My MCV and Doomsday - ตอนที่ 444
Chapter 444: เยี่ยมเยียนหลี่ยู่ซิน
เมื่อพวกเขาออกมา ท้องฟ้าก็มืดคลึ้มและเกล็ดหิมะก็กำลังปลิวว่อนอยู่กลางอากาศ เพียงเวลาไม่นานที่พวกเขามาถึงเกาะปลอดภัยเซียหยวน เจียงลู่ฉีก็สังเกตได้ว่ามีทีมเฝ้ายามมากกว่าก่อนหน้านี้ มันเหมือนกับสถานการณ์กำลังอยู่ในช่วงระมัดระวังภัยซึ่งทำให้เกิดบรรยากาศที่ตึงเครียด
เจ็ดน้อยและฉี่เหลียงไม่ได้พูดอะไรไปตลอดทาง ตราบเท่าที่พวกเขาคิดเกี่ยวกับฉากที่เกิดขึ้นจากคลับร็อค พวกเขาต่างรู้สึกแย่และเศร้าหมอง หลังจากนั้นพวกเขาก็บอกลากับเจียงลู่ฉี สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไปตามหาหวังฉวนฟู่และหลิงเฟิง
“พี่เจียง พวกเราจะไปไหนดีกันครับ? พวกเราจะไปทำภารกิจไหมครับ? หลังจากที่ผมกินคริสตัลวิวัฒนาการไป ผมก็รู้สึกถึงพลังงานจำนวนมากที่ค้างคาอยู่ในร่างกายของผม”จางไฮ่ถาม
“พวกเราควรที่จะไปยังพื้นที่ A ก่อนลำดับแรก ฉันได้สัญญากับหลี่ยู่ซินไว้แล้วว่าจะไปเยี่ยมเธอ”เจียงลู่ฉีพูดอย่างนุ่มนวล
ซุนคุนและจางไฮ่พยักหน้า พวกเขาเดาว่าหลี่ยู่ซินกำลังรอเจียงลู่ฉีอยู่
พื้นที่ส่วน A นั้นเป็นพื้นที่สำคัญในเขตเซียหยวน ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เกือบที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงและบุคลากรชั้นยอดเกือบทั้งหมดและหน่วยงานหลักของรัฐบาลก็อาศัยอยู่ด้านในเป็นจำนวนมาก
‘บึ้ม!’
ทันใดนั้น รถบรรทุกของหนักกองทัพหลายต่อหลายคันก็ขับตรงไปยังประตูของพื้นที่ A เจียงลู่ฉีก็มองไปที่รถยนต์เหล่านั้นและอดที่จะรู้สึกสับสนเสียมิได้ รถบรรทุกของหนักกองทัพเต็มไปด้วยหลุ่มและมันก็มีชิ้นส่วนด้านหน้ารถหายไปและก็มีเสียงครวญครางก็ดังออกมาจากรถของกองทัพเป็นครั้งเป็นคราว
สิ่งที่เจียงลู่ฉีเห็นด้านในขบวนโดยสารนั้นทำให้เขาหน้าเสีย มันเป็นภาพที่น่าเศร้าใจและมืดหม่น กองทัพสูญเสียอย่างใหญ่หลวง เมื่อมีร่างกายมากมายที่ถูกปกคลุมไปด้วยผ้าและก็มีทหารจำนวนมากกำลังนั่งอยู่กับพวกเขาพร้อมกับสภาพที่ได้รับบาดเจ็บมาอย่างหนักพร้อมกับรอยแผลที่เต็มไปด้วยเลือด มันเป็นเรื่องที่เห็นได้อย่างเด่นชัดว่านี่คือกลุ่มของทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แม้ว่าพวกเขาจะบาดเจ็บ ตราบเท่าที่พวกเขาลุกขึ้นมานั่งได้ พวกเขาก็จะนั่งหลังตรง ถึงแม้ว่าอาการบาดเจ็บของพวกเขาจะหนัก มันก็แทบไม่มีใครสักคนที่ร้องออกเสียงดังออกมา
ทั้งจางไฮ่และซุนคุนต่างตกตะลึงกับฉากที่เกิดขึ้น
มันมีคนบาดเจ็บมากเท่าไหร่กัน? มันเป็นภารกิจอะไรกันที่พวกเขาได้รับมันไปทำ?
เพียงเวลาไม่นานที่รถกองทัพเหล่านั้นเข้ามาใกล้กับประตูของพื้นที่ส่วน A ยามที่เฝ้าประตูอยู่ก็ทำความเคารพในทันทีและนำทางรถยนต์ของกองทัพและก็รีบเปิดประตูออกอย่างรวดเร็ว รถยนต์ของกองทัพทั้งหมดก็ขับเข้าไปยังโรงพยาบาลเขตเซียหยวน จนกระทั่งรถกองทัพเหล่านั้นไปกันหมด เจ้าหน้าที่ของกองทัพที่ทำหน้าที่เฝ้ายามก็หันมามองยังพวกเขา
“ผมกำลังตามหาหลี่ยู่ซินที่บ้านเลขที่ 57 ในพื้นที่ส่วน A ชื่อของผมก็คือเจียงลู่ฉี คุณสามารถที่จะช่วยผมแจ้งเตือนได้ไหม?”เจียงลู่ฉีพูดกับยามอย่างสุภาพ
“บ้านเลขที่ 57 ในพื้นที่ส่วน A งั้นเหรอ?”ยามค้นหาอยู่ชั่วครู่หนึ่งและหลังจากนั้นก็โทรไป
เมื่อเจียงลู่ฉีกำลังรอคอยอย่างอดทนอยู่นั้น เขาก็สังเกตเห็นมอนิเตอร์ขนาดเล็กที่ถูกติดตั้งไว้ในสถานที่ทั่วทุกทิศทาง บางตัวก็ถูกซ่อนอยู่ในกล่องโทรเลข ในขณะที่บางตัวก็ถูกซ่อนอยู่ด้านใต้ชายคาบ้าน ไม่ไกลไปจากนั้น เขาก็สามารถที่จะสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนพลังงานที่ทรงพลังบางคน ตึกผู้อยู่อาศัยส่วนมากในบริเวณนี้ดูเหมือนจะปกติดี แต่มันก็มีช่องยิงปืนที่ถูกปิดซ่อนไว้ตามตำแหน่งยุทธศาสตร์ต่างๆ
เจียงลู่ฉีไม่สงสัยเลยว่า ในช่วงเวลาที่ใครบางคนกล้าที่จะบุกเข้ามาในพื้นที่ส่วน A พวกเขาก็จะถูกฆ่าทิ้งในทันที
“ผมได้โทรไปแล้วและใครบางคนที่สามารถยืนยันตัวตนของคุณก็จะมาในไม่ช้า ตราบเท่าที่พวเขารับประกันคุณ คุณก็สามารถเข้าไปด้านในได้”ยามคนนั้นอธิบาย
“ขอบคุณครับ”เจียงลู่ฉีตอบ
“เอ่อ พี่ชาย รถกองทัพพวกนั้นไปไหนกันมากัน? ทำไมพวกเขาถึงบาดเจ็บหนักเช่นนั้นกัน?”ซุนคุนถามพร้อมกับรอยยิ้นบนหน้าของเขาและก็หยิบซองบุหรี่ที่ถูกพิจารณาว่าเป็นของหรูหราในโลกที่เลวร้ายเช่นนี้ออกมา
ทหารมองไปที่ซุนคุนอย่างแหลมคมและหลังจากนั้นก็ยกปืนขึ้นโดยไม่มีความลังเลใจและตะโกนออกมา “ก้าวถอยไป!”
ซุนคุนก็กาวถอยไปในทันทีและถามเจียงลู่ฉี “พี่เจียง พี่สามารถบอกความคิดเห็นของพี่ได้ไหม?”
“รังสัตว์ป่า”เจียงลู่ฉีตอบอย่างรวดเร็ว เขาเชื่อสิ่งที่เขาเห็นในคลับร็อคและรถของกองทัพก่อนหน้านี้ต่างเกี่ยวพันกับรังสัตว์ป่า
“พวกเราควรที่จะให้ความสนใจกับภารกิจระดับ 5 ให้มากกว่านี้แล้วสิ”เจียงลู่ฉีพูด เขาได้วางแผนบางอย่างไว้ในหัวของเขาแล้ว
…
สนามหญ้าของบ้านเลขที่ 57 นั้นเลียนแบบมาจากสนามหญ้าของเจียงหนานพร้อมกับต้นไผ่และก้อนหินที่ตั้งเรียงกันอยู่อย่างสมบูรณ์แบบและให้ความรู้สึกของความเงียบและสเน่ห์ของยุคโบราณ ตรงกลางของสนามหญ้านั้นมีกระดานหมากรุกและก็มีเก้าอี้หวายสองตัววางอยู่
ในตอนนี้มีคนสองคนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายและกำลังเล่นหมากรุกอย่างมีความสุข หนึ่งในพวกเขาทั้งสองคนเป็นชายเฒ่าที่มีผิวหนังอันหยาบกร้านและมีหัวใจที่อ่อนโยน ฝั่งตรงข้ามของชายเฒ่าก็คือชายวัยกลางคนที่สวมชุดยูนิฟอร์มทหารนั่งอยู่
“นายพล! ฮ่าๆ”
“ศาสตราจารย์ซู ผมแพ้อีกแล้ว!”
ขายวัยกลางคนยิ้มอย่างมีความสุขและมองไปที่ชายเฒ่าตรงข้ามเขา
“ผู้บังคับบัญชาเพิง คุณก็ค่อนข้างที่จะเล่นหมากรุกเก่งเลยละ”ชายเฒ่าก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากศาสตราจารย์ซูกวงฉีที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชีวการแพทย์ที่ยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน
ชายวัยกลางคนก็เป็นหัวหน้าผู้บังคับบัญชาของกองทัพ เพิงติงหลง
“ศาสตราจารย์ซู พวกเรานั้นคล้ายกัน คุณนั้นเก่งกาจในการสร้างและเรียนรู้คริสตัลวิวัฒนาการใช่ไหมครับ?”เพิงติงหลงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
“โอ้…นาย…”ในขณะที่ชายทั้งสองคนกำลังพูดเล่นกันอยู่นั้นเอง ชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงประตูก็มียามวิ่งมากระซิบคำไม่กี่คำที่ข้างหูของเขา
“เจียงลู่ฉี? หืมม ฉันรู้จักเขา ไงก็ตามเถอะ ศาสตาจารย์ซูและผู้บังคับบัญชาเพิงกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่ ปล่อยให้เขารออีกสักพักก่อนละกัน”