My MCV and Doomsday - ตอนที่ 464
CHAPTER 464: ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้
รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีนั้นขับไปตลอดทาง พร้อมกับการต่อสู้อย่างต่อเนื่องที่ทำให้ซอมบี้กลายพันธุ์และสัตว์ป่ากลายพันธุ์ต่างหลบหนีไปเหลือเพียงแค่ซอมบี้ที่ไม่มีสมองที่พุ่งเข้าใส่รถมินิบัส แต่มันก็ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังหรือไม่ก็โดนบดขยี้ไป
หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง เส้นรอบนอกของพื้นที่ปลอดภัยเซียหยวนก็ปรากฏในสายตาของพวกเขา สิ่งแรกที่เจียงลู่ฉีทำการตรวจสอบก็คือพื้นที่กักกัน ในการเหลือบมองครั้งแรกมันดูเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่ทั้งจำนวนคนและจำนวนอาวุธนั้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องพูดถึงการแสดงออกของเจ้าหน้าที่ที่ตึงเครียดอย่างมากด้วยเช่นกัน
“พวกเขาน่าจะเพิ่มจำนวนยามป้องกันขึ้น เนื่องจากทหารจำนวนมากถูกส่งไปยังรังสัตว์ป่า”ซุนคุนพูดออกมาอย่างไม่เต็มใจ แต่เขาก็ไม่เชื่อในคำพูดของเขาเองด้วยเช่นกัน
บรรยากาศตอนนี้ดูแปลกประหลาด เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ จางไฮ่ก็เปิดหน้าต่างและบอกชื่อทีมของเขากับทหารคนนั้น หลังจากนั้นทหารก็ไปรายงานกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงและเพียงเวลาไม่นานเขาก็กลับมา อย่างไรก็ตามเขาก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แข็งทื่อ “ในตอนนี้ไม่มีใครอนุญาตให้เข้าไปด้านในพื้นที่ปลอดภัยได้ชั่วคราว”
เจียงลู่ฉีตื่นตระหนก เมื่อเขาได้ยินว่ามันเหมือนกับสถานการณ์มันเลวร้ายกว่าที่พวกเขาคิดไว้เสียอีก ความจริงที่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านในนั่นหมายความว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติขึ้นด้านใน
“พวกเราจะต้องเข้าไป ทีมของพวกเรามีสิทธิ์ที่จะอยู่ด้านในพื้นที่ปลอดภัย นายจะปล่อยให้พวกเรานอนอยู่ข้างนอกนี่นะ มันหนาวมากจริงๆ!”เจียงลู่ฉีบ่น
“มันเป็นคำสั่ง”ทหารคนนั้นขมวดคิ้ว เมื่อผู้มีพลังเนหือธรรมชาติสามารถที่จะปรับตัวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างง่ายดายและหลังจากนั้นเขาจึงพูดออกมาอย่างเย็นชา
เมื่อเห็นทหารคนนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะปล่อยให้พวกเขาเข้าไป หลี่ยู่ซินก็เปิดหน้าต่างและพูดออกมาด้วยความกังวลใจ “เกิดอะไรขึ้น? แม่และปู่ของฉันเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยกันทั้งคู่ ถ้ามันมีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นแล้วละก็คุณจะต้องปล่อยพวกเราเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา คุณไม่สามารถที่จะหยุดพวกเราได้…”
ทหารนายนั้นลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่งและหลังจากนั้นก็ตอบกลับ “ไม่ละ นี่เป็นคำสั่ง ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านใน คุณควรที่จะรออยู่ด้านนอก”
“ทำไม…”หลี่ยู่ซินยังคงต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ทหารคนนั้นก็หันกลับไปและเดินเข้าไปยังป้อมยามของเขา หลันซิหยู่ก็กุมมือของหลี่ยู่ซินไว้และปลอบโยนเธออยู่ตลอดเวลา
เจียงลู่ฉีก็ยังคงเงียบงันในขณะที่ตรวจสอบไปยังประตูของพื้นที่กักกันและวิเคราะห์พลังการต่อสู้ของพวกเขารวมทั้งความสามารถในการเข้าไปด้านใน เมื่อเป็นพื้นที่ปลอดภัยขนาดใหญ่ พลังการป้องกันของเซียหยวนนั้นยอดเยี่ยมกว่าเกาะเชนไฮ่ ทหารเฝ้ายามทั้งหมดต่างถือปืนไรเฟิลอัตโนมัติไว้ในมือของพวกเขา แต่ทหารที่ยืนข้างประตูกักกันไม่ได้ถืออาวุธอะไรไว้เลยแม้แต่อย่างเดียว บนกำแพงเมือง ปืนนับไม่ถ้วนต่างกำลังเล็งมาที่พวกเขา ไม่ต้องพูดถึงประตูเหล็กที่ปิดสนิทอย่างแน่นหนาอีกด้วย
‘บึ้ม!’
เสียงคำรามจากเครื่องยนต์และเสียงล้อที่เสียดทานไปบนพื้นก็ดังขึ้นและหลังจากนั้นรถบรรทุกของหนักสามคันที่ได้รับการปรับแต่งก็เข้ามาใกล้กับประตู ทั้งสองคันต่างล้อมรอบไปที่รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีจากทางซ้ายและทางขวา รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีก็ดูอ่อนแอและเล็กกระจ้อยร่อยไปเลยเมื่ออยู่ต่อหน้ารถบรรทุกเหล่านั้นและเหมือนกับว่ามันสามารถที่จะถูกเหยียบทับจนแบนได้อย่างง่ายดาย
ทุกคนในทีมเจียงลู่ฉีต่างรู้สึกตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย
“พวกเขาเป็นพวกที่ตามพวกเรามาค่ะ”หลันซิหยู่พูดขึ้นมา
ในตอนนี้หน้าต่างด้านขวาของหนึ่งในรถบรรทุกของหนักก็ลดลงไปและหญิงสาวผมยาวก็ปรากฏขึ้น
“ยอดเยี่ยม! นายนี่วิ่งหนีได้ไวจริง ถ้ามันไม่ได้เป็นเพราะหิมะแล้วละก็ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะตามนายได้ทัน”หญิงสาวผมยาวพูดออกมา ถึงแม้ว่ารถมินิบัสของเจียงลู่ฉีจะค่อนข้างเร็ว มันก็ยังคงช้ากว่าปกติ เนื่องจากหิมะ
“เธออีกแล้ว”เจียงลู่ฉีพูด แต่เขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าหญิงสาวคนนั้นจะเป็นคนขับรถ
“นายรู้ได้ยังไงว่าผู้บังคับบัญชาหวังถึงกลายพันธุ์?”หญิงสาวคนนั้นถามออกมาในทันที ในเวลาเดียวกันเธอและลูกน้องของเธอก็ยืนอยู่ที่ด้านหน้า เมื่อเจียงลู่ฉีตะโกนออกมา เธอก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่หลังจากนั้นเธอก็เห็นภาพที่เลวร้ายเกิดขึ้น
เมื่อทุกคนนั้นสนใจไปที่ผู้บังคับบัญชาหวัง เธอก็ยังคงจ้องไปที่เจียงลู่ฉี ดังนั้นเธอจึงเห็นเจียงลู่ฉีหันหลังหนีไปโดยไม่มีความลังเลใดๆ ด้วยเหตุนี้นี่เองเธอจึงสั่งการให้ลูกน้องของเธอสองคนไปแจ้งสมาชิกที่เหลือของทีมเสือร้าย ในขณะที่เธอไล่ล่าตามเจียงลู่ฉีไป
“ในตอนนี้ในเมืองน่าจะเปลี่ยนเป็นนรกแล้ว มันเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้าย อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีใครที่ตรวจพบปัญหาได้เลยยกเว้นนาย!”หญิงสาวคนนั้นพูดเพิ่มออกมา เธอเชื่อว่าสมาชิกของทีมเสือร้ายต่างหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นเธอจึงไม่กังวลเกี่ยวกับพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่เธอต้องการจะรู้จริงๆก็คือทำไมเจียงลู่ฉีถึงสังเกตเห็นว่ามันมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
เจียงลู่ฉีเหลือบตามองไปที่เธอ ไม่ต้องพูดถึงเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวที่แจ้งกับเขาเลย เขาก็ไม่มีความตั้งใจที่จะบอกหญิงสาวคนนี้สักเรื่องอยู่ดี
“อย่าจอดรถของนายไว้ที่นี่!”ทหารนายหนึ่งเข้ามาใกล้และเตือนออกมาเสียงดัง
“ปัง ปัง!”
ในเวลาเดียวกันเสียงปืนก็ดังลั่นออกมาจากพื้นที่ปลอดภัยด้านใน! มันเห็นได้อย่างเด่นชัดว่าเสียงปืนดังไม่ไกลจากที่ที่พวกเขาอยู่
ทหารนายนั้นดูตกตะลึงและเขาก็หันกลับไปมองในทันที
เจียงลู่ฉีก็สังเกตเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดต่างดูกระวนกระวายใจและกังวล ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการป้องกันของพื้นที่ปลอดภัยด้านในกำลังอ่อนแออยู่
“นำสองหน่วยไปสนับสนุนซะ พวกเราจะต้องควบคุมขอบเขตอันตรายไว้!”เจ้าหน้าที่สั่งการ หลังจากนั้นหน่วยเฝ้ายามสองหน่วยก็รีบกระโดดขึ้นไปบนรถติดเกราะของกองทัพ หลังจากนั้นประตูของเขตกักกันก็เปิดออกอย่างช้าๆพร้อมกับเสียงดังก้องและหลังจากนั้นรถติดเกราะสามคันก็เข้าไปด้านใน
“เกิดอะไรขึ้นด้านในกัน?”หญิงสาวคนนั้นถามออกมาในขณะที่มองไปยังเจียงลู่ฉี “เอาเถอะ นายกำลังจะไปที่….”
ในเวลานั้นเองเจียงลู่ฉีก็ตะโกนออกมา “หยิงขับตรงไปเลย!”
‘โอม!’
หยิงเหยียบไปที่คันเร่งและใช้งานฟังก์ชั่นการเร่งความเร็ว ดังนั้นรถมินิบัสของเจียงลู่ฉีจึงพุ่งตรงไปเหมือนกับลูกธนูที่พึ่งบินออกไปจากธนู เหลือทิ้งไว้แต่เสียงที่ล้อเสียดทานไปบนพื้นถนน มันก็พุ่งออกไปจากรถบรรทุกของหนักสองคันและตรงไปยังประตูกักกันที่เปิดออก!
ฉากที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ทำให้หญิงสาวผมยาวตกตะลึงแต่ก็ทหารที่ยืนเฝ้ายามอยู่ก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน ไม่มีใครกล้าที่จะทำอะไรแบบนี้มาก่อนจนถึงตอนนี้ แต่ไม่มีใครกล้าที่จะหยุดรถมินิบัสด้วยเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม ผู้คนที่อยู่ตรงหน้าต่างตื่นตระหนกและวิ่งหลบไปข้างทาง
“ยิง!”เจ้าหน้าที่คำรามออกมา
พวกเขามีสิทธิ์ที่จะยิงใครก็ตามที่พุ่งเข้าใส่ทางเข้าตรงๆและหลังจากนั้นห่ากระสุนก็ยิงเข้าใส่รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีแต่มันก็ไม่สามารถที่จะเจาะทะลุตัวรถด้านนอกหรือกระจกรถได้เลย มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถเห็นได้ก็คือรอยรูปใยแมงมุมที่ปรากฏขึ้นบนกระจก แม้กระทั่งล้อก็ยังคงเป็นล้อกันกระสุน!
ในชั่วพริบตา รถมินิบัสก็ขับผ่านเข้าไปในประตูกักกัน มันก็สายเกินกว่าที่จะปิดแล้ว
เจ้าหน้าที่ต่างกราดเกรี้ยว เขาก็วิ่งไปยังประตูและมองไปยังด้านใน เขาก็พบว่ารถมินิบัสได้ขับไปยังถนนอีกเส้นหนึ่งแล้วและเพียงเวลาไม่นานก็หายไปจากสายตาของเขา “แจ้งยามที่เฝ้าเขตไว้ในทันทีให้โจมตีรถมินิบัส เมื่อพวกเขาเห็นมัน!”เจ้าหน้าที่นายนั้นสั่งการออกมา
ทหารที่รับผิดชอบในการกระจายคำสั่งก็วิ่งเข้าไปป้อมยาม แต่ทหารอีกนายหนึ่งก็วิ่งออกมา
“สถานการณ์ในพื้นที่ A ตอนนี้ป็นยังไงบ้าง?”เจ้าหน้าที่นายนั้นถามออกมาอย่างรวดเร็ว
“มันไม่ดีสักเท่าไหร่ แต่ผมไม่มั่นใจในรายละเอียด”ทหารนายนั้นรายงานกลับมา
“ทำไมละ?”เจ้าหน้าที่ถามอีกครั้งหนึ่ง
“สหายที่พูดคุยกับผมนั้นโดนโจมตีอยู่”ทหารนายนั้นพูดออกมาอย่างกังวลใจ
แม้กระทั่งทหารยามก็ยังถูกโจมตีแล้วผู้คนในพื้นที่ A จะเป็นยังไงกัน?
มันมีผู้รอดชีวิตนับแสนคนในพื้นที่เซียหยวน เมื่อสถานการณ์หลุดออกจากการควบคุม ผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไปก็ไม่สามารถที่จะหยุดคนที่ติดเชื้อได้ การก่อสร้างประตูกักกันเหล่านั้นก็เพื่อที่จะกีดกันผู้คนที่ดูเหมือนจะติดเชื้ออกไปและป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้ามายังพื้นที่ปลอดภัย แต่ในช่วงเวลานี้ พวกเขาก็ไม่พบต้นตอของปัญหาเลยแม้แต่น้อย ทุกคนก็ยังคิดว่าซอมบี้นั้นยังคงอยู่ด้านนอกพื้นที่ปลอดภัย ใครจะไปคิดว่าผู้รอดชีวิตติดเชื้อจะปรากฏขึ้นด้านในกัน สำหรับพวกเขาแล้วพวกเขาก็ไม่มีเวลาที่จะสนใจรถมินิบัสเลยแม้แต่นิดเดียว ภารกิจที่สำคัญที่สุดของพวกเขาก็คือการควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น โชคดีที่คนติดเชื้อส่วนใหญ่ต่างอยู่ในพื้นที่ A ในตอนนี้ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นเรื่องที่โชคร้ายที่ผู้เชี่ยวชาญ ศาสตราจารย์และนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีและถูกเคลื่อนย้านจากรัฐบาลก็ยังอยู่ในพื้นที่ A….
ด้านนอกประตูกักกัน หญิงสาวคนนั้นก็ยังคงประหลาดใจกับภาพที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ “พวกเขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? พวกเขาขับพุ่งตรงไปด้านในได้ยังไงกัน?”หญิงสาวผมยาวไม่ได้รับคำตอบจากเขา ดังนั้นเธอจึงยังคงลังเลใจ
เธอรู้ดีว่าพวกเธอไม่สามารถที่จะตามรถมินิบัสของเจียงลู่ฉีเข้าไปได้ นอกจากนี้แล้ว หลังจากที่รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีพุ่งเข้าไปด้านใน ปืนทุกกระบอกก็เล็งมาที่พวกเธอ ที่จริแงล้วทีมของเธอได้ปกป้องทีมเจียงลู่ฉีไปโดยไม่รู้ตัว
“เหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นด้านในพื้นที่ปลอดภัยเซียหยวน…..ฉันไม่รู้ว่ามันจะมีปัญหาแบบเดียวกันกับในฐานทัพเซียหวูหรือเปล่า ไปกันเถอะ!”เพียงเวลาไม่นานหญิงสาวผมยาวก็ตัดสินใจและก็จากไป
ด้านในพื้นที่ปลอดภัย ผู้รอดชีวิตทั้งหมดต่างกลับไปยังบ้านของพวกเขา ถนนนั้นสะอาดซึ่งมันเป็นเรื่องที่สะดวกสบายสำหรับรถมินิบัสของเจียงลู่ฉี ทิศทางของเสียงปืนดังออกมาไม่ไกลจากที่ที่พวกเขาอยู่ แต่เจียงลู่ฉีก็ไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าไปวุ่นวายกับมัน
ที่จริงแล้วพวกเขาต่างสังเกตเห็นถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ มันเห็นได้อย่างเด่นชัดเลยว่าพื้นที่ปลอดภัยทั่วทั้งบริเวณต่างอยู่ในสถานะตื่นตัว แต่ข่าวที่รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีขับเข้ามาด้านในก็ไม่ได้ถูกส่งไปให้กับหน่วยของกองทัพทุกหน่วย ถึงแม้ว่าทหารบางคนจะเคยเห็นรถมินิบัมาก่อน มันก็ไม่มีใครในพวกเขาหยุดมันและสอบถามตัวตนของพวกเขา
อย่างไรก็ตามเจียงลู่ฉีก็รู้ดีว่าตั้งแต่ที่พวกเขาขับเข้ามา พวกเขาก็จะต้องถูกหยุดอยู่ดี
“พวกเราจะขับวนไปรอบๆ” เมื่อพวกเขาขับอ้อมออกจากเส้นทางหลัก เจียงลู่ฉีก็เห็นภาพที่เขาไม่คาดคิด ชายที่ติดเชื้อต่างกระโดดขึ้นสูงและหลังจากนั้นเขาก็ถูกฆ่าทิ้ง!
ตัดสินจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มันน่าจะมีผู้รอดชีวิตติดเชื้ออีกกลุ่มหนึ่ง นอกจากนี้แล้วทิศทางก็ยังคงเป็นพื้นที่ปลอดภัย A ตั้งอยู่ ความรู้สึกเลวร้ายในหัวใจของเจียงลู่ฉีก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่สำคัญว่าพื้นที่ A จะแยกออกมาจากพื้นที่ปลอดภัยธรรมดาทั่วไปหรือไม่ คนติดเชื้อก็ได้ทำลายการป้องกันและออกมาด้านนอกแล้ว แม้ว่าคนติดเชื้อทั้งหมดจะถูกฆ่าไป มันก็ประเมินได้เลยว่าความเสียหายนั้นใหญ่หลวงมาก
“พวกเราจะขับตรงไปยังพื้นที่ A!”เจียงลู่ฉีสั่งการและหลังจากนั้นรถมินิบัสของพวกเขาก็ขับตรงไปยังพื้นที่ A เมื่ออยู่ห่างออกไป เจียงลู่ฉีก็ได้ยินเสียงปืนที่ดังออกมาอย่างดุเดือดกว่าแต่ก่อนและเขาก็เห็นทหารจำตวนมาก รั้วลวดหนามดั้งเดิมต่างถูกฉีกกระชาก เจียงลู่ฉีก็เดาว่าพวกที่หลุดออกมาจากก่อนหน้านี้ต่างวิ่งออกมาจากทางนั้น เลือดและศพสามารถที่จะพบเห็นได้ตามพื้นดิน
เมื่อได้กลิ่นของเลือด ร่างกายของหลี่ยู่ซินก็สั่นสะท้านเล็กน้อย