God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1041
ตอนที่ 1041
เพราะง่วงงุนเกินไปจึงไม่อยากลุกขึ้น
สายตาลั่วฉวนมองไปยังเพดานด้านบน สมองคล้ายคิดเพียงแต่จะนอน
ไม่ทราบว่าเมื่อคืนเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดไปนานแค่ไหน
ดังนั้นพอรู้สึกตัวตื่นขึ้นก็ยังง่วงต่ออ
คิดได้เช่นนั้นลั่วฉวนจึงหลับตาและสงบนิ่งไป
ตึง ตึง ตึง…
ลั่วฉวนตื่นขึ้นเพราะเสียงเคาะประตู
“เถ้าแก่ เถ้าแก่ เช้าแล้ว…”
“ไปแล้ว”
ลั่วฉวนลุกขึ้นก่อนจะหาว เขาพยายามสะกดข่มความต้องการนอนต่อไว้ในใจ
เมื่อลงมายังชั้นล่างจึงได้พบ ว่าเหยาซือหยานคล้ายรออยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้ว
“ไม่ต้องรอกันก็ได้” ลั่วฉวนนั่งลง
เหยาซือหยานเผยยิ้มตอบก่อนจะถามขึ้นมา “เถ้าแก่ ทำไมวันนี้ตื่นสายกันล่ะ?”
“เมื่อคืนเล่นโทรศัพท์วิเศษดึกไปหน่อย” ลั่วฉวนกล่าวตอบ
แม้ว่ามีความแข็งแกร่งดีเยี่ยมแล้ว ลั่วฉวนก็ยังติดนิสัยการนอนขี้เซา
“เพราะแอพไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด?” เหยาซือหยานคาดเดา
“ใช่” ลั่วฉวนพยักหน้าตอบรับ
หลังทานมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย ปู้หลี่เกื๋อจึงตรงดิ่งมายังร้านต้นตำรับ วันนี้เขามาพร้อมปู้ฉืออี
เหมือนว่าการเล่าเรียนของสถาบันวิญญาณเมฆาจะจบลงแล้ว
“เถ้าแก่ ในร้านมีของใหม่อะไรบ้างไหม?” หลังกล่าวทักทายปู้หลี่เกื๋อจึงเผยคำถามประจำวันออกมา
ไม่เพียงแต่เขา แต่ลูกค้าทุกคนของร้านต้นตำรับมักคาดหวังให้ร้านมีสินค้าใหม่ทุกวี่วัน
เดิมปู้หลี่เกื๋อก็แค่ถามไปอย่างนั้น หาได้คาดคิดไม่ว่าจะมีคำตอบอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจากลั่วฉวน
ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับทำเขาต้องเบิกตากว้าง
“มี” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ
ปู้หลี่เกื๋อเกิดสงสัยว่าหูตนเองฝาดไปหรือไม่ “มีหรือ?”
สายตาเขาหันมองสำรวจทางชั้นวางอย่างไม่รู้ตัว ไม่ช้าจึงได้ทราบ ว่าหากเทียบกับเมื่อวานก็ไม่มีอะไรแปลกออกไป
“ทางด้านนั้น” เหยาซือหยานชี้ไปอีกด้านหนึ่ง
รับชมทิศทางที่ได้รับการชี้บอก ปู้หลี่เกื๋อจึงได้เห็นสองเครื่องที่หน้าตาแทบจะคล้ายกัน ปู้ฉืออีเดินไปหยุดตรงหน้าเครื่องนั้นก่อนจะสำรวจข้อมูลบนหน้าจอ
“ชานม? เหมือนว่าจะเป็นเครื่องดื่ม เถ้าแก่ นี่เป็นชาชนิดหนึ่งงั้นหรือ?” นางกล่าวถามกับลั่วฉวน
“ใช่ มองว่าเป็นเครื่องดื่มผสมก็ได้” ลั่วฉวนตอบกลับไป
ในทวีปเทียนหลันมีสิ่งที่เรียกว่านมคงอยู่ ดังนั้นทั้งสองจึงไม่ประหลาดใจแต่อย่างใด
“มีหลายอย่างให้เลือกไม่ใช่น้อย เหมือนดังไอศกรีม” ปู้หลี่เกื๋อหันมองเครื่องขายไอศกรีมที่อยู่ข้างเคียง
“หือ? เลือกอุณหภูมิได้ด้วยหรือนี่?” ปู้ฉืออีเกิดประหลาดใจ เพราะการเลือกเช่นนี้สินค้าอื่นไม่มี
“ขอเย็นเย็น” ปู้หลี่เกื๋อเผยเสียงดังขึ้น หลังครุ่นคิดเขาจึงเสริม “เอาแบบใส่น้ำแข็ง”
“รู้แล้ว รู้แล้ว” ปู้ฉืออีตอบรับก่อนจะเริ่มเลือกผ่านหน้าจอ “แล้วรสชาติล่ะ?”
“อะไรก็ได้” ปู้หลี่เกื๋อตอบรับอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมา
“งั้นก็เอาตามเครื่องแนะนำก็แล้วกัน” ปู้ฉืออีรับคำ
“อาหารเช้าของร้านหยวนก่วยดีเหมือนเคย” ที่ภายในตรอก อานเหวยหยากำลังถือขนมชิ้นหนึ่งทานด้วยสีหน้าอิ่มเอม
ปิงชวงเดินมาเคียงข้าง ในมือถือขนมพร้อมกัดไปคำน้อย สีหน้าของนางเย็นชาไม่เผยความแปรเปลี่ยนแต่อย่างใด
เมื่อทั้งสองเดินเข้ามาด้านในร้านต้นตำรับจึงได้ยินบทสนทนาของสองคนที่มาถึงก่อน
“ชานม? อะไรคือชานม?” อานเหวยหยาเกิดสนใจขึ้นมา มื้อเช้าที่ทานค้างไว้ถูกจับยัดใส่ปากหายวับ
“สินค้าใหม่ของทางร้าน” ลั่วฉวนกล่าวบอกสั้นกระชับ
ทางด้านปู้ฉืออีกับปู้หลี่เกื๋อที่เลือกเรียบร้อยแล้วจึงรับเอาชานมจากถาดของเครื่อง
“เย็นมาก” เพียงจับที่แก้ว ปู้หลี่เกื๋อพลันต้องชักมือกลับพร้อมจ้องมอง
ที่ปลายนิ้วของเขามีไอเย็นปรากฏ ผิวหนังคล้ายถูกแช่เย็นไปส่วนหนึ่ง
“นี่ไม่เกินไปหรือ?” ปู้ฉืออีเกิดสงสัยก่อนจะคว้าแก้วชานมไว้ด้วยสองมือ ไม่ช้าความอบอุ่นจึงเริ่มแผ่ขยายสู่ร่างนาง
“ท่านก็เห็นว่ามันเย็น รับชมพื้นผิวแก้วก็รู้แล้วว่าเย็นมาก” ปู้หลี่เกื๋อพบเห็นความเปลี่ยนแปลงก่อนจะเผยอาการประหลาดใจทางสายตา
พื้นผิวของแก้ว ชั้นความเย็นสีขาวปรากฏด้วยความเร็วขนาดมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มันกระทั่งทำอากาศรอบด้านเย็นลงไปด้วย
“ข้าก็เลือกอุณหภูมิต่ำที่สุดเท่าที่เจ้าบอกแล้ว ยังมีอะไรผิดพลาดอีกกัน?” ปู้ฉืออีเกิดสงสัย
เช่นนี้ปู้หลี่เกื๋อจึงใช้พลังวิญญาณปกคลุมฝ่ามือก่อนจะหยิบแก้วขึ้นด้วยความระมัดระวัง
“ไม่ต้องห่วง ดื่มได้เลย ไม่เป็นไร” ลั่วฉวนพบเห็นเรื่องราวจึงกล่าวบอกด้วยความหวังดี
บอกกล่าวตามตรง เขาเองก็ไม่คิดว่าแก้วใส่ชานมจะมีตัวเลือกอุณหภูมิเย็นจัดขนาดนั้น
“สิ่งนี้คือชานม?” อานเหวยหยามองแก้วในมือคนทั้งสองด้วยความสงสัย
กระทั่งปิงชวงยังเดินเข้ามาเผยดวงตาสีแดงชาดจับจ้อง
ปู้หลี่เกื๋อถอนหายใจโล่งอก เหมือนว่าที่เขาเลือกนั้นจะไม่ได้ผิดพลาดไป แม้ว่าแก้วจะเย็นยะเยือกจนไม่น่าดื่มได้อย่างปลอดภัยก็ตาม…
แต่ในเมื่อเถ้าแก่บอกว่าดื่มได้ เช่นนั้นก็ต้องดื่มได้…
“รสชาติน่าสนใจ” ปู้ฉืออีที่ดื่มชานมเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ปู้หลี่เกื๋อจึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
เขาส่ายศีรษะก่อนจะโยนความคิดอันยุ่งเหยิงในใจทิ้งไป ถัดจากนั้นจึงกัดฟันและยกแก้วขึ้นมาใกล้ริมฝีปาก
เขารับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่ลดลงยามแก้วแตะกับริมฝีปาก สัมผัสเย็นเยือกเพียงทำให้เกิดไอน้ำสีขาวลอยออกมา
ของเหลวเย็นเยือกไหลผ่านปากและลำคอ รสชาติที่ไม่คุ้นเคยกระจายออกตั้งแต่ที่ปลายลิ้น และมันไม่ได้เย็นเหมือนดังที่เขาคิดเอาไว้
“หือ?” ปู้หลี่เกื๋อเบิกดวงตากว้างด้วยอาการประหลาดใจ
“เป็นยังไงบ้าง?” ปู้ฉืออีกล่าวถามด้วยความสงสัย
“อร่อยมาก!” ปู้หลี่เกื๋อพยักหน้ารับพร้อมกล่าวความเย็น
ปิงชวงไปหยุดยืนตรงหน้าเครื่องขายชานมเรียบร้อย ไม่ช้านางจึงได้แก้วของตัวเองกลับมา
พบเห็นเช่นนี้อานเหวยหยาจึงเร่งรีบเข้าไปซื้อบ้าง ถัดจากนั้นมังกรสาวจึงค่อยไปนั่งดื่มลิ้มลองรสชาติ
ปิงชวงถือแก้วชานมด้วยสองมือก่อนจะไปนั่งลงอย่างเรียบร้อย
หลังดื่มไปอึกหนึ่ง ดวงตาของนางต้องหรี่ลงเล็กน้อย
มันหรี่จนเหมือนตาแมว
“ลืมถามเลย เถ้าแก่ ชานมนี้มีสรรพคุณอะไรกัน?” ขณะยังคงดื่มด่ำกับรสชาติ ปู้หลี่เกื๋อค่อยนึกถึงประเด็นสำคัญขึ้นมาได้
ตอนนี้เขาก็ยังคงไม่กล้าจับแก้วด้วยมือเปล่า มีแต่ต้องใช้พลังวิญญาณปกคลุมมือเอาไว้จึงค่อยกล้าสัมผัส
“เสริมศักยภาพ” เหยาซือหยานตอบคำถามแทนลั่วฉวนที่กำลังเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด
“หือ? เหมือนดังน้ำแร่งั้นหรือนี่?” ปู้หลี่เกื๋อเกิดคำถามเหมือนเช่นที่เหยาซือหยานสงสัยเมื่อวานนี้
“จะเหมือนกันได้ยังไง?” ปู้ฉืออีกลอกตาตอบ “ยังไงราคาก็แตกต่างมหาศาล เจ้ารับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง?”
“ข้าก็แค่พูดไปเรื่อย” ปู้หลี่เกื๋อตอบรับอย่างอับจน
“สำหรับข้าเรียกได้ว่าไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้นเลย” อานเหวยหยาเข้าร่วมวงสนทนา
ลั่วฉวนที่เล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดจบตาแล้วจึงวางโทรศัพท์วิเศษลง “สินค้าของร้านคือการนำเสนอสรรพคุณที่คงอยู่อย่างถาวร ยิ่งตัวผู้ทานหรือใช้งานมีความสมบูรณ์แบบเพียงใด ผลลัพธ์ก็จะยิ่งแสดงน้อยลงเท่านั้น”