My MCV and Doomsday - ตอนที่ 583
Chapter 583: เฮอลู่
“พวกเขาเป็นใครกัน?” ชายวัยกลางคนรู้สึกสับสน ที่จริงแล้วเขาคิดว่าเขาจะพบชะตากรรมที่โชคร้ายแล้ว นอกจากนี้แล้ว ลูกสาวและผู้รอดชีวิตคนอื่นจะพบกับสถานการณ์ที่ยากลําบาก ที่เกิดขึ้นจากการกระทําของเขาแล้ว เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าสถานการณ์ที่ยากลําบากนั้นจะถูกแก้ไขโดยเสียงปืนแค่สามนัด คนติดเชื้อทั้งสาม ต่างตายกันไปอย่างรวดเร็ว โดยที่คนยังไม่ได้เหงื่อตกด้วยซ้ํา
“เอ๊ยด” เสียงเบรกดังขึ้น รถบัสจอดอย่างนุ่มนวล ต่อหน้าคนติดเชื้อทั้งสามคน ในเวลาเดียวกัน ชายวัยกลางคนเห็นประตูของรถบัสเปิดออกและสาวงามสองคนกระโดดลงมาจากรถ เมื่อเห็นทั้งสองสาว ชายวัยกลางคนตกใจ มันเห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนต่างมีอายุพอๆกันกับลูกสาวเขา พวกเธอไม่เพียงแต่จะสวยแล้ว แต่ยังสะอาดสะอ้านอีกด้วย ถ้ามันไม่ใช่เพราะพื้นที่โดยรอบเป็นซากปรักหักพังและกลิ่นเลือดที่ฉุนขึ้นในอากาศ เขาคงคิดว่าเขากําลังเดินอยู่บนถนนจินหลิง และพบกับเด็กสาวสมัยใหม่สองคน ทําไมพวกเธอถึงยังสะอาดอ้านแบบนั้นได้ในโลกใบนี้กัน? พวกเธอเป็นสมาชิกของเฉินไฮ่ยังงั้นหรือ?
ชายวัยกลางคนคิดเกี่ยวกับเฉินไฮ่ทันที ภายในจินหลิง องค์กรเฉินไฮ่คือทีมที่ลึกลับที่สุด ซึ่งพวกเขานั้นอยู่สูงเกินกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าถึง ในหัวใจของชายวัยกลางคนแล้ว สมาชิกของทีมเฉินไฮสามารถที่จะทําอะไรก็ได้
เมื่อชายวัยกลางคนจมอยู่ในความคิด เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในชุดขาวหยิบเข็มฉีดยาออกมา หลังจากนั้นเธอก็ฉีดลงไปและน้ําสีน้ําเงินก็ออกมาจากศพทั้งสาม การกระทําของเธอทุกอย่างต่างดูไหลลื่นเหมือนกับเมฆปุกปุยที่ล่องลอยอยู่บนอากาศ
ชายวัยกลางคนกลั้นลมหายใจและไม่ได้พูดอะไรออกมา เขารู้ดีว่าทีมด้านหน้าของเขาแข็งแกร่งมากเพียงใด เขานั้นเป็นแค่มดในสายตาของทีมด้านหน้าเขา มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก ที่เขาจะหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขา ในโลกที่เลวร้ายเช่นนี้แล้ว อันตรายที่มาจากมนุษย์ด้วยกันเองไม่ได้น้อยไปกว่าซอมบี้เลย ใครจะไปช่วยคนอื่นกัน? นอกจากนี้แล้ว ตอนที่หลี่ยซินกําลังดึงน้ําสีน้ําเงินออกมา ชายวัยกลางคนยืนนิ่งเฉย เขาไม่ได้พูดหรือวิ่งหนีไป มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับสถานการณ์นี้ ยังไงก็ตาม เจียงจู่อิงไม่ได้พลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้ในการถามคําถาม สุดท้ายแล้ว เขาเป็นคนที่ยังมีชีวิตคนแรกที่พวกเธอพบเจอ หลังจากมายังจินหลิง
“เฮ้! ปู่ มันมีผู้รอดชีวิตรวมตัวกันแถวนี้ไหม? มันอยู่ไหนกัน? ด้านหลังปู่เหรอ?” เจียงจู่อิงชี้ไปที่ค่ายที่อยู่ด้านหลังชายวัยกลางคน
เมื่อได้ยินคําถามของเจียงจู่อิง ชายวัยกลางคนรู้สึกกังวลใจ มันกลับกลายเป็นว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเฉินไฮ่ ไม่อย่างงั้นแล้ว เธอคงจะไม่ถามเขาถึงค่าย สมาชิกทุกคนของเฉินไฮ่ต่างรู้ทุกสิ่งทุกอย่างดีราวกับเป็นหลังมือของพวกเขา ถึงแม้ว่าชายวัยกลางคนจะไม่คิดว่าเด็กสาวสองคนจะเป็นคนแย่ ความตื่นตัวและระมัดระวังของเขายังขึ้นถึงขีดสุดอยู่ดี สุดท้ายแล้ว ลูกสาวของเขาและสมาชิกคนอื่นยังคงซ่อนตัวอยู่ที่ด้านหลังค่ายของเขา ในกรณีที่พวกเธอมีเจตนาที่เลวร้ายแล้ว คนของเขาคงจะไม่มีทางรับมือได้
“มันไม่มีค่ายผู้รอดชีวิตแถวนี้หรอก มีแค่คนแก่ที่ป่วยซ่อนอยู่เท่านั้นแหละ พวกเขาต่างหิวโหย ฉันเลยออกมาหาอาหารให้กับพวกเขา บางทีพวกเราอาจจะติดเชื้อและก็ตายไป อีกอย่างฉันยังไม่ได้แก่พอที่จะเป็นปู่ด้วย ฉันพึ่งจะอายุแค่ 51 เอง..”ชายวัยกลางคนพูดไป ในขณะที่ปัดผมหงอกของเขาไปด้านหลัง เขาต้องการที่จะบอกเจียงจู่อิงว่าโลกใบนี้มันทําให้เขาเป็นแบบนี้ ชายแก่วัย 51 จะยอมถูกเรียกว่าปู่ได้ยังไงกัน? มันแย่มาก
หลังจากชายวัยกลางคนพูด เจียงลู่ฉีเดินลงมาจากรถทัวร์ เขายิ้มและพูดออกมา “คุณลุง พวกเราพึ่งจะมาถึงกัน ที่จริงแล้ว พวกเราต้องการที่จะถามอะไรสักหน่อย อีกอย่างพวกเราต้องการหาน้ํามันดีเซลด้วย ไม่จําเป็นต้องกลัวไปหรอก”
เซียงซัวไฮบอกกับพวกเขาว่ามันมีผู้รอดชีวิตบางคนที่อยู่ในละแวกนี้ แต่เพียงเวลาไม่นานที่พวกเขาพบกับชายวัยกลางคน เจียงลู่นี้รู้สึกว่าสถานการณ์มันแตกต่างออกไป ไม่อย่างงั้นแล้ว ชายวัยกลางคนคงดูไม่ย่ําแย่ขนาดนั้น
“ดีเซล? พวกเราไม่มีน้ํามันแบบนั้นหรอก เฉินไฮ่เก็บทุกอย่างไปหมดแล้ว ถ้าเธอต้องการที่จะหาน้ํามันแล้ว เธอสามารถที่จะไปซื้อมันจากเฉินไฮได้ ยังไงก็ตาม พวกเขารับแค่นิวเคลียสกลายพันธุ์เท่านั้น อีกอย่างพวกเขายังทรงพลังอีกด้วย พวกเธอควรที่จะระมัดระวังตัวไว้ด้วยนะ”
“เฉินไฮ่? พวกเขารับแค่นิวเคลียสกลายพันธุ์?” เจียงลู่ฉีประหลาดใจ มันเหมือนกับว่าเฉินไฮ่เป็นเจ้าถิ่นแถวนี้
“คุณเซียง เคยได้ยินเกี่ยวกับเฉินไฮมาก่อนไหม?” เจียงลู่ฉีถาม
เซียงซัวไฮ้ส่ายหัว “ไม่เลย เมื่อสมาชิกของฉันกลับมา พวกเขาไม่ได้รายงานอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“อืม…” เจียงลู่ฉีพยักหน้า
เขาเหลือบตามองไปที่ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหน้าเขา เขาเป็นชายที่เต็มไปด้วยผมหงอกและใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยย่น เขาผอมแห้งอย่างมาก มันเห็นได้ชัดเจนว่ามาจากการขาดสารอาหาร ยังไงก็ตาม เจียงลู่ฉีรู้สึกได้ถึงการไหลเวียนพลังงานที่อ่อนแอจากเขา มันกลับกลายเป็นว่าเขาเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ แต่ทําไมเขาถึงมีสภาพที่ย่ําแย่แบบนี้กัน? เขาแบ่งอาหารให้กับคนอื่นงั้นเหรอ? เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เจียงลู่ฉีรู้สึกว่าชายแก่คนนี้เป็นคนดี มันเป็นเรื่องยากที่จะมีคนทํามันในโลกเช่นนี้ ด้วยเหตุนี้ เจียงลู่ฉีจึงกลับขึ้นรถไปและเอากระเป๋าใบใหม่ออกมาจากรถบัส แล้วเขาก็โยนให้กลับชายวัยกลางคน
เขารับมันและมองไปด้านใน เขาตกใจอย่างมาก นี่ฉัน…ฝันไปหรือเปล่านี่? มันกลับกลายเป็นเนื้อบาบีคิว ประมาณหนึ่งถึงสองปอนด์ มันทั้งเต็มไปด้วยกลิ่นหอมและน่ากิน เมื่อดูกลิ่นและสีของมัน ชายวัยกลางคนนึกถึง อะไรบางอย่างได้ มันคือเนื้อกลายพันธุ์! เขาไม่สามารถที่จะรหามันได้ แต่เขายังคงจํามันได้ดี
มันเป็นเรื่องที่พูดกันว่า มันคือเนื้อที่ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังนุ่มอีกด้วย มันยังช่วยส่งเสริมต่อมนุษย์ เมื่อใครก็ตามป่วย มันสามารถช่วยแก่โรคร้ายได้ เมื่อผู้มีพลังเหนือธรรมชาติกินมัน ความสามารถของพวกเขาจะพัฒนาขึ้น
“เธอ… ให้มันกับฉัน?” ชายวัยกลางคนถาม
เจียงลู่ฉีพยัก “ใช่ครับ ผมต้องการที่ข้อมูลบางอย่างจากคุณ” เจียงลู่ฉีต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับโรคร้ายที่มันระบาดไปทั่ว รวมทั้งสิ่งที่มีชื่อว่าเฉินไฮ่ด้วย
“เอาละ…เธอถามมาได้เลย…” ชายวัยกลางคนตอบกลับมาอย่างตื่นเต้น เขาอดที่จะรอให้เนื้อนี้กับลูกสาว และคนอื่นไม่ไหวแล้ว ตราบเท่าที่เขาคิดถึงตอนที่ลูกสาวเขาเห็นเนื้อนี้แล้วเธอจะตื่นเต้นมากแค่ไหน มันยิ่งทําให้เขาตื่นเต้นมากขึ้น มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก! มันน่าพอใจกว่าการกินเนื้อนี้ด้วยตัวเขาเพียงคนเดียวเสียอีก
เจียงลู่ฉีสังเกตเห็นตั้งแต่ตอนแรก เขาดูค่อนข้างกังวลและยังคอยลอบมองค่ายที่อยู่ด้านหลัง มันเห็นได้ชัดเลยว่าเขามีคนสําคัญอยู่ที่นั่น
“คุณลุง คุณและทุกคนที่อยู่ที่นี่น่าจะกําลังหิวอยู่ คุณควรที่จะกินก่อนนะ ผมไม่รีบหรอก ผมมีเรื่องอยากถามอยู่เยอะเลย” เจียงลู่ฉพูด
ชายวัยกลางคนตื้นตันจนแทบจะร้องไห้ออกมา เขาขอบคุณเจียงลู่ฉีออกมานับครั้งไม่ถ้วน
“ตามฉันมาเลย ตราบเท่าที่ฉันรู้คําตอบของเธอแล้ว ฉันจะบอกมันทุกอย่างให้เธอเลย” ชายวัยกลางคนพูด
หลังจากนั้นเขาพากลับไปยังค่ายของเขา ตั้งแต่ที่เจียงลู่ฉีส่งเนื้อชิ้นใหญ่ให้กับเขาแล้ว ความกังวลของเขาก็หายไป สําหรับลูกสาวของเขาแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะสวย เธอยังคงด้อยกว่าทั้งสองสาวที่อยู่ด้านหลังเจียงลู่ฉีอยู่ดี นอกจากนี้แล้ว ถ้าเจียงลู่ฉีสนใจลูกสาวของเขาแล้ว มันคงจะเป็นโอกาสที่ดีสําหรับเธอด้วย ในโลกที่เลวร้ายเช่นนี้แล้ว การอาศัยอยู่ตัวคนเดียวมันยาก
เจียงลู่ฉีพาเจียงอิง หลี่ยู่ซิน หลันซิหยู่และเซียงซัวไฮเดินตามเข้าไป หยิงและหลิงต่างให้อยู่เฝ้าบนรถบัส ส่วนซุนคุนและจางไฮ่ต่างจอดรถถังที่ชายแดนจินหลิง เนื่องจากพวกเขาไม่มีน้ํามันมากพอ
“สถานที่แห่งนี้มันแคบและทรุดโทรมไปหน่อย ได้โปรดอย่าถือสาเลยนะ” ชายวัยกลางคนเปิดประตูออก คนที่อยู่ด้านในต่างมองมาที่เขาอย่างกังวลใจ พวกเขาต่างได้ยินเสียงปืน ดังนั้นพวกเขาต่างกังวลใจกัน
“พ่อ พ่อกลับมาแล้ว!” เฮอลู่ตะโกนออกมาทั้งน้ําตา ในโลกใบนี้แล้ว ทุกคนต่างบอบบางกันทั้งหมด ความคิดมากมายต่างผุดขึ้นมาในหัวของเธอ เมื่อเธอได้ยินเสียงปืน ความคิดที่โผล่ขึ้นมามากที่สุดคือ พ่อของเธอนั้นได้เสียชีวิตลงไปแล้ว
“ลูลู่ ดูนี่สิ!” ชายวัยกลางคนเปิดกระเป๋าให้เธอดู สมาชิกทุกคนที่อยู่ด้านในต่างตกใจ
“เนื้อ?” เฮอลู่ตาโตขึ้น เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกําลังฝันไป
นี่ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม?
ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจ พวกเขาต่างมองไปที่ชิ้นเนื้อโดยไม่กระพริบตา พวกเธอต่างกลืนน้ําลายกันทั้งหมด
“วันนี้ ฉันโชคดีที่เจอกลุ่มคนใจดีเข้านะ โชคดีมากจริงๆ” ชายวัยกลางคนกระซิบ หลังจากนั้นเขาเชิญเจียงลู่ฉีและคนอื่นเข้ามาภายใน
“เนื้อชิ้นนี้ ฉันได้รับมาจากผู้มีพระคุณคนนี้ พวกเราควรที่จะขอบคุณเขากันนะ…”
“เอ๋?” เจียงจู่อิงมองไปที่ลูกสาวของชายวัยกลางคน “เธอ… ซงเฮอลู่! ใช่ไหม?” เจียงจู่อิงตะโกนออกมา
หญิงสาวตกใจ เธอไม่ได้ยินใครเรียกว่าซงเฮอลู่มานานแล้ว ทุกคนที่อยู่ในค่ายต่างเรียกเธอด้วยชื่อเล่นกันทั้งนั้น เฮอลู่มองมาอย่างสับสนและจ้องไปที่เจียงจู่อิง
“เธอ…” ซงเฮอลู่พูดอย่างลังเลใจ “เจียง..จู่อิง?”
“ใช่เธอจริงด้วย! ดีมากจริงๆ!” เจียงจู่อิงมีความสุขมาก เธอไม่คิดเลยว่าเธอจะพบกับเพื่อนเก่าที่นี่!