cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม - ตอนที่831-835

  1. Home
  2. All Mangas
  3. MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม
  4. ตอนที่831-835
Prev
Next

ตอนที่831โชว์ออฟ
  ปาณีหยุดฮัมเพลงพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าที่กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเสียให้ได้:”ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ?ท้องผูกเหรอคะ?”
  ธามนิธิยังคงนิ่งเงียบ
  ”ฮืมมม”ปาณีทำเสียงฮึมฮัมก่อนจะบอกไปว่า:”คนไม่โรแมนติกก็เลยไม่เข้าใจเรื่องราวของความรัก!”
  จากนั้นเธอก็หมุนตัวเดินกลับไปทางลิฟต์เเต่ทว่าทันใดนั้นเธอก็ถูกธามนิธิดึงตัวกลับมาปาณีถลึงตาใส่เขาด้วยความตกใจ:”คุณอาจะทำอะไรคะ?”
  ธามนิธิเริ่มมีสีหน้าเคร่งขรึมและดุดัน:”เนื้อเพลงที่เธอร้องเมื่อกี้นี้มันหมายความว่าอะไร?”
  ปาณีทำหน้างง:”ห๊ะหมายความว่าอะไรอ่ะคะ?”
  ใบหน้าของธามนิธิเรียบนิ่งหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัดเขาทวนเนื้อเพลงที่เธอร้องไปเมื่อสักครู่แต่น้ำเสียงนั้นช่างฟังดูเเข็งกร้าวและเย็นชา:”รักฉันรักเธอนะฉันก็เลยยอมยอมให้เธอนั้นโบยบินไปยังดินแดนแห่งความสุข!ประโยคนี้ยังไงล่ะ!”
  ปาณีมองหน้าเขาด้วยความฉงนสงสัย:”เเล้วยังไงอ่ะคะ?”
  ธามนิธิตะโกนแผดเสียงขึ้นใส่เธอด้วยความหงุดหงิดใจ:”เธอก็เลยอยากให้ฉันไป!เธอจะได้ไปหาคนใหม่อย่างนั้นใช่มั๊ย?อย่างเช่นผู้ชายหนุ่มๆอย่างเวทัสไง!เธอเธอไม่ต้องการฉันเเล้วเหรอ?”
  ปาณีที่เต็มไปด้วยความงุนงงมองไปที่คุณอาด้วยสีหน้าอันเลื่อนลอยภาพของคุณอาที่อยู่เบื้องหน้าเธอในตอนนี้เเววตาเขาเปี่ยมล้นอัดแน่นไปด้วยความเศร้าโศกและผิดหวังเขายังคงจมอยู่ในภวังค์:”อะไรนะคะ?”
  ธามนิธิออกเดินไปข้างหน้าโดยไม่พูดอะไรสักคำในวินาทีนั้นปาณีรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังตกอยู่ในสภาวะที่ซึมเซาเเละโดดเดี่ยวอ้างว้างเหมือนกับตอนที่เขานั่งอยู่บนรถเข็นไม่มีผิดที่มักจะโดนคนอื่นคอยนินทาว่าร้ายพูดจาวิพากษ์วิจารณ์ใส่เขาต่างๆนานาปาณีรู้สึกเหมือนถูกบีบที่หัวใจรู้สึกแย่มากอย่างบอกไม่ถูก!
  ปาณียืนมองเงาด้านหลังของเขาที่กำลังเคลื่อนจากไปก่อนจะตะโกนออกมา:”คุณอา……”
  จากนั้นเธอก็รีบวิ่งตามเขาไปทันทีเธอสวมกอดเขาจากด้านหลัง:”โง่เง่าเต่าตุ่นที่สุด!คิดว่าฉันจะผลักไสคุณไปให้ผู้หญิงคนอื่นอย่างนั้นเหรอ?คุณบ้าไปแล้วเหรอเนี่ยคุณคิดว่าฉันมันงี่เง่าปัญญาอ่อนนักรึไง?ฉันจะไปยอมให้ผู้หญิงหน้าไหนมาครอบครองคุณได้ยังไง!คุณเป็นของปาณีคนเดียวเท่านั้น!ชั่วชีวิตนี้!ไม่ใช่สิชาติหน้าด้วยแล้วก็ชาติต่อๆไปคุณก็ต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น!ใครหน้าไหนก็มาพรากคุณไปจากฉันไม่ได้!”
  ธามนิธิหันหลังกลับมามองเธอด้วยความประหลาดใจดวงตาเขาเต็มไปด้วยความสับสนเเละไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยิน:”เธอพูดจริงเหรอ?ทั้งหมดที่เธอพูดมาไม่ใช่เเค่อยากปลอบใจฉันใช่มั๊ย?แต่เมื่อกี้เธอตั้งใจร้องเพลงนั้นออกมาไม่ใช่เพราะอยากสื่อว่าเธอต้องการผลักไสฉันออกไปเเล้วตัวเธอเองจะได้ออกไปแสวงหาความสุข?”
  เล่นเอาปาณีงงเป็นไก่ตาแตกจนรอยย่นตรงหน้าผากเกือบจะปรากฏขึ้นมาจนครบ3เส้น:”ฉันก็ร้องไปเรื่อยอ่ะค่ะคุณอาฮึ่ยยช่างมันเถอะค่ะ!”
  เมื่อได้เห็นปาณีเริ่มจะหน้าแดงระเรื่อๆธามนิธิก็ยิ่งสาดสายตาจ้องเขม็งไปที่เธอเขาจะไม่ยอมพลาดที่จะได้เห็นการแสดงออกบนใบหน้าของเธอค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปโดยเด็ดขาด!
  เมื่อต้องถูกสายตาอันดุดันจับจ้องอยู่อย่างนั้นปาณีก็อดทนต่อไปไม่ไหวจึงพูดโพล่งออกมา:”เพลงเมื่อกี้ฉันก็ร้องมันไปเรื่อยอ่ะค่ะฉันคิดเพลงอื่นไม่ออกน่ะคุณอาคุณอาเเค่รู้ไว้ว่าฉันรักคุณอามากเเค่นั้นก็พอเเล้วเนื้อเพลงต่อจากนั้นก็ไม่ต้องไปสนใจมัน!”
  พูดจบเธอก็รีบวิ่งไปที่ลิฟต์ที่กำลังเปิดออกพอดีโดยไม่ยอมหันกลับมามองที่เขา
  เมื่อธามนิธิรู้สึกตัวกลับมาอีกทีก็หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะตามเธอเข้าไปในลิฟต์
  ในลิฟต์นั้นค่อนข้างจะแออัดอยู่ไม่น้อยธามนิธิดึงตัวปาณีมาไว้ในอ้อมเเขนตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาชนเธอ
  เเต่ปาณีกลับไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมายืนคิดถึงสิ่งที่เขาทำกับเธออยู่ในตอนนี้หญิงสาวเอาหน้าซุกไว้ในอุ้งมือของตัวเองพลางคิดทบทวนด้วยความกลัดกลุ้มใจ:”โอ๊ยยนี่ร้องเพลงอะไรออกมาวะเนี่ย?กลายเป็นว่าเพลงที่ร้องไปเรื่อยเปื่อยกลับทำให้คุณอาเข้าใจผิดไปอีก!นี่มันเหมือนยกก้อนหินมาทุ่มลงบนเท้าตัวเองนะเนี่ย?”
  ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มใจ
  ตลอดทางเดินไปที่รถปาณีเดินก้มหน้านิ่งไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองสบตากับคุณอาเพราะกลัวว่าเขาจะหัวเราะเยาะใส่เธอ!
  เมื่อเดินมาถึงรถที่จอดอยู่ปาณีจัดการเอาของเก็บใส่รถเรียบร้อยเเล้วจู่ๆตัวเธอก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอันเเสนอบอุ่นได้กลิ่นหอมอ่อนๆอันเเสนคุ้นเคยเธอไม่ดิ้นรนขัดขืนเเต่กลับยืนซุกกายเงียบๆอยู่ในอ้อมแขนของเขา
  เสียงอ่อนนุ่มของธามนิธิกระซิบเบาๆไปที่ข้างหูเธอ:”ปาณีฉันดีใจมากเลยนะเธอทำให้ฉันมีความสุขมาก!”
  ปาณีเงยหน้าขึ้นมองเขาจึงได้เห็นแววตาอันเอ่อท้นไปด้วยความรักใคร่เสน่หาของคุณอาผู้เป็นที่รัก
  ปาณีอดใจไม่ไหวค่อยๆเงยหน้าเชิดคางขึ้นไปหาชายหนุ่มที่ค่อยๆโน้มหัวก้มต่ำลงมา……
  ในทันใดนั้นเองอยู่ๆเสียงกระแอมไอก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะบรรยากาศที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มของทั้งคู่
  ปาณีเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ทันทีที่เงยหน้าขึ้นก็สบตาเข้ากับน้องชายของตัวเองพอดีพอนึกถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำกับคุณอาไปเมื่อสักครู่หน้าของปาณีก็แดงเป็นลูกตำลึงขึ้นมาในทันทีทันใด
  ทว่าธามนิธิกลับทำใจเย็นไม่สะทกสะท้านก่อนจะหันไปยิ้มให้นภันต์:”แม่ลงมาเเล้วหรือยัง?”
  นภันต์พยักหน้าให้เขาพูดพลางยิ้มกว้าง:”พ่อกำลังพาแม่เดินออกมาน่ะผมเลยเดินเอาของมาเก็บที่รถก่อน!”
  พูดจบนภันต์ก็จัดแจงเอาถุงที่ถือมาวางใส่หลังรถจากนั้นจึงหันไปยิ้มให้ปาณีก่อนจะเดินหันหลังกลับไปที่ประตูทางเข้าโรงพยาบาล
  ฝนสิริกำลังพูดเรื่องเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำอีกในขณะที่เดินตรงมาที่รถ
  ปาณีใช้กำปั้นน้อยๆทุบไปที่อกของธามนิธิเบาๆก่อนจะแอบตำหนิเขา:”อับอายขายหน้าจริงๆคุณอาอ่ะโทษคุณอาคนเดียวเลย!”
  ธามนิธิจับมือน้อยๆที่กำลังทุบตัวเองเอาไว้เเล้วจึงพูดเสียงอ่อนใส่เธอ:”ระวังมือเธอไว้ให้ดีๆล่ะ!ฉันน่ะมันพวกเนื้อหยาบหนังหนายังไงก็ไม่เจ็บมือนุ่มๆของเธอต่างหากที่ต้องระวังให้ดี!กลับบ้านไปเธออยากจัดการยังไงกับฉันก็เชิญเลย!”
  เมื่อได้ฟังนั้นปาณีก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการไกลไปถึงฉากนั้นซึ่งไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้หน้าของเธอค่อยๆแดงระเรื่อหนักขึ้นกว่าเดิม
  ก่อนที่ฝนสิริจะเดินมาถึงปาณีก็ก้มหัวมุดเข้าไปนั่งในรถเป็นที่เรียบร้อย
  ฝนสิริเห็นจังหวะนั้นพอดีเลยรีบหันไปฟ้องจิรเวช:”คุณดูสิดูลูกสาวที่ฉันคลอดมันออกมาสิ!แทนที่มันจะมาช่วยประคองฉันที่ไหนได้กลับโดดขึ้นไปนั่งบนรถก่อนใครเลย!ดูมันทำสิ……”
  ธามนิธิได้ยินที่ฝนสิริบ่นให้ปาณีก็ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปบอกเธอว่า:”เมื่อสักครู่นี้ปาณีไม่ค่อยสบายน่ะครับเพิ่งขึ้นไปนั่งบนรถเมื่อกี้นี่เอง!เชิญพ่อกับแม่ขึ้นรถเถอะครับเดี๋ยวผมไปส่ง!”
  ทันทีที่พูดจบเขาก็เปิดประตูให้พ่อกับแม่ของปาณีขึ้นไปนั่งบนรถจากนั้นตัวเขาถึงจะตามขึ้นรถไป
  หน้าของปาณีค่อยๆกลับมาเป็นปกติอีกครั้งเเต่ถึงกระนั้นก็ยังคงหลงเหลือร่องรอยระเรื่อๆอยู่บนแก้มทั้งสองข้างของเธอเมื่อฝนสิริเห็นหน้าปาณีก็พูดใส่เธอด้วยน้ำเสียงตำหนิติเตียน:”ไอ้ลูกคนนี้หน้าแดงก่ำแบบนี้ยังมีหน้าบอกว่าไม่สบายอีก!ดูก็รู้ว่ามันไม่เคยเห็นแม่คนนี้อยู่สายตาเลย……”
  ยังไม่ทันที่ปาณีจะได้อ้าปากเถียงนภันต์ที่อดรนทนไม่ไหวรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที:”แม่พูดน้อยๆหน่อยเถอะแม่พี่ปาณีกับพี่เขยอุตส่าห์มารับแม่ออกจากโรงพยาบาลนะแม่ทำอย่างนี้ไม่น่ารักเลยนะเเม่!”
  ฝนสิริยังมีท่าทีอยากจะบ่นไม่เลิกแต่เมื่อนึกถึงธามนิธิที่ขับรถหรูมารับเธอไปส่งที่บ้านก็ยังพอได้อวดบรรดาเพื่อนบ้านได้สักหน่อยดังนั้นเธอก็เลยรู้สึกพอใจอยู่ไม่น้อยฝนสิริแอบชำเลืองไปที่ธามนิธิเเวบหนึ่งในที่สุดก็ยอมหุบปากลงได้
  ปาณีกลับมาอยู่ในสภาพปกติเเล้วขณะที่เธอกำลังคิดที่จะเถียงใส่เเม่ของเธอนั้นจู่ๆมือหนึ่งก็ยื่นออกมาจับมือเธอไว้จังหวะที่ชะงักงันอยู่นั้นนภันต์ก็จัดการกําราบฝนสิริที่พูดเป็นน้ำไหลไฟดับจนเธอค่อยๆหยุดพูดได้ในที่สุด!
  เมื่อนึกถึงความอบอุ่นอ่อนโยนที่คุณอามอบให้เธอปาณีอดไม่ได้ที่จะหันไปมองที่คุณอาแล้วก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียว
  รถเเล่นมาถึงเมืองชลธีฝนสิริลงจากรถได้ก็เดินยืดดุจนกยูงรำแพนหางเลยทีเดียว!แถมยังไม่ลืมที่จะตะโกนเรียกเหล่าเพื่อนบ้านที่กำลังจะเดินขึ้นตึกเสียด้วย!ประมาณว่า”โชว์ออฟ”นั่นแหละ!ทำเอาปาณีรู้สึกเอือมระอากับแม่ตัวเองจริงๆ
  จังหวะที่ปาณีกำลังคิดที่จะเอ่ยปากอยู่ๆก็รู้สึกคันๆที่ฝ่ามือพอก้มหัวลงไปมองก็เห็นธามนิธิกำลังวาดๆเขียนๆอะไรบางอย่างในฝ่ามือของเธอ
  วินาทีนั้นหัวใจก็กลับอ่อนโยนขึ้นมาอีกครั้งแม่อยากจะทำอะไรก็ปล่อยแม่ทำตามใจเธอไป
  ปาณีเอื้อมมือไปคว้ามือเรียวยาวของคุณอาไว้มือนุ่มๆของเธอค่อยๆเรียวไล้ไปตามนิ้วมือของเขาอย่างแผ่วเบาหัวใจค่อยๆสั่นไหวระริกๆ
  ธามนิธิจัดการดูให้ฝนสิริเเละทุกคนลงจากรถเรียบร้อยถึงจะกลับมารู้สึกตัวอีกทีเขาไม่รีรอที่จะก้มลงไปจุมพิตเธอเบาๆจูบนั้นนุ่มนวลเเละบางเบาดั่งปีกจักจั่นเขาส่งยิ้มให้เธอก่อนจะลงจากรถเเละเตรียมเผชิญหน้ากับสายตาอิจฉาริษยาของบรรดาเพื่อนบ้านของเธอ
  ป้ามิ้นพูดกับฝนสิริว่า:”โอ้ววันนี้ลูกเขยก็มาด้วยนี่รถของเธอเหรอ?ราคาหลายล้านเลยนะเนี่ย!”
  อีกฝั่งหนึ่งซึ่งไม่ค่อยจะลงรอยกับฝนสิริสักเท่าไหร่น้านีรภายืนทำท่าพยักพเยิดพูดจาขวางโลก:”บ้านฉันก็มีไอ้รถหรูๆแบบนี้น่ะลูกเขยฉันเค้าซื้อให้!”
  สุดท้ายก็มีเสียงของป้ามิ้นหัวเราะคิกคักพูดสวนกลับมาว่า:”ไอ้รถยี่ห้อนั้นอ่ะนะยังจะมาคุยโธ่!ฉันจะบอกแกให้ลูกชายฉันน่ะไปเช็คดูในเนตมาแล้วว่าราคาของรถคันนี้น่ะซื้อรถอย่างบ้านแกได้ตั้งหลายคันเลยแหละ!”
  ได้ยินเสียงคนพากันหัวเราะทำเอาน้านีรภาหน้าเจื่อนขึ้นมาทันที

ตอนที่832งานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์
  ปาณีมองดูฝนสิริที่กำลังคุยโม้โอ้อวดด้วยความภาคภูมิใจก็เกิดอาการหัวเสียหน่อยๆกับพฤติกรรมของแม่ตัวเองเธอหันไปกระตุกแขนเสื้อของธามนิธิเบาๆ:”พวกเราไปกันเถอะค่ะ!”
  ธามนิธิเหลือบไปมองฝนสิริที่กำลังโชว์ออฟอวดลูกเขยกับเหล่าเพื่อนบ้านเเล้วจึงหันมาพยักหน้าให้ปาณีก่อนจะจูงมือเธอเดินเข้าไปหาฝนสิริที่ถูกรายล้อมด้วยไปเพื่อนบ้าน
  ”แม่ครับพวกเราขอตัวก่อนนะครับไว้วันหน้าพวกเราจะมาเยี่ยมใหม่ครับ!”
  ฝนสิริชะงักงันก่อนจะบอกไปว่า:”ไหนๆก็มาเเล้วอยู่กินข้าวด้วยกันสักมื้อสิ!พู่อลูกคู่นั้นเขาพากันออกไปซื้อกับข้าวเเล้วจะไม่อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนเหรอ?”
  ธามนิธิยิ้มให้เธอพลางพูดปฏิเสธ:”คงไม่ล่ะครับวันนี้ผมต้องพาปาณีไปร่วมงานกาล่าดินเนอร์น่ะครับไว้วันหลังพวกเราค่อยมาลิ้มรสอาหารฝีมือของคุณแม่นะครับ!”
  หลังจากพูดจบพวกเขาก็หันไปพยักหน้าเบาๆให้บรรดาเพื่อนบ้านก่อนจะขึ้นรถขับออกไป
  หลังจากพ้นลานหน้าบ้านออกมาปาณีถึงกับสูดหายใจเข้าลึกๆเเล้วก็พ่นลมหายใจออกมายาวๆ:”น่าเบื่อหน่ายจริงๆฉันไม่รู้ว่าฉันทนมาได้ยังไงผ่านมากี่ปีๆแม่ก็ยังเหมือนเดิม!”
  ธามนิธิไม่ได้พูดอะไรเขาหันไปมองที่ปาณีที่ดูท่าทางเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดเขาจึงบอกกับเธอว่า:”ถ้าเหนื่อยก็งีบสักหน่อยเถอะเดี๋ยวถึงเเล้วฉันจะปลุกเธอเอง!”
  ”อืม”ปาณีตอบเสียงอ่อยก่อนจะค่อยๆหลับตาลง
  ธามนิธิเห็นว่าเธอกำลังจะหลับเลยหันไปหมุนปรับฮีตเตอร์ให้อุ่นขึ้นอีกหน่อยจากนั้นจึงหันไปตั้งใจจดจ่อกับการขับรถอย่างเต็มที่
  เมื่อรถหยุดปาณีก็ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดีเธอค่อยๆปรือตาสะลึมสะลือมองออกไปด้านนอกทว่าภายนอกนั่นกลับสว่างไสวไปด้วยแสงไฟนีออนดูละลานตาจนทำให้ตาเธอมันพร่ามัวไปหมด
  ”ที่นี่ที่ไหนคะ?”ปาณีพูดเสียงเอื่อยๆ
  ธามนิธิพูดเสียงเบาตอบปาณีที่เหมือนจะยังไม่ตื่นดี:”ที่ฉันบอกว่าจะพาเธอมาร่วมงานกาล่าดินเนอร์ไงที่นี่แหละ!”
  ”ห๊ะ”ปาณีร้องอุทานออกมาจากนั้นก็รีบหันไปถามธามนิธิด้วยท่าทางงุนงง:”อะไรนะคะ?ฉันคิดว่าคุณแกล้งบอกแม่ฉันเพราะไม่อยากจะอยู่ที่บ้านฉันต่อ!อีกอย่างฉันก็ไม่มีชุดที่เหมาะสมกับงานนี้เลยค่ะขืนลงไปทั้งแบบนี้ฉันคงทำให้คุณเสียหน้าเเย่”
  ธามนิธิเห็นปาณีท่าทางดูกังวลใจก็แอบขำออกมาเบาๆจากนั้นก็ชี้มือไปทางเบาะหลังรถก่อนจะพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง:”ฉันเตรียมไว้หมดเเล้วเธอเเค่เอาชุดไปเปลี่ยนก็พอ!”
  ปาณีหันไปมองที่เบาะด้านหลังก็เห็นกล่องของขวัญสีเขียวอ่อนวางอยู่บนเบาะ
  เธอชายตามองออกไปนอกหน้าต่างดูรถที่วิ่งเเล่นไปมาเเล้วจู่ๆปาณีก็เริ่มหน้าแดงด้วยความอาย:”เอิ่มแล้วจะให้ฉันไปเปลี่ยนที่ไหนอ่ะคะ?”
  ธามนิธิเหลือบมองไปที่เบาะหลังเเล้วก็หัวเราะออกมา:”ข้างหลังนั่นไงที่มันกว้างพอ!วางใจเถอะฉันจะคอยเฝ้าระวังให้เองจะไม่ให้ใครเห็นเธอเลย!”
  ปาณีค่อยๆขยับตัวมุดไปที่เบาะหลังอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักเเล้วก็ยังรู้สึกลังเลว่าจะทำยังไงดี:”ฉันว่าฉันออกไปหาที่เปลี่ยนดีกว่า!”
  ธามนิธิก้มมองที่นาฬิกาข้อมือของเขาเสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นมา:”ไม่มีเวลาเเล้วอ่ะ!ตอนนี้ทุ่มหนึ่งเเล้วงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์จะเริ่มตอนทุ่มสิบนาที!”
  ปาณีส่งเสียงโอดครวญออกมา:”ฮือออออ…..เปลี่ยนตรงนี้ก็ได้”
  พูดจบเธอก็ถอดเสื้อนอกออกรีบเปลี่ยนชุดใหมทันที
  เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของธามนิธิที่มองลอดมามันทำให้การเคลื่อนไหวของเธอช้าลงไปไม่น้อยถึงเเม้ว่าทั้งคู่จะมีอะไรลึกซึ้งต่อกันมาจนนับครั้งไม่ถ้วนเเต่ทว่าทุกๆครั้งเธอก็มักจะขอให้เขาปิดไฟมาโดยตลอด
  นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้เห็นกันจะๆทำให้ใบหน้าของปาณีที่เพิ่งจะถูกไออุ่นรินรดมาตลอดทางนั้นยิ่งทวีความแดงก่ำเห็นแล้วช่างน่ารักน่าฟัดจริงๆ!
  หลังจากที่ธามนิธิได้รับชมโชว์เปลื้องผ้าของภรรยาตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็ได้เห็นภรรยาของเขาอยู่ในชุดเดรสยาวสีเงินยวงแวววับเขาจดจ้องไปที่เธออย่างไม่ลดละสายตา
  คิดไม่ถึงเลยว่าปาณีจะเหมาะกับชุดนี้มากขนาดนี้เเต่เมื่อได้เห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าอันโดดเด่นของเธอธามนิธิก็อยากจะเปลี่ยนความคิดในทันที
  ธามนิธิกัดฟันพูดเสียงต่ำออกมา:”ไวยาตย์ไปเอาชุดอะไรมาเนี่ยทำไมเอาชุดที่มันโป๊ขนาดนี้มานะ?ฉันว่าฉันต้องอบรมเรื่องรสนิยมในการเลือกชุดให้เขาใหม่ซะเเล้ว!”
  แต่ในทางกลับกันปาณีกลับรู้สึกชอบชุดนี้เอามากๆ:”ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะคะฉันว่าชุดนี้น่ะสวยมากเลยค่ะ!”
  ธามนิธิไม่พูดอะไรมากเขาก้มลงมองที่นาฬิกาข้อมือถึงเเม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเต็มใจให้เธอใส่ชุดนี้สักเท่าไหร่เเต่สุดท้ายก็ต้องจำใจจากนั้นจึงหันมาพูดกับปาณี:”ไปกันเถอะเราควรเข้าไปได้เเล้ว!”
  ทันทีที่พูดจบเขาก็ยื่นแขนออกมาให้เธอปาณีจับเเขนเขาไว้เเล้วทั้งคู่ก็เดินควงกันเข้าไปในโรงเเรมอันสวยงามหรูหรา
  ทันทีที่ประตูห้องโถงถูกผลักเปิดออกผู้คนพากันหันหลังกลับมามองที่พวกเขาภาพที่เห็นคือคู่หนุ่มสาวที่เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยกชายก็หล่อหญิงก็สวย
  ชายหนุ่มรูปหล่อเดินมาด้วยท่าทางสง่าผ่าเผยแต่สำหรับหญิงสาวนั้นดูเหมือนลูกนกแสนน่ารักน่าทะนุถนอมที่เดินซุกกายเคียงคู่กันมากับชายหนุ่มชุดกระโปรงสีเงินยวงสะบัดพริ้วไหวอ่อนนุ่มเข้ารูปจนสัดส่วนโค้งเว้าถูกดึงออกมาให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกสายตา
  ชายหนุ่มรูปหล่อในชุดสูทสีดำบวกกับบุคลิกท่าทางองอาจกล้าหาญดึงดูดเสียงกรี๊ดจากสาวๆในงานอย่างไม่ขาดสาย
  เจ้าภาพงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ในคืนนี้ส่งยิ้มให้ธามนิธิก่อนจะกล่าวทักทาย:”ท่านประธานธามนิธิต้องขออภัยด้วยนะครับหากให้การต้อนรับไม่ทั่วถึงไม่ทราบท่านนี้คือ?”
  ธามนิธิยิ้มตอบด้วยความสุภาพนอบน้อม:”สวัสดีครับคุณชัชชัย!นี่ปาณีคู่หมั้นของผมเองครับ”
  ปาณีส่งยิ้มให้ชายหัวล้านวัยกลางคนก่อนจะทักทายเขาอย่างสุภาพอ่อนน้อม:”สวัสดีค่ะคุณชัชชัย!”
  คุณชัชชัยหัวเราะร่าด้วยความเบิกบานใจจากนั้นจึงหันไปพูดกับปาณี:”คุณปาณีเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากเลยนะครับ!ท่านประธานธามนิธิของเราจัดว่ายืนหนึ่งในวงการของพวกเราเลยก็ว่าได้ทั้งฉลาดมาดมั่นมีจิตใจโอบอ้อมอารีเจ้าเสน่ห์ที่สำคัญก็คือจิตใจสะอาดทำดีไม่ประพฤติชั่ว!”
  ปาณีได้ยินดังนั้นก็หันหน้าไปหาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆแววตาพราวระยิบเป็นประกายด้วยความภูมิใจ:”ฉันก็คิดเช่นนั้นค่ะ!ฉันคิดเสมอว่าชาติที่แล้วฉันคงเคยอธิษฐานขอพรกับทางช้างเผือกเอาไว้แน่ๆ!”
  คุณชัชชัยทำหน้างงไปเล็กน้อยคิดไม่ถึงว่าปาณีจะตอบเขา
  ธามนิธิมองปาณีด้วยสายตารักใคร่เอ็นดูอย่างสุดซึ้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นเเววตาอันเป็นประกายของเธอที่คิดว่าคำพูดของคุณชัชชัยเป็นการยกย่องสรรเสริญเขายังไงยังงั้น
  เมื่อได้เห็นท่าทางบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของปาณีก็รู้ได้เลยว่าเธอคงไม่เข้าใจว่าคำพูดเหล่านั้นก็เป็นเเค่คำพูดที่ใช้พูดกันตามมารยาทเเต่คนที่ได้รับผลประโยชน์อย่างธามนิธิก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจเเละมีความสุขที่ได้ยินเธอพูดแบบนั้น!
  หลังจากที่ปาณีทำให้คุณชัชชัยต้องตกใจไปเล็กน้อยเขาก็ยิ้มเเละทำท่าทางเชื้อเชิญพวกเขาไปที่โต๊ะ:”ท่านประธานธามนิธิคุณปาณีเชิญทางนี้ครับ!”
  ทันทีที่ปาณีนั่งลงตัวเธอก็พลันไปอยู่ในสายตาของใครบางคนที่กำลังจ้องมองมายังเธอเเละธามนิธิที่นั่งอยู่ข้างๆเจ้าของสายตานั้นจ้องมองด้วยแววตาเฉียบคมประดุจเหยี่ยวเลยก็ว่าได้
  ปาณีก้มมองดูอาหารที่วางละลานตาอยู่บนโต๊ะสายตาเลื่อนลอยไปที่อาหารจานนั้นทีจานนี้ที!ทันใดนั้นธามนิธิตระหนักได้ถึงสายตาเฉียบคมที่กำลังจ้องมองมาทางพวกเขาเเละเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองก็ได้พบกับใบหน้าหนึ่งที่เขาไม่คุ้นเคย
  ทางฝั่งนั้นส่งยิ้มมองมาที่ธามนิธิพร้อมกับทำท่าทางยกแก้วให้เขาธามนิธินิ่งอึ้งไปเล็กน้อยเเต่ก็ทำท่าทางยกแก้วให้ฝั่งนั้นกลับไป
  เมื่อเขาก้มหน้าลงบนใบหน้าของธามนิธิก็ไม่มีเเล้วซึ่งรอยยิ้ม
  เขาแอบคิดในใจว่า:”ทำไมรอยยิ้มของผู้ชายคนเมื่อสักครู่นี้ถึงทำให้รู้สึกว่าไม่ได้มาอย่างเป็นมิตรเลย?”
  คิดมาถึงตรงนี้เขาเหลือบไปมองปาณีที่นั่งอยู่ข้างๆซึ่งสายตากำลังจดจ้องไปที่จานอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะดูเหมือนเธอจะไม่ทันได้สังเกตเขาเลยด้วยซ้ำ
  อยู่ๆธามนิธิก็ทำเป็นอยากอาหารขึ้นมาบ้างเขาดึงจานที่วางอยู่ตรงหน้าปาณีมาวางไว้ตรงหน้าเขาเอาดื้อๆเเละก็สำเร็จ!ด้วยการกระทำนี้สามารถดึงดูดความสนใจจากปาณีจอมตะกละได้จริงๆ!
  ปาณีเห็นคุณอาทำท่าทางเป็นเด็กๆก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมา:”คุณอาทำอะไรคะเนี่ย?นี่มันเค้กของฉันนะ!”
  ธามนิธิเงยหน้าขึ้นมามองเธอก่อนจะกระซิบเตือนเธอว่า:”ปาณีที่นี่เป็นที่สาธารณะเธอต้องระวังผลกระทบที่อาจจะตามมาด้วยนะ!”
  ปาณีนั่งยืดตัวตรงขึ้นมาในทันทีเเล้วความสวยสง่าก็สาดฉายแววขึ้นมาในบัดดลเธอกวาดสายตามองไปรอบๆหลังจากที่เธอตระหนักได้ว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนมากมายเธอก็ไม่กล้าที่จะทำตัวผ่อนคลายแบบก่อนหน้านั้นเเล้ว
  ปาณีค่อยๆขยับตัวเข้าไปหาธามนิธิก่อนจะกระซิบถาม:”ทำไมมีแต่คนจ้องฉันล่ะคะ?ฉันเหมือนตัวประหลาดที่มีสามหัวหกแขนหรือไงคะ?”
  เมื่อได้ยินเธอกล่าวให้ร้ายตัวเองเเบบนั้นธามนิธิก็มองจ้องเธอด้วยความไม่พอใจ:”เธอหุบปากเลยนะ!เเล้วก็นี่เค้กของเธอ!”
  พอปาณีได้เห็นเค้กเท่านั้นเเหละเธอก็ลืมสิ่งที่เพิ่งพูดไปเมื่อกี้จนหมดสิ้นจากนั้นก็หยิบส้อมก้มหน้าก้มตากินเค้กของเธอต่อไป
  ในจังหวะนั้นเองชายคนที่จ้องมองเขาเมื่อสักครู่นี้ก็ลุกเดินเนิบๆเข้ามาหาเขาเขาส่งยิ้มเเละเอ่ยปากทักทายธามนิธิ:”ยินดีที่ได้รู้จักนะครับท่านประธานธามนิธิผมจำรัสครับ!”
  ธามนิธิอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมือออกไปด้วยความสุภาพอ่อนน้อม:”ยินดีที่ได้รู้จักครับท่านประธานจำรัส!”
  เเต่จำรัสกลับหันไปจ้องผู้หญิงที่กำลังตั้งอกตั้งใจกินเค้กอย่างเมามันด้วยตาเขม็งก่อนจะพูดเสียงดังด้วยประโยคเดิม:”ผมชื่อจำรัส!”

ตอนที่833ขี้เมา
  ปาณีกำลังน้ำลายสอกับสตรอเบอร์รี่มูสเค้กที่วางอยู่เบื้องหน้าเเต่หูก็กลับได้ยินอะไรหึ่งๆดังเเว่วมาปาณีเงยหน้าขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์เเละก็ได้เห็นใบหน้าใหญ่ๆที่ลอยเข้ามาใกล้หน้าเธอ
  ”นี่นาย?”ปาณีร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
  จำรัสเหลือบมองเธอด้วยความสะใจเเต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับเธอ
  ปาณีจ้องหน้าเขาด้วยความโกรธสายตาของเธอมันช่างดุเดือดเลือดพล่านจนแทบจะพ่นไฟออกมาได้อาการของปาณีนั้นทำให้ธามนิธิต้องรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
  ”เอ่อปาณีคนนี้คือท่านประธานจำรัสเเห่งบริษัทซี.ซี.เอส.พวกเธอรู้จักกันด้วยเหรอ?”คำถามของธามนิธิทำลายความเงียบนั้นลงได้
  ปาณีพยักหน้าให้เขาแต่ก็กัดฟันกรอดๆพูดต่อไปอีกว่า:”รู้จัก!แต่ฉันก็หวังว่าไม่รู้จักซะยังจะดีกว่า!”
  ถึงคราวจำรัสต้องเงิบบ้างเเล้วล่ะเขามองไปที่ปาณีก่อนจะร้องอุทานออกมา:”นี่เธอ……”
  ปาณีเชิดหน้าขึ้นมองก่อนจะทำหน้าพยักเพยิดเป็นลิงหลอกเจ้าให้เขา:”ฉันทำไม?ฉันสบายดีมากเลยล่ะ!”
  ทันใดนั้นจำรัสก็เงื้อมือขึ้นมาทำท่าเหมือนอยากตบเธอยังไงยังงั้น
  เเต่กลับถูกฝ่ามือใหญ่จากใครคนหนึ่งมาคว้าเอาไว้จนมือของจำรัสถูกจับเเขวนลอยอยู่กลางอากาศ
  จำรัสแหงนหน้าขึ้นไปมองก็ได้สบตาเข้ากับนัยน์ตาอันดำขลับเฉียบคมนุ่มลึกของธามนิธิเขาเผลอกลืนน้ำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว:”ท่านประธานธามนิธิคุณ!”
  ธามนิธิค่อยๆดึงมือของเขาลงมาจากอากาศจากนั้นจึงเสเเสร้งฝืนทำหน้ายิ้มแหยๆให้เขา:”ประธานโทษครับคนที่คุณอยากจะทำร้ายบังเอิญว่าเธอเป็นว่าที่ภรรยาของม!”
  จำรัสออกอาการยิ้มเจื่อนๆขึ้นมาในทันทีความเจ้าอารมณ์ที่เขาเก็บสะสมมันมานานหลายปีทำให้เขาเป็นคนไม่ยอมรับกับความพ่ายแพ้:”แล้วยังไงมิทราบ?ก็ว่าที่ภรรยาของคุณดันมายั่วโมโหผมก่อนนี่ผมก็ต้องป้องกันตัวเอง!”
  ธามนิธิมองเขาด้วยหางตาด้วยความไม่พอใจ:”จะป้องกันตัวเองก็ไม่ได้!ปาณีเป็นที่รักของผมผมต้องปกป้องเธอ!ไม่ว่าใครหน้าไหนก็มารังแกเธอไม่ได้ทั้งนั้นแม้เเต่คุณก็เถอะ!”
  พูดจบก็ปรากฏภาพที่คล้ายกับเจ้าบ้านไล่แขกกลับไปโดยไม่ส่ง!
  จำรัสถลึงตามองดูธามนิธิและปาณีจากนั้นจึงหันหลังขวับเดินกลับไปยังโต๊ะที่เขานั่งในตอนเเรก
  รอจนจำรัสเดินจากไปปาณีหันไปมองธามนิธิด้วยสายตาอันหลงใหลเคลิบเคลิ้มในของเขากระซิบบอกเขาเบาๆว่า:“คุณอาเมื่อสักครู่นี้คุณอาโคตรแมนเลยค่ะ!เท่สุดๆไปเลย!ฉันรักคุณที่สุดเลยค่ะ!”
  ธามนิธิหัวเราะออกมาเบาๆ:”อย่าคิดนะว่าทำเป็นประจบสอพลอแบบนี้เเล้วจะรอดน่ะ!เธออยากจะอธิบายให้ฉันฟังหน่อยมั๊ยว่าสรุปเธอกับท่านประธานจำรัสน่ะเรื่องมันเป็นไงมาไง!”
  หลังจากพูดจบเขาก็หยิบแก้วไวน์ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาเเล้วกระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว!
  ปาณีนั่งทำหน้าสลดอยู่ข้างๆดูเหมือนเด็กน้อยกำลังงอแงไม่มีผิดเรียกได้ว่าหากใครได้เห็นก็อดที่จะสงสารเธอไม่ได้!
  แต่ธามนิธิกลับไม่ยอมใจอ่อนและยิ่งได้เห็นเด็กหนุ่มรูปหล่ออย่างจำรัสด้วยแล้วยิ่งทำให้เขาอดกังวลใจไม่ได้และไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงยิ่งรู้สึกว่าปาณีที่นั่งอยู่ข้างๆเขาในตอนนี้กลับทวีความออร่าเปล่งประกายขึ้นมาทุกทีธามนิธิเริ่มกระวนกระวายใจเเละภายใต้ความกระวนกระวายใจนั้นทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะนึกสงสัยในเสน่ห์และตัวตนของเขาขึ้นมา
  เขากับปาณีได้อยู่ด้วยกันก็เพราะความบังเอิญซึ่งเริ่มต้นจากการทำข้อตกลงระหว่างกันที่จริงๆเเล้วมันก็เหมือนกับก้าวข้ามผ่านสเต็ปการคบหาดูใจกันเหมือนคู่ชายหญิงทั่วๆไปเเละถึงเเม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งเเรกที่เธอแสดงออกต่อเขาว่ารักเขามากแค่ไหนแต่ก็ไม่รู้ทำไมธามนิธิกลับรู้สึกมาตลอดว่าความรักที่เธอมอบให้เขาเพื่อที่จะรักษาความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไว้มันช่างดู”ฝืน”!
  โดยเฉพาะอย่างยิ่งปาณีในตอนนี้ไม่ใช่ปาณีที่เป็นเด็กผู้หญิงชนบทตัวเล็กๆที่ไม่มีแม้กระทั่งเงินจ่ายค่าเล่าเรียนให้กับมหาวิทยาลัยคนนั้นอีกแล้วเธอในตอนนี้ได้กลายเป็นเจ้าของบริษัทเเละยังเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงซึ่งมีฐานแฟนคลับมากมายทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ธามนิธิอยากที่จะจับเธอเอาไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้เขากลัวเธอจะโบยบินหนีจากเขาไป!
  ตลอดอายุอานามของธามนิธิเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้ก่อนความรู้สึกที่กลัวว่าจะสูญเสียสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปจากชีวิตของเขามันช่างเป็นอะไรที่เลวร้ายสุดๆ!
  พอนึกมาถึงตรงนี้ธามนิธิก็หันไปมองหญิงสาวที่ดูท่าทางน่าสงสารในวินาทีนั้นเขากลับรู้สึกว่าทำไมเธอยิ่งดูสวยน่ารักและมีเสน่ห์มากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเทียบระหว่างตอนที่เธอเเต่งตัวง่ายๆสบายๆกับเธอในตอนนี้มันช่างดูราวกับเป็นคนละคนเลยทีเดียว!
  เมื่อตระหนักได้ถึงสายตาจากทั่วสารทิศที่กำลังจดจ้องมาที่แผ่นหลังนวลเนียนเปลือยเปล่าของเธออยู่ๆธามนิธิก็ถอดชุดสูทของเขาออกก่อนจะคลุมทับลงบนตัวของปาณี
  ปาณีเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความสงสัย
  ธามนิธิทำสีหน้าเรียบนิ่งบอกกับเธอออกไปว่า:”ในนี้ลมค่อนข้างจะเย็นระวังเป็นหวัดล่ะ!”
  ปาณีหันหน้ากลับไปภายใต้ความเข้าใจของธามนิธิที่คิดว่าเธอคงจะหลงเชื่อในข้ออ้างเมื่อสักครู่นี้ของเขานั้นจู่ๆปาณีก็ทำเสียงเจ้าเล่ห์กระซิบข้างหูของเขา:”คุณอามีมุขดีๆกว่านี้มั๊ยคะ?”
  เมื่อเขาหันหน้าไปหาเธอด้วยความงุนงงก็ได้สบตาเข้ากับสายตายิ้มละลายคู่นั้น
  ทำเอาธามนิธิหน้านิ่งทื่อไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียวแล้วเขาก็ก้มหน้าก้มตาพยายามหลบสายตาเธอ
  แต่สถานการณ์นั้นกลับไม่รอดพ้นสายตาของปาณีหญิงสาวอารมณ์เบิกบานขึ้นมาทันทีก่อนจะฉีกยิ้มที่มุมปากออกมาพร้อมกับหันไปหยอกเย้าใส่ธามนิธิ:”คุณอาคะคุณอาหน้าแดงอ่ะ!น่ารักจุง!”
  ”คุณอาฉันชอบจังเลยเวลาเห็นคุณอาหน้าแดงแบบนี้!”
  ”คุณอาฉันเคยบอกคุณหรือเปล่าคะว่าฉันรักคุณมากเลยค่ะ!”
  ……
  ในที่สุดธามนิธิก็โดนปาณีแกล้งหยอกจนเขาเริ่มขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดจากนั้นเขาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมา:”ปาณีให้มันเพลาๆหน่อยไม่อย่างนั้นกลับบ้านไปได้เจอดีเเน่!”
  สำเร็จอีกตามเคย!เจอประโยคนี้เข้าไปทำเอาปาณีรีบหุบปากอย่างไวเลยทีเดียว
  ธามนิธิหันกลับไปด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่งเป็นจังหวะพอดีกับที่คุณชัชชัยเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ในคืนนี้พาลูกชายของเขาเดินมาที่โต๊ะเพื่อร่วมดื่มอวยพรกับเเขกในงานพอดี
  ”ท่านประธานธามนิธิคุณฐานัสคุณตัณฑุล!ถ้าหากคืนนี้พวกเราดูแลไม่ทั่วถึงก็ขออภัยทุกท่านด้วยนะครับ!”คุณชัชชัยกล่าวทักทายทุกคนในโต๊ะด้วยความสนิทสนมคุ้นเคย
  ปาณีก็ลุกขึ้นยืนกับเขาด้วยเหมือนกันพร้อมกับยกแก้วไวน์มาถือไว้ก่อนจะบรรจงจิบของเหลวสีแดงเข้มรสชาติอร่อยเปรี้ยวๆหวานๆกำลังดี
  และในขณะที่ไม่มีใครสังเกตเธอนั้นปาณีก็แอบดื่มมันเข้าไปอีกอึกใหญ่
  หลังจากค่อยๆจิบกลืนไวน์ลงคอธามนิธิก็นั่งลงอย่างช้าๆแต่แล้วก็ต้องตกใจที่ได้เห็นหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆนั่งหน้าแดงเป็นลูกตำลึงอีกทั้งแก้วไวน์ที่วางอยู่ตรงหน้าเธอนั้นมันเป็นแก้วที่ว่างเปล่า!
  เเล้วธามนิธิก็ต้องประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีกที่จู่ๆปาณีก็เอนหัวลงมาซบบนไหล่ของเขาก่อนจะพูดกับเขาว่า:”คุณอาฉันรักคุณค่ะ!ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ!ถึงแม้ว่าฉันจะรู้ตัวดีว่าฉันไม่คู่ควรกับคุณแต่ตอนนี้ฉันก็พยายามอย่างเต็มที่เลยนะเพื่อที่วันหนึ่งฉันจะต้องคู่ควรกับคุณให้ได้จะได้ไม่มีใครมาวิพากษ์วิจารณ์อะไรพวกเราแล้วแบบนี้ฉันก็จะได้ไม่ต้องเผชิญกับความกดดันอะไรอีกเพื่อที่จะได้อยู่กับคุณ……”
  ธามนิธิหันไปมองที่ปาณีเเววตาของเธอกำลังสะลึมสะลือจากนั้นเขาก็รีบลุกขึ้นประคองกอดเธอไว้เเละพากันเดินออกไปข้างนอก
  คุณชัชชัยมองมาจากที่ไกลๆเเล้วก็เห็นฉากนี้เข้าพอดีเขารีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปหาพวกเขา:”ท่านประธานธามนิธิจะกลับกันแล้วเหรอครับ?งานเลี้ยงยังไม่ทันเลิกเลยนะครับผมยังคิดว่าอยากจะพูดคุยหารือกับคุณเรื่องธุรกิจอยู่พอดีเลย!”
  ธามนิธิเหลือบไปมองดูปาณีที่ดูจะไม่ค่อยมีสติสัมปชัญญะสักเท่าไหร่เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปบอกกับคุณชัชชัย:”เอ่อคุณชัชชัยไว้วันหลังเราค่อยนัดกันคุยกันอีกทีนะครับ”
  พูดจบเขาก็รีบประคองปาณีเดินไปที่ประตู
  จนเมื่อเดินไปถึงประตูทางออกก็พบว่าไวยาตย์จอดรถรออยู่ที่นั่นแล้วไวยาตย์รีบเดินเข้ามาหาพวกเขาตาก็เหลือบมองไปที่หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมเเขนของธามนิธิก่อนจะพูดเชิงตัดพ้อใส่เจ้านายของตัวเอง:”ท่านประธานธามนิธิคุณมาร่วมงานเลี้ยงของคุณชัชชัยแล้วทำไมไม่บอกกระผมสักคำล่ะครับท่าน?”
  ธามนิธิไม่ได้สนใจที่เขาพูดเขาจับปาณีไปนั่งลงที่เบาะหลังของรถจากนั้นตัวเขาเองก็ขึ้นไปนั่งกับเธอ
  ไวยาตย์ที่เหมือนถูกทอดทิ้งไร้ซึ่งการเหลียวแลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถจากนั้นจึงพูดตัดพ้อเจ้านายต่อไป:”ท่านประธานธามนิธิไม่ว่ายังไงผมก็เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณแต่การที่คุณหายไปทำอะไรเองคนเดียวแบบนี้มันทำให้ผมเป็นห่วงมากเลยนะครับ!”
  ธามนิธิส่งสายตาอันเย็นชากลับไปให้ไวยาตย์ที่กำลังแอบอมยิ้มอยู่ก่อนจะบอกเขาว่า:”อ๋อเหรอ?ชักโครกที่บ้านฉันมันตันอยู่พอดีไม่ทราบว่าคุณผู้ช่วยไวยาตย์พอจะช่วยได้หรือเปล่า?”
  ไวยาตย์รีบหุบปากทันทีเเล้วก็ขับรถต่อไปเงียบๆ
  ตลอดทางกลับมาจนถึงบ้านปาณียังคงสลบไสลไม่ยอมตื่นไวยาตย์ลงมาจากรถได้ก็คิดจะเดินมาช่วยอุ้มเธอลงจากรถเเต่เเล้วก็หันไปเห็นสายตาของธามนิธิที่ถลึงตาใส่เขาอยู่ไวยาตย์รีบอธิบายเป็นการใหญ่:”ผมก็เเค่อยากจะช่วยเฉยๆก็เท่านั้นเองครับ”
  ธามนิธิไม่สนใจที่เขาพยายามอธิบายเขาหันไปอุ้มหญิงสาวมาไว้ในอ้อมเเขนก่อนจะเดินเข้าบ้านไป
  เมื่อเดินมาได้ครึ่งทางเขาก็หันกลับไปพูดกับผู้ช่วยคนสนิทของเขาที่กำลังยืนทำหน้าเศร้าสร้อยอยู่ข้างรถ:”พรุ่งนี้แปดโมงเช้ามารับฉันให้ตรงเวลาด้วย!”
  พูดจบก็หันขวับกลับไปทันที

ตอนที่834หงุดหงิด
  เมื่อกลับมาถึงบ้านธามธินิค่อยๆวางเจ้าหมูน้อยลงบนเตียงจังหวะที่กำลังคิดจะลุกไปจัดการเตรียมผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้เธออยู่นั้นไม่ทันได้ตั้งตัวก็เหมือนมีอะไรบางอย่างหนักๆมาทำให้เขาขยับตัวไปไหนไม่ได้
  ที่เเท้ก็ยัยตัวเเสบที่เมาแอ๋คอพับคออ่อนกำลังเอามือโอบรอบคอเขาไว้ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนขยับยังไงเธอก็ไม่ยอมปล่อยมือ
  ธามนิธิหมดสิ้นหนทางจึงหันไปเขย่าๆหัวของเธอ:”ปาณีตื่นตื่น!”
  ปาณีหันมารวบกอดหัวของธามนิธิก่อนจะนอนหลับต่อไปในท่านั้น
  ช่างน่าสงสารท่านประธานธามนิธิของเรายิ่งนักที่จู่ๆก็กลายเป็นหมอนข้างไปเสียได้อยากจะขยับลุกหนีก็เกรงว่าพละกำลังของเขาจะทำให้เธอต้องเจ็บตัว
  ธามนิธิพูดเสียงด้วยนิ่งทุ้มต่ำ:”ปาณีเธอจงใจใช่มั๊ยเธอแกล้งใช่รึเปล่า?”
  แต่สิ่งที่ตอบสนองกลับมามีเพียงเสียงลมหายใจที่ฟังดูเป็นจังหวะสม่ำเสมอเพียงเท่านั้น
  จะทำอย่างไรได้!คืนนี้ก็คงต้องอยู่ในสภาพนี้ธามนิธิได้แต่กลายเป็นหมอนข้างให้เธอนอนกอดไปตลอดทั้งคืน
  เช้าตรู่วันถัดมาปาณีกำลังงัวเงียสะลึมสะลือขยับตัวตื่นเพราะว่าหิวน้ำเเต่เเล้วก็ต้องตกใจสะดุ้งโหยง!เพราะดันไปคลำเจอร่างใหญ่ๆที่นอนอยู่ข้างๆเธอนั่นเอง
  เมื่อได้เห็นคุณอาที่นอนบิดตัวอยู่ท่านั้นโดยมีตัวเธอเองนอนทับอยู่บนตัวเขาอีกทีเล่นเอาปาณีตกใจอย่างแรง!
  เธอรีบลนลานลุกขึ้นมานั่งนิ่งจากนั้นเธอก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงค่อยๆกระดึ๊บๆลงมาจากตัวของคุณอาแต่ทว่าขาเธอดันเผลอไปสะกิดคุณอาเข้าธามนิธิโดนปลุกให้ตื่นจนได้
  ทันทีที่ธามนิธิลืมตาขึ้นมาภาพที่เห็นก็คือปาณีที่กำลังนั่งทำหน้าสำนึกผิดอยู่ตรงนั้นเขาขยับตัวลุกขึ้นมาก่อนจะหันมาถามเธอ:”ตื่นเเล้วเหรอ?ปวดหัวหรือเปล่า?”
  ปาณีส่ายหัวยิกๆ
  ธามนิธิก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อจากนั้นเมื่อลงจากเตียงได้เขาก็เดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันทันที
  ปาณีครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะสวมรองเท้าแตะเเล้วเดินไปที่ห้องอาบน้ำเธอยืนลังเลอยู่หน้าประตูว่าจะถามเขาดีไหมว่าเมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดี
  ราวกับคนในห้องอาบน้ำจะอ่านใจเธอได้อย่างนั้นเเหละ!ธามนิธิทำธุระเสร็จก็เดินออกมาเเละพูดกับเธอว่า:”เมื่อคืนเธอดื่มหนักไปหน่อยฉันก็เลยพาเธอกลับมาก่อนน่ะแล้วเธอก็ดันล็อคหัวฉันไว้ฉันก็กลัวว่าจะทำให้เธอตื่นก็เลยนอนมันทั้งท่านั้นน่ะเเหละ!”
  ปาณีเลียริมฝีปากอันแห้งผากของเธอก่อนจะพูดเสียงอ่อย:”เอ่อคุณอาฉันคงไม่ได้เมาไวน์เเล้วรั่วใช่มั๊ยคะ?เเล้วศักยภาพในการดื่มไวน์ของฉันเป็นยังไงบ้าง?”
  ธามนิธิหันไปเหลือบมองที่เธอแวบหนึ่งก่อนจะส่ายหัวไปมาจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
  ปาณีได้เห็นดังนั้นก็ถึงกับร้องโฮออกมา:”ฮืออออ!นี่ศักยภาพในการดื่มของฉันมันเเย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?เเต่ว่าคุณอาฉันคงไม่ได้ทำให้คุณอาขายหน้าต่อหน้าเพื่อนๆใช่มั๊ยคะ?ที่ว่าเมาเเล้วรั่วมันคงเป็นอย่างนั้นจริงๆสินะ!ไม่ได้ๆต่อไปฉันจะไม่ดื่มอีกเด็ดขาด!”
  เมื่อได้ยินปาณียืนบ่นงุ๊งงิ๊งๆก็ทำเอาธามนิธิที่กำลังยืนหันหลังให้เธออยู่ในตอนนี้หัวเราะจนตัวโยกเลยทีเดียวก็เพราะว่ามันตลกมากเลยน่ะสิ
  ปาณีซึ่งกำลังจมอยู่ในความเศร้าโศกและอับอายไม่ทันได้สังเกตอาการของธามนิธิเลยสักนิดเพราะถ้าเธอเห็นป่านนี้ก็คงจะโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปแล้ว
  ธามนิธิหันมาพูดปลอบใจเธอ:”ไม่เป็นไรหรอกน่าคราวหน้าระวังๆหน่อยก็พอ”
  พูดจบก็ได้ยินเสียงของไวยาตย์ดังเเว่วขึ้นมาจากชั้นล่างพอดีเขาจึงหันไปพูดกับเธอ:”ฉันไปทำงานก่อนนะเธอก็ไปล้างหน้าล้างตาได้เเล้ว”
  หลังจากนั้นชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาก็เดินลงข้างล่างไป
  ปาณีไม่เดินตามเขาลงไปข้างล่างเพราะเมื่อเธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เธอไปทำน่าเกลียดปล่อยไก่เอาไว้ไวยาตย์ก็ต้องได้เห็นด้วยแน่ๆ!ไฉนเลยเธอจะกล้าลงไปเจอหน้าเขาล่ะ!
  ไวยาตย์เห็นธามนิธิดูท่าทางกระปรี้กระเปร่าเดินลงมาจากชั้นบนเเต่ไร้เงาของปาณีเขาก็งงๆไปเล็กน้อยเลยถามเขาไปว่า:”แล้วปาณีล่ะครับ?ยังไม่ตื่นอีกเหรอครับ?”
  ธามนิธิส่ายหัวไปมาอย่างอารมณ์ดี:”เปล่าตื่นเเล้วกำลังล้างหน้าล้างตาอยู่น่ะ”
  ไวยาตย์มองเขาด้วยความสงสัยเเต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
  เขาเตรียมรถไว้รอเจ้านายเรียบร้อยเเล้วในขณะที่ธามนิธิกำลังเดินถือกล่องอาหารเช้าเดินมาที่รถ
  ส่วนปาณีที่ยังซุ่มอยู่ชั้นบนเมื่อได้ยินเสียงสตาร์ทรถเธอก็ยังไม่กล้าลงไปข้างล่างได้เเต่แอบเเง้มๆผ้าม่านมองดูสองหนุ่มจนเมื่อได้เห็นรถค่อยๆเคลื่อนตัวอออกไปจากบ้านเธอถึงจะโล่งใจปาณีค่อยๆเอามือลูบๆไปที่แก้มอันอุ่นร้อนของเธอเบาๆก่อนจะพูดย้ำเตือนกับตัวเองอีกครั้ง:”คราวหน้าไม่อนุญาตให้ดื่มอีกแล้วนะ!”
  หลังจากลงโทษตัวเองเสร็จเรียบร้อยปาณีก็ค่อยๆเดินลงมาที่ชั้นล่าง
  น้าลำมุงส่งยิ้มทักทายให้ปาณี:”อรุณสวัสดิ์ปาณีวันนี้น้าเตรียมเเซนวิชเอาไว้ให้น่ะรีบมากินเร็ว”
  ปาณียิ้มให้เธอพร้อมกับพยักหน้าเบาๆจากนั้นจึงเดินไปที่โต๊ะอาหาร
  น้าลำมุงเดินถือจานใส่เเซนวิชมาวางให้ปาณีถ้าเป็นปกติของปาณีในตอนเช้าเธอจะต้องรีบกระวีกระวาดกินมื้อเช้าเเล้วเเต่วันนี้เธอกลับใช้ส้อมค่อยๆกัดแซนวิชเข้าปากค่อยๆเคี้ยวค่อยๆกลืน!
  น้าลำมุงมองหน้าเธอด้วยความประหลาดใจก่อนจะถามด้วยความเป็นห่วง:”ปาณีวันนี้เป็นอะไรหรือเปล่า?เเซนวิชนั่นไม่อร่อยเหรอ?”
  ปาณีค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะสบตาเข้ากับแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของน้าลำมุงเเล้วปาณีก็รีบก้มหน้ากลับลงไป:”เปล่าค่ะอร่อยมากเลยค่ะก็เเค่วันนี้หนูไม่ค่อยหิว!”
  น้าลำมุงพยักหน้าให้เธอแต่เล้วเธอก็พลันได้เห็นใบหน้าอันแดงก่ำของปาณีจึงอดใจไม่ไหวที่จะถามออกมาด้วยความเป็นห่วง:”ปาณีหน้าเธอทำไมมันแดงๆมีไข้หรือเปล่า?”
  ปาณียกมือขึ้นมาลูบๆที่แก้มของตัวเองก่อนจะรีบส่ายหัวไปมา:”เปล่าค่ะหนูก็เเค่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยหน้าแดงๆเลือดฝาดแบบนี้หนูจะเป็นก็ตอนที่หนูรู้สึกโมโหอ่ะค่ะ!”
  พูดจบปาณีก็รีบหลบตาจากน้าลำมุงทันทีก่อนจะถือเเซนวิชเดินไปที่ประตู:น้าลำมุงคะวันนี้หนูมีธุระหนูไปก่อนนะคะ!”
  ยังไม่ทันรอให้น้าลำมุงแสดงปฏิกิริยาตอบรับปาณีก็รีบวิ่งปรู๊ดไปที่ประตูแล้ว
  น้าลำมุงได้แต่มองด้านหลังไวๆของเธอด้วยความงุนงงจากนั้นก็บ่นพึมพำๆกับตัวเอง:”หรือว่าปาณีกับธามนิธิจะทะเลาะกัน?ไม่ได้การละฉันต้องรีบไปรายงานให้คุณนายทราบจะปล่อยให้ทะเลาะกันแบบนี้ไม่ได้”
  พูดจบน้าลำมุงก็ถอดผ้ากันเปื้อนออกจากนั้นจึงรีบเดินออกจากบ้านไป
  ปาณีที่กำลังก้มหน้าก้มตาเดินอยู่บนถนนเมื่อนึกไปถึงเมื่อสักครู่นี้ที่เกือบจะโดนน้าลำมุงจับได้ว่าเมื่อคืนเธอไปแอบเมาเหล้ามาหน้าของเธอจู่ๆก็ร้อนผ่าวๆขึ้นมาทันที
  ”หวังว่าน้าลำมุงคงจะดูไม่ออกหรอกนะถ้าไม่อย่างนั้นฉันคงจะต้องอับอายจนแทบอยากจะเอาหน้าไปซุกในมหาสมุทรแปซิฟิกแน่ๆ!”ปาณีพูดบ่นอยู่กับตัวเอง
  ขณะที่เดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่นั้นจู่ๆก็มีรองเท้าคู่หนึ่งมายืนขวางเธอเอาไว้เธอสะดุดกึ้กแต่ก็ไม่เงยหน้าขึ้นไปมองจากนั้นจึงขยับหลบมาข้างๆ
  แต่ทว่าไม่ว่าเธอจะขยับไปซ้ายฝั่งนั้นก็ขยับซ้ายตามเธอพอเธอขยับไปทางขวาฝั่งนั้นก็ตามไปทางขวาด้วย
  ปาณีเงยหน้าขึ้นด้วยความโกรธมองจ้องเขม็งไปหาคนๆนั้น:”นี่คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?ฉัน……จำรัส?”
  จำรัสมองหน้าปาณีด้วยท่าทางสะใจก่อนจะพูดด้วยท่าทางไม่สะทกสะท้าน:”ปาณีหวัดดีตอนเช้า!รู้สึกเป็นเกียรติที่เธอยังจำฉันได้!”
  ปาณีมองกรอกตาบนใส่เขาก่อนจะพูดไปคำหนึ่ง:”ประสาท!”
  พูดจบเธอก็ขยับหลบไปข้างๆก่อนจะรีบเดินออกไปในทันที
  จำรัสยืนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวิ่งตามเธอไปปากก็พูดใส่เธอ:”ปาณีเธอนี่มันสุดยอดจริงๆ!เธอเป็นคนแรกที่กล้าด่าฉันซึ่งๆหน้าแบบนี้!แต่ฉันก็ไม่เห็นจะจำได้เลยว่าฉันไปทำอะไรขัดใจเธอไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่!ครั้งเเรกที่เราเจอกันเธอก็เล่นเหยียบเท้าฉันอย่างเเรงฉันก็เป็นคนใจกว้างไม่คิดถือโทษโกรธเคืองเธอเเต่เหมือนเธอจะยิ่งได้ใจยังคิดที่จะเหยียบจมูกขึ้นหน้าฉันอีก!”
  ปาณีหยุดเดินก่อนจะหันไปมองหน้าจอมวายร้ายอย่างจำรัสจากนั้นจึงฝืนยิ้มพูดกับเขาไปว่า:”ที่แท้คุณก็ยังจำฝังใจอยู่กับไอ้เรื่องที่ฉันไปเหยียบเท้าคุณสินะ?ถ้างั้นฉันก็ขอโทษละกันท่านประธานจำรัสฉันไม่สมควรที่จะไปเหยียบเท้าอันสูงส่งหาที่เปรียบมิได้ของคุณฉันต้องขอโทษคุณจากใจจริง!ไม่ทราบว่าตอนนี้ฉันไปได้แล้วหรือยัง?”
  จำรัสยืนตัวเเข็งทื่ออยู่ตรงนั้น
  ปาณีที่ก่อนหน้านี้อารมณ์ก็ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วกลับมาเจอจำรัสกวนประสาทเข้าให้อีกทำให้เธอในตอนนี้อารมณ์ช่างขุ่นมัวสุดๆเหมือนความรู้สึกมันกำลังจมดิ่งลงไปในก้นเหวยังไงยังงั้น
  ถ้าหากเป็นคนปกติที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีเเล้วล่ะก็ป่านนี้ก็คงจะรู้หลบรู้หลีกแยกย้ายจากกันไปด้วยดีเเล้ว
  แต่น่าเสียดายที่คนอย่างจำรัสไม่ได้เป็นแบบนั้นจำรัสเป็นผู้ที่ไม่เคยเห็นแก่หน้าใครเพราะโดยทั่วไปแล้วก็มักจะมีแต่คนอื่นที่ต้องเห็นแก่หน้าเขา!
  จำรัสเดินขึ้นมายืนอยู่เบื้องหน้าของปาณีก่อนจะพูดกับเธอด้วยท่าทางอันเย่อหยิ่ง:”ฉันอนุญาตให้เธอไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?คำขอโทษจากเธอมันไม่มีความจริงใจเลยสักนิดเธอคิดว่าฉันจะยอมรับได้อย่างนั้นรึ?”
  อยู่ๆปาณีหยุดเดินก้มหน้านิ่งกำปั้นทั้งสองของเธอกำแน่นในขณะที่ยืนฟังจำรัสบ่นพึมพำอยู่คนเดียว
  ”ปาณีเธอมีสิทธิ์อะไรที่จู่ๆนึกจะปฏิเสธก็ปฏิเสธความร่วมมือกับบริษัทของฉันเอาง่ายๆ!เธอรู้มั๊ยว่าพวกฉัน……”

ตอนที่835โน้มน้าว
  จำรัสยังคงพูดพล่ามต่อไป:”มีบริษัทมากมายที่อยากจะมาอาศัยบารมีของบริษัทซี.ซี.เอส.ของเราสร้างความร่วมมือทางธุรกิจกับพวกเราเเต่เธอนึกอยากจะปฏิเสธก็ปฏิเสธเอาดื้อๆ!นิสัยเอาเเต่ใจตัวเองแบบนี้ฉันน่ะรู้สึกผิดหวังในตัวเธอจริงๆ……”
  ขณะที่จำรัสกำลังพูดพล่ามอย่างสบายใจเฉิบอยู่นั้นเขาไม่แม้เเต่จะสังเกตสีหน้าอากัปกิริยาของปาณีที่เหมือนพายุดีเปรสชั่นกำลังก่อตัวอยู่ในตอนนี้!
  แล้วอยู่ๆปาณีก็พูดโพล่งออกมา:”หุบปากได้เเล้ว!”
  หลังจากตะโกนออกมาอย่างดังเธอก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นจนเผยให้เห็นใบหน้าของเธอเธอชี้มือไปที่จำรัส:”ท่านประธานจำรัส!คำขอโทษฉันก็พูดไปแล้วคุณยังต้องการอะไรอีก?สำหรับบริษัทเล็กๆของฉันฉันในฐานะเจ้าของบริษัทฉันไม่ยินดีที่จะร่วมงานกับคุณซึ่งมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน!เเล้วถ้าจะมีบริษัทเยอะเเยะมากมายที่อยากจะพึ่งใบบุญทำธุรกิจร่วมกับคุณนั่นมันก็เรื่องของคุณ!พวกเรารู้จักกันอย่างนั้นเหรอ?พวกเรามันก็เเค่คนแปลกหน้า!เพราะฉะนั้นตอนนี้ได้โปรดหลีกไปให้พ้นหน้าฉันได้เเล้ว!”
  เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางวง!หลังจากโดนปาณีวีนใส่จำรัสก็ถึงกับสตั๊นท์จนเเน่นิ่งไปเลยเขาได้เเต่มองปาณีที่วิ่งจากไปด้วยท่าทางอันดุเดือดเลือดพล่าน
  จนร่างของเธอหายลับไปจากสายตาจำรัสก็เริ่มบ่นพึมพำกับตัวเอง:”นี่ฉันถูกยัยผู้หญิงตัวเล็กๆรังเกียจเข้าไส้ขนาดนั้นเลยเหรอ?ไม่อ่ะมันต้องเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดคิดไปเองเเน่ๆ!ไม่ถูกสิก็เธอเพิ่งวีนเเตกใส่ฉันขนาดนั้น!ฉันน่ะเป็นประธานบริษัทที่จัดว่าหล่อและมีสไตล์ระดับโลกเลยนะสาวๆเห็นเป็นต้องกรี๊ด!เเต่สายตาที่เธอมองฉันทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นไปได้?ทำไมถึงไม่แลฉันเลยสักนิด?”
  ถ้าเกิดปาณีมาได้ยินคำพูดอันแสนจะหลงตัวเองนี้เข้าเป็นไปได้ว่าเธอจะต้องกรอกตาบนใส่เขาหลายตลบแน่ๆ
  จำรัสก็คงจัดว่าเป็นหนึ่งในร้อยของผู้ชายที่เรียกว่าหล่อดูดีเเต่สำหรับปาณีที่ที่ถูกพิษของคุณอาธามนิธิซึมเข้าสู่ร่างกายจนเเพร่กระจายไปทั่วร่างคงพูดได้แต่เพียงว่าจำรัสก็เป็นเพียงเเค่ผู้ชายที่จัดว่าดูดีคนหนึ่งก็เท่านั้นก็เหมือนๆกับเวทัสที่ได้ความสวยหล่อมาจากนพรุจเเละจันวิภาแบบนั้นถึงจะพูดได้ว่าดูดีไร้ที่ติจริงๆ
  เเต่ในสายตาของปาณีเเล้วก็เป็นแบบที่ว่านั่นแหละ
  ถ้าให้เทียบกับรูปร่างหน้าตาเเล้วปาณีก็เลือกที่จะให้ความสำคัญกับนิสัยใจคอมากกว่าอย่างเช่นคุณอาธามนิธิของเธอการที่เขา“ใช้ใจ”ในการดูเเลเอาใจใส่เธอนั่นแหละถึงทำให้คุณอาได้ใจปาณีไปเต็มๆ
  ปาณีโดนจำรัสตามราวีกวนประสาททำให้เธอโมโหจนน้ำตาเล็ดเลยทีเดียวเเต่เมื่อคิดไปคิดมาเธอก็พึมพำออกมาว่า:”ฉันจะร้องไห้ให้คนที่ฉันเกลียดไปทำไม?”
  พูดจบเธอก็รีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของเธอก่อนจะมุ่งหน้าไปที่โรงเรียน
  เมื่อเดินเข้าไปในประตูโรงเรียนปาณีได้เเต่เดินก้มหน้านิ่งไม่สนใจใครขนาดโมรีมายืนอยู่ตรงหน้าเธอเธอก็ยังไม่รู้ตัวเลยอีกทั้งยังเดินอ้อมผ่านโมรีไปด้วยซ้ำ
  โมรีตะโกนเรียกเธอ:”ปาณีเป็นอะไรรึเปล่า?”
  ในตอนนั้นเองปาณีถึงจะเงยหน้าขึ้นเเละได้เห็นว่านั่นคือโมรีปาณีพยายามฝืนยิ้มให้เธอพร้อมทั้งเอ่ยปากทักทาย:”หวัดดีโมรี!ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย!”
  พอพูดจบปาณีก็เดินดุ่มๆไปที่ห้องเรียน
  โมรีลังเลที่จะพูดกับเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากออกมา:”เอ่อปาณีเธอว่างคุยกับฉันสักหน่อยไหม?”
  เมื่อปาณีเงยหน้าขึ้นมามองก็ได้เห็นโมรียืนตาแดงๆอยู่ตรงนั้นปาณีพยักเบาให้เบาๆ:”ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเข้าเรียนพวกเราไปที่สนามกีฬากันเถอะ”
  โมรีพยักหน้าตอบตกลงทั้งสองเดินเคียงข้างกันไปที่สนามกีฬา
  เมื่อมาถึงสนามกีฬาปาณีกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรสักอย่างแต่โมรีกลับหยิบซองจดหมายซองหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเเละยื่นมันให้กับปาณี
  ปาณีมองดูซองจดหมายนั้นด้วยความสงสัยบนซองเขียนเอาไว้ว่า”ชยรพ”ปาณีเงยหน้าขึ้นเเละมองไปยังเพื่อนรักของเธอ
  โมรีถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะพูดว่า:”เรื่องของฉันกับชยรพเธอก็คงจะรู้เเล้วสินะตอนที่เธอเจอฉันคราวก่อนน่ะชยรพเค้าพาฉันไปพบกับครอบครัวของเขา!เเต่ว่าแม่ของเขาไม่ชอบฉันดังนั้นฉันก็เลยคิดว่าฉันควรจะจบความสัมพันธ์กับเขาเสียตั้งเเต่ตอนนี้!”
  ปาณีส่ายหน้าอย่างไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งกับโมรี:”เเค่เพราะว่าพ่อเเม่ของชยรพไม่เห็นด้วยที่พวกเธอคบกันเธอถึงกับจะยอมเลิกกับเขาเลยอย่างนั้นเหรอ?เธอก็น่าจะรู้ดีว่าชยรพเขารักเธอมากแค่ไหนถ้าเขาไม่ได้จริงจังกับเธอเขาก็คงไม่พาเธอไปเจอพ่อกับแม่เขาหรอกอีกอย่างเธอคิดจะเลิกกับเขาด้วยจดหมายหนึ่งฉบับเนี่ยอ่ะเหรอฉันว่าแบบนี้มันเหมือนเธอไม่ให้เกียรติชยรพเลยนะเเล้วก็เป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติตัวเธอเองด้วย!”
  โมรีถึงกับตาแดงเรื่อขึ้นมาทันทีเเววตาที่เธอมองปาณีนั้นเต็มไปด้วยความสับสนก่อนจะพูดเสียงอ่อยๆ:”ฉันก็ไม่อยากทำแบบนั้น!แต่ฉันก็ไม่อยากเห็นแก่ตัวแม่ของชยรพน่ะพูดไม่ผิดหรอกด้วยฐานะชาติกำเนิดของฉันฉันไม่มีปัญญาช่วยอะไรชยรพได้เลย!มีเเต่จะทำให้เขาถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเสียเปล่าๆดังนั้นฉันก็เลยยอมเป็นคนเดินจากเขาไปเองไม่ใช่เพราะฉันไม่รักเขาเเต่เพราะฉันรักเขาฉันถึงต้องปล่อยเขาไป!”
  เเล้วปาณีก็ได้เห็นหยดน้ำใสค่อยๆรินอาบสองแก้มของโมรีเธอรับรู้ได้เลยว่าเพื่อนของเธอก็เจ็บปวดมากที่ต้องตัดสินใจแบบนี้
  แต่มันก็มีคำพูดบางอย่างที่เธอต้องพูดในฐานะเพื่อนสนิทของโมรี:”โมรีเธอไม่คิดบ้างเหรอว่าการที่เธอคิดจะตัดความสัมพันธ์ด้วยความคิดของเธอแต่ฝ่ายเดียวแบบนี้มันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ?ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนฉันไม่คิดว่าเธอควรจะเป็นฝ่ายเดียวที่ตัดสินใจในเรื่องนี้!ฉันคิดว่าเธอควรจะกลับไปคุยกับชยรพเขาก่อนอย่าเพิ่งยอมแพ้อะไรง่ายๆแบบนี้สิโอเคมั๊ย?”
  เมื่อพูดจบปาณีก็ยัดซองจดหมายสีชมพูใส่กลับเข้าไปในมือของโมรี
  จังหวะที่ปาณีหันหลังเตรียมจะเดินจากไปนั้นก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของโมรีดังเเว่วมาเสียงนั้นทำให้ปาณีขมวดคิ้วเเน่นขึ้นมาทันที
  ปาณีหันกลับมายืนเผชิญหน้ากับโมรีก่อนจะพูดด้วยเสียงเรียบนิ่งกับเธอ:”เธอรู้มั๊ยว่าความรู้สึกของเธอในตอนนี้ฉันเองก็เคยผ่านมันมาเหมือนกัน!ตอนนั้นขาของคุณอาหายเป็นปรกติเเล้วและไม่ต้องนั่งบนรถเข็นอีกต่อไปเเต่เมื่อได้เห็นสายตาของผู้คนที่มองด้วยความประหลาดใจผสมกับความอิจฉาริษยาตอนนั้นฉันรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมาก!”
  โมรีเงยหน้าขึ้นมามองปาณีทั้งน้ำตาก่อนจะพูดด้วยเสียงสั่นเครือ:”แต่ฉันกับเธอไม่เหมือนกัน!ฉัน……”
  ปาณีรีบพูดแทรกเธอ:”ไม่มีอะไรที่เราไม่เหมือนกัน!ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนมันไม่เกี่ยวกับครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเลยด้วยซ้ำเเต่ก่อนฉันก็เคยยึดติดอยู่กับความคิดแบบนี้คิดมันซ้ำๆวนไปวนมาฉันก็เคยคิดว่าฐานะชาติกำเนิดของฉันก็ต่ำต้อยไม่คู่ควรกับคุณอาเลยสักนิดฉันถึงได้ตัดสินใจที่จะหย่า!ในตอนนั้นฉันก็คิดแบบเธอนี่แหละอยากจะปล่อยเขาไปเพื่อให้เขาได้มีความสุขโดยที่ฉันไม่ได้นึกถึงตัวฉันเองเลยด้วยซ้ำ……”
  เมื่อคิดไปถึงเหตุการณ์อันขมขื่นในตอนนั้นจู่ๆปาณีก็หลั่งน้ำตาออกมา
  โมรีเห็นน้ำตาที่กำลังพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสายของปาณีเธอจึงเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา:”ปาณี……”
  ปาณีเช็ดปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของตัวเอง:”แต่ฉันไม่เสียใจเลยนะเพราะฉันรู้ดีว่าคุณอาเขารักฉันมากกว่าที่เขารักตัวเขาเองด้วยซ้ำ!เพราะฉะนั้นโมรีต่อให้ตอนนี้เธอจะปล่อยเขาไปเเต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้ชยรพเขามีความสุขเเต่เป็นเพราะเธอขี้ขลาดตาขาวอ่อนเเอเธอกลัวที่ต้องเผชิญกับคำติฉินนินทาอย่างที่ฉันเจอเธอกลัวว่าตัวเองจะอดทนกับมันไม่ไหว!”
  หลังจากพูดจบปาณีก็เดินออกจากสนามกีฬาไปปล่อยให้โมรียืนนิ่งทื่ออยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง
  โมรีไม่ได้เข้าเรียนในคาบเรียนนั้น
  ปาณีหันไปมองตรงที่นั่งของโมรีก่อนจะเริ่มจมดิ่งลงไปในความคิดของตัวเอง
  เธอหันมองออกไปที่นอกหน้าต่างได้เเต่คิดในใจว่า:”หวังว่าโมรีจะคิดได้นะ!”
  กริ๊งงงงงงเสียงออดเลิกเรียนดังขึ้นหลังจากที่ครูเดินออกจากห้องไปแล้วปาณียังคงนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างคิดอะไรเพลินๆไปเรื่อยเปื่อย
  รอจนเพื่อนๆออกจากห้องเรียนไปจนเกือบหมดปาณีถึงจะเริ่มเก็บกระเป๋าของเธอเเล้วก็เดินออกจากห้องเรียนไปขณะที่เธอกำลังเดินผ่านถนนเส้นหนึ่งในโรงเรียนก็ได้เห็นภาพของโมรีกับชยรพกำลังยืนกอดกันกลมปาณีรีบไปหลบอยู่หลังต้นไม้เพื่อไม้ให้พวกเขาหันมาเห็นเธอเข้า
  หลังจากนั้นจึงค่อยๆเลี่ยงออกไปเดินตรงไหล่ทางอย่างระเเวดระวังเเละเมื่อเดินไปเรื่อยๆจนสุดทางหันไปมองอีกทีทั้งสองคนก็ยังไม่ผละออกจากกันเเละต่างก็พากันยิ้มแย้มอย่างมีความสุข
  ”โมรีถึงเเม้ว่าเธอจะต้องเผชิญกับอะไรอีกมากมายแต่จะมีอีกคนหนึ่งที่พร้อมจะอยู่กับเธอเสมอคอยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่นั่นก็คือความสุขไม่ใช่เหรอ?”
  ณเวลานี้ปาณีรู้สึกคิดถึงคุณอาขึ้นมาจับใจไม่รู้ทำไมถึงได้อยากเจอคุณอามากๆๆๆๆขนาดนี้
  ปาณีไม่ได้ติดต่อไปหาคุณอาก่อนเเต่เธอกลับเรียกรถนั่งตรงไปที่บริษัทของเขาเเทน
  พนักงานต้อนรับที่ล็อบบี้ต่างก็รู้จักเธอหมดเเล้วหลังจากพูดคุยอยู่ไม่นานปาณีก็ขึ้นไปถึงชั้นบน
  พี่ญาณีมองปาณีที่จู่ๆก็มาปรากฏตัวที่บริษัทด้วยความประหลาดใจก่อนจะเข้ามาพูดคุยทักทายเธอ:”ปาณีมาได้ยังไงเนี่ย?”
  ปาณีส่งสายตามองไปที่ออฟฟิตของธามนิธิจากนั้นจึงถามเธอว่า:”ท่านประธานธามนิธิอยู่หรือเปล่าคะ?พอดีฉันมีธุระนิดหน่อยน่ะค่ะ!”
  เเต่พี่ญาณีกลับส่ายหัวให้เธอ

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่831-835"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF