My MCV and Doomsday - ตอนที่ 568
Chapter 568: ชายคนหนึ่งที่วางแผนไว้
“พี่ฉิน พี่ใจดีมากเกินไปแล้วนะ หลังจากนี้ ช่วยผมด้วยนะครับ” เจียงลู่ฉีพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
เจียงลู่ฉีที่ดูบอบบางและอ่อนหลอกฉินฮงฟางได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุนี้นี่เองเขาจึงเริ่มวางแผนที่จะปล้นเจียงลู่ฉีให้หมดตัว เขาคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะหาคนที่โง่เง่าแบบนี้ได้อีกดังนั้นฉิงฮงฟางตัดสินใจที่จะใช้เจียงลู่ฉีเป็นกําไรที่จะเข้ามาอย่างมั่นคง
หลังจากนั้น ฉินฮงฟางพูดกับกัปตันของยาม ว่าเขาจะพาเจียงลู่ฉีไปพบกับหลัวเจียเฟิงเอง
เมื่อได้ยินคําขอของเขา หัวหน้ายามรู้สึกอับอาย เมื่อเขาเป็นคนที่ออกคําสั่งให้จับกุมตัวเจียงลู่ฉีไว้นอกจากนี้แล้ว ตอนนั้น เจียงลู่ฉียังปฏิเสธที่จะส่งคืนรถถังให้กองทัพอีกด้วย แล้วหัวหน้ายามจะเชื่อเจียงลู่นี้ได้ยังไงกัน? กัปตันยามคิดอยู่ตลอดว่าเขาควรจะเป็นคนที่ได้รางวัล เมื่อเขาเป็นคนรายงานเกี่ยวกับรถถัง เขาเป็นชายที่เจ้าเล่ห์ ดังนั้นเขาจะจินตนาการออกได้ว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นว่าฉินฮางฟางเป็นคนพาทีมไปพบกับนายพลหลัวแบบนี้กัน? เขาคงจะเสียรางวัลและผลประโยชน์ไป
“นี่มัน…พี่ฉินครับ ตั้งแต่ที่พวกเราเป็นคนรายงานเกี่ยวกับทีมนี้แล้ว พวกเราควรที่จะทําตามไปนะครับคุณสามารถที่จะไปกับนายพลหลัวได้ แต่หลังจากนั้น พวกเราจะส่งตัวพวกเขาไปกับสํานักงานของกองทัพเอง” หัวหน้ายามพูดออกมา ในขณะที่หัวเราะไปพร้อมกัน
เขาวางแผนที่จะส่งพวกมันให้กับกองทัพด้วยตัวของพวกเขาเอง เพื่อจะทําให้เขาเป็นคนส่งคืนอย่างชัดเจน
หัวหน้าทีมหน่วยสนับสนุนก็เดินเข้ามาหาด้วยเช่นกัน และพูดออกมา ในขณะที่มองเจียงลู่ไปด้วย “พี่ฉิน ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาเป็นใคร ที่นี่คือพื้นที่กองทัพ ดังนั้นคุณควรจะให้พวกเรา ตามไปปกป้องคุณนะครับ”
ฉินฮงฟางเป็นชายที่ฉลาด ดังนั้นเขาจึงเข้าใจถึงเจตนาของพวกเขา ชายทั้งสองคนต่างเป็นเจ้า หน้าที่ดั้งเดิม ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยมีโอกาสพบกับพวกคนระดับสูงสักเท่าไหร่ในที่สุด พวกเขา ก็หาโอกาสที่จะหาผลประโยชน์ได้สักที ดังนั้นพวกเขาจะยอมพลาดมันไปได้ยังไงกัน?
ฉินฮงฟางตอบกลับ “เอาละ พวกเราไปด้วยกันได้” เขาไม่ได้สนใจกับมันเลยแม้แต่นิดเดียวนอกจากนี้แล้ว เขายังเชื่อว่าพวกเขายังสมกับที่จะได้รางวัล
พวกเขาทั้งต่างมุ่งตรงไปยังทางสํานักงาน ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่กองทัพ มันเป็นพื้นที่คฤหาสน์คฤหาสน์ของหลัวเจียเฟิงไม่ได้อยู่ห่างไปจากสํานักงานสักเท่าไหร่ คฤหาสน์แห่งนี้ได้ถูกตกแต่งไว้เป็นอย่างดี พร้อมกับถนนลาดยางด้านหน้าบ้านของเขา
บังเอิญที่ตอนเขามาถึงคฤหาสน์ เฮลิคอปเตอร์ก็ได้ร่อนลงมาบนถนนลาดปูนอย่างช้าๆลมที่พัดอย่างรุนแรงจากใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ทําให้ทหารหลายต่อหลายคนต่างปิดตา
เขาพยายามอย่างมากที่จะมองเฮลิคอปเตอร์ ฉินฮงฟางตกตะลึงมาก มันมีใบพัดถึงห้าใบและมันยาวหลายสิบเมตร โครงร่างที่ดูแข็งแกร่งของมันดูน่าสนใจอย่างมาก มันเป็นเฮลิคอปเตอร์รุ่น WH-10 เมื่อเป็นหนึ่งในรุ่นที่ดีที่สุดของเฮลิคอปเตอร์ที่ขายอยู่ก่อนวันโลกาวินาศจํานวนของมันก็ มีเพียงไม่มาก
“เฮลิคอปเตอร์ลงมาจอดที่นี่ได้ยังไงกัน? ใครกัน?” ฉินฮงฟางรู้สึกประหลาดใจ
หลังจากที่ลงจอด ประตูของเฮลิคอปเตอร์ได้เปิดออก และชายหัวโล้นที่สวมแว่นและชุงหนังสีเทาก็ก้าวลงมา ชายหัวล้านคนนี้สูงประมาณร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ซึ่งเขาดูแข็งแกร่งมากกล้ามเนื้อของเขาดูแทบจะทําให้เสื้อปริออกได้อยู่ตลอดเวลา ด้านหลังหูของเขา มีรอยแผลเป็นยาวอยู่ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติหรือไม่ มันไม่สําคัญ เนื่องจากว่ารูปร่างของเขาก็โดดเด่น กว่าทุกคนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ชายหัวล้านคนนี้ไม่ใช่ผู้นํา หลังจากที่เดินลงมา เขาเดินไปยืนด้านข้างอย่างเรียบร้อยเมื่อชายวัยสามสิบเดินลงจากเฮลิคอปเตอร์ตามมา ชายคนนี่มีผิวหนังสีแทนเขาไม่ได้สูงเลยแม้แต่นิดเดียว แต่สายตาของเขาคมเหมือนกับเหยี่ยว เขาไม่มีแขนข้างซ้ายซึ่งมันถูกแทนที่ไว้ด้วยแขนเทียมแทน แต่แทนที่จะเป็นฝ่ามือปกติธรรมดาทั่วไปมันกลับกลายเป็นขวานที่ใหญ่และคมแทน
ชายแขนเดียวเป็นคนที่น่าดึงดูดสายตาอย่างมาก สําหรับฉินฮงฟางแล้ว แต่เขาก็แค่เหลือบตามองเพียงแค่นั้น ในเวลาเดียวกัน ประตูของคฤหาสน์ก็เปิดออก และชายวัยกลางคนที่สวมชุดยูนิฟอร์มท่าทางองอาจก็เดินออกมา เขาคือหลัวเจียเฟิง
“ผมไม่ได้คาดคิดเลยว่าน้องหลี่จะมาเยี่ยมผมแบบนี้ มันเป็นเกียรติอย่างมากเลยสําหรับผม” หลัวเจียเฟิงเชคแฮนด์กับชายมือเดียว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสวมชุดทหารอยู่ก็ตามแต่พวกเขาก็ต่าง ทักทายกันอย่างเป็นกันเองแทน
“พี่หลัว พี่ก็สุภาพมากเกินไป” ชายมือเดียวเป็นชายที่ไม่ค่อยพูดค่อยจาสักเท่าไหร่
สายตาของฉินฮงฟางส่องประกายออกมา ตอนแรกเขาสับสนมาก ว่าเขาคือใคร แต่สักพักหนึ่ง เขาก็นึกขึ้นได้ว่าชายคนนี้คือหนึ่งในบุคคลที่สําคัญของเกาะเซียหยวน เทพเจ้าแห่งสงครามหลี่หยินนิ่ง
ชายคนนี้เป็นชายที่โด่งดังอย่างมาก ก่อนหน้าที่โลกจะล่มสลาย เขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง และหลังจากที่ไวรัสระบาด ชื่อเสียงและสถานะของเขาก็เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเขาได้รับความสามารถพิเศษที่ทรงพลัง ฉินฮงฟางต้องการที่จะพบและทําความรู้กับ
“นายพลหลี่ ผมได้ยินเกี่ยวกับคุณมามากเลยละครับ ผมชื่อว่าฉินฮงฟาง มันเป็นเกียรติอย่างมากเลยที่ได้พบกับคุณครับ ผมช่างโชคดีมากเหลือเกิน…”
หลี่หยินนิ่งแค่พยักหน้า เขามาที่นี่เพราะว่า เรื่องของ “อาวุธ” เท่านั้น เขาไม่ได้สนใจในตัวของฉินฮงฟางเลยแม้แต่น้อย
เขาเหลือบตาไปเห็นรถทัวร์ที่อยู่ด้านหลังของฉินฮงฟาง รถทัวร์คันนี้ถูกพามาด้วยรถของกองทัพหลายต่อหลายคัน มันทําให้เป็นภาพที่แปลกตามาก ตอนแรกหลี่หยินนิ่งไม่ต้องการที่จะให้ความสนใจกับมัน แต่เขารู้สึกถึงความคุ้นเคยมาจากรถทัวร์คันนั้น
เจียงลู่ฉีกําลังด้านในรถ และเขากําลังจ้องไปยังหลี่หยินนิ่ง เนื่องจากกระจกหน้ารถ มันทําให้หลี่หยินนิ่งมองไม่เห็นใบหน้าของเจียงลู่ฉีชัดสักเท่าไหร่ เนื่องจากมันถูกปกคลุมไปด้วยเงา
“ศัตรูนี่เจอหน้ากับบ่อยจริงนะ เจียงลู่ฉีคิด ในขณะที่ลูบคางไปด้วย
เมื่อพวกเขาอยู่ในเกาะปลอดภัยเซียหยวน หลี่หยินนิ่งได้ชวนเจียงลู่ฉีเข้าร่วมกับทีมของเขาแต่เจียงลู่ฉีได้ปฏิเสธมันไป ด้วยเหตุผลนี้ มันทําให้หลี่หยินฉิงต้องการใช้ที่มฉ่หยิงเป็นเหยื่อและให้พวกเขาเสียสละไปกับการจู่โจมของสัตว์ประหลาด และเจียงลู่นี้ได้รู้ถึงเรื่องนี้ ดังนั้น หลังจากที่ผ่านพ้นไปจากการต่อสู้ ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ล้างแค้น ซึ่งมันจบลงที่หลี่หยินฉิงเสียแขนไปข้างหนึ่งสําหรับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติแล้ว แขนของพวกเขาสําคัญมากเพียงใด?
เจียงลู่ฉีไม่ได้คาดคิดเลยว่าหลี่หยินนิ่งและหลัวเจียเฟิงจะรู้จักกัน แต่มันก็ไม่แปลกด้วยเช่นกัน
“ทีมอะไรอยู่หลังนายกัน?” หลี่หยินฉิงถาม เมื่อเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติแล้ว เขาค่อนข้างจะเซนซิทีฟเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันทําให้เขาไม่สามารถเมินเฉยต่อความรู้สึกคุ้นเคยแบบนี้ไปได้
“โอ้ พวกเขาเป็นทีมผู้รอดชีวิตครับ พวกเขาได้รถถังรุ่น 99 มา และต้องการส่งมันคืนกับกองทัพครับ ผมต้องการที่จะรายงานเรื่องนี้กับผู้บังคับบัญชาหลัวครับ” ฉินฮงฟางพูด เขามีความสุขมากเมื่อในความคิดของเขา หลี่หยินนิ่งจะพึงพอใจกับเขา เนื่องจากเขาหารถถังให้กับทางกองทัพ ได้เจอ
“ทีมนั้นอยู่บนรถทัวร์หรือเปล่า?”
“ครับ มันเป็นแค่ที่มธรรมดาทั่วไปเท่านั้นครับ พวกเขาโชคดีมากที่หารถถังได้เจอ” ฉินฮงฟางพูดเขาคิดว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง
หลี่หยินฉิงเดินไปทางรถทัวร์อย่างไม่คาดคิด ซึ่งมันทําให้ฉันฮงฟางตกใจ เขาสงสัยว่าทําไมหลี่หยินฉิงถึงได้สนใจในทีมนี้มากขนาดนี้กัน
หลี่หยินฉิงเดินมาที่ด้านหน้ารถทัวร์ และเขาเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านใน เปิดหน้าต่างออกมาอย่างช้าๆ หลังจากนั้น ชายที่นั่งอยู่ในรถที่นั่งเอาแขนพิงหน้าต่างก็เรียกเขา “ไม่เจอกันนานแล้วนะพี่หยินฉิง สไตล์ใหม่ของพี่นี่มันโคตรเท่ห์เลยละ พี่กําลังวางแผนหาแขนอีกข้างอยู่งั้นหรอ?”เจียงลู่ฉีพูดอย่างมีความสุข
“แก! เจียงลู่ฉี!” หลี่หยินฉิงกําหมัดด้วยความโกรธเคือง เขาจะลืมใบหน้านี้ไปได้ยังไงกัน?
“อะไรนะ? เจียงลู่ฉี?” หลัวเจียเฟิงมึนงง หลังจากได้ยินชื่อของเขา มันเป็นไปได้ยังไงกัน?ทําไมเขาถึงโผล่มาถึงตรงนี้ได้กัน? เขาตั้งใจที่จะฆ่าตัวตายในพื้นที่บริเวณนี้งั้นเหรอ?”
อ่านได้ที่ wwwcat2auto.com
ในความคิดของหลัวเจียเฟิงแล้ว เจียงลู่ฉีควรที่จะหลบหนีหรือไม่ก็แอบซ่อนไปตลอดกาลแต่เรื่องที่แปลกประหลาดนี้มันปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขาไวเกินไป เพียงแค่เหตุผลนี้เจียงลู่ฉีก็ชนะ แล้ว หลัวเจียเฟิงรู้สึกเสียวสันหลังวาบ และเขาก็ยื่นมือไปจับอาวุธของเขา “นายมาที่นี่ทําไม?”
“นายไม่ได้ยินมาหรอว่าฉันเก็บรถถังมาได้คันนึงนะ? ที่จริงแล้ว ฉันต้องการที่จะขับรถถังคันนั้นอยู่อีกหลายวันเลยละ แต่เพียงเวลาไม่นานที่เข้าประตูมา พวกเราก็ถูกสั่งให้หยุดและถูกสมาชิก ของนายพามาที่นี่ละ” เจียงลู่ฉีพูด
เมื่อได้ยินคําพูดของเจียงลู่ฉี หลัวเจียเฟิงมองไปที่ใบหน้าของฉินฮงฟางที่ตกตะลึง
“เจียงลู่ฉี? เอาจริงดิ? ไม่ใช่ว่าเขาคือชายที่สังหารเจ้าหลุมดําด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอ? แต่รถมินิบัสของเขาอยู่ไหนกัน?” ฉินฮงฟางมองไปยังรถทัวร์ที่อยู่ด้านหลังของเขาอย่างช้าๆ มันแทบจะเป็นฝันร้ายไปเลยสําหรับเขา เขาโง่เง่ามากแค่ไหนกันวะเนี่ย! ความคิดก่อนหน้านี้ของเขามันไร้สาระมากแค่ไหนกัน!?
เขาเหลือบไปมองใบหน้าของเจียงลู่ฉีอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งเจียงลู่ฉีกําลังยิ้มออกมาอย่างกับปีศาจร้าย
ไม่เพียงแต่ฉินฮงฟางแล้ว แต่หัวหน้าทีมสนับสนุนและหัวหน้ายามต่างตกตะลึงกันทั้งหมด พวกเขาหยุดเจียงลู่ฉีและพาเขามาที่สํานักงานจริงๆ ใครจะไปคิดละว่า พวกเขาจะพาฆาตกรมายังบ้านของพวกเขาแบบนี้กัน!