God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1031
ตอนที่ 1031
“หลินฟาน?”
พอหลินฟานได้กลายเป็นลูกค้าผู้โชคดี ลั่วฉวนจึงได้รับการแจ้งจากระบบ
กับตัวหลินฟานนั้นเขาก็พอจะมีเรื่องราวที่ให้จดจำได้อยู่
นั่นก็เพราะอีกฝ่ายนำไพ่สำหรับใช้เล่นไปจัดทำและแจกฟรี
“ไม่ใช่แต่เล็งเห็นจังหวะอันดี แต่โชคก็ดีด้วยหรือนี่?”
เมื่อรับรู้แล้วลั่วฉวนจึงกดปิดหน้าต่างแจ้งเตือนไป
ตอนนี้ยังมีเวลาว่าง นอนสักงีบก่อนก็แล้วกัน
ลั่วฉวนหลับตาลง เสียงภายในร้านค่อยเลือนหายไป
ปู้หลี่เกื๋อทานไอศกรีมเรียบร้อยก่อนจะกลับไปยังที่นั่งเดิม จากนั้นจึงเปิดกระดานสนทนาเพื่อดูว่ามีลูกค้าผู้โชคดีบ้างหรือยัง
นี่ก็ผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้วตั้งแต่ลั่วฉวนบอกกล่าวออกไป ทว่ายังไม่มีลูกค้าผู้โชคดีปรากฏ
“ดูอะไรอยู่กัน?” เจียงเฉิงจวินเดินเข้ามาดูพร้อมกล่าวถาม
“กระดานสนทนาน่ะ ทำไมยังไม่มีลูกค้าผู้โชคดีปรากฏออกมากันนะ?” ปู้หลี่เกื๋อตอบกลับไปอย่างไม่คิดอะไรมาก
โพสต์ใหม่ฉับพลันปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์วิเศษพร้อมภาพบันทึกหน้าจอ
ปู้หลี่เกื๋อจับจ้องจนแทบตาถลน
“ลูกค้าผู้โชคดี?!” เขาอุทานร้องดังออกมา
“ไหนกัน? ไหนไหน?” เจียงเฉิงจวินเกิดสนใจเร่งรีบชะโงกเข้ามาดู
“มีคนได้กลายเป็นลูกค้าผู้โชคดีและโพสต์บอกกล่าว!” ปู้หลี่เกื๋อชี้ที่หน้าจอด้วยอาการตื่นตะลึง
ลูกค้าหลายคนในร้านพอได้ยินจึงนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาเปิดดูคนแล้วคนเล่า เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้น
หากรับฟังให้ดี จะได้ทราบถึงความอิจฉาที่ซ่อนลึก
“จะมีแจ้งเตือนปรากฏที่โทรศัพท์วิเศษงั้นหรือ? ทำไมพวกเรายังไม่ได้บ้างกันนะ?”
“เหมือนว่าลูกค้าผู้โชคดีจะมีตัวเลขเฉพาะเจาะจง รอดูจนกว่าอีกคนจะปรากฏดีกว่า”
“โชคงั้นหรือ? คงต้องถือโทรศัพท์วิเศษไม่วางตลอดทั้งช่วงบ่ายแล้ว”
“ข้อความแจ้งเตือนน่าจะเหมือนที่ได้เห็นนี้ เรียบง่ายและก็ไม่มีอะไรสะดุดตามากนัก…”
หลินฟานกำลังคาดเดาถึงเรื่องราวที่น่าจะเกิดขึ้นหลังเขาประกาศออกไป ทว่าตอนนี้ต้องทานอาหารมื้อตรงหน้าก่อน อาการตอบสนองของผู้อื่นไว้ค่อยรับชมอีกที
“รู้สึกเหมือนพวกเราจะไม่มีโชคนะ!” หู่ขวงถอนหายใจขณะดื่มโคล่า
ร้านต้นตำรับมีเครื่องดื่มขายหลากหลาย รวมถึงของขบเคี้ยว
และด้วยเพราะเป็นผู้เปิดโต๊ะพนันบ่อยครั้ง พวกเขาจึงมีสินค้าที่ลูกค้าอื่นซื้อมาใช้เป็นของวางเดิมพันเพื่อกินเพิ่มเติม
หู่ขวงนึกอิจฉาต่อโชคของผู้อื่นก่อนจะกินดื่มพลางระบายอารมณ์
“ลูกค้าของร้านเถ้าแก่มีมากมายจริงไหม?” อวี่เว่ยกล่าวคำขึ้น
“จำนวนแน่ชัดนั้นไม่ทราบ แต่มีมากมายจริง” เหยาซือเย่ว์ตอบรับ
“โอกาสจะได้ค่อนข้างน้อยทีเดียว” อสูรวานรส่ายศีรษะ
เหยาซือเย่ว์มีเรื่องยินดีอยู่ในใจ ทว่านางไม่อาจกล่าวบอกออกไปได้
ทางด้านชาวทะเล ภายใต้โนริเอลชี้นำ พวกเขาจึงทราบเรื่องราวของร้านต้นตำรับกันขึ้นมามาก
“พวกเขาพูดกล่าวกันถึงเรื่องลูกค้าผู้โชคดีอะไรกัน?” หนึ่งในชาวทะเลตระหนักเห็นความผิดปกติในร้าน
“ในกระดานสนทนาของโทรศัพท์วิเศษมีข้อมูลชี้แจงอยู่” โนริเอลบอกกล่าวออกมา
ถัดจากนั้นพวกเขาจึงนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมาสำรวจข้อมูล
ตอนนี้ชาวทะเลพอจะทราบเรื่องราวของร้านต้นตำรับโดยคร่าวแล้ว ไม่ช้าพวกเขาจึงได้ทราบถึงงานที่ร้านจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง
“ลูกค้าผู้โชคดีมีอะไรดีกัน? รางวัลเป็นอะไรก็ยังไม่ทราบด้วย” หนึ่งในชาวทะเลกล่าวออกด้วยความสงสัย
“บอกว่าโชคดีก็ต้องดีสิ!” โนริเอลกล่าวตอบอย่างจริงจัง “เพราะรางวัลเป็นสิ่งที่เถ้าแก่นำเสนอ ลูกค้าหลายคนที่มีประสบการณ์ต่างทราบว่ามันจะต้องเป็นของดี!”
จากท่าที เห็นได้ชัดว่านางก็อยากเป็นหนึ่งในลูกค้าผู้โชคดี
ทว่าจากคำอธิบายของลั่วฉวนในโพสต์ ทั้งหมดเป็นการสุ่ม ไม่มีอะไรคาดเดาได้เลยแม้แต่น้อย
“ใช่โนริเอลในกลุ่มแชทหรือเปล่า?” เสียงหนึ่งดังจากทางด้านหลัง โนริเอลจึงหันกลับไปมอง
อีกฝ่ายเป็นสตรีเส้นผมและดวงตาสีม่วง ใบหน้าของนางคล้ายกับเหยาซือหยานที่ยืนอยู่เคียงข้างลั่วฉวน
“เจ้าคือ?” โนริเอลกล่าวถาม
“เหยาซือเย่ว์” เหยาซือเย่ว์ยิ้มตอบ
“หือ? เจ้าคือเหยาซือเย่ว์?” โนริเอลลืมตาเบิกกว้างประหลาดใจ
ทั้งสองคุ้นเคยต่อกันดีในกลุ่มแชทของร้านต้นตำรับ
“ข้าเอง” เหยาซือเย่ว์ยังคงยิ้ม “มาถึงร้านแล้วคิดว่าเป็นยังไงบ้าง?”
ก่อนหน้านี้นางเห็นโนริเอลแล้ว แต่จังหวะไม่อำนวยให้เข้าไปทักทาย ดังนั้นจึงเพิ่งมีโอกาสก็ตอนนี้
“เหมือนที่เจ้าบอกไว้เลย” โนริเอลตอบรับ
“อันที่จริงลูกค้าทุกคนที่มาถึงร้านต้นตำรับมักจะเข้าไปยังมิติขายอาวุธด้วย” เหยาซือเย่ว์เริ่มแนะนำให้ชาวทะเลได้ทราบ “คงไม่ต้องกล่าวว่ามีอาวุธหลากหลายให้เลือก และหลุมยักษ์ที่เกิดขึ้นจากพลังงานปรโลกซึ่งอยู่ด้านในนั้นก็ควรค่าไปรับชมด้วย”
“พลังงานปรโลก?” โนริเอลเกิดสงสัย
“ฟังจากปากคำเถ้าแก่ เป็นพลังงานระดับสูงชนิดหนึ่ง” เหยาซือเย่ว์ตอบกลับ
“ไม่เคยได้ยินชื่อพลังงานเช่นนั้นมาก่อนเลย” ชาวทะเลเริ่มขมวดคิ้วครุ่นคิด
สำหรับพวกเขา มันเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูอย่างสิ้นเชิง
“ของในร้านเถ้าแก่ก็มักเป็นเช่นนี้ ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน” เหยาซือเย่ว์โบกมือตอบรับ “ไปกัน ข้าพาไปรับชมเอง”
ด้วยเดินตามเหยาซือเย่ว์ไป โนริเอลและคณะชาวทะเลจึงเข้าไปยังมิติขายอาวุธ
มันเป็นลานกว้างใหญ่สุดสายตาราวกับไร้พรมแดน
ด้านบนคือห้วงความมืดอันไร้สิ้นสุด มันเปรียบดังมีม่านสีดำมาขวางเอาไว้จนไม่อาจมองเห็นว่าแท้จริงเป็นเช่นไร และรอบด้านก็เป็นความว่างเปล่าสุดสายตา
ม่านแสงขนาดใหญ่ลอยตัวอยู่ไม่ไกล มันมีรายละเอียดข้อมูลของอาวุธมากมายปรากฏให้เลือก
ไม่ไกลออกไปจะได้เห็นลูกค้าหลายคนกำลังทดลองใช้งานพลังอำนาจของอาวุธ พลังวิญญาณจะเผยออกจากร่างพวกเขาจนเกิดความเคลื่อนไหว… ซึ่งถ้าเทียบกับขนาดมิติแล้วก็ถือว่าเล็กน้อย
“มิตินี้ช่างแตกต่างจากที่อื่น” ชายชราจากเผ่าทะเลโบกมือไปมาในความว่างเปล่า ปลายนิ้วนั้นปรากฏแสงสีน้ำเงินปกคลุม
หากเป็นที่ภายนอก มันคงเกิดรอยแยกมิติขึ้นมาแล้ว ทว่าตอนนี้มีเพียงรอยจางปรากฏในอากาศ และยังเลือนหายวับอย่างรวดเร็ว
“มิติและกฎทั้งหลายของที่นี่ได้เถ้าแก่เสริมกำลังเข้าไป” เหยาซือเย่ว์รับหน้าที่เป็นผู้อธิบาย “พลังงานทั้งหมดจะถูกสะกดไว้ในระดับต่ำ หากคิดอยากฉีกกระชากมิติที่นี่ อย่างน้อยก็ต้องเป็นขอบเขตราชันระดับสูง”
มิติขายอาวุธได้ลั่วฉวนเสริมกำลังถึงสองครั้งแล้ว ดังนั้นทั้งหมดจึงเป็นไปตามที่เหยาซือเย่ว์กล่าวบอก
ร่องรอยที่เกิดขึ้นเพราะพลังงานปรโลกยังคงอยู่ สาเหตุก็เพราะลั่วฉวนมองว่ามันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ไปเสียแล้ว
“นั่นคือพลังงานปรโลกที่กล่าวถึงงั้นหรือ?” โนริเอลหันมองไปยังหลุมยักษ์ไกลห่างที่มีผลึกสีน้ำเงินมากมายคงอยู่
ผลึกสีน้ำเงินภายในหลุมลึก มันคล้ายจะมีรัศมีพลังงานปรากฏออกมา หากมองจากระยะไกลจะทำให้รับรู้ได้ถึงความอันตรายของพวกมัน