำร้อนของร้านเพื่อต้ม
รวมทั้งสิ้นแล้วบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจึงคิดเป็นมูลค่าหนึ่งร้อยสิบผลึกวิญญาณจึงสามารถให้ผลลัพธ์ได้
ด้วยเพราะเป็นมูลค่าสูงล้ำ ลูกค้าทั่วไปก็ไม่ใช่ร่ำรวยเหมือนดังปู้หลี่เกื๋อ สำหรับพวกเขาแล้วเม็ดยารวมสมาธิถือว่าคุ้มค่าในการเลือกใช้จ่ายมากกว่า
เหยาฮุยเฉินเริ่มแจกจงรายละเอียดจนถึงขั้นตอนการหลอมสกัดเม็ดยา
แน่นอนว่าลั่วฉวนไม่เข้าใจแม้สักอย่าง
สุดท้ายจึงเป็นกระบวนการที่นักปรุงยาอาวุโสปรากฏตัวขึ้นเพื่อแสดงการสกัดเม็ดยารวมสมาธิให้รับชม ตรงนี้ค่อยได้รับความสนใจจากเขา เพราะมันเป็นสิ่งที่จะได้เห็นและรับชมถึงการสร้างเม็ดยา
“ข้าว่ามีอะไรผิดเพี้ยนไปหน่อย สกัดเม็ดยารวมสมาธิต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ?” อานเหวยหยามองที่โทรศัพท์วิเศษของเหยาซือเย่ว์ก่อนจะกล่าวคำออกมา
“คงเป็นการจงใจให้ดูน่าตื่นเต้นกระมัง?” หลังครุ่นคิด เหยาซือเย่ว์จึงเผยความเห็นออกมาอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
หลังรับชมวิดีโอเรียบร้อย ลั่วฉวนค่อยเปิดความคิดเห็นที่อยู่ด้านล่างขึ้นมาอ่าน
“เป็นอย่างนี้นี่เอง”
“เม็ดยารวมสมาธิน่าสนใจดีไม่น้อย ต้องเก็บไว้เป็นตัวเลือกบ้างแล้ว”
“ดูไปสามรอบแล้ว ชักคาดหวังกับวิดีโอถัดไปแล้วสิ”
“หลังรอคอยยาวนาน ไม่ทำให้พวกเราผิดหวังเลย”
“…”
ทั้งหมดล้วนเป็นการชื่นชม
ลั่วฉวนกดส่งรางวัลก่อนจะวางโทรศัพท์วิเศษลง
สิ่งสำคัญตอนนี้คือทานมื้อเย็นให้เรียบร้อยก่อน
เหยาซือหยาน เหยาซือเย่ว์ และอานเหวยหยาต่างพูดกล่าวต่อกันพลางหัวเราะ ทางด้านลั่วฉวนก็จะมีเข้าร่วมบทสนทนาบ้างเป็นครั้งคราว
ปิงชวงนั้นไม่มีใดเปลี่ยนแปลง นางเพียงนั่งทานเงียบงันไม่พูดกล่าวแม้ครึ่งคำ
หลายคนต่างคุ้นเคยกับนิสัยเช่นนี้ของนางแล้ว
“เถ้าแก่ ข้ามีความสงสัยเรื่องหนึ่งมาโดยตลอด” อานเหวยหยาหันมองทางลั่วฉวน ดวงตาสีทองคำนั้นราวเผยประกายออกมา
“สงสัยว่าอะไร?” ลั่วฉวนรับคำโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
เหยาซือหยานกับเหยาซือเย่ว์ต่างมองที่อานเหวยหยา
“ทำไมถึงเปิดร้านต้นตำรับ? ทำไมถึงอยากเป็นเถ้าแก่ร้าน?” อานเหวยหยาเผยข้อสงสัยที่ติดค้างในใจมาโดยตลอดกล่าวถามออกมา
ลั่วฉวนถึงกับชะงัก
เขาเองก็อดคิดตามคำถามทั้งสองนี้ไม่ได้เช่นกัน
คำถามแรกมีคำตอบแน่ชัด นั่นก็เพราะระบบกำหนดมา
และมันก็เหมือนจะตอบไปยังคำถามที่สองด้วย
แต่หลังครุ่นคิดให้ดีก็พบว่ามันมีความผิดแปลกอยู่
เพราะเหมือนว่าระบบจะไม่เคยบีบบังคับให้เขาอยู่ที่นี่ในฐานะเถ้าแก่แม้สักครั้ง
คำถามนี้คล้ายปักเข้ากลางใจ ลั่วฉวนไม่อาจหาคำตอบได้ในเวลาอันสั้น
“เถ้าแก่พยายามชักนำความก้าวหน้าทางอารยธรรมอยู่หรือ?” ก่อนลั่วฉวนจะตอบคำถาม อานเหวยหยาก็เผยข้อคาดเดาออกมา “มันก็มีความเป็นไปได้ แต่เถ้าแก่มักทำอะไรตามใจชอบ ดังนั้นจึงไม่น่าใช่ หรือบางทีเพราะความสนใจอยากทำ? งานอดิเรกของข้าแต่เดิมก็คงเหมือนเถ้าแก่ เปิดร้านและเป็นเถ้าแก่ร้านอันเรียบง่าย…”
คำของอานเหวยหยาเป็นผลให้ลั่วฉวนเกิดประหลาดใจขึ้นมา
เขาได้คำตอบแล้ว
“ไม่มีสาเหตุ” เขาส่ายศีรษะ “ก็แค่ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่มีสาเหตุอะไร”
ในโลกใบนี้ ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งจะมีสาเหตุไปเสียหมด
ทำแล้วสบายใจ เป็นเถ้าแก่แล้วสบายใจ ก็อาจมีเพียงเท่านี้
อานเหวยหยาชะงักไปก่อนจะหัวเราะตอบ “คำตอบนี้สมกับเป็นเถ้าแก่แล้ว”
“พี่หญิง ข้าคล้ายไม่เข้าใจว่าเถ้าแก่กล่าวถึงอะไร” เหยาซือเย่ว์กระซิบถาม
เหยาซือหยานยิ้มรับก่อนจะตักอาหารให้น้องสาว “หากเจ้าไม่เข้าใจ เช่นนั้นก็ปล่อยไป กินผักให้มากเข้าไว้”
“พี่หญิง นี่ท่าน…” เหยาซือเย่ว์นึกโกรธเคือง สุดท้ายนางก็ทำได้เพียงส่งผักเข้าปากไป
…..
เหยาฮุยเฉินตอนนี้กำลังอารมณ์ดี เขาแทบอดใจรอคอยไม่ไหวที่จะได้บ่มเหล้าซากุระ
ต้นซากุระของหมู่บ้านซากุระตอนนี้แทบจะโล้นเตียน เพราะโดนเด็ดใบและกิ่งเล็กออกจนเหี้ยน
อย่างไรแล้วลั่วฉวนก็กล่าวเอง ว่าต้นซากุระจะกลับคืนสมบูรณ์ในวันรุ่งขึ้น ดังนั้นเหยาฮุยเฉินจึงไม่คิดเกรงใจ
ในด้านนี้ต้องกล่าว ว่านิสัยเขาแตกต่างจากหยวนก่วยแทบจะสิ้นเชิง
ความผันแปรมิติปรากฏขึ้นใกล้เคียงค่ายอาคมเคลื่อนย้ายศูนย์กลาง เหยาฮุยเฉินเดินออกจากเส้นทางมิติชั่วคราว
เขากำลังมุ่งตรงไปยังค่ายอาคมเคลื่อนย้ายศูนย์กลางเพื่อใช้เดินทางกลับหุบเขาโอสถ