God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 1001
ตอนที่ 1001
จอมเวทแอนโธนี่ที่ลั่วฉวนเลือกเล่น มันแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าจุดสูงสุดของจอมเวทเป็นยังไง
หลังผ่านไปเพียงสิบนาที เขาก็ดึงดันทะลวงผ่านเลนกลางของศัตรูมาได้ สุดท้ายหอคอยเวทมนตร์ล้มทลายพังครืน ฐานคริสตัลระเบิดออกกลายเป็นละอองแสงฟุ้งกระจายเป็นการจบเกม
“ต่อกันเลย” ลั่วฉวนกล่าวบอก
บรรดาลูกค้าตอนนี้ยังตั้งตัวรับรอบใหม่ไม่ทัน กระนั้นพวกเขาก็ไม่คิดเสียเวลาแม้เพียงนาทีเดียวที่จะได้ลั่วฉวนเป็นเพื่อนร่วมทีม
“เถ้าแก่ เหมือนพวกเราไม่ได้ร่วมสู้ศึกด้วยกันนานมากแล้ว” กู่หยุนซีเผยยิ้มมองทางลั่วฉวน
“นานแล้วจริง” ลั่วฉวนนึกถึงครั้งที่เหยาซือหยานเลือกเก้าคนมาทดลองเล่นกลอรี่เป็นครั้งแรก ใบหน้าเขาเผยยิ้มตอบรับยามนึกย้อนเรื่องราว
ลั่วฉวนออกจากโลกเสมือนจริง หลังเล่นกลอรี่อยู่หลายรอบ มันไม่ได้ทำเขาเหนื่อยล้าทางจิตใจ แต่เป็นเกียจคร้านจะเล่นแล้ว
“เถ้าแก่หยุดเล่นแล้วหรือ?” ลูกค้าคนหนึ่งกล่าวถาม
“ใช่” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ เวลาทำการช่วงเช้าของที่ร้านเหลืออีกไม่มากแล้ว
“เถ้าแก่ กลอรี่จะมีบทบาทใหม่ให้เล่นใช่หรือไม่?” ปู้หลี่เกื๋อไปยังโทรศัพท์วิเศษ หน้าจอแสดงให้เห็นถึงโพสต์สอบถามของลั่วฉวน
“ยังไม่ใช่ตอนนี้ ฝากข้อความเอาไว้แล้วจะนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสม” ลั่วฉวนตอบกลับไป
“ตอนนี้ลูกค้ามาแสดงความเห็นกันไม่น้อยเลย” เหว่ยอี้กล่าบอกลั่วฉวนขณะรับชมเหวินเทียนจีและอู๋เทียนกำลังเล่นเดินหมาก
ลั่วฉวนเกือบลืมเลือนไปว่าลูกค้าทั้งหลายของร้านคึกคักกันเพียงใด ตอนนี้จึงนำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมา ไม่ช้าจึงได้ทราบ ว่าด้านล่างโพสต์มันมีความคิดเห็นมากมายปรากฏ
เขาค่อยเห็นว่าความคิดเห็นด้านบนสุดเป็นของผู้ใช้นาม “ผู้ถูกเนรเทศ”
“ผู้ถูกเนรเทศ?” ลั่วฉวนอ่านทวน
“นั่นน่าจะเป็นตัวตนแห่งตำนานของทวีปเทียนหลัน เพื่อหาหนทางสู่นิพพาน ผู้ถูกเนรเทศคนนั้นเหมือนจะต่อสู้กับกองกำลังแข็งแกร่งมากมายเลยทีเดียว” จักรพรรดิปีศาจที่ไม่ทราบว่ามาเมื่อใด ตอนนี้กำลังเผยสายตามองอู๋เทียนที่เล่นหมากกระดาน “ผู้ฝึกตนหลายคนต่างมีเขาเป็นเป้าหมาย”
บุคคลผู้ละทิ้งทุกอย่างเพื่อแสวงกำลัง ลั่วฉวนพอเข้าใจอยู่
หลังอ่านความเห็นไปพักหนึ่ง เขาค่อยก่อเกิดรูปร่างขึ้นในใจ
เวลาทำการช่วงเช้าอีกไม่ช้าจะจบลง ลูกค้าภายในร้านต่างกลับกันออกไป
ตอนนี้จึงมีแต่ลั่วฉวนกับเหยาซือหยานที่อยู่ภายในร้าน
“เถ้าแก่ ทำไมถึงมอบรางวัลเป็นผลึกวิญญาณมากมายให้วิดีโอนั้นกัน?” เหยาซือหยานหยุดยืนตรงขั้นบันไดก่อนจะหันมาถาม
“คิดว่าดีก็เลยต้องมีรางวัล” ลั่วฉวนคิดไปครู่ก่อนจะตอบกลับมาอย่างจริงจัง
เหยาซือหยานถึงกับพูดกล่าวต่อไม่ถูก
เหมือนว่าสาเหตุคือมันไม่มีสาเหตุอะไร
“ทราบแล้ว ข้าไปทำอาหารก่อน” เหยาซือหยานมองตอบอย่างอับจนก่อนจะขึ้นบันไดไป
เมืองใต้สมุทร
หลังพักผ่อนกันเรียบร้อย ยี่ลาจึงนำชาวไซเรนมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสกลางของเมือง
ความแตกต่างจากผู้ฝึกตนมนุษย์ คือพวกนางไม่จำเป็นต้องมีแหวนมิติเก็บของ
ชาวไซเรนต่างก็เชี่ยวชาญมิติ พวกนางสามารถเก็บของเอาไว้ในมิติพกพาส่วนตัวได้โดยตรง
มันจะคล้ายดังระบบมิติเก็บของที่ลั่วฉวนถือครอง
ชาวทะเลหลายคนต่างรับชมอยู่ไกลห่างด้วยความสงสัย
“นั่นคือ?” โนริเอลเอ่ยถาม สายตานั้นมองทางเอเลน่าที่นำเอาวัตถุมิติออกมา
รูปทรงคือสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดราวฝ่ามือ พื้นผิวปกคลุมด้วยโลหะสีขาวเงิน หากมองบางมุมจะเหมือนดังกระจก มันน่าจะต้องนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง
“เป็นอุปกรณ์คำนวณมิติของชาวไซเรน” เอเลน่าตอบกลับโดยสั้นกระชับ
พลังงานที่ชาวไซเรนถือครองนั้นแตกต่างไปจากชาวทะเลในทวีปเทียนหลัน ไม่เกินเลยหากจะกล่าวว่าแม้อยู่ในท้องทะเลเหมือนกัน แต่นอกเหนือจากนั้นล้วนแตกต่าง
“คำนวณตำแหน่งมิติเพื่อสร้างประตูมิติ จากนั้นจึงเชื่อมโยงสองตำแหน่งเข้าด้วยกัน” ยี่ลามองทางเอเลน่าและไซเรนผู้อื่น “ตำแหน่งมิติได้รับการบันทึกแล้ว สร้างประตูมิติได้”
“ให้พวกเราช่วยอะไรไหม?” เอวานน่ามองทางเหล่าไซเรนที่กำลังลงมือ
“ไม่เป็นไร” ยี่ลายิ้มตอบ “ประตูมิติค่อนข้างยากสร้างขึ้น มันจะยากขึ้นไปอีกหากมีส่วนร่วมโดยไม่มีความเข้าใจ”
หลังทานมื้อเที่ยง ก็เป็นเวลาทำการของร้านต้นตำรับรอบบ่าย
หลังนอนงีบอยู่พักหนึ่ง ลั่วฉวนจึงเข้าไปยังมิติพัฒนาเกมที่ไม่ได้เข้าไปเสียนาน
จากความคิดเห็นมากมายที่ได้อ่าน เขาเริ่มเกิดตัวต้นแบบปรากฏขึ้นในใจทีละน้อย…
เมื่อดึงสติกลับคืน ลั่วฉวนค่อยพบว่าแสงภายนอกร้านค่อนข้างสลัวแล้ว
การดื่มด่ำกับมิติพัฒนาเกม มันทำเวลาผันผ่านไปเร็วเสมอ
บรรดาลูกค้าภายในร้านต่างเริ่มกลับกันไปคนแล้วคนเล่าเพราะเวลาทำการที่ใกล้จบลง
“กล่าวไปแล้ว มีเรื่องอยากบอกเถ้าแก่” ปู้หลี่เกื๋อขณะกำลังจะเดินออกจากร้าน ร่างนั้นหันกลับมากล่าวคำ
“ว่าอะไรหรือ?” ลั่วฉวนพอจะคาดเดาอะไรได้ “หยวนก่วยรับเป็นศิษย์แล้ว?”
“เถ้าแก่ทราบได้ยังไง?!” ปู้หลี่เกื๋อเผยสีหน้าประหลาดใจ จากนั้นจึงค่อยถอนหายใจออก “ก็ไม่ได้คิดปิดบังอะไร เถ้าแก่ก็น่าจะพอคาดเดาได้ อาจารย์กล่าวว่าจะจัดพิธีรับศิษย์ในอีกสองวัน ก็เลยให้ข้ามาเชิญท่านกับพี่ซือหยานไปเข้าร่วม”
“จะไปอย่างแน่นอน” ลั่วฉวนตอบรับ
ภาพฉากการรับศิษย์ของเทพแห่งอาหารหยวนก่วยสมควรยิ่งใหญ่ เขาถึงกับคาดหวังอยู่ในใจด้วยซ้ำ
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน” ปู้หลี่เกื๋อกล่าวลาก่อนจะฝ่าสายฝนกลับไป
“เติบโตกว่าตอนนั้นมากมายนัก” เหยาซือหยานถอนสายตากลับก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา
“ไม่คิดว่าเปลี่ยนสักเท่าไหร่” ลั่วฉวนคิดอยู่ครู่ ความเห็นของเขาก็ยังคงเป็นเช่นเดิม
เหยาซือหยานยิ้มตอบโดยไม่โต้แย้งคำใด
อีกสองวันถัดมา เรื่องราวก็ดำเนินตามปกติ ไม่มีใดพิเศษให้ควรค่ากล่าวถึง
หลังครุ่นคิดอยู่นาน เหวินเทียนจีจึงวางหมากของตนลง ก่อนจะกลายเป็นฝ่ายเหยาฮุยเฉินที่เผยสีหน้าคร่ำเคร่งคิ้วขมวด
เกมโกะของลั่วฉวนกลายเป็นที่นิยมในบรรดาลูกค้าสูงวัยเช่นเหวินเทียนจี
ตอนนี้จึงได้เห็นภาพฉากการเล่นเกมตั้งแต่เข้ามาในร้าน ที่สองฝั่งจะเผยความแตกต่างทางอายุ
ลั่วฉวนรู้สึกว่าร้านตอนนี้กำลังมีความคืบหน้าในการเป็นศูนย์กลางกิจกรรมของผู้สูงวัยร่วมด้วย!
ขณะนี้เขาเข้าไปยังมิติพัฒนาเกม
ร่างสูงยืนปรากฏตรงหน้าลอยกลางอากาศ
ชุดเกราะสีดำปกคลุมทั้งร่างพร้อมร่องรอยศึกสงครามที่ผ่านพ้น ใบหน้ามีหน้ากากปิดบังเผยเพียงดวงตาที่ค่อนข้างหม่นหมอง
มือหนึ่งถือดาบหักเอาไว้ พื้นผิวของตัวดาบราบเรียบเหมือนดังกระจก และดูเหมือนว่ามันจะถูกตัดมาอย่างเฉียบคม!
ไม่ไกลห่างคือตัวละครกลอรี่ทั้งสิบที่เป็นเสมือนผู้รับชม
ลั่วฉวนมองตัวละครใหม่ที่สร้างขึ้นในช่วงสองวันนี้มาด้วยสีหน้าพึงพอใจ
หากเทียบกับตอนแรก ความเร็วการสร้างตัวละครของเขาก้าวหน้าขึ้นมาก
สองวันหลังการปลุกปั้น ตัวละครใหม่จึงเกือบเสร็จเรียบร้อย ที่เหลือก็เพียงจัดการรายละเอียดและกำหนดเรื่องของทักษะความสามารถ
เรื่องราวเหล่านี้ค่อยไว้ภายหลัง ลั่วฉวนตรวจสอบเวลาก่อนจะพบว่าใกล้เที่ยงแล้ว