God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1039
ตอนที่ 1039
ลั่วฉวนรู้สึก ว่าวันนี้ร้านต้นตำรับค่อนข้างยุ่งตั้งแต่เปิดร้าน
ชาวทะเลค่อนข้างกระตือรือร้นกันไม่ใช่น้อย
หลังเปิดระบบการรีไซเคิล ของแปลกประหลาดมากมายจากชาวทะเลจึงเริ่มถูกนำมาแลกเปลี่ยนเป็นผลึกวิญญาณ
“เหยาซือหยาน เถ้าแก่ ไว้พบกันใหม่พรุ่งนี้นะ” ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่กลับกันไปหมดแล้ว อานเหวยหยากับปิงชวงจึงค่อยเดินกลับมาจากสวนต่อขยายของร้านเตรียมกลับ
“ไว้พบกันใหม่พรุ่งนี้” เหยาซือหยานยิ้มตบ
ปิงชวงดูไม่ค่อยยินดีที่จะกลับไปเท่าใดนัก แต่สุดท้ายก็ตามอานเหวยหยาออกจากร้านไป
“วันนี้ไปร้านน้อยหยวนก่วยกันดีกว่า ได้ยินว่ามีอาหารใหม่มานำเสนอ”
เสียงของอานเหวยหยาที่ดังจากนอกร้านค่อย ๆ เลื่อนหายไปพร้อมกับสายฝนอย่างรวดเร็ว
“ข้าไปทำอาหารก่อน” เหยาซือหยานเดินขึ้นไปยังชั้นบนเพื่อเตรียมมื้อเย็น
ทางด้านลั่วฉวนก็กำลังจะยกเหล้าซากุระขึ้นมาดื่ม แต่แล้วเสียงของระบบพลันดังขึ้น
“ขอแสดงความยินดีต่อเถ้าแก่ที่สำเร็จภารกิจซ่อนเร้น ด้วยการที่ชื่อเสียงเลื่องลือไกล นามของร้านต้นตำรับยังแพร่กระจายไปถึงโพ้นทะเล”
ลั่วฉวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ภารกิจซ่อนเร้น มีของแบบนี้ด้วย?”
ระบบไม่ตอบรับ คล้ายว่าจะจำศีลไปเรียบร้อยแล้ว
ลั่วฉวนที่ไม่อาจถามต่อ ตอนนี้จึงยกเหล้าซากุระที่รินใส่ถ้วยไว้ขึ้นจิบก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง
จากนั้นจึงเปิดหน้าต่างข้อมูลขึ้นมา
ระดับ ทรัพย์สิน และสิทธิ์ รวมถึงข้อมูลอื่นที่ไร้มูลค่าต่างเรียงราย เขาเลื่อนผ่านไปจนถึงส่วนภารกิจล่างสุด
มันคือช่องสำหรับภารกิจที่เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ตรงนี้จะมีแสงสว่างย้ำเตือนให้คอยกดรับรางวัล
ลั่วฉวนมองด้วยอาการอันสงบหาได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใดเพราะของรางวัลไม่
จากนั้นจึงกดรับรางวัล
“ได้รับโอกาสสุ่มโชคหนึ่งครั้ง”
ข้อความแจ้งเตือนปรากฏบนม่านแสงขึ้นมา
โอกาสเสี่ยงโชค
ลั่วฉวนค่อนข้างคาดหวังต่ออะไรที่แปลกใหม่
ตอนนี้มาถึงมิติเสี่ยงโชคอันคุ้นเคย
รอบด้านยังคงมืดมิดพร้อมตั้งตระหง่านเอาไว้ด้วยวงล้อหมุนขนาดใหญ่
ลั่วฉวนออกคำสั่งให้มันเริ่มหมุน
ระหว่างนี้เขานำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาเปิดกลุ่มแชทเพื่อรับชม
ส่วนใหญ่ที่พูดคุยกันคึกคัก คือชาวทะเลที่มาจากเมืองใต้สมุทร
ความสดชื่นหลังได้รับโทรศัพท์วิเศษเป็นครั้งแรก มันก็จะคงอยู่เช่นนี้ไปพักหนึ่ง
เนื้อหาข้อมูลที่พูดคุยส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของร้านต้นตำรับ
ความกระตือรือร้นเช่นนี้สักวันหรือสองวันเดี๋ยวก็คงเลือนหาย
เพราะหากกระตือรือร้นอยู่ทุกวี่วัน เช่นนั้นคงน่ากลัวเกินไปแล้ว
วงล้อยังคงหมุนอย่างต่อเนื่อง หน้าปัดที่บ่งบอกว่ามีอะไรบ้างตอนนี้ไม่อาจมองเห็นได้
ลั่วฉวนเกิดสงสัยเล็กน้อย ว่ามันที่หมุนเร็วขนาดนี้ยังคงตั้งนิ่งเฉยไม่แกว่งอยู่ได้ยังไง
ช่างมัน ไม่ใช่สาระสักเท่าไหร่
ถัดจากนั้นเขาจึงสั่งให้มันหยุดหมุน
วงล้อเคลื่อนที่ช้าลง ตัวบ่งชี้ได้เป้าหมาย นั่นก็คือพื้นที่ซึ่งเป็นลวดลายถ้วย
เครื่องดื่มอีกแล้ว?
ลั่วฉวนนึกถึงโคล่า สไปรท์ น้ำแร่ และกาแฟที่มีขายภายในร้าน
ผ่านไปไม่นาน ในร้านก็มีแต่เครื่องดื่มมากมายไปเสียแล้ว
“ขอแสดงความยินดีกับเถ้าแก่ที่ได้รับสินค้าชานมต้นตำรับ เส้นทางการค้าใหม่ได้ถูกเปิดขึ้นแล้ว”
เสียงระบบปรากฏดังขึ้น
ชานม?
ชานมก็ถือว่าเป็นชาชนิดหนึ่ง
มันยังคงมี ชาดำ ชาเขียว และชาอู่หลง…
เมื่อดึงสติกลับมาได้ เขาค่อยเปิดอ่านคำอธิบายของชานม
“ชานมต้นตำรับ เสริมศักยภาพประจำตัว ราคาสิบผลึกวิญญาณ”
สรรพคุณนี้คล้ายคลึงกับน้ำแร่
ลั่วฉวนนึกถึงน้ำแร่ที่มีขายในร้านอยู่ก่อนแล้ว มันก็มีสรรพคุณ “เสริมศักยภาพ” เช่นเดียวกัน
ทว่าราคาของน้ำแร่คือหนึ่งหมื่นผลึกวิญญาณ และยังใช้งานได้แค่ครั้งแรกที่ดื่ม
หากเทียบราคากับชานมที่สิบผลึกวิญญาณ ความแตกต่างนี้มีมากเกินไป
“หรือก็คือ ชานมเป็นเวอร์ชั่นที่ฤทธิ์อ่อนลงของน้ำแร่?”
ลั่วฉวนได้ข้อสรุปเช่นนี้ออกมา
เมื่อกลับจากมิติสุ่มโชค เขาก็กลับมายังตำแหน่งเดิมก่อนที่จะเข้าไป
เหยาซือหยานยังไม่ได้ลงมาจากชั้นบน แต่กลิ่นอาหารที่ฟุ้งก็แสดงให้เห็นว่าใกล้ได้เวลาแล้ว
ลั่วฉวนสำรวจมองรอบด้านก่อนจะพบเห็นความเปลี่ยนแปลงในร้าน บริเวณใกล้กับเครื่องทำไอศกรีม มันมีอีกเครื่องหนึ่งที่หน้าตาแทบคล้ายกันปรากฏ
ตัวเครื่องเป็นกล่องสี่เหลี่ยมคลุมด้วยวัสดุโลหะสีขาวที่เข้ากับการตกแต่งภายในร้าน ส่วนสูงราวหน้าอกของลั่วฉวน และมีช่องที่ตรงกลางสำหรับการเทของเหลวจากด้านบน รวมถึงคำอธิบายการใช้งาน
“คราวนี้มีสินค้าใหม่ไม่ต้องรอก็ปรากฏในร้านได้ทันทีเลย?” ลั่วฉวนนึกถึงครั้งก่อนหน้าที่ต้องมีเวลารอคอย
ระบบเงียบงันไม่ตอบรับราวกับหลับหนี
ช่างมัน ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสักเท่าไหร่
ลั่วฉวนลึกขึ้นและเดินไปถึงตรงหน้าเครื่อง
วิธีการก็เข้าใจได้ไม่ยาก และยังคล้ายกับเครื่องอื่น
ไม่กี่วินาทีถัดจากนั้นลั่วฉวนจึงได้ชานมสองแก้วปรากฏในมือ
เมื่อเดินกลับมายังที่นั่ง เขาจึงวางแก้วหนึ่งไว้บนโต๊ะ
หลังดื่มชานมอีกแก้วในมือ เขาค่อยได้ทราบรสชาติของมัน
ก่อนอื่นคือกลิ่นนมหอมมันที่ค่อนข้างเด่นชัด รวมถึงสัมผัสละมุนลิ้นที่กระจายทั่วทั้งปาก ความหวานที่เจือจางไม่รุนแรงแต่มี รวมถึงความหอมของตัวชาที่เหมาะสม ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดเป็นความรู้สึกละมุนเบาบางในปาก
กลิ่นหอมของตัวชามีไม่มาก มันมีเท่าที่ควรมี รวมถึงคงอยู่ยาวนาน มันเป็นการผสานรสชาติระหว่างชาและนมอย่างลงตัว
รสชาติยอดเยี่ยมขนาดทำลั่วฉวนพึงพอใจได้ไม่น้อย
เมื่อได้ทานไข่มุกที่อยู่ด้านล่างแก้ว ความหนึบหนับรับกับฟันให้สัมผัสที่ดีเยี่ยม
เพื่อให้ได้รับรสชาติดั้งเดิม เขาจึงเลือกชานมไข่มุกต้นตำรับ
“เถ้าแก่” เหยาซือหยานเรียกดังจากชั้นบน
“ไปแล้ว” ลั่วฉวนตอบรับก่อนจะวางแก้วชานมไข่มุกไว้บนโต๊ะ
จากนั้นจึงขึ้นไปชั้นบนช่วยเหยาซือหยานถือถาดอาหารลงมา
เมื่อลงมายังชั้นล่าง เหยาซือหยานจึงได้เห็นสองแก้วชานมวางบนโต๊ะ
“เถ้าแก่ สิ่งนี้คืออะไรกัน?” นางกล่าวถามด้วยความสงสัย
“ชานม” ลั่วฉวนตอบกลับ “เป็นสินค้าใหม่ของทางร้าน”
“สินค้าใหม่?” เหยาซือหยานมองตามลั่วฉวนจนได้เห็นอุปกรณ์ใหม่ที่วางในร้าน “เป็นเครื่องดื่มอีกแล้ว”
กล่าวคำจบ สำรับอาหารจึงเริ่มจัดวางบนโต๊ะ
“รสชาติค่อนข้างดี ลองดู” ลั่วฉวนวางสำรับอาหารที่ยกมาลงกับโต๊ะเช่นกัน
“ทราบแล้ว” เหยาซือหยานพยักหน้ารับก่อนจะคว้าแก้วหนึ่งขึ้นมา
“นั่น…” ลั่วฉวนพบเห็นว่าผิด ทว่าคำชั้นกล่าวออกช้าไป
“อืม… รสชาติน่าสนใจ” เหยาซือหยานกลืนชานมลงไปก่อนจะกล่าว “เถ้าแก่ เมื่อครู่จะกล่าวอะไรหรือ?”
“นั่นแก้วข้า…” ลั่วฉวนกล่าวส่วนที่กล่าวค้างไว้เมื่อครู่ออกไป
เหยาซือหยานมองแก้วชานมในมือ จากนั้นจึงมองอีกแก้วบนโต๊ะ นางค่อยทราบความหมายของลั่วฉวน ใบหน้าตอนนี้ถึงกับแดงเรื่อขึ้นมา “นี่… เอ่อ เปลี่ยนกลับคืนดีไหม?”
“เปลี่ยนคืน?” ลั่วฉวนเผยสีหน้าดูเคร่งเครียดมากขึ้น
เหยาซือหยานตระหนักถึงความประหลาดในคำถามของตนเอง ตอนนี้จึงหันศีรษะหนีก่อนจะกล่าว “ไม่ใช่ ไม่ใช่… ทานอาหารกันก่อนดีกว่า”
เรื่องนี้จำเป็นต้องสงบใจลงเสียก่อน ดังนั้นจึงดื่มชานมเข้าไปอีกหนึ่งอึกก่อนจะวางแก้ว จากนั้นค่อยหยิบตะเกียบเพื่อเริ่มทานมื้ออาหาร
เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนมื้ออาหารไม่ได้รบกวนใจคนทั้งสอง อย่างน้อยภายนอกระหว่างการทานอาหารก็เป็นเช่นนั้น…