My MCV and Doomsday - ตอนที่ 484
Chapter 484: ตกอยู่ในอันตราย
หญิงสาวที่ถือปืนไรเฟิลก็พูดออกมา “แม้ว่าพวกเขาต้องการจะมาที่นี่ ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้านพลังจิตคนนั้นก็จะสามารถสัมผัสได้เลยว่าสถานที่แห่งนี้มันอันตรายมากขนาดไหน เมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงอันตรายแล้วฉันก็เดาว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่พวกเขาจะมาช่วยพวกเรา”
เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาว ผู้รอดชีวิตหลายคนก็รู้สึกผิดหวังอีกครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าสิ่งที่หญิงสาวคนนั้นพูดออกมาก็คือเรื่องจริง สำหรับทีมผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่แล้ว ซอมบี้กลายพันธุ์ระดับสองนั้นค่อนข้างที่จะอันตรายมาก พูดตามปกติแล้วการหลบหลีกพื้นที่อันตรายเป็นตัวเลือกธรรมดาทั่วไป ทีมนั้นจะมาช่วยทีมของพวกเขาได้ยังไงกัน? ที่จริงแล้วพวกเขาก็แค่มาเสี่ยงโชคเท่านั้น มีเพียงทีมที่คุ้นหน้ากันเท่านั้นที่จะมาช่วยพวกเขา แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนั้น โอกาสของมันก็ยังแทบจะเป็นศูนย์อยู่ดี ไม่ต้องพูดถึงทีมแปลกหน้าเลย!
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้รอดชีวิตหลายคนก็สิ้นหวัง ทีมของพวกเขานั้นค่อนข้างที่จะดีเลย เมื่อพวกเขามีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติหกคนและคนที่เหลือต่างเป็นคนธรรมดาทั่วไปกันทั้งหมด ปกติแล้วพวกเขาทำงานกันอย่างขยันขันแข็งกันทั้งหมดเพื่อที่จะพยายามหาอาหารและยารักษา หญิงสาวที่ถือปืนไรเฟิลอยู่นั้นเป็นกัปตันของพวกเขาซึ่งมีชื่อว่าเว่ยเฟยเฟย เพื่อการต่อสู้กับซอมบี้กลายพันธุ์แล้ว เว่ยเฟยเฟยแทบจะไม่ได้หลับเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างมากที่สุด เธอก็แค่หลับตาของเธอเท่านั้น เธอแทบจะเกือบถึงขีดจำกัดของเธอแล้ว ตราบเท่าที่เธอหลับไป มันก็ไม่มีใครในทีมของเธอที่สามารถสู้กับซอมบี้กลายพันธุ์ตัวนั้นได้อีก ในอีกความหมายหนึ่งก็คือทุกคนก็จะตาย
“ฉันขอพักก่อนครู่หนึ่งและหลังจากนั้นฉันจะทำการโจมตีมัน เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฉันหรอก แค่หลบหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็พอ ไม่ว่าเธอจะสามารถหลบหนีไปได้หรือไม่ มันขึ้นอยู่กับโชคชะตาของเธอแล้วละ”เว่ยเฟยเฟยพูด เธอก็หยิบเนื้ออบแห้งขึ้นมากินอย่างช้าๆ เธอก็เคี้ยวมันอย่างช้าๆเพื่อที่จะให้สัมผัสได้ถึงความอิ่มให้มากที่สุด หลังจากติดอยู่ที่นี่มานานนับสัปดาห์ ของกินที่เก็บไว้ก็ถูกกินไปแล้วและร่างกายของเธอก็เหนื่อยล้ามาก ถ้าเธอไม่ได้มุ่งมั่นแล้วละก็ เมื่อร่างกายของเธอทนไม่ไหวแล้ว เธอก็จะไม่มีโอกาสได้สู้อีกต่อไป
“เฟยเฟย…”หญิงสาวที่มีความสามารถทางด้านพลังจิตมองไปที่เว่ยเฟยเฟยอย่างเศร้าสร้อย
“อย่าร้องไห้เลย เธอควรที่จะรักษาพลังงานของเธอไว้ เมื่อเธอหลบหนีไป เธอจะต้องเป็นคนนำทางนะ”เว่ยเฟยเฟยพูดออกมาอย่างเย็นชา ถึงแม้ว่าเธอจะยังสาวมาก เธอก็เป็นคนที่ทำตามคำพูดขชองเธอ หญิงสาวที่มีความสามารถทางด้านพลังจิตมีชื่อว่าพีช หลังจากเว่ยเฟยเฟยได้ดุด่าเธอ เธอก็หยุดร้องไห้ในทันทีและนั่งกุมเข่า พีชนั้นรู้สึกเศร้าหมอง เมื่อตอนที่เธอพบกับพลังทางจิตที่แข็งแกร่งนั่น เธอเรียกพลังงานของเธอกลับในทันที บางทีเธอควรที่จะส่งข้อมูลให้กับอีกฝ่ายเพื่อขอความช่วยเหลือ มันก็ดีกว่าการที่ไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างไรก็ตาม การไหลเวียนพลังงานทางจิตของเธอก็กำลังจะหมดลง เธอก็ปิดตาลงและพยายามที่จะใจเย็นลงและฟื้นความแข็งแกร่งของเธอ แต่เธอก็ล้มเหลว
‘ฉันนี่มันไม่มีอะไรดีเลย!’พีชก้มหน้าลงแนบกับเข่าพร้อมกับริมฝีปากที่กัดแน่น มันก็ไม่มีเสียงร้องไห้ดังออกมา แต่เธอก็กลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอไม่ไหว
บรรยากาศในห้องนั้นน่าเศร้าหมองอย่างมากและคนมากมายต่างเช็ดน้ำตากันอย่างเงียบๆ พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะมองไปยังเว่ยเฟยเฟย เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถที่จะทำใจได้ไหว
หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง พลังจิตที่แข็งแกร่งก็กวาดไปทั่วตึก
พีชก็กระพริบตาและเงยหน้าขึ้นมาในทันที
“มีอะไรผิดปกติเหรอ?”เมื่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเธอ ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งก็ถามขึ้น
พีชก็มึนงงเล็กน้อยและก็พูดออกมา “พวกเขาถามว่าพวกเราอยู่ที่ไหน…”
“เอ่อ ทีมไหนกันที่รู้จักพวกเรา?”ทันใดนั้น ผู้รอดชีวิตทั้งหมดในห้องต่างตื่นเต้น มันเหมือนกับว่าโชคยังไม่ได้ละทิ้งพวกเขาไป
“พวกเขาคือใครกัน?”เว่ยเฟยเฟยถาม
“ฉันจะให้เขาคุยกับเธอโดยตรง”พีชพูด
เพียงเวลาไม่นาน เว่ยเฟยเฟยก็ได้ยินเสียงอันเบื่อหน่ายดังขึ้นมาในหัวของเธอ ‘พวกเราคือทีมเสาสวรรค์ ฉันได้ยินมาว่าทีมของเธอหายไปหลายวันแล้ว โชคดีที่วันนี้ พวกเราอยู่แถวนี้’
‘หยางหยิง?’เว่ยเฟยเฟยตกตะลึงและการแสดงออกที่ซับซ้อนก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ เธอรู้จักหยางหยิงดี
ถึงแม้ว่าทีมของเธอจะอยู่ในบริเวณนี้เป็นส่วนใหญ่ เมื่อเป็นกัปตัน เธอก็ยังจำเป็นที่จะต้องทำการค้าขายสิ่งของกับทีมอื่น ในตลาดแลกเปลี่ยนแล้ว มันก็มีทีมนับร้อยรวมตัวกัน ทีมเสาสวรรค์ก็เป็นหนึ่งในพวกนั้น หยางหยิงเป็นกัปตันทีมที่เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่เลวร้าย ในสถานที่รวมตัวกันนั้น หยางหยิงก็ได้ชวนเว่ยเฟยเฟยหลายต่อหลายครั้งและสนใจในตัวของเธอเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เว่ยเฟยเฟยก็ปฏิเสธทุกครั้งไป เนื่องจากชื่อเสียงของหยางหยิงนั้นเลวร้ายมาก
‘เมื่อคิดว่าการสแกนตามปกติจะทำให้ฉันได้พบกับเธอนี่มัน เฟยเฟย มันเหมือนกับว่าเธอทนได้นานกว่านี้นี่นะ’หยางหยิงยิ้ม
เว่ยเฟยเฟยตอบกลับในความคิดของเธอ ‘นายเป็นคนที่ตรวจพบพวกเราก่อนหน้านี้งั้นเหรอ?’
‘ก่อนหน้านี้?’หยางหยิงมึนงง ‘มันเป็นไปไม่ได้ ฉันจะยอมเสียพลังงานทางจิตในระยะทางไกลๆไปทำไมกัน? ฉันพึ่งขับมาที่นี่และตรวจพบเธอเท่านั้นเอง ฉันพบว่ามันมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างมากอยู่ข้างเธอ มันคืออะไรกัน? ซอมบี้หรือสัตว์ป่ากลายพันธุ์?’หยางหยิงถาม
ที่จริงแล้วเว่ยเฟยเฟยต้องการที่จะถามว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้านพลังจิตก่อนหน้านี้ที่ตรวจพบพวกเธอคือใคร อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ยินคำถามของหยางหยิง เธอก็ลืมที่จะถามไป
‘มันเป็นซอมบี้กลายพันธุ์ระดับ 2’เว่ยเฟยเฟยพูดความจริงออกมา สุดท้ายแล้วหยางหยิงไม่ใช่คนที่มีจิตใจกว้างขวาง เว่ยเฟยเฟยก็รู้ดีว่าเธอไม่สามารถที่จะเชื่อหยางหยิงได้
‘โอ้ ดุร้ายน่าดูเลย ถึงแม้ว่าทีมของฉันจะอยู่ในท็อปสิบแล้วก็ตาม มันยังเป็นเรื่องยากอยู่ดีสำหรับพวกเราในการสู้กับซอมบี้กลายพันธุ์ระดับ 2 เฟยเฟย ฉันต้องการที่จะช่วเยธอจริงๆนะ แต่ฉันไม่สามารถเสียกระสุนและคนของฉันไปอย่างสิ้นเปลืองได้!’หยางหยิงพูดออกมาอย่างซับซ้อน
‘กระสุนห้ากล่อง เนื้อกลายพันธุ์ ห้าตันและนิวเคลียสกลายพันธุ์ระดับ 1 สี่ก้อน’ เว่ยเฟยเฟยพูดออกมาในความคิดของเธอ สิ่งของเหล่านี้ต่างเป็นของหรูหราในทีมของเธอ แต่เธอก็รู้ดีว่าหยางหยิงมาที่นี่เพื่อที่จะปล้นเธอในตอนที่บ้านของเธอไฟไหม้ ด้วยเหตุนี้นี่เองเว่ยเฟยเฟยจึงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวและรวดเร็ว
‘เฟยเฟย ชีวิตของสมาชิกทีมเธอมีค่าแค่นี้เองเหรอ?’หยางหยิงยิ้ม ‘หรือว่าเธอคิดว่าทีมของฉันเป็นขอทานกัน?’
‘หยางหยิง ฉันรู้ว่าทีมนายทรงพลัง แต่สิ่งที่ฉันเสนอไปก็น่าจะพอแล้ว พูดตรงๆมาสิว่านายมีความคิดอะไรอยู่ในหัวกัน?’เว่ยเฟยเฟยขมวดคิ้ว
ถึงแม้ว่าเว่ยเฟยเฟยจะเปิดโปงสิ่งเขาออกมาแล้ว หยางหยิงก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่นิดเดียว เขาก็ยังคงยิ้มอยู่และพูดออกมา ‘เฟยเฟย ฉันชื่นชมที่เธอเป็นคนตรงๆนะ ตั้งแต่ที่เธอถามออกมาแบบนี้ ฉันก็จะตอบตรงๆกลับไปละกัน แม้ว่าทีมของเธอจะมีคนธรรมดาทั่วไปก็ตาม มันก็ยังดีกว่าคนธรรมดาทั่วไป เมื่อเธอมีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้านพลังจิต รวมทั้งเธอด้วย…’
‘นายต้องการจะสื่ออะไร?’เว่ยเฟยเฟยพูดออกมาอย่างเยือกเย็น
‘ถ้าพวกเราช่วยเธอ ทีมของเธอจะต้องรวมกับทีมของเรา’หยางหยิงตอบกลับ
การแสดงออกของเว่ยเฟยเฟยก็เปลี่ยนไปในทันทีที่เธอได้ยินคำพูดของเขา ‘ดังนั้นนายก็ต้องการให้พวกเราขายตัวของพวกเราให้กับนาย เพื่อที่จะให้นายช่วยพวกเราสินะ?’เว่ยเฟยเฟยถามออกมาอย่างโกรธเคือง
‘เฮ้ อย่าพูดแบบนั้นสิ ถ้าเธอเข้าร่วมกับพวกเราแล้วละก็มันจะเป็นสถานการณ์ที่วิน-วินกันทั้งสองฝ่ายเลยนะ พูดให้ชัดแล้วละก็เธอจะเป็นคนที่ได้ประโยชน์จากพวกเราอีกด้วย นี่คือเงื่อนไขเพียงเงื่อนไขเดียวเท่านั้น ตัดสินใจมาซะ’หยางหยิงพูด
มันเป็นเรื่องปกติที่เว่ยเฟยเฟยจะไม่เชื่อสิ่งที่หยางหยิงพึ่งจะพูดออกมา คำตอบของเธอจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน แต่ค่าที่ต้องจ่ายไปคืออะไรกันละ? เว่ยเฟยเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่งและเธอก็พูดสิ่งที่หยางหยิงพูดกับเธอให้กับคนอื่นฟัง
“รวมทีม?”
“แต่ฉันได้ยินมานะว่าเขาโหดเหี้ยมอย่างมาก”
“ฟางเฉิงจินก็อยู่ในทีมของเขาด้วยเช่นกัน มันเคยมีคนพูดว่าใครก็ตามที่ยั่วยุพวกเขาจะถูกฆ่าทิ้ง…”
สมาชิกคนอื่นก็พูดคุยกันต่อ “แต่ถ้าพวกเราปฏิเสธแล้วละก็…”ไม่มีใครกล้าที่จะพูดต่อให้จบ
‘โอ้!’ ในเวลาเดียวกันเสียงของหยางหยิงก็ดังขึ้นในความคิดของเว่ยเฟยเฟยอีกครั้งหนึ่ง ‘เธอต้องการที่จะเสียสละตัวของเธอเองในการสู้กับซอมบี้กลายพันธุ์ระดับ 2 ในขณะที่คนอื่นหลบหนีงั้นเหรอ? เฟยเฟย เธอมันอ่อนต่อโลกมากเกินไปแล้ว’
เว่ยเฟยเฟยมึนงง เมื่อเธอได้ยินดังนั้น ‘นายกล้าดียังไงที่แอบอ่านความคิดของฉัน!?’
‘เฮ้ มันเป็นเรื่องปกติ ฉันเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้านพลังจิต เธอก็รู้นี่’ หยางหยิงพูด ‘เธอกล้าหาญมากเลยละ มันเป็นเหตุผลที่ฉันไม่ควรที่จะทำลายความฝันของเธอไป แต่พูดตามตรงแล้วนะ ฉันรู้สึกอยู่ดี แม้ว่าเธอจะทำแบบนั้น เธอกจะไม่สามารถช่วยให้พวกเขาหนีไปได้อยู่ดี…’
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เว่ยเฟยเฟยก็รู้สึกหงุดหงิด เธอก็รู้ถึงความเป็นไปได้ของมันอยู่แล้ว ‘นายกำลังข่มขู่ฉันอยู่ใช่ไหม?’
‘อย่าสนใจฉันเลย เฟยเฟย เธอคิดเกี่ยวกับมันให้ดีๆก่อนที่จะให้คำตอบกับฉันละกัน’คำพูดของหยางหยิงทำให้เว่ยเฟยเฟยรู้สึกขยะแขยง เธอรู้ว่าหยางหยิงไม่ใช่คนดี แต่เธอไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะเลวร้ายแบบนี้ ถ้าเธอปฏิเสธแล้วละก็ หยางหยิงก็จะไม่เพียงแค่ไม่ช่วย แต่เขาก็จะทำร้ายพวกเธอแทนอีกด้วย พร้อมกับความแข็งแกร่งของทีมเขาแล้ว มันก็เป็นงานง่ายที่จะทำมัน
..
ในตอนนี้ สถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ถนนจากตึกเล็กๆที่เว่ยเฟยเฟยและคตนอื่นอยู่ มันก็มีรถoff-road หลายคันที่จอดอยู่ที่นั่นพร้อมกับศพของซอมบี้หลายสิบตัวนอนอย่ตรงนั้น ไม่มีเลือดแม้แต่หยดเดียวไหลออกมาจากศพของพวกมัน เมื่อคอของพวกมันถูกตัดออกไปอย่างงดงาม ด้วยเหตุนี้นี่เอง มันจึงไม่มีซอมบี้ตัวอื่นที่สนใจพวกเขาเลย
ห่างไปจากศพของซอมบี้มันก็มีชายที่แข็งแกร่งยืนอยู่ข้างประตูเหล็กและอีกฝั่งหนึ่งของรถก็เป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาอย่างมากกำลังยืนพิงรถอยู่ ดวงตาของเขาดูชั่วร้ายมาก
‘เว่ยเฟยเฟย เธอไม่มีที่ให้ไปที่ไหนแล้ว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะไม่ตกลง ตราบเท่าที่ฉัน หยางหยิงนั้นชอบผู้หญิง พวกเธอก็จะกลายมาเป็นของฉันในไม่ช้านี้ละ’หยางหยิงเคี้ยวหมากฝรั่ง ในขณะที่กำลังเซ็ตผม
ในตอนนี้ เว่ยเฟยเฟยก็เหมือนกับชิ้นเนื้อที่ไร้ความหวังและโดดเดี่ยวบนเขียงของหยางหยิง
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเองดวงตาของหยางหยิงก็มีร่องรอยของความอึดอัดขึ้นมา จากกระจกมองข้างของรถมันก็มีจุดแสงสีขาวปรากฏขึ้นมาอย่างฉับพลัน จุดขาวนี้เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงเห็นมันได้ลางๆ มันก็คือรถมินิบัสนั่นเอง!
เจียงลู่ฉีและคนอื่นต่างไม่ได้คุ้นเคยกับถนนบริเวณนี้ ดังนั้นมันจึงใช้เวลาสักพักหนึ่งในการที่จะมาถึงตึกนี้
“พี่เจียง คนที่อยู่ด้านหน้าคือคนที่ฉันบอกคุณว่าพวกเขากำลังเข้าไปใกล้ตึกนั่น”
เจียงลู่ฉีพยักหน้า เขาไม่รู้จักพวกเขาเลยสักคน ที่จริงแล้วไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปสำหรับเขาอยู่ดี เขาแค่ต้องการที่จะถามเส้นทางแค่นั้นเอง
“พี่เจียง มันมีซอมบี้กลายพันธุ์ระดับ 2 อยู่ด้านหน้าพวกเขา”หลันซิหยู่พูดต่อ
ในสายตาของเจียงลู่ฉีแล้วมันมีแสงสว่างปรากฏขึ้น มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาในการอัพเกรดรถมินิบัส การพบกับซอมบี้กลายพันธุ์ระดับ 2 เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างแท้จริงสำหรับเจียงลู่ฉี
ในเวลาเดียวกัน สมาชิกของหยางหยิงต่างจ้องไปที่รถมินิบัสและพวกเขาก็สังเกตเห็นรถoff-road ติดเกราะขับตามมา
เมื่อรถมินิบัสเข้ามาใกล้ขึ้น หูของหยางหยิงก็ได้ยินเสียงที่พิเศษออกไป แต่มันก็ยังเป็นเสียงที่คุ้นเคย แต่มันก็เป็นเสียงที่ทำให้หัวใจของหยางหยิงเต้นระรัวและรู้สึกถึงเลวร้าย
‘เสียงนี้มัน..’