My MCV and Doomsday - ตอนที่ 460
Chapter 460 – ข้อมูลสำคัญ
เมื่อได้ยินคำตอบของเจียงลู่ฉี ลู่ฉางเฟยก็ยังขมวดคิ้วอยู่และหลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “นายต้องการอะไร? ฉันสงสัยว่าฉันจะสามารถช่วยนายได้หรือเปล่า”
“ฉันมีสองเรื่องที่นายสามารถช่วยฉันได้ สำหรับเรื่องแรก ฉันมีคำถามที่จำเป็นต้องได้รับคำตอบ ฉันต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับกระบวนการวิวัฒนาการกลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2”เจียงลู่ฉีถามออกมา
ลู่ฉางหยางที่ยืนอยู่ด้านข้างประหลาดใจกับคำถามของเจียงลู่ฉี เขาจ้องไปที่เจียงลู่ฉีพร้อมกับการแสดงออกที่ซับซ้อน ‘ทำไมเจียงลู่ฉีถึงถามคำถามแบบนี้กับพี่กัน? บางที…’
“นายกำลังจะวิวัฒนาการงั้นเหรอ?”ลู่ฉางเฟยถามอย่างสับสน ในความเป็นจริงเขาไม่สามารถที่จะสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนพลังงานจากเจียงลู่ฉีเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างไรก็ตามเขาก็รู้ว่าความสามารถของเจียงลู่ฉีนั้นค่อนข้างที่จะพิเศษ ด้วยเหตุนี้นี่เองมันจึงเป็นไปได้ที่เจียงลู่ฉีจะวิวัฒนาการ ตัดสินจากรถมินิบัสของเขา แต่ลู่ฉางหยางรู้สึกเศร้าหมอง ถ้าเจียงลู่ฉีวิวัฒนาการแล้วละก็ เขาก็จะต้องอยู่ให้ห่างจากเขาในอนาคตให้ได้
แม้ว่าจะไม่ใช่เจียงลู่ฉีที่วิวัฒนาการ มันสามารถที่จะเป็นใครสักคนในทีมของเขา เมื่อผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 ปรากฏตัวขึ้น ทีมฉี่หยิงก็ไม่สามารถที่จะดูถูกได้เลย ในตอนนี้มีเพียงคนที่มีกลุ่มขนาดใหญ่และผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 เท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการพูด ถึงแม้ว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 1 บางคนจะค่อนข้างแข็งแกร่ง พวกเขานั้นก็หาได้ยาก แต่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาตินั้นแข็งแกร่งกว่ามาก
เจียงลู่ฉียังคงจ้องไปที่ลู่ฉางเฟยโดยไม่ได้ตอบคำถามของเขา
ลู่ฉางเฟยตระหนักได้ว่าเจียงลู่ฉีไม่ต้องการที่จะตอบคำถาม ดังนั้นเขาจึงทิ้งคำถามของเขาไปและหลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้น “เอาละ ถ้างั้นคำถามของนายคืออะไร?”
“ภายใต้สถานการณ์อะไรที่ทำให้นายวิวัฒนาการ?”เจียงลู่ฉีถาม
“ฉันเหรอ? มันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจพอตัวเลยละ ฉันกำลังสู้กับสัตว์ป่ากลายพันธุ์ระดับ 2 ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่และใช้พลังงานของฉันไปจนหมดและฉันเกือบที่จะตายไปกับมัน หลังจากที่มันตายลงไป ฉันก็หมดสติไปในขณะที่นอนจมกองเลือดและดูดซึมพลังงานของสัตว์ป่ากลายพันธุ์ไปอย่างไม่รู้ตัว ฉันก็วิวัฒนาการในสภาพเข้าขั้นโคม่าเช่นนั้นแหละ”ลู่ฉางเฟยอธิบาย
ถึงแม้ว่าลู่ฉางเฟยจะอธิบายออกมาโดยไม่ได้มีท่าทางการโอ้อวดเลย เจียงลู่ฉีก็รู้ดีว่าในสถานการณ์นั้นอันตรายอย่างมาก เมื่อมองไปยังการแสดงออกของลู่ฉางเฟย เขาก็ไม่ใช่เหมือนคนที่กำลังโกหก
แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ป่ากลายพันธุ์ระดับ 2 ที่ได้รับบาดเจ็ด มันก็ยังคงทรงพลังกลายสัตว์ป่ากลายพันธุ์ธรรมดาระดับ 1 ทั่วไปมาก ลู่ฉางเฟยนั้นมีความกล้าหาญที่น่าชื่นชมอย่างมาก มันเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมากที่เขาวิวัฒนาการสำเร็จ ภายใต้การต่อสู้ที่ดุเดือด จมไปในกองเลือดของสัตว์ป่ากลายพันธุ์ระดับ 2 แน่นอนว่าการวิวัฒนาการของลู่ฉางเฟยนั้นได้ผ่านอะไรหลายอย่างก่อนที่จะสำเร็จ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของเขา เจียงลู่ฉีก็รู้สึกผิดหวังกับวิธีแบบนี้ซึ่งเขาไม่สามารถใช้มันกับน้องสาวของเขาได้ เจียงลู่ฉีจะต้องปกป้องน้องสาวของเขา ดังนั้นเขาจะปล่อยให้น้องสาวตัวน้อยของเขาไปเข้าร่วมกับการต่อสู้ชี้เป็นชี้ตายได้ยังไงกัน?
“พูดตามตรงแล้ว หลังจากที่ฉันวิวัฒนาการเสร็จสิ้น สภาพร่างกายของฉันก็ยุ่งเหยิงอย่างมากและฉันก็นอนอยู่ในโรงพยาบาลไปหลายวันเลยละ”ลู่ฉางเฟยพูดเพิ่มเติม “มันมีเซรุ่มที่สามารถกระตุ้นการวิวัฒนาการของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ถูกพัฒนาขึ้นในห้องวิจัยเซียหยวน เมื่อฉันกำลังนอนอยู่ในโรงพยาบาลนั้น ฉันก็ได้ยินมาว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 ของกองทัพทั้งหมดต่างได้ใช้เซรุ่มนั่น แต่ในเวลานั้น ฉันได้ทำการวิวัฒนาการเสร็จแล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่ต้องการมัน”
“นั่นแหละ!”เจียงลู่ฉีตื่นเต้น ถึงแม้ว่าเขาจะมีห้องปฏิบัติการทางชีวภาพ สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้ทรงอำนาจ นอกจากนี้นอกจากคริสตัลวิวัฒนาการแล้ว ผลิตภัณฑ์อย่างอื่นก็ไม่สามารถที่จะถูกใช้โดยคนอื่นได้ อย่างไรก็ตามห้องปฏิบัติการของกองทัพได้รวมนักวิทยาศาสตร์ชั้นยอด ตั้งแต่ที่ผู้มีพลังเหนือธรรมระดับ 2 ในกองทัพสามารถใช้พวกมันเพื่อทำการวิวัฒนาการให้สำเร็จได้แล้ว น้องสาวของเขาก็สามารถที่จะถูกช่วยได้
“มันเหมือนกับว่านายจะสนใจในเซรุ่มประเภทนั้นสินะ หลังจากภารกิจนี้เสร็จสิ้นลง ทีมของนายก็น่าจะถูกเลื่อนขั้นเป็นทีมระดับ A และนายก็มีสิทธิ์ในการเข้าไปเยี่ยมโรงพยาบาลและได้รับการตรวจสอบโดยผู้คนชั้นยอด อย่างไรก็ตามเซรุ่มตัวนี้หาได้ยาก ดังนั้นมันอาจจะเป็นเรื่องยากที่นายจะได้รับมัน”ลู่ฉางเฟยพูดอย่างซื่อสัตย์
เจียงลู่ฉีพยักหน้า แน่นอนว่าเขารู้ดีว่ามันจะไม่ง่าย ถ้าเซรุ่มประเภทนี้มันเป็นของธรรมดาทั่วไป ถ้าอย่างงั้นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 ก็จะเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วละก็เขาจะต้องหาทางในการได้รับเซรุ่มนั้น
“ขอบคุณ”
“เอาละ แล้วอีกเรื่องหนึ่งละ?”ลู่ฉางเฟยถามในทันที
“ฉันต้องการที่จะให้นายช่วยฉันซื้อวัตถุดิบบางอย่าง”เจียงลู่ฉีพูดและหยิบสมุดโน้ตเล่มเล็กๆพร้อมกับปากกาในกระเป๋าเสื้อของเขา เขาก็เขียนสิ่งที่เขาต้องการทั้งหมดลงไป
ลู่ฉางหยางก็ยืดคอไปมองมัน เขารู้ว่าคำทั้งหมดต่างเป็นภาษาจีน แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ว่าพวกมันคืออะไร
“โลหะหายาก?”ลู่ฉางเฟยถาม เมื่อเขามองไปยังกระดาษโน้ต
“ใช่ พวกมันมีประโยชน์กับฉันมาก”เจียงลู่ฉีตอบกลับ
เจียงลู่ฉีพยักหน้า เขาเดาว่าเจียงลู่ฉีจะใช้พวกมันในการปรับปรุงรถมินิบัสของเขา
“เอามันไปและบอกลูกน้องของนายให้กระจายคำพูดเหล่านี้ออกไป”ลู่ฉางเฟยส่งกระดาษโน้ตให้กับลู่ฉางหยาง
ลู่ฉางหยางรู้สึกเศร้าใจ ทันทีที่พี่ชายของเขาออกคำสั่ง เขาก็รู้ดีว่าเขาไม่ควรที่จะเสียเวลาและก็ขอตัวจากไป
เมื่อลู่ฉางเฟยกำลังจะพูดอะไรบางอย่างต่อ มันก็มีเสียงที่ดังมาจากด้านนอกขัดจังหวะเขา “ประธานลู่ มีใครบางคนต้องการที่จะพบกับท่านและพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นที่สำคัญ”
ลู่ฉางเฟยไม่ได้ตอบอะไร แต่เขามองไปด้านนอกและหลังจากนั้นก็หันกลับไปมองเจียงลู่ฉีและพูดออกมา “ทั้งหมดมีแค่นั้นแหละ ถ้ามันมีภารกิจอะไรก็ตามในคำสั่งรวมตัว พวกเราจะร่วมมือกัน”
“เยี่ยม”เจียงลู่ฉียืนขึ้น “เอาละ ฉันขอตัวไปก่อนละ”มันเหมือนกับว่าคนที่มาเยี่ยมนั้นมีเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ
หลันซิหยู่และหลิงต่างรอเขาที่ด้านนอกรถ เจียงลู่ฉีก็กระโดดลงจากรถและเห็นชายหลายคนกำลังเดินมายังรถบรรทุก คนที่นำมานั้นสวมเสื้อโค้ทของกองทัพพร้อมกับใบหน้าอันเย็นยะเยือกและเดินเหยียบย่ำลงไปบนหิมะและก็ทิ้งรอยเท้าที่ลึกทิ้งไว้ เจียงลู่ฉีก็รู้จักชายที่เดินอยู่เคียงข้างเขาซึ่งก็คือเสือดาว ถึงแม้ว่าการไหลเวียนพลังงานของชายที่สวมชุดโค้ทของกองทัพจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับเสือดาว เขาก็ดูทรงพลัง
“หื้อ?”เสือดาวเห็นเจียงลู่ฉี เขาไมได้คาดคิดว่าเขาจะพบกับเจียงลู่ฉีในค่ายขององค์น้ำดำ สุดท้ายแล้วในความคิดของเขา ทั้งสองฝ่ายต่างทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่
“เสือดาว นายรู้จักเขาเหรอ?”ชายที่นำอยู่ถามออกมาอย่างสงสัย
“ครับ คุณจำผู้ชายที่ผมบอกว่าผมเห็นการต่อสู้ในคลับร็อคได้หรือเปล่า?”เสือดาวพูด
“โอ้ เขางั้นเหรอ? ชายหนุ่มที่ปฏิเสธคำเชิญของลี่หยินฉิง? นี่มันเด็กหนุ่มอะไรกัน! ลูกวัวพึ่งเกิดที่ไม่กลัวเสือ”
“เจียงลู่ฉี เขานั้นคือผู้บังคับบัญชากองพลหวัง”เสือดาวพูดกับเจียงลู่ฉี “มานี่และทำความรู้จักกัน”
คุณหวังก็ยื่นมือของเขาเชคแฮนกับเจียงลู่ฉี ในตอนที่เชคแฮนกันนั้นเจียงลู่ฉีก็ตกตะลึงกับพลังของผู้บังคับบัญชาหวังและมองไปที่เขาอย่างลึกซึ้ง
“ฉันได้ยินมาว่านายทรงพลังมาก ครั้งหน้าฉันจะหาโอกาสในการเห็นมันด้วยตาของฉันเองให้ได้”ผู้บังคับบัญชาหวังพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม “คำสั่งรวมตัวนี้ท้าทายอย่างมาก นายสามารถที่จะทดลองมันได้ ให้ฉันได้ดูความแข็งแกร่งที่แท้จริงของนายซะ..”
“สถานการณ์มันย่ำแย่อยู่งั้นเหรอครับ?”เจียงลู่ฉีถาม
“เอ่อ…สถานการณ์มัน…”คุณหวังยิ้ม “พวกเราพบกับปัญหาบางอย่าง แต่พลังของพวกเราก็ไม่สามารถที่จะดูถูกได้เหมือนกัน พวกเราจะคุยกันทีหลัง..”
หลังจากการแลกเปลี่ยนบทสนทนาเล็กน้อย เจียงลู่ฉีก็เห็นพวกเขาและคนอื่นเดินเข้าไปในรถบรรทุก
“พี่เจียง พี่สนใจในตัวผู้บังคับบัญชาหวังงั้นเหรอคะ?”หลันซิหยู่ถามอย่างสงสัย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเจียงลู่ฉี เธอก็สามารถที่จะบอกได้ว่ามันมีบางเรื่องจากการแสดงออกของเจียงลู่ฉี เมื่อพวกเขาจากไป เจียงลู่ฉีก็ยังคงจดจ้องไปที่แผ่นหลังของพวกเขา
“มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรหรอก ฉันแค่รู้สึกว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติแค่นั้นแหละ”เจียงลู่ฉีอธิบาย ในความเป็นจริง เมื่อเขาเชคฮนด์กันนั้นเอง เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวก็แจ้งเขาว่าตรวจพบการไหลเวียนพลังงานที่ไม่รู้จัก นอกจากพืชกลายพันธุ์ สัตว์ป่ากลายพันธุ์ที่ทรงพลังอย่างมากหรือซอมบี้แล้ว ผู้บังคับบัญชาหวังเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่มีการไหลเวียนพลังงานแบบนั้น
ผู้บังคับบัญชาหวังดูอ่อนโยน แต่เจียงลู่ฉีไม่เคยสงสัยในการค้นหาของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว เมื่อมีโอกาสครั้งต่อไป เจียงลู่จะสังเกตผู้บังคับบัญชาหวังอย่างระมัดระวัง
“ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับการจู่โจมของกองทัพ แม้ว่าจะเป็นแบบนั้น กองกำลังชั้นยอดจำนวนมากรวมทั้งผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ทรงพลังหลายคนอย่างลี่หยินฉิงและเสือดาวก็ไม่สามารถที่จะจัดการได้ พวกเขาจึงต้องรวมผู้รอดชีวิตจำนวนมาก…”เจียงลู่ฉีพูด ความแข็งแกร่งของกองทัพนั้นแข็งแกร่งมาก แม้ว่าหายนะของสัตว์ป่าก็ไม่สามารถที่จะทำลายพื้นที่ปลอดภัยเซียหยวนได้
เจียงลู่ฉีนั้นได้ทำตามเงื่อนไขทั้งหมดในการเข้าไปในโรงพยาบาลในเขต A แล้ว สิ่งต่อไปที่สำคัญที่สุดก็คือการปลุกเจียงจู้อิง อย่างไรก็ตามตามคำสั่งรวมตัว ทีมทั้งหมดก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไป ดังนั้นเจียงลู่ฉีจึงรอคอยมันอย่างอดทน
เมื่อพวกเขากลับไปยังรถมินิบัส พวกเขาก็ได้กลิ่นอาหาร สิ่งที่เจียงลู่ฉีรู้สึกถึงก็คือความอบอุ่น ร่างกายของเขาเหมือนกับผ่อนคลายไปทั้งทั้งร่าง ดังนั้นความเมื่อยล้าของเขาก็ปรากฏออกมาให้เห็น เจียงลู่ฉีก็สะบัดมือของเขาและปัดหิมะออกจากเสื้อของเขาและหลังจากนั้นเขาก็เข้าไปในรถมินิบัสพร้อมกับรอยยิ้ม
“ยู่ซิน เอาเบียร์ออกมาหลายกระป๋องเลย คืนนี้พวกเราจะสามารถดื่มกันได้อย่างมีความสุข จางไฮ่และซุนคุนไปไหนกัน? ทำไมพวกเขาถึงยังไม่กลับกัน? พวกเขาพบสถานที่ที่น่าสนุกแล้วงั้นเหรอ?”