God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1015
ตอนที่ 1015
แต่หากมีเพียงการเพิ่มตัวละครใหม่มันดูไม่ค่อยเหมาะสมเล็กน้อย
ลั่วฉวนครุ่นคิดมองดูตัวละครที่เสร็จสมบูรณ์แล้วตรงหน้า
น่าจะต้องปรับตัวละครให้เข้ากับพื้นฐานของทวีปเทียนหลันสักเล็กน้อย
ทั้งร่างนั้นสวมใส่ชุดเกราะสีดำที่มีร่องรอยการศึก รวมถึงมีออร่าแห่งความกระหายเลือดเจือจางปรากฏ
ด้วยถือดาบที่หักซึ่งมีสภาพเรียบลื่นเหมือนดังกระจก ตัวดาบจะสะท้อนแสงเป็นประกาย และที่ตัวด้ามจับนั้นมีหนามยาวประดับเอาไว้
ใบหน้าตัวละครถูกปิดบังด้วยหน้ากากสีดำมิดชิด ดังนั้นจึงไม่อาจได้เห็นใบหน้า ลวดลายดวงตาตรงกลางของหน้ากากจึงมีความแปลกอย่างมหาศาล มันราวกับสามารถกลืนวิญญาณผู้ที่มองมาได้
หากเทียบกับเมื่อวาน นอกจากรายละเอียดยิบย่อย ส่วนอื่นก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
ยกตัวอย่างก็หน้ากาก ลั่วฉวนอ้างอิงจากปิงชวงที่เพิ่งมาร้านเมื่อวานนี้
ส่วนรูปดวงตา เขาใส่เข้าไปตามใจชอบ
จากนั้นจึงไปตรวจสอบว่ามีข้อมูลอะไรน่าสนใจฝากเอาไว้บ้าง
ที่ตรงหน้าลั่วฉวนเกิดม่านแสงปรากฏขึ้นพร้อมข้อมูลรายละเอียดจากความคิดเห็นหลากหลาย
โทรศัพท์วิเศษสามารถเชื่อมต่อกับมิติพัฒนาเกมได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ดังนั้นจึงสามารถใช้กระดานสนทนาจากที่นี่ได้โดยตรง
และยังขยายขนาดใหญ่ให้อ่านได้ด้วย
เมื่อเลื่อนลงไปเรื่อย ลั่วฉวนจึงได้เห็นหลากหลายความเห็นที่น่าสนใจ
หลังครุ่นคิดและเรียบเรียง เขาจึงกำหนดขึ้นในใจได้
ทางด้านเหวินเทียนจี หลังไม่อาจได้รับคำตอบจากตำราโบราณ เขากลับได้คำถามเพิ่มมากขึ้นเสียแทน
หากยังอยู่แต่ในหอตำรา คำถามเหล่านั้นจะไม่มีทางได้รับคำตอบ เหวินเทียนจีเป็นคนเปิดใจกว้าง เขาไม่คิดดึงดันก่อนจะเดินทางกลับนครจิ่วเหยา
เส้นทางมิติชั่วคราวถูกเปิดออก มันมุ่งตรงไปยังค่ายอาคมของนครจิ่วเหยา จากนั้นเขาจึงค่อยเดินทางไปยังร้านต้นตำรับ
เมื่อเดินเข้ามาในร้านและกำลังจะเข้าหมู่บ้านซากุระไปซื้อกาแฟ ฉับพลันเขาได้เห็นร่างทางด้านหลังที่ดูคุ้นตา
เมื่อมองไปยังทิศทางที่มีเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงตั้งอยู่ สตรีในชุดดำกำลังนั่งพร้อมเผยเส้นผมสีเงินอันโดดเด่น
ไม่มีทางผิดแน่ ต้องเป็นบุคคลในชุดดำเมื่อคืนนี้
เหวินเทียนจีทราบแน่ชัดว่าสตรีเส้นผมสีเงินคือบุคคลในชุดดำ และนั่นคือตัวตนที่เขาได้ทราบว่า “ถูกลืมเลือน” จากบันทึกในตำราโบราณ
ได้ยินมาว่าทุกครั้งที่ปรากฏตัว เมื่อนั้นหายนะภัยครั้งใหญ่จะมาเยือน
ทว่าครั้งนี้…
สายตาเหวินเทียนจีหันมองทางลั่วฉวนที่หลับตานอนอยู่
ทุกสิ่งอย่างราบลื่นดี เหล่านี้เป็นฝีมือเถ้าแก่?
ถึงตรงนี้จิตใจของเหวินเทียนจีค่อยกระจ่างขึ้นมา
ต่อให้มีปัญหาใหญ่โตเพียงใด มันก็ไม่ใช่ไม่มีทางแก้ไข
ตอนนี้เขาจึงมีเพียงแต่ความสงสัยต่อเรื่องราวอันแปลกประหลาด
ช่างมัน ไว้ค่อยพูดกล่าวภายหน้าก็ได้
เหวินเทียนจีเดินไปยังหมู่บ้านซากุระ
จากนั้นจึงสั่งกาแฟมาแก้วหนึ่ง
อู๋เทียนยังคงนั่งอยู่ที่นี่ราวครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง
เหวินเทียนจีจึงถือกาแฟไปนั่งฝั่งตรงข้าม
“เล่นโกะไหม?” เหวินเทียนจีกล่าวถาม
อู๋เทียนหันมองก่อนจะตอบรับ “ได้”
เหวินเทียนจีนำเอาอุปกรณ์ของตนเองออกมาวางบนโต๊ะ
ด้วยเสียงเปียโนบรรเลงไป การเดินกระดานครั้งใหม่จึงเริ่มขึ้น
“วันนี้พอเท่านี้ก่อน”
ลั่วฉวนมองสี่ตัวละครตรงหน้าพลางพึมพำกับตนเอง
ไม่เหมือนดังตัวละครที่สิบเอ็ด อีกสี่ร่างตอนนี้เป็นเพียงโครงร่าง
ลั่วฉวนเกิดสูญเสียแรงใจหลังลงแรงอยู่นาน
โดยสรุปก็คือโรคขี้เกียจ
หลังมองอีกครั้งหนึ่ง เขาจึงกลับออกจากมิติพัฒนาเกม
เหยาซือหยานยังคงเผยยิ้มแย้มทำงานของนางอยู่
นอกจากเป็นเสมียนร้านแล้ว นางยังได้งานอดิเรกใหม่
นั่นก็คือการเขียนเรื่องราวขึ้นมา
ลั่วฉวนพอจะทราบและเข้าใจดี
ด้วยไม่คิดขัดขวาง ลั่วฉวนลุกขึ้นไปหยิบขวดโคล่าจากชั้นวาง
เมื่อเขาเดินผ่านไปยังบริเวณเครื่องเล่นเกม เขาจึงคิดเดินรับชมเสียหน่อย
พบเห็นลั่วฉวนเดินมาดู ลูกค้าหลายคนจึงเรียกชวนเล่นกลอรี่
ทว่าเขายังไม่มีอารมณ์อยากเล่นเกมตอนนี้แต่อย่างใด
หลังปฏิเสธไปแล้วจึงเดินไปทางอานเหวยหยา
เมื่อหยุดยืนด้านหลังปิงชวง เขาจึงมองภาพบนหน้าจอ
สภาพแวดล้อมที่เห็นน่าจะเป็นป่าใกล้ออรัน
กำลังต่อสู้อยู่
อีกฝ่ายคืองูเหลือมยักษ์ขนาดยาวกว่าสิบเมตร ร่างนั้นปกคลุมด้วยเกล็ดราวคริสตัลที่ดูยากทำลาย
หางอันใหญ่โตตวัดกวาดผ่านทำลายเอาก้อนหินและต้นไม้ล้มลง
เพราะลั่วฉวน ลูกค้าส่วนหนึ่งจึงเข้ามารับชมด้วยความสงสัย
หลังได้เห็นภาพบนหน้าจอ พวกเขาจึงไม่ได้ที่จะอุทานออก
“งูเหลือมแห่งป่าใหญ่! นั่นงูเหลือมแห่งป่าใหญ่!”
“หมายความถึงอะไร? ชื่อของสัตว์อสูรตัวนั้นหรือ?”
“เป็นภารกิจออกล่าที่คฤหาสน์จ้าวเมืองปล่อยออกมา ความสำคัญค่อนข้างสูง รางวัลคือโอกาสสุ่มได้รับทักษะพิเศษ!”
“สุ่มทักษะพิเศษ?! น่าอิจฉาชะมัด”
“ไม่เห็นเข้าใจว่าพูดถึงอะไรกันอยู่…”
ผู้เล่นโหมดทั่วไปของหอคอยแห่งการทดสอบสามารถแบ่งโดยคร่าวเป็นสามจำพวก
หนึ่งก็เหมือนดังลั่วฉวน อยากสัมผัสประสบการณ์ของต่างโลก
อีกหนึ่งคือพัฒนาตนเอง อย่างไรแล้วค่าประสบการณ์ที่ได้รับก็จะย้อนกลับเข้ามาหาตนเอง
และอีกประเภทคือมีทั้งสองอย่างผสานรวมกันอยู่
จากกลุ่มคนที่พูดคุยกันอยู่ ลั่วฉวนพอเข้าใจว่าพวกเขากล่าวถึงอะไร
โดยสรุปคืองูเหลือมยักษ์นั่นชื่อว่างูเหลือมแห่งป่าใหญ่ ความแข็งแกร่งคือระดับสี่สิบ
ภารกิจออกล่าที่คฤหาสน์จ้าวเมืองมอบหมายเมื่อไม่นานมานี้ เพราะมันยากเกินไปจึงไม่มีผู้เล่นใดตอบรับ
“หากสังหารอสรพิษแห่งป่าใหญ่ได้ เช่นนั้นขึ้นระดับสี่สิบได้แล้วกระมัง?” กู่หยุนซีที่ไม่ทราบว่าออกจากโลกเสมือนจริงของตนเองเมื่อใดเข้ามาร่วมวง
ด้วยฐานะผู้เล่นคนแรกที่ระดับถึงยี่สิบ นางในตอนนี้ทราบดี ว่าผู้เล่นคนแรกที่จะก้าวถึงระดับสี่สิบได้ไม่มีโอกาสหลุดถึงมือนาง
แม้ช่วงนี้ทุกวันนางจะเข้าเล่นโหมดทั่วไป รวมถึงพยายามออกล่าสัตว์อสูรเพื่อยกระดับ สุดท้ายตอนนี้ก็ยังได้แค่ระดับสามสิบเจ็ด
“เถ้าแก่ ถึงระดับสี่สิบคนแรกมีรางวัลพิเศษใดไหม? จะมีโอกาสความเปลี่ยนแปลงใดในโหมดทั่วไปอีกหรือไม่?” ปู้หลี่เกื๋อเอ่ยถามขึ้นมา
“ไม่มี” ลั่วฉวนส่ายศีรษะ
เสียงถอนหายใจผิดหวังดังให้ได้ยิน
มันไม่เหมือนดังสัตว์อสูรส่วนใหญ่ งูเหลือมแห่งป่าใหญ่ใช้การโจมตีหลักคือเน้นที่กายภาพ
รวมเข้ากับคริสตัลธาตุที่เป็นเกล็ดของมัน พลังเวทมนตร์จะถูกดูดกลืน ด้วยความสามารถล้นเหลือนี้จึงเป็นนายเหนือแห่งป่าไม่ผิดแน่
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอานเหวยหยา งูเหลือมแห่งป่าใหญ่ที่เหมือนจะได้เปรียบก็กลายเป็นเสียเปรียบ
เหมือนว่าแต่ละหมัดที่ปะทะเข้ากับร่างของงูเหลือมจะฝากรอยประทับหมัดเอาไว้ลึก รวมถึงการแตกร้าวของคริสตัลธาตุที่เป็นเกราะของมันด้วย
“ระบบ ความสามารถทางกายภาพของผู้เล่นจากความเป็นจริงนำไปใช้ในเกมได้ด้วยหรือ?” ลั่วฉวนกล่าวถามด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง
นางที่งดงามทว่าเผยความดุดันสะกดข่มงูเหลือมแห่งป่าใหญ่เอาไว้กับพื้น ตอนนี้หมัดกำลัวรัวใส่มันอย่างรุนแรง
“บางส่วน” ระบบตอบกลับมา “อย่างไรแล้วระบบนั้นมีการควบคุมขอบเขตเอาไว้ไม่ให้ส่งผลมากนัก”
คำว่าบางส่วนและขอบเขต มันช่างยากคาดเดาโดยแท้
อีกหนึ่งร่างที่ปรากฏในภาพตอนนี้ค่อยดึงดูดความสนใจของหลายคน
เส้นผมสีเงินเงางาม และดวงตาสีแดงที่เฉยชา
พลังงานสีแดงชาดปรากฏจากมืองของนาง และเมื่อมันร่วงหล่นลงมา ที่ตรงนั้นจะกลับกลายเป็นสีเทา