God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1043
ตอนที่ 1043
“เรื่องใหม่?” ดวงตาสีม่วงของเหยาซือหยานเผยความประหลาดใจ “ไม่ใช่ว่าคล้ายเหมือนที่ดำเนินเรื่องตอนนี้หรอกหรือเถ้าแก่?”
ได้ทราบจากลั่วฉวนว่ากำลังเตรียมผลงานใหม่ นางจึงเกิดความสนใจขึ้นมา
“กล่าวว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิงก็ได้” ลั่วฉวนกำลังเคี้ยวผักในปากพร้อมรับรู้ถึงสัมผัสกรอบสดใหม่ “ครั้งนี้ไม่มีพลังเหนือธรรมชาติ”
“เป็นโลก… ปกติทั่วไป?” เหยาซือหยานเผยเสียงเบาราวกล่าวกับตนเอง “โลกที่มนุษย์และตัวเอกคงอยู่?”
“ถูกต้อง” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ “พื้นเพค่อนข้างคลุมเครือ อาณาจักรทั้งหลายที่มนุษย์แต่ละฝ่ายปกครองต่างเริ่มเข้าแย่งชิงทรัพยากร สงครามเกิดขึ้นและคงอยู่ยาวนานหลายปี จนกระทั่งถึงวันหนึ่งที่มันสิ้นสุดลง”
“เป็นเรื่องราวอะไรกัน?” เหยาซือหยานกล่าวถาม
“เป็นเรื่องราวของการเติบโตและการเอาตัวรอด” ลั่วฉวนตระหนักเห็นเหยาซือหยานที่คิดถามต่อ แต่เขายังไม่คิดอยากเปิดเผยเนื้อเรื่องในตอนนี้มากนัก “ส่วนที่เหลือจะทราบตอนเปิดให้อ่าน”
“อืม… ทราบแล้ว” เหยาซือหยานพยักหน้ารับ “แต่ต้องถามเถ้าแก่อีกครั้ง ว่าทำไมถึงมีสงครามเป็นจุดร่วมของผลงานทั้งสองเรื่อง?”
ลั่วฉวนครุ่นคิดตาม “อืม… เพราะอารยธรรมจะดำเนินต่อไปได้ก็ต่อเมื่อมีแรงกระตุ้น”
ในช่วงบ่าย หากเทียบกับช่วงเช้า จำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการร้านค่อนข้างมากกว่า
ตลอดทั้งช่วงเช้าโนริเอลไม่ได้ซื้อชานม ทั้งที่นางมาถึงร้านตั้งแต่ช่วงเช้า แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เติมเต็มความต้องการ ดังนั้นตอนบ่ายนี้นางจึงเร่งรีบมา
“สรรพคุณไม่อาจเทียบกับน้ำแร่ แต่ด้านรสชาตินั้นชานมเหนือกว่าน้ำแร่มากมายนัก” หลังได้ดื่มชานมเข้าไปอึกหนึ่ง โนริเอลอดไม่ได้ที่จะเผยความเห็นออกมา
“แม้ว่ารู้สึกแปลกที่ได้ยินคำกล่าวเหล่านี้ แต่ก็เป็นเรื่องจริง” เหยาซือหยานค่อนข้างชอบสินค้าใหม่นี้ไม่ใช่น้อย ตอนนี้จึงไปนำมาแก้วหนึ่งสำหรับดื่มเอง
นางตอนนี้กำลังมองลั่วฉวนที่งีบหลับโดยใช้แขนเป็นหมอนหนุนศีรษะตนเอง
“เถ้าแก่เป็นเช่นนี้ทุกวันเลยหรือ?” โนริเอลมองตามสายตาเหยาซือหยานก่อนจะอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“ก็ไม่ใช่ทุกวัน” เหยาซือหยานยิ้มตอบรับ “บางครั้งเขาก็มีเรื่องต้องทำ”
“อันที่จริงข้าเกิดรู้สึกขึ้นมา ว่าชีวิตเช่นนี้เรียบง่ายดี” ยี่ลาเข้าร่วมวงสนทนา “และชาวไซเรนก็มักเป็นเช่นนี้”
หลังจากที่นครไซเรนเชื่อมต่อกับร้านต้นตำรับโดยประตูแสง ชาวไซเรนบ่อยครั้งจะมาเป็นแขกเยือนที่ร้านและในเมือง ความประทับใจของพวกนางที่มีต่อลั่วฉวนยามอยู่ร้านก็เหมือนดังลูกค้าทั้งหลาย นั่นก็เพราะชีวิตที่ค่อนข้างเรียบง่ายสุขสบาย
ความแตกต่างคือชาวไซเรนยังมีความคึกคักโดยธรรมชาติ บ่อยครั้งจะได้เห็นพวกนางออกไปเดินเล่นตามถนนหนทางในเมือง แต่หากมองมาที่ร้านต้นตำรับ เช่นนั้นจะได้เห็นภาพลั่วฉวนเกียจคร้านนอนหรือนั่งเอกเขนกโดยไม่ทำอะไร กระทั่งคำยังคล้ายคร้านจะกล่าวออกมา
ด้วยเหตุนี้ แม้กล่าวว่าทั้งสองฝ่ายคล้ายกันแต่ก็แตกต่างอย่างสุดขั้วด้วยเช่นกัน
ลั่วฉวนงียบไปไม่นาน เมื่อลืมตาตื่นก็พบว่าความคิดตอนนี้ว่างเปล่า
เสียงดังภายในร้านยังคงมี ลูกค้ายังคงแวะเวียนไปมา แต่บทสนทนาที่ดังสม่ำเสมอ บางครั้งมันก็เป็นเหมือนบทเพลงกล่อม
หลังหาวอยู่พักหนึ่งค่อยเขาปรับสภาพความคิด สติเริ่มฟื้นกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง
สายตาเขามองออกไป ตอนนี้ยังไม่ใกล้ถึงเวลาปิดร้าน
รอคอยเวลาปิดร้านตั้งแต่หัววันเช่นนี้ จะกล่าวว่าเป็นเถ้าแก่ที่ไร้ความรับผิดชอบก็ไม่ผิดแปลก
ยังเหลือเวลาอีกมาก งั้นทำอะไรดี?
ความคิดแรกคือการนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมา เล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดถือว่าฆ่าเวลาได้ดี
เหยาซือหยานที่เดิมอยู่อันดับบนสุด ตอนนี้ตกลงมาเล็กน้อย อย่างไรแล้วนางก็ไม่ได้ว่างเล่นตลอดทั้งวันเพื่อรักษาอันดับเอาไว้
เกือบลืมไป เขายังมีการเตรียมเขียนผลงานใหม่ที่เพิ่งคิดขึ้นได้
หลังผ่านมาพักหนึ่ง ในที่สุดผลงานใหม่ก็เป็นรูปร่าง
น่าจะใช้ได้แล้วกระมัง?
ลั่วฉวนนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาจ้องมอง
แต่ก่อนจะทันทำอะไร เขาหยุดชะงัก
จากนั้นจึงรินเหล้าซากุระลงในถ้วย
แม้ชานมค่อนข้างดี แต่ลั่วฉวนก็ชอบเหล้าซากุระมากกว่า
ทันทีเมื่อเหยาฮุยเฉินเข้ามาในร้าน เขาจึงได้กลิ่นหอมสดชื่นของเหล้าที่ปะปนอยู่ในอากาศ
เป็นเหล้าที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนน่าทึ่ง
หากเทียบกับสุราหมื่นเมามายที่เขาภาคภูมิ ถือว่ามีความแตกต่างอันยิ่งใหญ่
ด้วยเดินตามกลิ่นมา เขาค่อยมาหยุดตรงหน้าโต๊ะพร้อมมองเหล้าสีชมพูดอกซากุระในถ้วย
ลำคอนั้นราวกับแห้งผากขึ้นมา “เถ้าแก่ สิ่งนี้คือ?”
“เหล้าซากุระ” ลั่วฉวนตอบรับ
หลังดื่มไปอึกหนึ่ง รสชาติความหวานอันกระจ่างจึงกระจายผ่านลำคอสู่ด้านในท้อง จากนั้นจึงเป็นกลิ่นหอมของซากุระที่ฟุ้งกระจาย
เขาไม่ใส่ใจสายตาเหยาฮุยเฉิน ตอนนี้วางถ้วยลงแล้วจึงถาม “มีอะไรหรือ?”
เท่าที่ดูก็ปกติดี แต่ก็เหมือนอีกฝ่ายไม่ปกติ
ด้วยความในใจเอ่อล้น เหยาฮุยเฉินพยายามเรียบเรียงคำพูด “เหล้าซากุระ เหมือนว่านี่จะไม่ใช่สินค้าที่มีขายในร้าน”
“ไม่มีขาย” ลั่วฉวนตอกย้ำให้เหยาฮุยเฉินได้ทราบ “ซือหยานเป็นคนบ่ม”
เหยาซือหยานตอนนี้กำลังดื่มด่ำกับโลกแห่งเรื่องราว ตอนนี้ได้ยินนามตนเองกล่าวถึงจึงหันมองทางลั่วฉวน
“ไม่มีอะไร ทำต่อไปเถอะ” ลั่วฉวนกล่าวบอก
“โอ้” จากนั้นนางค่อยหันกลับไปเพ่งสมาธิกับโทรศัพท์วิเศษอีกครั้ง
“เป็นเช่นนี้นี่เอง” เหยาฮุยเฉินพยักหน้ารับ
ทั้งสองไม่ได้พูดกล่าวอะไรต่อกันอีก เพียงแต่มองหน้ากันเอง
หลังผ่านไปครู่ เหยาฮุยเฉินอดไม่ได้ที่จะต้องทำลายความเงียบงันขึ้นมา
“แค่กแค่ก เถ้าแก่ ข้ามีเรื่องคิดอยากสอบถาม” เหยาฮุยเฉินกระแอมไอ
เขาอย่างไรก็เป็นคนรักชอบการดื่มเหล้า เพราะอย่างนั้นจึงบ่มสุราหมื่นเมามายของตนขึ้นมา
“กิ่งและดอกซากุระที่หมู่บ้านซากุระสามารถเก็บได้หลังหมดเวลาทำการของร้าน” ลั่วฉวนดื่มเหล้าซากุระไปอีกหนึ่งอึกพลางกล่าวตอบ
ครั้งก่อนก็เป็นหยวนก่วย ดังนั้นสถานการณ์ตอนนี้เขาจึงคุ้นเคยดี
เหยาฮุยเฉินไม่ทราบความหมายในถ้อยคำของลั่วฉวนไปครู่ หลังดึงสติกลับคืนเขาค่อยเผยยิ้มตอบรับ “ขอบคุณเถ้าแก่”
รสชาติของเหล้าซากุระ สิ่งสำคัญย่อมเป็นซากุระสำหรับใช้หมักบ่ม ส่วนรายละเอียดนอกเหนือจากนี้สามารถเรียนรู้จากเครื่องเล่นเกมเสมือนจริง
“วิดีโอที่เคยกล่าวถึงเป็นยังไงบ้าง?” ลั่วฉวนกล่าวถามไปเรื่อย
เพราะช่วงที่ผ่านมาเขาแทบไม่ได้เห็นผู้อาวุโสหุบเขาโอสถ มีเพียงแต่เหยาฮุยเฉินที่มาร้านได้ราวไม่ติดธุระอันใด
และก็ต้องกล่าวว่าเขามีโชคระดับหนึ่งที่มาร้านพร้อมได้กลิ่นเหล้าซากุระ จากนั้นจึงเข้ามาสอบถาม
เหยาฮุยเฉินที่กำลังจะขอตัว ตอนนี้ได้ยินคำถามจึงชะงัก “เกือบเรียบร้อยแล้ว น่าจะปล่อยผลงานได้ในคืนวันนี้”
ขณะเดียวกันนี้เขาก็เกิดแปลกใจที่ลั่วฉวนให้ความสนใจเรื่องนี้ด้วย
“โอ้” ลั่วฉวนรับคำเพียงเท่านี้เป็นการปิดบทสนทนา
จากข้อมูลที่ได้ทราบจากลั่วฉวน เหยาฮุยเฉินมุ่งตรงไปยังเครื่องเล่นเกมเสมือนจริง จากนั้นจึงเข้าหลักสูตรทำอาหารค้นหาเหล้าซากุระ
ด้วยทำการนึกย้อน เรื่องราวของผลงานใหม่ที่นามว่าดอกกล้วยไม้สีม่วงจึงเริ่มปรากฏขึ้น
ต้องกล่าวว่าการเก็บข้อมูลเช่นนี้เอาไว้ค่อนข้างมีความสะดวกสูง
ในแง่หนึ่ง ระบบก็คล้ายแกนหลักทางความคิดของมนุษย์
ทว่าก็ยังมีความแตกต่างอื่นยิ่งใหญ่คงอยู่ แกนหลักแท้จริงยังต้องตรวจสอบให้ทราบแน่ชัดว่าคืออะไรกันแน่
เมื่อละความคิดที่ปล่อยไหลไปไกลกลับคืนมา ลั่วฉวนค่อยคว้าเอาโทรศัพท์วิเศษขึ้น
จากนั้นจึงเริ่มกล่าวถึงเนื้อหาของเรื่องราวใหม่