My MCV and Doomsday - ตอนที่ 504

Chapter 504: ช็อคเวฟ
หลี่ยู่ซินก็กลับมาทันเวลาก่อนที่จะออกเดินทาง เจียงลู่ฉีและคนอื่นก็ต่างรวมตัวกันที่ชั้นล่างกันแล้ว

“โชคดี ฉันมาถึงเช้าวันนี้ ไม่อย่างงั้นแล้วละก็พวกนายคงออกเดินทางกันหมดแล้วทิ้งฉันไว้คนเดียว”หลี่ยู่ซินหน้ามุ่ยแล้วพูดออกมา

“เธอไม่จำเป็นต้องมาหรอก เธอสามารถที่จะใช้เวลาอยู่ร่วมกับครอบครัวเธอมากกว่านี้ได้นะ”เจียงลู่ฉีพูดพร้อมกับรอยยิ้ม

“ไม่ละ ฉันเป็นสมาชิกของทีมด้วยเช่นกันนะ”หลี่ยู่ซินพูดและหลังจากนั้น เธอก็นั่งลงบนโซฟา

วันก่อนหน้านี้ เธอก็ได้ไปช่วยปู่และแม่ของเธอจัดของอาศัย สภาพการเป็นอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงก็ดีมาก แต่มันก็ยังไม่สามารถที่จะเทียบได้กับภูมิภาคฮัวเซียและพื้นที่บริเวณอื่น โชคดีทื่พื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงก็จะเปลี่ยนกลายเป็นภูมิภาคในไม่ช้า อย่างน้อย นักวิทยาศาสตร์ทั้งสองคนก็จะอาศัยอยู่ที่นี่ได้อย่างปลอดภัย

เจียงลู่ฉียิ้มบางๆออกมา

อย่างไรก็ตาม หลังจากขึ้นไปบนรถมินิบัส แสงสว่างวาบก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เขาก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ เมื่อไหร่ที่ภัยคุกคามที่เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวพูดถึงจะโจมตี

“พวกเรากำลังจะออกเดินทาง!”

จางไฮ่และซุนคุนก็ขึ้นไปบนรถoff-road ติดเกราะ เตรียมที่จะตามหลังรถมินิบัสไป

ในลานจอดรถที่อยู่ข้างกับประตูพื้นที่ปลอดภัย รถกองทัพหกคันและรถoff-road สองคันก็จอดรออยู่ ทั้งสองด้านของรถต่างมีรูปเสือดำที่กำลังไล่ล่าของพวกมันอยู่

กัปตันกวนและจางเฮาจิงก็ยืนอยู่ด้านข้างรถเหล่านั้น เพียงเวลาไม่นานที่เจียงลู่ฉีและเพื่อนร่วมทีมของเขาก็ปรากฏขึ้น พวกเขาก็เริ่มสตาร์ทรถ

“ฉันได้ยินมาว่ารถมินิบัสคันนั้นมันยอดเยี่ยมมาก”จางเฮาจิงพูด

จางเฮาจิงก็ได้ค้นคว้าเกี่ยวกับตัวตนของเจียงลู่ฉีและทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับทีมของเขา มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากที่จะหาสิ่งที่เจียงลู่ฉีพึ่งสร้างไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เมื่อมันถูกแพร่กระจายข่าวไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เขาก็ได้เรียนรู้จากนายพลจางว่าเขานับถือเจียงลู่ฉีและรถมินิบัสของเขาเป็นอย่างมาก…

“แต่ฉันคิดว่ามันค่อนข้างปกติ เทียบกับรถของพวกเรา มันก็ไม่ได้พิเศษพิโสอะไรเลย”จางเฮาจิงพูด ในขณะที่ลูบรถของเขาไปด้วย

รถของจางเฮาจิงถูกเสริมแผ่นเหล็กหนาและแท่งเหล็ก มันก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยวัตถุดิบกันแรงปะทะ แม้ว่ามันจะปะทะเข้ากับสัตว์ป่ากลายพันธุ์ มันก็ยังไม่แตกเป็นเสี่ยง เครื่องยนต์ของมันก็ได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะเพื่อที่จะเร่งความเร่งและขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว ในพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงทั้งหมด มันก็ไม่ได้มีทีมทั้งหมดที่สามารถติดตั้งได้ ในสายตาของจางเฮาจิงแล้ว รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีก็ดูธรรมดาทั่วไปและดูจืดชืด

“รถของพวกเราไม่ได้พิเศษอะไรขนาดนั้น แต่รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีอาจจะติดตั้งบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษโดดเด่นออกไป”กัปตันกวนพูด ในเวลาเดียวกัน เขาก็หรี่ตามอง “อย่างไรก็ตาม รถคันนั้นก็ทรงพลังมากจริงๆ! ดูสิ!”

ทันใดนั้นเสียงคำรามเบาๆก็ดังขึ้น

เจียงลู่ฉีก็อดที่จะหันกลับไปมองต้นกำเนิดของเสียงไม่ได้ มันเป็นเสียงที่ดังมาจากรถบรรทุกสีแดงที่รูปร่างดูพิเศษออกไป ทั้งสองด้านของหน้ารถก็มีปืนสองกระบอกและด้านหลังของมัน แทนที่มันจะต้องตามมาด้วยรถพ่วง แต่มันกลับกลายเป็นสิ่งของบางอย่างที่เหมือนกับขีปนาวุธ และมันก็กำลังปลดปล่อยควันสีดำออกมา

“นั่นคืออะไรกัน?”เจียงลู่ฉีถามออกมาอย่างประหลาดใจ เขาไม่เคยเห็นรถอะไรแบบนี้มาก่อน

“ถ้าฉันเดาไม่ผิดแล้วละก็มันน่าจะเรียกว่า ช็อคเวฟ รถบรรทุกไอพ่น!”หลิงอุทานออกมา “รถประเภทนี้ต่างติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่นสามตัวและความเร็วของมันก็สามารถที่จะเร็วได้ถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!”

“อะไรนะ? 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง? มันจะต้องใช้น้ำมันมากเท่าไหร่ถึงจะเติมถังน้ำมันให้เต็มกัน? มันน่าจะเผาไหม้น้ำมันหมดในเวลาน้อยกว่าสิบนาทีใช่ไหม?”เจียงลู่ฉีถาม

“ไม่ ไม่ใช่ค่ะ”หลันซิหยู่ส่ายหัว “ฉันเคยเห็นช็อคเวฟของจริงในตอนแสดงเครื่องบิน ช็อคเวฟสามารถที่จะเทียบได้กับความเร็วของเครื่องบิน นี่มันน่าจะเป็นรถบรรทุกปรับแต่งที่มีพื้นฐานมาจากตัวช็อคเวฟ”

“โอ้!”เจียงลู่ฉีก็เข้าใจ 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมันน่าหวาดกลัวมาก!

ความสนใจของเจียงลู่ฉีต่อช็อคเวฟของแท้และซูเปอร์ช็อคเวฟก็สูงมาก ถ้าใครก็ตามก็พูดถึงความเร็วแล้วละก็ รถซูเปอร์คาร์ที่รวดเร็วบางคันก็สามารถที่จะเร่งความเร็วได้ถึง400 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในช่วงก่อนวันโลกาวินาศ อย่างไรก็ตาม รถเหล่านั้นต่างไร้ประโยชน์ในโลกที่ล่มสลายเช่นนี้ ถ้ารถมินิบัสของเขาสามารถที่จะเร่งความเร็วได้ถึงระดับนั้นแล้วละก็พวกเขาก็จะมีไพ่ลับไว้ใช้ในการเอาชีวิตรอดเพิ่มอีกหนึ่งใบ

“พี่เจียง พี่น่าจะรู้ว่านี่จะเป็นช็อคเวฟเพียงคันเดียวที่ถูกผลิตที่นี่ มันเหมือนกับว่าพวกเขารื้อรถตัวต้นแบบและติดตั้งส่วนประกอบของมันให้กับรถที่อยู่ด้านหน้าของพวกเรา”หลันซิหยู่อธิบาย หลังจากที่สัมผัสได้ถึงสภาพจิตใจของเขา

“…เพียงคันเดียว…”เจียงลู่ฉีรู้สึกผิดหวัง นั่นมันหมายความว่ามันน่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะหาอีกคันหนึ่งในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโลกที่ล่มสลายเช่นนี้

เจียงลู่ฉีก็มองไปที่รถที่เลียนแบบและเดาว่าคนขับรถก็น่าจะชอบที่ได้สัมผัสตัวช็อคเวฟตัวต้นแบบ

‘โอม!’

ทันใดนั้น รถบรรทุกสีแดงก็เลี้ยวกลับอย่างท่วงเท่ห์และก็จอดลง หลังจากนั้นประตูของมันก็เปิดออกและคนสองคนก็กระโดดลงมาจากรถ

คนขับรถก็สวมชุดคนขับและแว่นตา ซึ่งมันก็ทำให้เขาดูอ่อนโยน มันเหมือนกับว่าเขานั้นแตกต่างไปจากรถของเขาโดยสิ้นเชิง คนอีกคนหนึ่งก็ลงจากรถและมองไปรอบๆ ด้านหลังของเขาก็เป็นดาบเล่มใหญ่ ซึ่งถูกพันด้วผย้า สายตาของเขาก็ดูเย็นชาอย่างมาก มันก็เห็นได้เด่นชัดว่าเขาผ่านประสบการณ์ต่อสู้มามากมาย

“การไหลเวียนพลังงานที่แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้”เจียงจู้อิงอุทาน

มันเหมือนกับผู้มาใหม่สองคนก็ต่างเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติหรือแทบจะเลื่อนเป็นระดับ 2 กันแล้ว แต่พวกเขาคือใครกัน?

“กัปตันไป๋และคุณมิน!”จางเฮาจิงตะโกนออกมาอย่างมีความสุขและเดินไปหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว “รถคันนี้ก็น่าจะเป็น Roarer ใช่ไหมครับ? ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาก่อน”จางเฮาจิงตื่นเต้น เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่ากัปตันไป๋และคุณมินที่มาจากภูมิภาคฮัวเซียจะขับ Roarer มายังที่นี่

Roarer เป็นรถที่กัปตันไป๋ปรับโครงสร้างของมันด้วยตัวของเขาเอง แน่นอนว่ามันก็เป็นเพราะเขาที่ทำให้เครื่องบินของภูมิภาคของฮัวเซียสามารถที่จะบินไปยังพื้นที่แห่งอื่น จางเฮาจิงก็ได้ค้นคว้าเกี่ยวกับทั้งสองคน ตั้งแต่ที่พวกเขามาถึงพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง แต่นี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาเห็น Roarer

“ใช่ มันคือ Roarer” ไป๋เจียหยานตอบกลับอย่างมั่นใจ เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับการแสดงออกที่ตกตะลึงของคนอื่น

“กัปตันกวน ผมได้ยินมาว่าคุณวางแผนที่จะไปยังส่วนกลางและทำภารกิจบางอย่าง พวกเราก็ต้องการที่จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน ดังนั้นพวกเราจะร่วมมือไปกับคุณ”ไป๋เจียหยานพูดออกมา

กัปตันกวนก็มึนงง หลังจากที่ได้ยินมัน

“มันมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้งั้นเหรอ?”ไป๋เจียหยานถาม เมื่อสังเกตเห็นการแสดงออกที่ซับซ้อนของกัปตันกวน “เจ้าหน้าที่ระดับสูงของคุณได้ตอบรับคำขอของพวกเราแล้ว คุณสามารถที่จะวางใจได้เลยว่าพวกเราจะไม่สร้างผลกระทบอะไรกับภารกิจของคุณ”

“เอ่อ…”กัปตันกวนหยุดพูดและหลังจากนั้นเขาก็มองไปที่รถมินิบัสของเจียงลู่ฉี “ทีมของผู้รอดชีวิตนั่นคือทีมที่พวกเราต้องนำทางไป มันเป็นคำสั่ง”

“โอ้….มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก”ไป๋เจียหยานถาม อย่างไรก็ตาม ในความคิดของเขาแล้ว เขารู้สึกว่ามันแปลกมากที่พวกเขาสามารถเอาชีวิตรอดในโลกใบนี้โดยการพึ่งพารถมินิบัสคันนั้น

“กัปตันของทีมนั้นค่อนข้างเก่งกาจในการปรับแต่งรถยนต์ และมันก็พูดได้เลยว่ารถมินิบัสของเขานั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก ผมสงสัยว่ามันจะเทียบกับ Roarer ของคุณได้หรือเปล่าครับ”จางเฮาจิงพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้าย เขาพูดมันออกมาอย่างตั้งใจ เนื่องจากว่าเขาต้องการที่จะแสดงให้หลันซิหยู่เห็นว่าเจียงลู่ฉีไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน และหลังจากนั้นมันก็จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะโน้มน้าวให้เธอออกจากทีมของเจียงลู่ฉี
“โอ้ จริงเหรอ? ฉันค่อนสงสัยแล้วละ”ไป๋เจียหยานพูดออกมาอย่างมีความสุข

ยังไงก็ตาม เขาก็แค่เหลือบตาไปมองรถมินิบัสของเจียงลู่ฉี เขาก็มั่นใจเกี่ยวกับ Roarer เป็นอย่างมากและเชื่อว่ารถมินิบัสที่ดูธรรมดาทั่วไปคันนั้นไม่สามารถที่จะเทียบรถของเขาได้เลย

“ไปกันเถอะ!”กัปตันกวนตะโกนออกมาและหลังจากนั้นสมาชิกทั้งหมดของเขาก็ขึ้นไปบนรถ

กัปตันกวนและจางเฮาจิงก็กลับไปยังรถของพวกเขา

‘บึ้ม!’

ประตูของพื้นที่ปลอดภัยก็เปิดออกและรถต่อหลายคันก็ขับออกไปทีละคันและมุ่งตรงไปยังส่วนกลางของเจียงหนิง

“พวกเขามาจากภูมิภาคฮัวเซียค่ะ พี่เจียง พี่ไม่ต้องการที่จะพบกับพวกเขา แต่สุดท้ายแล้วพวกเราก็ยังพบกับพวกเขาอยู่ดี…”หลันซิหยู่พูด

“นายพลจางไม่น่าจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องของฉัน มันโอเคหน่า ไม่จำเป็นต้องกังวลไปหรอก ยังไงก็ตาม มันก็มีเส้นทางเดียวที่พวกเราสามารถไล่ตามไปได้ในตอนนี้”เจียงลู่ฉีพูด เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการตัดสินใจของนายพลจางอะไรสักเท่าไหร่ เมื่อนายพลจางส่งทหารของเขามาช่วยด้วยความหวังดี

Roarer ก็ขับไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วและนำทางพวกเขาไปตลอดทาง ความเร็วของมันก็รวดเร็วยิ่งกว่ารถยนต์ของกองทัพ ควันดำที่พวยพุ่งออกมาจากท่อไอเสียก็ทำให้ถนนร้างดูน่าหดหู่ขึ้นไปอีก

รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีก็แค่ตามพวกเขาไป จุดหมายของพวกเขาไม่ได้อยู่ไกลออกไป ดังนั้นเจียงลู่ฉีจึงไม่ได้เร่งรีบอะไร เขากลับให้ความสนใจกับเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวแทน หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนอันตรายในตอนเช้า มันก็ไม่ได้แจ้งเตือนอะไรกับเขาอีกเลย

“จางไฮ่”เจียงลู่ฉีขับช้าลงและตะโกนกับจางไฮ่และซุนคุน “หลังจากที่พวกเรารวบรวมวัตถุดิบจากเฮลิคอปเตอร์สองลำเสร็จแล้ว พวกเราจะมุ่งตรงไปยังเมืองเฮยจิงในทันที”

“โอเคครับ พวกเราเข้าใจแล้วฮะ”จางไฮ่ตอบกลับ

เจียงลู่ฉีก็มีความสุขมาก เนื่องจากว่าตราบเท่าที่วัตถุดิบทั้งหมดได้ถูกรวบรวมเสร็จ รถมินิบัสของเขาก็สามารถที่จะอัพเกรดได้อีกครั้งหนึ่ง

“เอ้อ นายควรที่จะระมัดระวังตัวด้วยนะ”เจียงลู่ฉีพูด

..

ขบวนรถก็ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น ดังนั้นซอมบี้จำนวนมากจึงปรากฏตัวมากขึ้นเรื่อยๆและพุ่งเข้าใส่พวกเขา

ด้านหน้าของ Roarer ก็คือปืนกลและกำลังเล็งไปหาซอมบี้เหล่านั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ซอมบี้พยายามที่จะปีนขึ้นไปบนรถบรรทุก มินเฉียงก็จะฟาดพวกมันลงไปด้วยมือของเขา พูดตามปกติแล้ว ความเร็วของซอมบี้นั้นมันเกินกว่าขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว แต่มินเฉียงก็ยังเหมือนกับว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ที่กำลังจัดการกับเด็กอยู่ยังไงยังงั้น

เจียงลู่ฉีก็สังเกตเห็นมันและก็ประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของมินเฉียง นอกจากนี้แล้ว มินเฉียงก็ไม่เคยสัมผัสกับร่างกายของซอมบี้ เขาแค่ทุบมือลงไปบนอากาศและซอมบี้ก็หล่นลงไป

ในรถบรรทุกของกองทัพ ปืนหลายต่อหลายกระบอกก็สามารถที่จะเล็งไปยังซอมบี้ที่อยู่ด้านนอกได้ พร้อมกับเสียงที่ปืนที่ดังออกมาและเสียงขู่คำรามของซอมบี้ พวกเขาก็พุ่งตรงไปเบื้องและเหลือไว้แต่ร่องรอยของซากศพและเลือดบนถนน ซอมบี้ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้โดนปืนยิงจนตายไปก็ถูกบดขยี้เป็นชิ้นๆโดยเพื่อนพ้องของมันเอง…