cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม - ตอนที่821+825

  1. Home
  2. All Mangas
  3. MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม
  4. ตอนที่821+825
Prev
Next

ตอนที่821คำเตือน
  ธามนิธิมองดูสาวน้อยที่กำลังซุกตัวอยู่ในอ้อมเเขนด้วยความรักใคร่เอ็นดูสายตาที่เขามองเธอช่างอ่อนโยนเเละนุ่มนวลชายหนุ่มก้มลงจุมพิตเธอเบาๆเเต่ใครจะคิดเล่าว่าจู่ๆปาณีจะยื่นมือไปโอบรอบคอเขาความร้อนรุ่มในตัวชายหนุ่มกลับพลุ่งพล่านขึ้นมาในทันทีทันใด!
  หลังจากไฟราคะถูกจุดให้ลุกโชนโชติช่วงบทรักอันร้อนแรงสุดสิ้นลงอีกครั้งในขณะที่สองคนพากันนอนเเผ่หลาอยู่บนเตียงนั้นปาณีทั้งเหนื่อยเเละอ่อนล้าจนยกเเขนไม่ขึ้นแล้ว
  เมื่อได้เห็นสายตาของหญิงสาวที่ประหนึ่งมองเขาเป็นดั่ง”ศัตรูตัวฉกาจ”ธามนิธิจึงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบอย่างใจเย็น:”ใครใช้ให้เธอยั่วฉันล่ะ?”
  ปาณีพยายามจะยันตัวลุกขึ้นด้วยความโมโหเเต่เอวบางๆของเธอกลับอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงจนลุกไม่ไหวเลยต้องนอนแหม่บอยู่อย่างนั้นแถมยังพูดขู่ใส่เขาอีก:”คุณอาอ่ะเดี๋ยวฉันก็หนีออกจากบ้านซะเลย!”
  กลับกลายเป็นว่าการเรียกร้องความสนใจจากธามนิธิสำเร็จลงอีกครั้ง
  หญิงสาวทำท่ายืดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจก่อนจะหัวเราะออกมา:”คุณอาพวกเรามาทำบทบัญญัติสามประการกันดีมั๊ยคะ?เเล้วฉันก็จะไม่หนีออกจากบ้านละ!”
  ธามนิธิยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินตรงมาหาเธอมือของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเธอปาณีเตรียมการรับมือเขาไว้เเล้วเธอค่อยๆหดตัวเดินถอยไปด้านหลัง
  ทว่าร่างกายของเธอทำไมมันถึงได้อ่อนยวบยาบไปหมดแบบนี้ทำอย่างไรก็หนีไม่พ้นฝ่ามือกำยำของเขาไปได้
  ในที่สุดเธอก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาหญิงสาวขบฟันเบาๆยอมรับชะตากรรมที่เธอมิอาจหนีพ้นชายหนุ่มบรรจงลูบไล้เล้าโลมไปทั่วร่างกายของเธอด้วยความอิ่มเอมใจเธอทำได้เพียงส่งเสียงออดอ้อนวิงวอน:”คุณอาขาหนูผิดไปแล้วค่ะ!”
  ธามนิธิมองดูเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นเยียบจากนั้นเสียงทุ้มต่ำจึงเอื้อนเอ่ยออกมา:”เมื่อกี้ยังเห็นอวดเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?เเถมยังขู่ฉันอีกด้วยว่าจะหนีออกจากบ้าน?ถ้าอย่างนั้นก็คงมีทางเดียวที่จะป้องกันไม่ให้เธอทำแบบนั้นได้ฉันคงต้องทำให้เธอหมดแรงแบบนี้ทุกๆวันซะเเล้วเธอจะได้หนีไปไหนไม่ได้!”
  พูดจบเขาก็โน้มตัวลงประทับจูบไปที่ปากเล็กๆอันเจื้อยแจ้วของเธอ!
  ……
  วันรุ่งขึ้นหลังจากธามนิธิตื่นขึ้นมาอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ได้เห็นปาณีที่กำลังนอนหลับพริ้มอย่างมีความสุขเขายื่นหน้าเข้าไปจูบอรุณสวัสดิ์เธอไปหนึ่งทีก่อนจะเดินลงไปชั้นล่างเเละออกไปทำงานตามปกติ
  กว่าปาณีจะถูกแสงอาทิตย์ที่สาดส่องปลุกเธอจนตื่นขึ้นมาฟ้าก็สว่างโร่เเล้วเมื่อหันไปมองเวลาบนนาฬิกาปลุกเธอก็ถึงกับร้องวี้ดว้ายออกมา”อ่าาาาา”
  จากนั้นจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบวิ่งลงไปข้างล่างในทันที
  พี่บาวันมองเห็นปาณีที่กำลังลุกลี้ลุกลนวิ่งลงมาด้านล่างก็อดขำออกมาไม่ได้:”ปาณีใจเย็นๆมากินข้าวเช้าก่อนจ้ะ!”
  ปาณีรีบวิ่งไปที่ประตูก่อนจะหันมาพูดขอโทษกับพี่บาวัน:”ยังก่อนค่ะพี่บาวันหนูกำลังจะไปเรียนสายแล้วค่ะ!เอาวางไว้ก่อนนะคะพอหนูเรียนเสร็จจะกลับมากินค่ะ!”
  เห็นท่าทางร้อนรนของปาณีที่รีบพุ่งไปที่ประตูทำเอาพี่บาวันถึงกับยิ้มพลางส่ายหัวเบาๆ:”เป็นวัยรุ่นก็ดีแบบนี้อ่ะเนาะ!”
  จู่ๆก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้พี่บาวันรีบกดโทรศัพท์ไปหาแม่ของธามนิธิ:”คุณแม่คะอยากจะบอกว่าธามนิธิกับปาณีน่ะสวีทหวานแหววกันมากเลยค่ะ……”
  ทางฝั่งของหญิงสาวที่เหมือนจะวิ่งสี่คูณร้อยเมตรมาไม่มีผิดก็ทุลักทุเลหอบสังขารมาถึงโรงเรียนจนได้เธอมาถึงห้องเรียนก่อนออดโรงเรียนจะดังเพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น
  โมรีเห็นปาณีเดินเข้ามาก็รีบโบกมือให้เธอ
  ปาณีเดินเข้าไปหาโมรีก่อนจะตัวอ่อนฟุบนาบลงไปบนโต๊ะอย่างอ่อนระโหยโรยเเรง
  เมื่อได้เห็นโมรีที่พยายามฝืนยิ้มออกมาปาณีถึงได้นึกเรื่องเหตุการณ์เมื่อคืนขึ้นมาได้ก่อนจะเอ่ยปากถามเธอ:”เอ่อโมรี……”
  แต่ทว่ายังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกเสียงออดเข้าชั้นเรียนมาขัดจังหวะไว้พอดีปาณีก็เลยค่อยๆหันกลับไปมองที่กระดานดำ
  เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนปาณีตั้งใจอยากจะออกไปพร้อมกับโมรีเเต่สุดท้ายโมรีกลับหายไปเเล้ว
  ปาณีไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้เเต่บ่นงึมงำกับตัวเอง:”ฉันก็เเค่อยากจะปลอบใจเธอก็เท่านั้นเอง!”
  เมื่อโมรีไม่อยู่เเล้วเธอจึงเดินไปตามถนนในโรงเรียนซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่นสองข้างทางเพียงลำพังคนเดียวจังหวะที่กำลังยืนเอาเท้าเขี่ยๆใบไม้อย่างเซ็งๆอยู่นั้นเท้าที่สวมด้วยรองเท้าหนังคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ
  ปาณีไม่ได้คิดอะไรมากเธอจึงขยับหลบไปข้างๆให้พ้นทางเเต่ฝ่ายนั้นกลับดูเหมือนจงใจจะตามเธอเพราะไม่ว่าเธอจะขยับไปทางไหนฝ่ายนั้นก็ขยับตามไปด้วย
  ทันใดนั้นปาณีก็รู้สึกโกรธขึ้นมาจึงเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของรองเท้าคู่นั้น:”นี่คิดจะทำอะไรอ่ะ?……บาร์นี่?”
  บาร์นี่มองหน้าปาณีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูหมิ่นเหยียดหยาม:”ปาณียังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าฉันคิดจะทำอะไร?ถามตัวเธอเองดีกว่ามั๊ยผู้หญิงที่เเต่งงานมีสามีแล้วเเบบเธอยังจะคิดไปยุ่มย่ามกับนภันต์อีกทำไม?เธอคิดจะยั่วยวนเขาใช่มั๊ย?”
  ปาณีได้ยินดังนั้นก็โมโหขึ้นมาทันที:”เธอพูดอะไรของเธอ?ฉันเนี่ยนะยั่วยวนนภันต์?”
  บาร์นี่มองจ้องปาณีตาเขม็งด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม:”ในที่สุดก็ยอมรับเเล้วล่ะสิ?ก็อย่างที่ฉันบอกไงมันไม่เเปลกหรอกที่ผู้หญิงแบบเธอน่ะจะทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้ได้!”
  สีหน้าของปาณีค่อยๆเปลี่ยนเป็นเย็นชาเธอจงใจที่จะแกล้งพูดหลอกเธอต่อไป:”ฉันกับนภันต์จะเป็นยังไงมันก็เป็นเรื่องของพวกฉันเเล้วเธอมาเกี่ยวอะไรด้วย?”
  บาร์นี่โมโหเดือดดาลขึ้นมาทันทีก่อนจะตะโกนออกมาว่า:”มันต้องเกี่ยวกับฉันสิ!เพราะฉันคือเเฟนของนภันต์ใครๆเค้าก็รู้กันทั้งนั้นจะให้ฉันทนดูนภันต์ต้องมาถูกผู้หญิงเลวๆอย่างเธอเข้ามาฉกฉวยโอกาสแบบนี้ได้ยังไง?”
  ปาณีออกอาการขำจนหยุดไม่อยู่:”ทำไมฉันถึงไม่รู้เลยว่านภันต์มีเเฟนเเล้ว?”
  บาร์นี่ทำท่าเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจก่อนจะพูดกับปาณี:”มันก็เเน่นอนอยู่เเล้วสิเธอเป็นอะไรกับเขาล่ะทำไมเขาต้องมาคอยรายงานเธอทุกเรื่องด้วย?ฉันคบกับเขามาปีกว่าเเล้วฉันขอบอกเธอไว้ตรงนี้เลยว่าอย่าคิดที่จะมายุ่มย่ามกับนภันต์เด็ดขาดจะบอกให้รู้เอาไว้ว่านภันต์เขารักฉันมาก!”
  เมื่อได้เห็นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ากำลังพูดเองเออเองเป็นตุเป็นตะทำให้ปาณีนึกอยากจะฉีกหน้าเธอเสียจริงๆเเต่พอนึกๆไปถึงตอนที่ได้อยู่ต่อหน้านภันต์เเละพูดถึงความสัมพันธ์ฉันท์พี่สาวน้องชายของพวกเขาเชื่อได้ว่าสีหน้าของยัยบาร์นี่คงจะดูดีกว่านี้แน่ๆ!
  นึกมาถึงตรงนี้ปาณีก็ทำท่าถอนหายใจยาวออกมาอารมณ์ของเธอค่อยๆผ่อนคลายลงก่อนจะพูดตบท้ายพร้อมกับเดินไปข้างหน้าแบบไม่หันหลังกลับมามอง:”อ้อ?เธอก็คอยดูแฟนเธอเอาไว้ดีๆก็เเล้วกัน!”
  บาร์นี่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบเดินตามเธอไปทันทีก่อนจะคว้าเสื้อของปาณีเอาไว้ได้เเต่ปาณีกลับใช้สายตาอันเย็นเยียบจ้องเขม็งไปที่เธอเพื่อปรามให้เธอหยุดผ่านไปชั่วขณะหนึ่งบาร์นี่จึงพูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า:”ทางที่ดีเธอควรจะจำเอาไว้!นภันต์เป็นของฉันเเละฉันจะไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอายแบบเธอมายุ่มย่ามกับเขาเด็ดขาด!”
  สีหน้าของปาณีดูนิ่งลึกขึ้นมาทันที:”ฉันก็อยากบอกเธอว่าเธอควรไปถามนภันต์ว่าเขาชอบเธอหรือเปล่าไม่ใช่ว่าถึงตอนนั้นกลายเป็นเธอคิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียวแบบนั้นคงไม่สนุกแน่!”
  พูดจบปาณีก็ค่อยๆแกะมือที่จับเสื้อของเธอไว้ออกก่อนจะเดินจากไปโดยไม่หันกลับมา
  บาร์นี่มองดูปาณีที่เพิ่งจะโดนตัวเองด่าไปหยกๆเเต่ยังทำหยิ่งผยองอยู่ได้อีกบาร์นี่ยังไม่หยุดที่ตะโกนไล่หลังปาณี:”ปาณีคอยดูนะถ้าขืนเธอยังมายุ่มย่ามวุ่นวายกับนภันต์อีกล่ะก็เธอเจอดีเเน่!”
  ปาณีเดินสะบัดบ๊อบสวยๆโดยไม่แยแสเธอเลยสักนิด
  เธอไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองเพราะไม่ต้องการที่จะเห็นหน้าของบาร์นี่ที่อาจจะทำให้เธอกินข้าวไม่ลงได้เรื่องทั้งหมดนี้มันก็เป็นเพราะนภันต์ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องพอนึกๆขึ้นมาปาณีก็รู้สึกโมโหขึ้นมาตงิดๆก่อนจะบ่นพึมพำกับตัวเอง:”นายนภันต์คอยดูเถอะ!”
  “ฮัดเช้ย!”ขณะที่นภันต์กำลังฝึกเล่นเกมอยู่นั้นจู่ๆก็จามขึ้นมาชยรพที่สภาพจิตใจยังไม่ค่อยเต็มร้อยก็กวาดตามองไปที่นภันต์เเวบหนึ่งก่อนจะถามเขาว่า:”เป็นไรวะ?เป็นหวัดรึไง?”
  ชยรพเกาหัวตัวเองยิกๆก่อนจะพูดลอยๆขึ้นมา:”ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยจะมีใครบ่นคิดถึงฉันล่ะมั๊ง!ไม่มีอะไรหรอก”
  พอพูดจบเขาก็กลับไปจดจ่อกับการเล่มเกมต่อ
  วันนี้ชยรพใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไหร่เขามักจะเปิดเลื่อนๆดูมือถืออยู่บ่อยๆตั้งเเต่เหตุการณ์วันนั้นที่โมรีทั้งโกรธทั้งเสียใจจนหนีจากเขาไปเขาก็ไม่ได้เจอเธออีกเลยการที่โมรีพยายามจะหลบหน้าเขายิ่งทำให้จิตใจของชยรพเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นเหวลึกลงไปเรื่อยๆ
  ปาณีมองดูตารางเรียนของตัวเองช่วงบ่ายเธอไม่มีเรียนก็เลยตัดสินใจที่จะไปหาส้มโอ
  เธอหยิบมือถือออกมาโทรหาส้มโอ:”ส้มโอตอนนี้เธออยู่ไหนอ่า?”
  ”ปาณีเหรอ?ตอนนี้ฉันกำลังทำงานอยู่ที่ร้านกาแฟมีอะไรหรือเปล่า?”ส้มโอมองดูโทรศัพท์ด้วยความสงสัย
  ปาณีคิดๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนบอกเธอไปว่า:”เธอรอฉันแป๊บนึงนะเดี๋ยวฉันจะไปหา”
  ส้มโอพยักหน้าก่อนจะวางสายไป
  หลังจากนั้นไม่นานปาณีก็มาถึงที่ร้านกาแฟเธอโบกไม้โบกมือให้ส้มโอจากนั้นส้มโอจึงเดินเข้ามาหาเธอ:”ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงจะดื่มอะไรดีค่ะ?”
  ปาณีกำลังโดนเธอแกล้งหยอกเข้าให้แล้วเธอก็เลยเอานิ้วชี้ๆไปที่เครื่องดื่ม:”ลาเต้แล้วกันค่ะ”

ตอนที่822แฟชั่น
  ส้มโอเดินกลับมาพร้อมกับลาเต้หนึ่งแก้ววางเสิร์ฟไว้ด้านหน้าของปาณีก่อนจะพูดอย่างอารมณ์ดี:”แก้วนี้ฉันเลี้ยงเธอเอง!”
  ปาณีส่งยิ้มให้เพื่อนพร้อมกับพูดว่า:”ถ้าอย่างนั้นก็ขอบใจเธอมากนะส้มโอสุดสวย!”
  ส้มโอหัวเราะคิกคักเมื่อกวาดตามองไปรอบๆร้านก็พบว่าตอนนี้ลูกค้าในร้านไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ส้มโอจึงนั่งลงคุยกับปาณี:”เออนี่ปาณีเธอมาหาฉันที่นี่มีเรื่องอะไรรึเปล่าอ่ะ?”
  ปาณีวางแก้วกาแฟลงก่อนจะค่อยๆเล่าเรื่องที่บาร์นี่มาวีนใส่เธอวันนี้ให้ส้มโอฟัง
  ผลสุดท้ายกลายเป็นส้มโอที่ดูจะตื่นเต้นมากกว่าปาณีเสียอีกถึงกับกระโดดโหยงเมื่อได้ยินเรื่องราวที่ปาณีเล่าให้ฟังเลยทีเดียว:”อะไรนะ?ยัยบาร์นี่ถึงขั้นไปขู่เธอเลยเหรอเนี่ย?”
  เมื่อเริ่มสังเกตได้ว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของลูกค้าในร้านปาณีก็ดึงส้มโอให้นั่งลงสงบสติอารมณ์ก่อนจะพูดเสียงเบากับเธอ:”อย่าโมโหไปเลยส้มโอขนาดฉันเองยังไม่ได้โกรธอะไรมากมายเธอก็ใจเย็นๆก่อนนะ!จริงๆเเล้วเรื่องนี้มันต้องโทษนายนภันต์ถึงจะถูก!”
  เมื่อเอ่ยถึงนภันต์ส้มโอก็มีท่าทีเหงาหงอยเซื่องซึมลงไปไม่น้อย
  ปาณีเป็นคนที่มีน้ำใจไมตรีอันดีกับผู้อื่นอยู่เสมอเมื่อเห็นส้มโอมีอาการเช่นนั้นจึงเอื้อมมือไปตบที่ไหล่ของเธอเบาๆเเล้วพูดด้วยเสียงนิ่งทุ้ม:”วางใจเถอะฉันจะไปสั่งสอนนายนภันต์เองอิตาทึ่มเอ๊ย!ผู้หญิงดีๆน่ารักๆอย่างส้มโอกลับไม่สนใจดันไปยุ่งกับแม่เน็ตไอดอลซะได้สงสัยเขาคงจะตาบอดไปแล้วเเน่ๆ”
  ส้มโอได้ยินที่ปาณีพูดจายกย่องชื่นชมตัวเองก็รู้สึกอึดอัดใจอยู่ไม่น้อย:”ปาณีเธอก็อย่ายกย่องฉันนักเลยฉันไม่ได้ดีอย่างที่เธอพูดหรอก!”
  ปาณีเอื้อมมือไปจับมือของส้มโอไว้ก่อนจะพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง:”ใครบอกเธอล่ะเธอเป็นลูกคนรวยที่อ่อนน้อมถ่อนตนที่สุดตั้งเเต่ฉันเคยเจอมาเธอรู้มั๊ยว่าการที่ฉันเเต่งงานกับคุณอาฉันต้องทนทุกข์กับการโดนดูถูกเหยียดหยามจากบรรดาคนรวยมีชาติตระกูลมากมายเเค่ไหนเเต่เธอเป็นคนเดียวที่ไม่เคยทำแบบนั้นกับฉันเลยเเละถึงเเม้เธอจะเป็นลูกคุณหนูเเต่เธอก็ยังพึ่งลำแข้งของตัวเอง!ถ้าฉันเป็นเธอฉันคงทำแบบเธอไม่ได้จริงๆ!”
  เมื่อได้ฟังที่ปาณีพูดส้มโอก็เริ่มจะหน้าเเดงระเรื่อๆ
  หลังจากส่งปาณีกลับไปแล้วส้มโอก็คิดถึงนภันต์ขึ้นมาเเล้วทันใดนั้นหน้าเธอก็ทวีความแดงยิ่งขึ้นไปอีกเเต่พอนึกถึงความสัมพันธ์ที่ยังคงคลุมเครือระหว่างเขากับบาร์นี่เเล้วส้มโอถึงกับส่ายหัวไปมาก่อนจะหันกลับไปทำงานของเธอต่อ
  ในขณะที่ปาณีกำลังนึกจะไปหานภันต์เพื่อเคลียร์เรื่องราวให้กระจ่างยังไม่ทันได้ครึ่งทางจู่ๆธีระก็โทรเข้ามาพอดี:”ปาณีตอนนี้เธอว่างหรือเปล่า?คุณทัดธนเพิ่งจะเเนะนำลูกค้ารายใหญ่ให้เราเเล้วก็อยากจะคุยกับพวกเราเรื่องความร่วมมือทางธุรกิจน่ะ!”
  ปาณีนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับไป:”ได้เดี๋ยวฉันจะเข้าไปที่บริษัทเดี๋ยวนี้แหละ!”
  หลังจากวางสายเธอก็เหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือนี่มันก็ใกล้เวลาเลิกงานของคุณอาพอดีปาณีจึงกดมือถือโทรออกไปหาคุณอาปลายทางเองก็กดรับสายเร็วมาก
  ”คุณอาวันนี้คิดถึงฉันหรือเปล่าคะ?”ปาณีพูดเสียงอ่อนเสียงหวานออดอ้อนใส่เขา
  ธามนิธิรู้สึกตัวร้อนวูบวาบขึ้นมาทันทีเเต่ปากก็เเกล้งพูดออกไปว่า:”ปาณีเธอครั่นเนื้อครั่นตัวอยากโดนแบบเมื่อคืนอีกแล้วใช่ไหม?”
  ปาณีหัวเราะหึหึจากนั้นจึงวกกลับมาพูดคุยแบบเป็นการเป็นงาน:”คุณอาคะฉันอยากจะโทรมาบอกว่าคืนนี้ฉันคงจะกลับบ้านมืดหน่อยน่ะค่ะเมื่อกี้ธีระเพิ่งโทรมาบอกว่าคุณทัดธนแนะนำลูกค้ารายใหญ่ให้ฉันก็เลยโทรมาบอกให้คุณอาทราบก่อนน่ะค่ะคืนนี้อย่าลืมทานข้าวเย็นนะคะ!”
  ธามนิธิที่เพิ่งจะยิ้มหน้าบานหัวใจชุ่มชื่นไปเมื่อสักครู่ตอนนี้ถึงกับยิ้มหุบในทันทีเขาตอบกลับไปอย่างเซ็งๆ:”อืม!”
  ปาณีหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะตอบเขาไปว่า:”คุณอาอย่าเป็นแบบนี้สิคะทีเวลาคุณอาทำงานฉันยังสนับสนุนคุณอาอยู่ตลอดเลยรอฉันกลับไปคืนนี้เดี๋ยวจะตบรางวัลให้อย่างงามเลยนะคะ!”
  ธามนิธิจ้องมองโทรศัพท์ด้วยเเววตาเป็นประกายขึ้นมาทันที:”ขอให้มันจริงเถอะ!”
  ปาณีไม่พูดตอบโต้เขาได้เเต่บอกเขาว่า:”แน่นอนค่ะ!เอ่อคุณอาคะฉันต้องวางเเล้วค่ะเดี๋ยวต้องขึ้นรถไฟฟ้าจะไม่มีสัญญาณเเล้วค่ะ!วางก่อนนะคะ!”
  ทันทีที่พูดจบ”แกร็ก!”เสียงวางสายก็ดังขึ้นมาทันที
  เมื่อธามนิธิกดวางสายโทรศัพท์ก็เหลือบไปเห็นไวยาตย์กำลังแอบมองมาที่ตนอยู่พอดีธามนิธิเผลอเอามือมาลูบๆใบหน้าของตัวเองอย่างไม่รู้ตัวพร้อมกับเอ่ยถามเขา:”ทำไมรึ?หน้าฉันมีอะไรติดอยู่รึไง?”
  ไวยาตย์ส่ายหัวจากนั้นก็มองดูธามนิธิเเละพูดกับเขาด้วยเสียงทุ้มต่ำ:”ท่านประธานธามนิธิผมก็เเค่คิดว่าอารมณ์ของคนเราที่แสดงออกมามันก็เปลี่ยนเเปลงได้ตลอดเวลานะครับท่าน”
  ธามนิธิจ้องหน้าไวยาตย์ด้วยท่าทางขึงขังก่อนจะพูดสั่งเขาด้วยเสียงนุ่มลึก:”รีบไปจัดการเรียกประชุมหัวหน้าเเผนกต่างๆเราจะประชุมด่วนกัน!ฉันว่านายดูจะว่างๆนะช่วงนี้เเล้วก็เอาบันทึกการประชุมเมื่อวานนี้มาให้ฉันด้วย!”
  ไวยาตย์หน้าสลดขึ้นมาทันทีก่อนจะมองไปที่เจ้านายของเขา:”บันทึกอันนั้นไม่ใช่ว่าต้องส่งให้วันพรุ่งนี้เหรอครับท่าน?”
  ธามนิธิพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง:”ก็เห็นนายว่างมากไม่ใช่เหรอ?”
  ”……”ไวยาตย์ยิ้มรับด้วยสีหน้าอันขมขื่นก่อนจะเดินจากไป
  หลังจากที่เดินออกมาจากออฟฟิตไวยาตย์เอามือตบหัวตัวเองเบาๆก่อนจะพูดงึมงำกับตัวเอง:”ต่อไปอย่าได้เผลอปากมากอีกนะมึงไวยาตย์!ความอ่อนโยนนุ่มนวลของท่านประธานธามนิธิมีให้คุณปาณีเพียงคนเดียวเท่านั้นเอ็งมันก็เเค่ผู้ช่วยเขารีบไปตั้งสติเขียนบันทึกการประชุมเดี๋ยวนี้เลย!”
  ธามนิธิลุกขึ้นเดินไปที่ริมหน้าต่างเขายืนมองดูวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าวิวตรงนี้มันสวยมากเลยทีเดียว
  ในอดีตที่ผ่านมาของเขาเขาไม่เคยมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างจริงๆจังๆเลยสักครั้งจึงไม่เคยได้เห็นความงามภายนอกหน้าต่างนี้มาก่อนทั้งหมดนี้ปาณีเป็นคนสอนเขาทั้งนั้น
  เมื่อคิดถึงยัยแมวน้อยขี้อ้อนของเขาขึ้นมาความอ่อนโยนก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาทันที
  ”ไม่รู้ว่าคืนนี้ยัยแมวน้อยจะกลับบ้านกี่โมงกันนะ?ช่างเถอะเดี๋ยวให้ไวยาตย์ออกไปเค้กสักหน่อยดีกว่าประเหลาะยัยเเมวน้อยสักหน่อยก็ดีเหมือนกันรับรองว่าเธอต้องชอบแน่ๆ!”
  ทางฝั่งของปาณีเธอนั่งรถมากับธีระไม่นานนักก็มาถึงโรงแรมห้าดาวที่ใหญ่ที่สุดของเมืองชยุต
  ตลอดทางที่นั่งมาด้วยกันบนรถของธีระเขาเล่ารายละเอียดทั่วๆไปเกี่ยวกับลูกค้าที่จะต้องไปพบในวันนี้ให้ปาณีฟัง
  ปาณีนั่งมองเอกสารในมือตัวเองก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันนี้จะได้พูดคุยเจรจากับนักธุรกิจวงการแฟชั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดของปักกิ่งเท่าที่รู้คือบริษัทนี้ถือเป็นบริษัทเเนวหน้าของอุตสาหกรรมแฟชั่นเลยก็ว่าได้โดยบริษัทพัฒนาใหญ่โตจนถึงขั้นเเตกสาขากระจายไปทั่วทั้งประเทศเลยทีเดียวเเละที่เว่อร์วังไปกว่านั้นก็คือCEOของบริษัทนี้เพิ่งจะอายุเพียง20ปีเท่านั้นอายุเท่าๆกับเธอเลย!
  ทว่าเขาน่ะยืนอยู่บนปลายยอดพีระมิดเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ปาณีก็แอบให้กำลังใจตัวเอง:”ปาณีในเมื่อคนอื่นยังทำได้แกก็ต้องทำได้สิ!”
  เมื่อธีระได้เห็นท่าทางประหม่าของปาณีก็ถึงกับขำออกมาก่อนจะพูดปลอบใจเธอ:”ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ก็ได้คุณทัดธนน่ะจัดการทุกอย่างไว้ให้หมดเเล้วขอเเค่พวกเราไม่ทำอะไรผิดพลาดก็พอ!”
  เมื่อนึกถึงคุณทัดธนใบหน้าของปาณีก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้งใจ:”ต้องขอบคุณคุณทัดธนจริงๆถ้าไม่ได้เขาบริษัทเล็กๆของพวกเราคงไม่ได้ย่างกรายไปเฉียดบริษัทชั้นนำแบบนั้นได้หรอก!”
  ธีระพยักหน้าพลางยิ้มให้เธอ:”ได้ยินว่าเจ้าของบริษัทบังเอิญมาทำธุระที่เมืองชยุตพอดีถ้าไม่ใช่เพราะว่าคนของคุณทัดธนเป็นคนกว้างขวางนะกว่าพวกเราจะรู้ข่าวนี้เขาก็คงกลับไปนานแล้ว!”
  ปาณียิ้มระรื่นหน้าชื่นตาบาน:”วันไหนมีโอกาสต้องเลี้ยงอาหารคุณทัดธนสักมื้อนะ!”
  ธีระไม่พูดอะไรเมื่อจอดรถเรียบร้อยทั้งสองจึงพากันเดินไปที่ล็อบบี้ของโรงแรม
  ถึงเเม้จะทำการนัดหมายเอาไว้เรียบร้อยเเต่ปาณีก็ยังมิวายที่จะทำทุกอย่างตามขั้นตอนเธอเดินไปที่ล๊อบบี้:”สวัสดีค่ะพวกเรามาพบท่านประธานศิวรรจน์CEOของบริษัทซี.ซี.เอส.ค่ะดิฉันนามสกุลตันวิรัช!”
  พนักงานต้อนรับรีบต่อสายไปถึงท่านประธานศิวรรจน์ไม่กี่นาทีต่อมาจึงพูดกับพวกเขาพลางชี้มือไปที่ลิฟต์ตัวหนึ่ง:”ท่านประธานศิวรรจน์เชิญคุณสองคนเข้าพบได้ค่ะ!”
  หลังจากกล่าวขอบคุณพนักงานต้อนรับเสร็จทั้งสองก็พากันเดินขึ้นลิฟต์ไป
  ”ติ๊ง!”ประตูลิฟต์เปิดออกปาณีที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารบรีฟงานอยู่ไม่ทันระวังก็ถูกผู้ชายที่สวมหมวกเบสบอลชนเข้าอย่างจัง
  ธีระรีบเดินเข้ามาจับตัวเธอเอาไว้ได้ทัน
  ปาณีไม่ได้เป็นห่วงตัวเองเลยแม้เเต่น้อยเธอรีบก้มลงเก็บเอกสารที่ร่วงกระจายอยู่บนพื้นกระดาษที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นล้วนเเต่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทซี.ซี.เอส.เเละท่านประธานศิวรรจน์ทั้งสิ้น
  ชายสวมหมวกเบสบอลก็ลงไปนั่งยองๆช่วยเธอหยิบกระดาษพวกนั้นขึ้นมา
  ขณะที่ปาณีกำลังสาละวนกับการเก็บรวบรวมกระดาษที่กระจัดกระจายอยู่นั้นก็ได้เห็นชายคนนั้นหยิบกระดาษของเธอขึ้นมาใบหนึ่งเเละอ่านมัน
  เธอรีบเดินเข้าไปหาอย่างไม่เกรงใจเเละดึงมันกลับมาจากมือของผู้ชายสวมหมวกเบสบอล
  ผู้ชายคนนั้นยืนงงเป็นไก่ตาแตกก่อนจะตะโกนใส่ด้านหลังของปาณี:”คุณเป็นคนประเภทไหนกันเนี่ย?คนอุตส่าห์ช่วยเก็บแท้ๆยังจะแสดงกิริยาหยาบคายแบบนี้ใส่อีก”
  ธีระกำลังจะอ้าปากพูดอยู่เเล้วเชียว
  ปาณีรีบพูดสวนกลับไปทันควัน:”ยังจะกล้าพูดอีกนะเห็นๆอยู่ว่าคุณเป็นคนชนฉันเเท้ๆคำขอโทษสักคำก็ไม่มีเเล้วเเบบนี้ยังจะมาว่าฉันกิริยาหยาบคายอีกเหรอ?”

ตอนที่823ปฏิเสธความร่วมมือทางธุรกิจ
  ชายหนุ่มเลิกคิ้วเเละถอดหมวกของเขาออกก่อนจะเสยผมไปมาเมื่อไร้หมวกจึงเผยให้เห็นถึงใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา
  ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลาคมคายนี้พูดได้เลยว่าหากเขาต้องการเข้าสู่วงการบันเทิงเเล้วล่ะก็คงเข้าไปได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียวยิ่งได้ฟังเสียงกรี๊ดกร๊าดที่ดังเเว่วมาจากทางฝั่งล๊อบบี้ของโรงเเรมด้วยเเล้วก็สามารถเดาได้เลยว่าชายหนุ่มผู้นี้หล่อเหลาแค่ไหน!
  แต่ในจำนวนสาวๆที่พากันกรี๊ดกร๊าดชายหนุ่มผู้นี้ไม่นับรวมปาณีอย่างเเน่นอน
  หลังจากที่เธอแผดเสียงใส่เขาเรียบร้อยก็หันมาง่วนกับการจัดกระดาษเอกสารที่ปลิวว่อนกระจุยกระจายเมื่อตอนที่โดนชนเมื่อครู่นี้ให้เข้าที่เข้าทาง
  นับเป็นครั้งแรกที่โดนเพิกเฉยต่อรูปโฉมอันหล่อเหลาของตัวเองชายหนุ่มถึงกับนิ่งอึ้งตะลึงงันเขาพยายามจะเดินเข้าไปหาปาณีเเต่ก็ถูกธีระขวางเอาไว้เสียก่อน
  ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองธีระเเล้วก็ทำเหมือนเขาไม่ได้อยู่ในสายตาก่อนจะพูดแกมหัวเราะออกมาเบาๆ:”โธ่อายุก็ยังน้อยๆอยู่เลยที่ไหนได้มีเจ้าของซะเเล้ว”
  ปาณีได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มก่อนจะหันไปพูดกับธีระเบาๆ:”ธีระเราไปกันเถอะ!”
  เมื่อถูกทิ้งไว้โดยไม่แยแสชายหนุ่มก็รู้สึกไม่พอใจจังหวะที่ลิฟต์กำลังจะปิดนั้นเขากลับเดินเข้าไปขวางประตูลิฟต์ไว้
  ปาณีเงยหน้าขึ้นมองเขาจึงได้เห็นชายหนุ่มกำลังยืนพิงประตูลิฟต์พร้อมกับส่งยิ้มที่คิดว่าหล่อนักหล่อหนามาให้เธอจากนั้นเขาก็พูดเสียงดังกังวาน:”คุณผู้หญิงสะดวกให้เบอร์ติดต่อไว้หน่อยมั๊ยครับ?”
  ปาณีคาดไม่ถึงเลยว่าในที่แบบนี้ยังจะโดนคนเเปลกหน้ามาจู่โจมขอเบอร์เธอได้
  ขณะที่กำลังคิดจะพูดอะไรสักอย่างก็เห็นสองสาวเเฟนคลับวิ่งกระดี๊กระด๊าเข้ามาหาชายหนุ่มเธอจึงส่งยิ้มหวานไปให้เขาก่อนจะพูดว่า:”ขอโทษค่ะฉันไม่คุ้นเคยกับการพูดคุยกับคนแปลกหน้า!”
  พูดจบเธอก็เอื้อมมือไปกดปิดลิฟต์ที่แป้นปุ่มกดทว่าชายหนุ่มยังยืนขวางอยู่ตรงนั้นไม่ยอมขยับไปไหน
  ปาณีเห็นสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าจึงเดินเข้าไปหาชายหนุ่มพร้อมกับยิ้มให้เขารอยยิ้มอันบริสุทธิ์ผุดผ่องนั้นทำให้เขาถึงกับตะลึงไปไม่น้อย
  เเต่ทันใดนั้นความเจ็บปวดที่ฝ่าเท้าของเขาก็เเผ่ซ่านจนทำให้เขารู้สึกได้
  ชายหนุ่มก้มลงไปมองที่เท้าของเขาด้วยความตกใจภาพที่ได้เห็นก็คือรองเท้ารุ่นLimitedEditionของเขาปรากฏเป็นรอยขนาดเท้าใหญ่ประทับอยู่ด้านบนของรองเท้าคู่เก่งของชายหนุ่มซึ่งเจ้าของรอยเท้ายังคงยืนลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนั้น
  หลังจากที่ชายหนุ่มดึงสติกลับคืนมาได้เขาก็สาดสายตาอันดุเดือดจ้องเขม็งไปที่ปาณีก่อนจะยกมือขึ้นมาชี้ไปที่เธอ:”เธอ……”
  ปาณีเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่กำลังอยู่ในอาการโมโหเดือดดาลอย่างไม่แยแสเขาเลยสักนิดเธอกดปิดลิฟต์อีกครั้งเเถมยังทำท่าทำทางบอกให้เขาเอาเท้าหลบไป!
  ชายหนุ่มรีบยกเท้าหลบในทันทีเขายืนอยู่ตรงนั้นจนหน้าของปาณีค่อยๆหายไปกับประตูลิฟต์ที่ปิดลงในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิดสนิทนั้นเขาสาบานได้เลยว่าเขาเห็นปาณีทำท่ากระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความสะใจ!
  ในจังหวะเดียวกันนั้นประตูลิฟต์ตัวถัดไปก็เปิดออกชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมาจากลิฟต์เมื่อเขาได้เห็นชายหนุ่มจึงพูดเสียงทุ้มกับเขา:”อยู่นี่เองเยี่ยมเลยคุณทัดธนแนะนำคนของบริษัทแห่งหนึ่งเอาไว้ตอนนี้น่าจะใกล้ถึงเเล้วนะพวกเราขึ้นไปกันเถอะ!”
  ท่าทางของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาในทันทีก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก:”ทัดธนเเนะนำมาอย่างนั้นเหรอ?”
  ชายวัยกลางคนพยักหน้าพลางยิ้มให้เขาก่อนจะหันไปกดลิฟต์:”ใช่ครับคุณทัดธนเป็นคนติดต่อมาหาพวกเราเองเลยนะครับผมเองก็รู้สึกประหลาดใจมากยังจำตอนที่พวกเราคิดจะเปิดสาขาในเมืองชยุตได้ไหมครับคุณทัดธนก็ลงมือลงเเรงไปไม่ใช่น้อยก็เลย……”
  ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆโดยไม่พูดอะไรแล้วก็เดินตรงเข้าไปในลิฟต์
  อีกฝั่งหนึ่งณห้องเพรสซิเดนท์สูทอันหรูหราปาณีกับธีระถูกเชิญให้เข้ามาด้านในทั้งคู่อยู่ในอาการรักษาอากัปกิริยานั่งนิ่งหลังตรงอยู่บนโซฟารอให้ท่านประธานจำรัสปรากฏตัว
  ทว่านาฬิกาก็ยังหมุนไปเรื่อยๆติ๊กต๊อกติ๊กต๊อก…ปาณีและธีระทั้งคู่ต่างก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั่งกันอยู่นานแค่ไหนจนพวกเขาเริ่มจะนั่งกันต่อไปไม่ไหวจึงเตรียมที่จะลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจยืดเส้นยืดสายสักหน่อย”คลิ๊ก”เสียงประตูห้องรับเเขกถูกเปิดออก
  ปาณีสูดลมหายใจเข้าลึกๆไปหนึ่งครั้งรอยยิ้มละมุนปรากฏอยู่บนใบหน้าสวยหวานของเธอจากนั้นเธอจึงหันตัวกลับไปแสดงการทักทายอย่างสุภาพอ่อนน้อม:”สวัสดีค่ะท่านประธานจำรัส”
  แต่ครั้นเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาก็ได้สบตาเข้ากับดวงตาคู่นั้นที่กำลังเพ่งเล็งมาที่เธอจิตใจเธอไม่สงบอีกต่อไปปาณีควบคุมสติเอาไว้ไม่อยู่เธอชี้ไปที่บุคคลที่กำลังยืนประจันหน้าด้วยความประหลาดใจ:”ทำไมเป็นนาย?”
  ธีระเองก็รู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกันเขามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางช็อคอย่างเห็นได้ชัด
  ผู้ช่วยชญช์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านหลังพูดพลางยิ้มๆด้วยความสับสนงงงวย:”เอ่อไม่ทราบว่าทุกท่านในที่นี้รู้จักกันแล้วเหรอครับ?”
  ธีระพยักหน้าเบาๆให้เขา:”เมื่อสักครู่นี้บังเอิญเจอท่านประธานจำรัสโดยบังเอิญในลิฟต์น่ะครับ!”
  ธีระพยายามให้เรื่องมันผ่านไปด้วยดีเเต่ท่านประธานจำรัสซึ่งก็คือชายหนุ่มที่สวมหมวกเบสบอลคนนั้นกลับไม่คิดแบบนั้นเขามองไปที่ปาณีที่กำลังก้มหน้าหลบสายตาเขาอยู่ด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มอันเยือกเย็นซึ่งดูไม่ค่อยพอใจเป็นอย่างมาก:”เมื่อกี้นี้ก็เธอนี่เองที่เหยียบเท้าฉันเข้าอย่างแรง!แถมยังฝากรอยเท้าไว้บนรองเท้าฉันด้วย!”
  วินาทีนั้นปาณีนึกอยากจะเอาหัวโหม่งกำเเพงให้ตายไปซะเลย
  อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ตัวเองกลับไปล่วงเกินท่านประธานจำรัสเเห่งบริษัทซี.ซี.เอส.ซะได้เเล้วเขาก็เป็นเป้าหมายของการเจรจาทางธุรกิจที่สำคัญที่สุดของเธอในตอนนี้ด้วยทำเอาปาณีอยากจะตบหัวตัวเองหลายๆทีเสียให้ได้!
  ยังไงซะความเข้าใจผิดมันก็เกิดขึ้นมาเเล้วคนอย่างปาณีก็ไม่ใช่คนที่ชอบหนีปัญหาซะด้วยปาณีเงยหน้าขึ้นก่อนจะหันไปทางท่านประธานจำรัสเธอก้มหัวให้เขา:”เรื่องที่ฉันเหยียบเท้าคุณเป็นความผิดของฉันเองค่ะ!เเต่คุณก็เป็นคนที่เดินชนฉันก่อนเเถมยังมายืนขวางลิฟต์อีกเพราะฉะนั้นคุณเองก็ควรจะขอโทษฉันด้วยเหมือนกัน!”
  จำรัสไม่รู้ว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่าเขาจึงพูดด้วยเสียงนุ่มลึก:”อะไรนะ?เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ?เธอพูดอีกทีสิ?”
  ปาณีเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก่อนจะพูดช้าๆชัดๆทุกคำพูด:”ฉันขอโทษคุณเเล้วตอนนี้ถึงตาคุณขอโทษฉันบ้างเเล้วค่ะ!”
  หนนี้จำรัสได้ยินชัดเจนเข้าใจเเจ่มเเจ้งทุกคำพูดเขามองไปที่หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าก่อนจะเตือนเธอด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น:”คุณปาณีใช่มั๊ย?ผมคิดว่าคุณควรจะรู้เอาไว้นะว่าที่ๆคุณยืนอยู่ตอนนี้มันเป็นที่ของผมคุณมาหาผมก็เพื่อเจรจาธุรกิจเเต่คุณกลับมาขอให้ผมขอโทษคุณอย่างนั้นรึ?”
  คำพูดของเขาไม่ได้ทำให้ปาณีรู้สึกกลัวเลยเเม้เเต่น้อยเธอพูดเสียงดังฟังชัด:”เรื่องนี้มันก็ส่วนของเรื่องนี้ที่เรากำลังคุยกันอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องโปรเจกต์ของงานเเต่คุณต้องขอโทษฉันเรื่องที่คุณชนฉันต่างหากค่ะ!”
  ทันใดนั้นจำรัสก็ขำออกมาเขาหันหลังกลับไปโดยไม่หันมามองเธออีก
  ปาณีไม่สนใจสายตาของธีระที่พยายามส่งสายตาปรามเธอเลยแม้เเต่น้อยเเต่ปาณีกลับเดินเข้าไปหาจำรัสเธอไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาก่อนจะพูดเสียงดังออกมา:”ท่านประธานจำรัสปฏิบัติต่อผู้อื่นแบบนี้น่ะเหรอคะ?ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถร่วมงานกับบริษัทซี.ซี.เอส.ของคุณได้!”
  ทันทีที่พูดจบเธอก็หันไปพูดกับธีระที่กำลังยืนตะลึงงันอยู่ตรงนั้นด้วยเสียงที่ดังฟังชัด:”ธีระพวกเราไปกันเถอะ!”
  ขณะที่ปาณีพูดอยู่นั้นเธอน่ะเดินไปถึงประตูเเล้วเห็นธีระยังไม่ขยับก็เลยตะโกนเรียกเขา:”ธีระไปได้เเล้ว!”
  ธีระรีบเดินตามออกไปโดยไม่พูดไม่จาได้เเต่เดินตามหลังเธอไปติดๆ
  รอจนปาณีเดินลับสายตาไปจำรัสถึงได้ฟื้นคืนสติกลับมาเขาหันมาทางผู้ช่วยชญช์ที่ก็ตกอยู่ในสภาพตะลึงงันไม่ต่างกันก่อนจะเอ่ยปากถามเขาด้วยน้ำเสียงนิ่งทุ้ม:”นี่ฉันเพิ่งโดนบริษัทเล็กๆปฏิเสธเอาอย่างนั้นเหรอ?ยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไรเลยก็โดนปฏิเสธเเล้วอย่างงั้นรึ?”
  ชญช์คิดๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มพลางตอบเขา:”จากที่ผมเห็นคิดว่าใช่ครับ!”
  จำรัสทิ้งตัวลงไปบนโซฟาเเล้วก็หัวเราะส่ายหัวไปมา:”เออใช่จริงๆCEOบริษัทซี.ซี.เอส.ผู้สง่างามอย่างฉันเพิ่งจะถูกยัยเด็กเมื่อวานซืนปฏิเสธที่จะร่วมธุรกิจอย่างนั้นรึ?ไม่ได้..ชญช์นายไปสืบมาเดี๋ยวนี้เลยว่ายัยเด็กเมื่อวานซืนคนนี้เป็นใครมาจากไหนฉันอยากรู้จริงๆว่ายัยเด็กนี่ทำไมถึงได้กำเริบเสิบสานขนาดนี้!”
  ชญช์ยืนงงๆจากนั้นจึงพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ:”เอ่อท่านประธานครับคงไม่ถึงกับถือสาหาความกับผู้หญิงตัวเล็กๆหรอกนะครับ?”
  จำรัสมองเขาด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินเเบบนั้นเขาเอามือชี้มาที่ตัวเขาเองด้วยท่าทางบริสุทธิ์ไร้เดียงสา:”ตอนที่ฉันยืนอยู่ที่ประตูลิฟต์เเล้วโดนเธอเมินเฉยใส่แบบนั้นก็ทีหนึ่งเเล้วมาตอนนี้เธอยังมาปฏิเสธที่จะร่วมงานกับบริษัทซี.ซี.เอส.ของเราอีกเเล้วนายจะไม่ให้ฉันโมโหอย่างนั้นรึ?นี่นายรับสินบนจากเธอหรือเปล่าเนี่ย?”
  ชญช์รีบส่ายหัวทันที:”เปล่านะครับท่านประธานผมจะรีบไปสืบเดี๋ยวนี้แหละครับ!”
  จำรัสค่อยพอใจขึ้นมาหน่อยเเล้วจู่ๆเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้เลยรีบตะโกนตามหลังชญช์ไปติดๆ:”เอออีกอย่างนะยังมีบริษัทชนวิทของเธอนั่นด้วยสืบมาให้หมดเลยนะ!”

ตอนที่824ความสุขคือการกิน
  ปาณีเดินไปข้างหน้าด้วยความโมโหโดยมีธีระยืนอยู่ด้านหลังของเธอเขายืนนิ่งมองดูเบื้องหลังของร่างเล็กจ้อยที่กำลังอยู่ในอาการโกรธสุดขีดก่อนจะยืนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
  ในทีเเรกเขาตั้งใจที่จะพาเธอมาด้วยก็เพราะเขามองไม่เห็นอนาคตของงานที่ผ่านๆมาของเขาเเต่เเล้วเมื่อปาณีปรากฏตัวขึ้นเธอก็ทำลายทางตันของเขาในตอนนั้นลงได้
  หลังจากที่เวลาผ่านไปพวกเขาค่อยๆขยับกันไปทีละก้าวๆซึ่งปาณีก็มักจะทำให้เขาต้องเซอร์ไพรส์เเละประหลาดใจอยู่เสมอๆ
  ขณะที่เขากำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั้นจู่ๆปาณีก็หันกลับมาหาเขา:”ธีระเธอคิดว่าเมื่อกี้ฉันทำรุนเเรงไปหน่อยหรือเปล่า?”
  ธีระ:”……”
  ปาณีถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะพูดด้วยเสียงที่เรียบนิ่ง:”เฮ้อฉันก็รู้อยู่ว่าสิ่งที่ฉันทำลงไปน่ะมันโง่มาก!กะอีเเค่เรื่องเล็กๆกลับไปปฏิเสธที่จะร่วมงานกับบริษัทซี.ซี.เอส.ซะได้ถ้าคุณอารู้เข้าก็ไม่รู้จะโทษฉันหรือเปล่า?ไหนจะคุณทัดธนอีกฉันควรจะเข้าไปขอโทษเขาดีไหม?”
  เมื่อได้เห็นปาณีเริ่มจะตำหนิตัวเองธีระก็นิ่งไปเล็กน้อยเขาพยายามที่จะหาถ้อยคำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้เพื่อพูดกับเธอ:”สิ่งที่เธอคิดมันก็ดีอยู่นะมันดูเป็นการกระทำที่เหมาะสมกับวัยของเธอดี!”
  ”เฮ้อออ”จู่ๆปาณีก็ส่งเสียงที่เคล้าด้วยความเศร้าออกมา:”ธีระนายก็โทษฉันเหมือนกันใช่มั๊ยล่ะ?นายไม่ต้องปิดกั้นความรู้สึกนั้นหรอกฉันรู้ว่านายก็คิดแบบนั้นฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้กล้าไปพูดแบบนั้นกับท่านประธานจำรัส”
  เมื่อได้เห็นปาณีสำนึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปธีระถึงตระหนักได้ว่ามันเป็นสิ่งที่เด็กในวัยนี้คงจะเป็นได้เพราะเธออายุยังน้อยบางทีก็หุนหันพลันเเล่นโดยลืมนึกถึงผลที่จะตามมา!
  ”เอาล่ะปาณีไหนๆเรื่องมันก็เกิดขึ้นเเล้วเธอก็ไม่ต้องไปคิดมากเเละก็เลิกตำหนิตัวเองเถอะ!ต่อให้ไม่มีบริษัทซี.ซี.เอส.เราก็ยังสามารถหาบริษัทอื่นๆมาร่วมงานกับเราได้อีกไม่ใช่เหรอ?เเล้วถ้ายังไม่ได้อีกเธอก็ลองคุยกับสามีของเธอได้นี่!มีทรัพยากรดีๆอยู่ในมือกลับไม่ใช้เสียของซะเปล่าๆนะ!”
  ปาณีหันไปมองเขาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม:”ธีระฉันเคยบอกแล้วไงว่าฉันจะไม่ไปขอความช่วยเหลือจากคุณอาต่อให้บริษัทจะเดินหน้าต่อไปไม่ไหวฉันก็จะไม่ทำแบบนั้น!”
  ธีระนิ่งอึ้งไปชั่วครู่เขามองหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าที่ดูเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนก่อนจะถามเธอด้วยความไม่เข้าใจ:”ทำไมล่ะ?พวกเธอเป็นสามีภรรยากันต่อให้หย่ากันแล้วก็น่าจะทำธุรกิจร่วมกันได้นี่ไม่ใช่เหรอ?”
  ปาณีไม่อยากจะอธิบายอะไรมากเธอเพียงแค่พูดว่า:”มันเป็นแนวคิดเเละหลักการของฉันน่ะธีระฉันก็หวังว่านายจะเคารพในการตัดสินใจของฉันนะ!”
  ธีระถอนหายใจเฮือกใหญ่เเล้วพูดด้วยน้ำเสียงแบบหมดหนทางไปต่อ:”อืมก็ได้ต่อไปฉันจะไม่ถามแบบนี้อีกเเล้ว!เเต่ว่าท่านประธานปาณีครับต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกได้ไหมล่ะครับไม่ปรึกษาหารือกับกระผมสักคำก็ไปปฏิเสธดีลกับบริษัทอื่นเอาดื้อๆ”
  ปาณีพยักหน้ารับคำอย่างจริงจังเพื่อเเสดงการตอบรับคำขอจากเขา
  เมื่อธีระพาปาณีมาส่งที่บ้านธามนิธิก็เพิ่งจะกลับมาถึงเช่นกัน
  ทันทีที่เห็นเธอธามนิธิก็ยืนนิ่งจากนั้นจึงเรียกชื่อเธอพลางส่งยิ้มให้:”ปาณี!”
  ปาณีรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเขาหัวเธอเเนบชิดกับอกแกร่งกำยำจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นเเรงเป็นจังหวะมันทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายไปได้เยอะเลยทีเดียว
  จากอาการเศร้าซึมที่เพิ่งผ่านมาเมื่อสักครู่นี้จู่ๆหญิงสาวก็ชะโงกหัวออกมาจากอ้อมเเขนของเขาเเละได้กลิ่นอะไรหอมๆลอยมาแตะที่จมูกเธอปาณีรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที:”ไวยาตย์ถืออะไรอยู่ในมือน่ะ?”
  ธามนิธิยื่นมือไปจิ้มที่จมูกเธอเบาๆด้วยความรักใคร่เอ็นดูเขาแกล้งพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน:”ยัยแมวน้อยจอมตะกละจมูกดีจริงๆเลยนะเรา”
  ปาณีทำท่าทางหลบมือของธามนิธิทำเสียงเศร้า:”ก็ความสุขของฉันคือการกินนี่คะคุณอาอ่ะใจร้าย!คุณอาจะมากีดกันความสุขเพียงสิ่งเดียวของฉันเหรอคะ!ทำแบบนี้มันจะเกินไปหน่อยนะคะ!”
  จู่ๆธามนิธิก็ถูกกล่าวหาแบบไม่คาดคิดทำเอาเขางงไปเล็กน้อยซึ่งตอนนั้นเองปาณีก็รีบฉวยโอกาสยื่นมือไปคว้าเอากล่องสี่เหลี่ยมในมือของไวยาตย์มาถือไว้เรียบร้อย:”ไวยาตย์วันนี้นายก็เหนื่อยมาทั้งวันเเล้วเดี๋ยวกล่องนี้ฉันจะถือแทนนายเองก็เเล้วกัน”
  ไวยาตย์มองปาณีอย่างขบขันอดไม่ได้ที่จะแซวเธอ:”ปาณีกินให้มันเบาๆหน่อยนะระวังอย่าไปกินเยอะล่ะเดี๋ยวได้เข้าโรงพยาบาลอีกหรอก!”
  แล้วอยู่ๆก็มีเสียงหัวเราะดังแว่วมาทำให้ปาณีถึงกับไม่พอใจที่โดนใครมาหัวเราะเยาะใส่เเต่เมื่อหันกลับไปก็เลยได้เห็นว่าธีระยังไม่ทันกลับปาณีหน้าแดงด้วยความอับอายขึ้นมาทันทีก่อนจะไปหลบอยู่ด้านหลังคุณอา
  ธามนิธิยิ้มเเละมองไปที่ธีระเขากลายเป็นโล่กำบังให้เธอ:”ลำบากคุณแล้วนะธีระขอบคุณที่มาส่งปาณีรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
  ธีระส่งกระเป๋าของปาณีที่ลืมเอาไว้ในรถให้กับธามนิธิ:”อืมนี่กระเป๋าของปาณีครับผมขอตัวกลับก่อนนะครับท่านประธานธามนิธิ!”
  ธีระหันไปพยักหน้าให้กับไวยาตย์ก่อนจะกลับขึ้นรถแล้วขับออกไป
  ไวยาตย์เองก็รู้งานดีรีบเดินออกจากตรงนั้นไปเช่นกัน
  ปาณีกอดธามนิธิซะเเน่นท่าทางเหมือนเด็กเล็กๆที่กำลังเกาะเขาอยู่ไม่มีผิดธามนิธิค่อยๆเดินกระเตงยัยแมวน้อยจอมตะกละเข้าไปที่บ้าน
  จนผ่านไปครู่หนึ่งปาณีเริ่มรู้สึกว่าคุณอาเริ่มช้าลงเเละตัวเขาค่อยๆแดงไล่ลงมาตั้งแต่หน้าลามมาจนถึงตัวเขาหญิงสาวจึงพูดออกไปว่า:”เดี๋ยวฉันเดินเองดีกว่าค่ะขาคุณอาเพิ่งจะหายเมื่อไม่นานนี้เองยังไงก็ควรจะระวังๆไว้หน่อยนะคะ!”
  ธามนิธิไม่พูดอะไรตอบเธอ
  ทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านปาณีรีบกุลีกุจอวิ่งไปที่โต๊ะอาหารก่อนจะเปิดกล่องที่เพิ่งเเย่งมาจากไวยาตย์ข้างในนั้นเป็นเค้กก้อนหนึ่งปาณีร้องว้าวออกมาด้วยความตื่นตะลึง:”ดีจังเลยนี่มันเค้กแบล็คฟอเรสต์ของโปรดของฉันนี่นา!”
  ธามนิธิเห็นเเววตากลมโตเป็นประกายของหญิงสาวก็หัวเราะร่วนก่อนจะเบรคเธอ:”ไปล้างไม้ล้างมือก่อนเค้กนี่ฉันอนุญาตให้เธอกินได้เเค่ชิ้นเดียวเท่านั้นที่เหลือก็เอาเเช่ตู้เย็นไว้เก็บไว้กินวันหลัง!”
  ปาณีได้ยินดังนั้นก็รีบประท้วงด้วยความไม่พอใจ:”ไม่เอาอ่ะฉันจะกินสามชิ้น!”
  ธามนิธิคล้อยตามเธอโดยปราศจากเงื่อนไขเขาเพียงแต่โปรยคำนี้ไปให้เธอ:”โรงพยาบาล!”
  ปาณีรำลึกถึงประสบการณ์อันอัปยศอดสูเมื่อครั้งก่อนขึ้นมาได้ในทันทีสุดท้ายก็ทำท่าปากจู๋พูดแบบคนสิ้นไร้หนทางจะเถียงต่อ:”ถ้างั้นขอกินชิ้นครึ่งได้มั๊ยคะ?”
  ธามนิธิไม่พูดอะไรเพียงเเค่ส่งสายตาเป็นเชิงถามเธอเท่านั้น
  ปาณีพยักหน้าหงึกๆเป็นการสื่อให้เห็นว่าเขายอมให้เธอกินได้เเล้วนะ:”ฉันหิวมากเลยข้าวกลางวันก็ไม่ได้กิน!”
  ธามนิธิขมวดคิ้วเเล้วบอกเธอว่า:”ถ้าอย่างนั้นเธอก็ค่อยๆกินล่ะ!”
  ปาณีหยิบเค้กชิ้นใหญ่ใส่ปากทันทีที่ได้ลิ้มรสชาตของเค้กที่หอมนุ่มละมุนลิ้นทำให้เธออดใจไม่ไหวที่จะส่งเสียงครางออกมาเบาๆด้วยความพึงพอใจ:”อืมมมมมอร่อยจังเลย!”
  พอพูดจบเธอก็หยิบช้อนมาอีกคันหนึ่งส่งให้กับคุณอา:”คุณอาลองชิมดูสิคะ!”
  ธามนิธิถึงกับขำที่ได้เห็นเธอถือช้อนเต็มสองไม้สองมือขณะที่เค้กชิ้นนั้นมันร่อยหรอจนเเทบจะไม่มีเหลือเเล้วเขาหัวเราะเชิงเยาะเย้ยเธอเบาๆ:”ถ้าฉันกินขึ้นมาจริงๆเธอก็จะไม่เหลือเเล้วนะ!”
  ปาณีไม่ลังเลที่จะตักเค้กป้อนเข้าปากเขา:”เราสองคนก็เปรียบเสมือนคนๆเดียวกันไม่แบ่งแยกซึ่งกันและกันคุณอากินก็เหมือนฉันได้กินด้วยเหมือนกัน!”
  พอพูดจบปาณีเหมือนจะเพิ่งสำนึกได้ในภายหลังเธอเห็นเขากำลังจ้องมองมาที่ตัวเองราวกับว่าเขาเห็นเธอเป็นเหมือนเค้กแสนอร่อยเเละน่ากินสุดๆยังไงยังงั้น
  ปาณีรีบถือเค้กแล้วหนีไปนั่งหลบยังมุมที่ปลอดภัยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร:”คุณอาหนูหิวอ่า!”
  ธามนิธิพยายามอดกลั้นความรู้สึกตัวเองเอาไว้จากนั้นจึงเดินขึ้นบันไดไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
  ปาณีงงอยู่ชั่วครู่เเล้วจึงเก็บกวาดเค้กส่วนที่เหลือก่อนจะกลืนลงท้องจนเกลี้ยงจากนั้นก็ค่อยๆเดินขึ้นไปชั้นบนเธอทำเป็นตีหน้าเศร้าพูดเสียงอ่อยๆ:”คุณอาขี้งอนจังเลย!”
  เเต่เมื่อเข้าไปถึงในห้องนอนก็ได้ยินเสียงน้ำซู่ซู่ดังออกมาจากห้องอาบน้ำเธอเลยรู้ว่าคุณอากำลังอาบน้ำอยู่
  ปาณีเอามือลูบๆท้องตัวเองคิดๆอยู่แปปหนึ่งก็เดินกลับลงไปข้างล่าง
  เมื่อธามนิธิเดินลงมาข้างล่างก็ได้เห็นปาณีสวมผ้ากันเปื้อนกำลังสาละวนอยู่หน้าเตาข้างในครัวเขารีบเดินเข้าไปหาแล้วเข้าไปสวมกอดที่เอวบางๆของเธอจากด้านหลังทั้งลูบทั้งบีบเอวเธอเบาๆ:”ปาณีช่วงนี้เธออ้วนขึ้นหรือเปล่า?”
  ปาณีที่กำลังจะชิมซุปอยู่พอดีถึงกับสำลักพรวดเเละไอออกมาอย่างแรง
  ”แค่กแค่กแค่ก……”
  ธามนิธิช่วยตบหลังเธอเบาๆ:”ทำไมไม่ระวังเลยนะไม่ใช่เด็กๆเเล้วนะเราเนี่ย”
  ปาณีค่อยๆกลับมาเป็นปกติเธอจ้องหน้าเขาเขม็งก่อนจะหันกลับไปตักซุปใส่ชาม
  ธามนิธินั่งลงที่โต๊ะอาหารเขามองดูอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะเริ่มตักกับข้าวกินเมื่อได้ลิ้มรสอาหารมันทำให้เขารู้สึกว่าได้อยู่บ้านเเล้วจริงๆ
  ปาณีเดินถือข้าวมาสองถ้วยแล้วจึงส่งถ้วยหนึ่งให้กับเขาส่วนถ้วยของเธอเป็นถ้วยที่ดูน่าสงสารมากเพราะมีข้าวอยู่นิดเดียวจากนั้นเธอก็เริ่มก้มหน้าก้มตากิน

ตอนที่825สู้สู้
  ธามนิธิลองเทียบดูปริมาณข้าวในถ้วยของเขากับถ้วยของเธอด้วยสายตาเเต่ก็ไม่ได้พูดว่าอะไร
  ปาณีค่อยๆกินข้าวอย่างเงียบๆไม่เหมือนกับแต่ก่อนที่ชอบกินแบบตะกรุมตะกรามมิหนำซ้ำยังค่อยๆละเลียดๆเคี้ยวอย่างช้าๆตามแบบกุลสตรีอีกด้วยทำเอาธามนิธิเลิกคิ้วมองด้วยความประหลาดใจ
  ผ่านไปครู่หนึ่งคุณอาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งขึ้นมา:”ไม่หิวเหรอวันนี้?ทำไมถึงกินเเค่นั้นเองล่ะ?”
  ปาณีหันไปสบตาเขาด้วยเเววตาอันเศร้าสร้อยพูดกับเขาด้วยท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจ:”เมื่อกี้นี้ดูคุณอาจะรังเกียจที่ฉันอ้วนไม่ใช่เหรอคะ?ฉันก็เลยจะลดความอ้วนน่ะค่ะ!”
  มุมปากของธามนิธิกระตุกขึ้นมาเบาๆ:”ฉันไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าเธอจะเชื่อฟังฉันขนาดนี้?”
  ปาณีมองค้อนใส่เขาอย่างขุ่นเคืองใจ:”คุณอาที่ฉันต้องเชื่อฟังก็เพราะกลัวว่าคุณอาจะรังเกียจฉันเเละก็ไม่ต้องการฉันแล้ว!เพราะฉะนั้นก็เลยต้องเชื่อฟังน่ะสิคะทำยังไงได้อ่า!”
  ธามนิธิเห็นเธอดูเศร้าๆก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปจับใบหน้าของเธอก่อนจะบอกเธอว่า:”อันที่จริงก็อ้วนขึ้นเยอะเหมือนกันนะเนี่ย!”
  พอได้ยินคำนี้เข้าไปความอยากอาหารของปาณีถึงกับลดฮวบไปในทันทีอาหารที่อยู่ตรงหน้าเเทบไม่ดึงดูดเธออีกต่อไป!
  เมื่อได้เห็นเธอหดหู่ลงไปขนาดนั้นธามนิธิก็หัวเราะออกมาเบาๆ:”ต่อให้เธอจะอ้วนเเค่ไหนเธอก็ยังจะเป็นผู้หญิงที่ฉันรักมากที่สุด!”
  ปาณีหันไปมองคุณอาด้วยแววตาเป็นประกายแพรวพราวก่อนจะทำเสียงออดอ้อนใส่เขา:”คุณอา……”
  ธามนิธิตัวเเข็งทื่อไปครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองที่ยัยปีศาจน้อยที่กำลังหว่านเสน่ห์ใส่เขาชายหนุ่มหันกลับมาตั้งสติกำหนดลมหายใจเข้าออกๆอย่างช้าๆอย่าหันไปมองเธอนะ!
  ปาณีได้เห็นแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นเดินมาอยู่ตรงหน้าเขาเเล้วก็เหวี่ยงเเขนเล็กๆไปโอบรอคอเขาเอาไว้พร้อมกับพูดเสียงออดอ้อน:”คุณอาหนู……”
  จู่ๆธามนิธิก็วางตะเกียบลงในทันทีทันใดชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นพลางแกะมือของเธอออกจากคอของเขาจากนั้นจึงเดินดุ่มๆขึ้นข้างบนไปโดยไม่หันกลับไปมองหญิงสาวที่ยืนเอ๋ออยู่ข้างล่าง
  ปาณียังคงยืนงงอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก่อนจะรีบวิ่งตามขึ้นไปข้างบน
  ผลสุดท้ายก็คือทันทีที่ประตูห้องถูกผลักเปิดออกเรือนร่างอันรุ่มร้อนไปด้วยไฟแห่งราคะก็บุกมาประชิดเเละคว้าตัวเธอไปกอดไว้จากนั้น……ก็ไม่เหลืออะไรหลังจากนั้นเเล้ว!
  กว่าปาณีจะนอนแผ่หลาเนื้อตัวอ่อนปวกเปียกอยู่บนเตียงนอนก็ไม่รู้เวลามันผ่านไปนานแค่ไหนเเล้วเธอเหลือบไปมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆด้วยแววตาเศร้าสลดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เธอกรอกตาใส่เขาเบาๆ:”คุณอาอ่ะคราวหน้าช่วยส่งสัญญาณบอกกันล่วงหน้าหน่อยได้มั๊ยอ่ะคะ?ขืนเป็นเเบบนี้ชีวิตฉันจะต้องมอดม้วยมรณาก่อนวัยอันควรแน่ๆเลยค่ะ!”
  คุณอาเหลือบไปมองเธอแวบหนึ่งเเล้วก็ก้มหน้าดูแท็บเล็ตต่อ:”ไม่เป็นไรหรอกฉันจะนำหน้าเธอไปก่อนก็เเล้วกัน”
  ปาณีรีบลุกพรวดขึ้นมาทันทีเธอมองหน้าเขาก่อนจะพูดเสียงเข้มใส่:”คุณอาอย่าทำให้ฉันกลัวสิ?”
  คุณอาหันไปมองปาณีที่ดูเหมือนกำลังจะร้องไห้อยู่รอมร่อเขาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งเเล้วดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมเเขนเมื่อได้ฟังเสียงหัวใจเต้นตุบๆของเขาเธอก็ยิ่งขยับตัวซุกไปที่อ้อมอกของชายหนุ่มให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
  ”เธอเป็นคนเริ่มสนทนาหัวข้อนี้ก่อนนะ!ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลยเเต่ฉันก็หวังว่าฉันจะตามเธอไปทีหลัง……”ธามนิธิพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง
  ปาณีทุบเขา”ป้าบ”ไปทีหนึ่ง:”นี่คุณอยากจะให้ฉันตายก่อนเหรอ?”
  คุณอาส่ายหัวยิกๆ:”คนที่ไปก่อนนั่นแหละคือคนที่มีความสุขที่สุด!”
  ปาณีมองหน้าคุณอาด้วยความตื้นตันใจก่อนจะร้องเรียกเขา:”คุณอา……”
  ธามนิธิกระชับกอดเธอเเน่นขึ้นไปอีกแล้วก็ถอนหายใจออกมายาวๆ:”เลิกคิดได้เเล้วน่าดูจากสภาพร่างกายของพวกเราเเล้วเราสองคนยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกนานเลยแหละมันยังเร็วเกินไปที่จะมานั่งคิดถึงเรื่องนั้นในตอนนี้นะ!”
  หลังจากพูดจบเขาก็ลูบหัวเธอเบาๆกระซิบเสียงต่ำใส่เธอ:”นอนได้เเล้วนะที่รักของฉัน!”
  หลังจากหลับสนิทตลอดคืนปาณีตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็เอามือไปลูบๆที่หมอนที่อยู่ข้างๆเเต่กลับพบว่าหมอนไม่มีความอุ่นหลงเหลืออยู่เเล้ว
  เธอรีบใส่รองเท้าแตะและเดินลงมาข้างล่างเเต่ถึงตอนนั้นคุณอาก็ไม่อยู่เสียเเล้วทำให้เธอรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก:”คุณอาไปไหนอ่ะ?ยังเช้าอยู่เลยไปไหนของเค้าเนี่ย?”
  ขณะที่กำลังนึกสงสัยอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นพอดี
  ปาณีรีบเดินไปหาโทรศัพท์มือถือก็ได้เห็นมือถือที่กำลังส่งเสียงกระพริบวาบๆอยู่บนโซฟาด้วยความที่รีบร้อนวิ่งไปตรงนั้นไม่ทันได้ระวังเธอก็ไปชนเข้ากับโต๊ะน้ำชาที่วางอยู่หน้าโซฟา
  ”โอ๊ย!”ปาณีก้มลงไปลูบๆหัวเข่าตัวเองที่ดันไปชนกับโต๊ะเข้าเเต่โทรศัพท์มือถือก็ยังคงดังไม่หยุดเธอเลยรีบพุ่งไปที่โซฟาเมื่อหยิบมือถือได้ก็รีบกดรับสายทันที
  ”ฮัลโหลใครคะ?”ปาณีก้มลงไปมองสำรวจที่หัวเข่าตัวเองปากก็ถามปลายทางในโทรศัพท์
  เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอย่างรวดเร็วจากสายปลายทาง:”เเมวน้อยจอมขี้เกียจยังไม่ตื่นอีกเหรอ?”
  ปาณีเงยหน้าขึ้นมามองไปรอบๆก็ไม่เห็นที่มาของเสียงคุณอาถึงตอนนั้นเองที่เธอนึกขึ้นมาได้ว่าเป็นเสียงของคุณอาที่โทรเข้ามาจากนั้นเธอก็ตะโกนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูประหลาดใจ:”คุณอาออกไปข้างนอกเเล้วเหรอคะ?”
  ธามนิธิพูดเบาๆอย่างรู้สึกผิด:”ฉันได้รับโทรศัพท์เมื่อตอนก่อนฟ้าสางก็เลยรีบออกมาน่ะเห็นเธอกำลังนอนหลับปุ๋ยก็เลยไม่ได้ปลุก!”
  ปาณีกำลังจะอ้าปากพูดก็ได้ยินเสียงของไวยาตย์ดังลอดมาจากสายปลายทาง:”ท่านประธานธามนิธิพวกเขามากันเเล้วครับ!”
  ธามนิธิรีบพูดกับเธอ:”ปาณีฉันคงต้องไปอยู่เมืองเมฆาสักระยะหนึ่งคงไม่กี่วันหรอกเธอก็ดูเเลตัวเองดีๆล่ะ!”
  พูดจบเขาก็รีบวางสาย
  หันไปมองที่โทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงตู๊ดตู๊ดตู๊ดปาณีได้เเต่ทำปากจู๋ด้วยความผิดหวังเล็กๆ:”ทิ้งฉันไว้คนเดียวอีกเเล้วฮึ่ย!”
  ทว่าห้องนั้นเงียบสงัดไร้เสียงตอบรับใดๆ
  ปาณีเห็นว่าธามนิธิเองก็กำลังยุ่งกับงานของเขาขนาดวันหยุดก็ยังต้องออกไปทำงานต่างเมืองตัวเธอเองก็ไม่ควรนิ่งดูดายทำตัวล้าหลัง:”ฉันก็ต้องยุ่งบ้างสิเพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่านเพราะคอยเเต่คิดถึงคุณอาตลอดๆ!”
  ”สู้สู้!เธอต้องทำได้สิปาณี!จะถูกคุณอาทิ้งไว้ไกลๆแบบนี้ไม่ได้”ปาณีตบที่แก้มของตัวเองเบาๆเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ตัวเอง!
  สิบนาทีต่อมาปาณีเดินออกจากบ้านมาด้วยท่าทางกระปรี้ประเปร่า
  ในระหว่างนั้นก็บังเอิญได้เจอน้าลำมุงที่เป็นคนทำอาหารเช้าให้พวกเธอพอดี
  ”ปาณี?ทำไมออกไปแต่เช้าเลยล่ะวันนี้?น้ายังไม่ทันได้ทำอาหารเช้าให้เลย!”น้าลำมุงมองเธอด้วยความประหลาดใจ
  ปาณีส่งยิ้มให้น้าลำมุง:”ไม่เป็นไรค่ะน้าลำมุงคุณอาไปทำธุรกิจต่างเมืองน่ะค่ะวันนี้หนูก็มีธุระพอดีเดี๋ยวหนูออกไปหาซื้ออาหารเช้าง่ายๆทานเอาก็ได้ค่ะ!น้าลำมุงกลับไปก่อนได้เลยวันนี้หนูคงไม่กลับเข้ามาทานข้าวเเล้ว!”
  น้าลำมุงพยักหน้าให้เธอ:”งั้นก็ได้ค่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้น้าค่อยมาใหม่!”
  ปาณีโบกมือบ๊ายบายให้กับน้าลำมุงก่อนจะเดินออกไป
  น้าลำมุงไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยต้องกลับไปที่บ้านวิสิทธิ์เวชแม่ของธามนิธิเห็นเธอวกกลับมาที่บ้านก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย:”น้าลำมุงทำไมถึงได้กลับมาเร็วนักล่ะ?ไม่ได้ไปที่บ้านของธามนิธิหรอกหรือ?”
  น้าลำมุงยิ้มตอบก่อนจะเล่าถึงคำพูดของปาณีให้แม่ของธามนิธิฟัง
  แม่ของธามนิธิหัวเราะออกมาเบาๆ:”ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไปเก้อเลยสิลำบากเเย่เลย!แต่ธามนิธิก็นะทำไมจู่ๆถึงได้ไปทำงานที่เมืองเมฆาได้เขาไม่เห็นพูดอะไรสักคำ!”
  ”ไม่ลำบากหรอกค่ะ”น้าลำมุงพูดพลางยิ้มให้แม่ของธามนิธิ
  วันนี้ปาณีมาปรากฏตัวอยู่ที่ประตูทางเข้าบริษัทตั้งเเต่ไก่โห่เมื่อมองไปที่ป้ายสีทองสายตาแห่งความมุ่งมั่น​ใน​การ​ต่อสู้ก็ฉายแววเป็นประกายขึ้นมาเธอพูดกับตัวเอง:”สู้สู้นะปาณี!ไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องยืนเคียงข้างคุณอาได้อย่างสง่าผ่าเผยไม่ต้องถูกใครมาวิพากษ์วิจารณ์!วันนั้นจะต้องมาถึงสู้สู้!”
  เมื่อปาณีเดินเข้าไปด้านในบริษัทพนักงานยังไม่มีใครมาทำงานเลยเธอจึงนั่งทำงานอยู่คนเดียวในออฟฟิต
  ปาณีเริ่มจากเปิดบล็อคขึ้นมาดูเธอเปิดอ่านโพสต์ของตัวเองก่อนจะไล่ดูโพสต์ใหม่ๆที่กำลังเป็นประเด็นร้อนเเรงในช่วงนี้ซึ่งก็ถือเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของคนอื่นๆไปในตัว
  ถึงเเม้ว่าตัวเธอเองจะก้าวเข้ามาสู่วงการนี้เเล้วก็จริงแต่เธอก็ถือว่ายังเป็นมือสมัครเล่นอยู่ดังนั้นช่วงที่เธอว่างๆปาณีก็มักจะชอบเปิดดูเวปบล็อคต่างๆเเละศึกษาเรียนรู้จากสิ่งที่ผู้คนโพสต์เอาไว้เพื่อใช้เป็นเเนวทางให้กับตัวเธอเองหลังจากนั่งไล่ดูเวปบล็อคต่างๆเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
  จนถึงราวๆแปดโมงเช้าพนักงานก็เริ่มเข้างานกันเเล้วธีระเห็นประตูออฟฟิตเปิดอยู่ก็รีบเดินเข้าไปดูพอได้เห็นว่าเป็นปาณีเขาก็โล่งใจจนถอยหายใจออกมา:”เฮ้อเธอนั่นเอง!”

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่821+825"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF