My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 653 การต่อสู้ระหว่างผู้มีพลัง
ถ้าหากลู่โจวไม่มีการ์ดระเบิดจุดสุดยอด ตัวเขาอาจจะเลือกถอยกลับ ในอดีตลู่โจวจะต้องให้สาวกและผู้อาวุโสของเขาต่อสู่ให้ แต่ในตอนนี้ไม่จําเป็นอีกต่อไป
ลู่โจวมองขึ้นไปอย่างช้าๆ ในขณะนั้นเองผู้ฝึกยุทธที่ดูคล้ายกับฝูงตกแตนรุมเข้าหา
“ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีสันติภาพที่ไหนที่ได้มาโดยปราศจากการนองเลือด ถ้าหากมีการขุดคุ้ยในดินแดนหยานก็คงจะพบกับกระดูกมนุษย์อย่างแน่นอน ภายใต้ดินแดนหยานที่สงบสุขได้มาก็เพราะการฆ่าฟันกัน ทั้งการปกป้องดินแดน ยึดพรมแดน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากการเข่นฆ่า!”
ทุกคนต่างก็มีเจตจํานงเป็นของตัวเอง แต่เมื่อเจตจํานงของใครคนหนึ่งขยายใหญ่ จนกลายเป็นเจตจํานงของคนส่วนรวมได้ คนพวกนั้นก็จะยอมทําทุกอย่างเพื่อเจตจํานงนั้น พวกเขาจะสูญเสียความคิดเป็นของตัวเองและจะมองไม่เป็นความเป็นจริงอีกสุดท้ายแล้วพวกเขาก็จะกลายเป็นแค่พวกใช้กาลัง
ผู้ฝึกยุทธตกตะลึงเมื่อเห็นลู่โจวก้าวไปข้างหน้า ชายชราคนนี้ไม่คิดที่จะถอยหลัง ลู่โจวได้ปล่อยพลังใส่บรรดาผู้ฝึกยุทธทั้งหลาย
กระบี่พลังงานและดาบพลังงานนับไม่ถ้วนถาโถมเข้าใส่ลู่โจว
พลังฝ่ามือที่ลู่โจวปล่อยออกไปเป็นพลังสีฟ้า มันเป็นพลังที่หยุดการโจมตีทุกอย่างไม่ให้ไปถึงตัวเขาได้ ลู่โจวหยุดเคลื่อนไหวท่ามกลางเหล่าบรรดาผู้ฝึกยุทธ ที่ใต้เท้าของเขามีดอกบัวสีฟ้าที่กําลังเบ่งบานอยู่ ร่างกายของลู่โจวเองก็เปล่งประกายแสงสีฟ้าจางๆ
เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังแห่งความเงียบ พลังที่จะรักษาไว้ซึ่งสมาธิ พลังที่เป็นดั่งเงา ปกคลุมทุกสิ่งอย่าง!
เมื่อดอกบัวสีฟ้าเบ่งบานจนเต็มที่ คูโบ้แห่งดินแดนเนียร์ก็พุ่งถึงตัวลู่โจวพร้อมกับกริชสีแดงในมือ “เจ้าน่ะตกหลุมพรางพวกเราแล้ว! นี่คือกริชระดับสรวงสวรรค์ขั้นสุดยอด กริชไร้มลทิน! มันคืออาวุธที่ท่านราชครูมอบให้กับข้ายังไงล่ะ!”
“หืม?” ลู่โจวเหลือบมองคูโบ้จากหางตา
ตู้ม!
พลังแห่งความเงียบได้โจมตีโดยที่ไม่เลือกปฏิบัติ มันเป็นการโจมตีที่ไม่ได้แยกแยะมิตรหรือศัตรู
ตุ้ม! ตุ้ม! ตุ้ม! ตุ้ม! ตุ้ม!
“ติ้ง! สังหารเป้าหมายผู้มีพลังขั้นมหาภัยพิบัติราชครูทั้ง 5 สําเร็จ ได้รับรางวัลแต้ม บุญ: 5,000 สังหารเป้าหมายผู้มีพลังขั้นศักดิ์สิทธิ์ 210 สําเร็จ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 2,100”
ซากศพจํานวนมากกําลังตกลงสู่พื้นดิน
คูโบ้แห่งดินแดนเนียร์ได้แต่เฝ้าดูแขนของตัวเองที่ถูกตัดขาดไป
กริชไร้มลทินเองก็ตกลงสู่เบื้องล่างเช่นกัน
ลู่โจวคว้ากริชเอาไว้ในมือ
“ติ้ง! ได้รับอาวุธระดับสรวงสวรรค์ขั้นสุดยอด กริชไร้มลทิน เจ้าของเดิม: เจียงเหวินซู จําเป็นจะต้องผ่านการขัดเกลาก่อนใช้งาน”
“ไม่!” คูโบ้มองดูแขนที่หายไปก่อนจะทรุดตัวลง การสูญเสียกริชไร้มลทินได้ทําให้ตัวเขาลืมความเจ็บปวดที่ตัวเองได้รับ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว คูโบได้แต่เหลือบมองดอกบัวสีฟ้าที่กาลังบานสะพรั่ง
แครึก! แครึก! แครึก!
รถม้าลอยฟ้าขนาดใหญ่ทั้งสี่ต่างก็ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของลู่โจว โครงสร้างภายในของรถม้าได้รับความเสียหาย
หลายคนเสียหลักไป เหลือผู้ฝึกยุทธเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังทําทุกอย่างเพื่อประคองรถม้าลอยฟ้า ในตอนนี้เพียงแค่การเคลื่อนรถม้าลอยไปข้างหน้าก็ยังกลายเป็นเรื่องที่ยากลาบากซะแล้ว
เมื่อฝูงผู้ฝึกยุทธจางหายไป ท้องฟ้าก็เริ่มปลอดโปร่งอีกครั้ง
ลู่โจวถือกริชไร้มลทินอย่างเฉยเมย
ในตอนนี้ยอดฝีมือจากดินแดนทั้งสี่เหลือแค่เพียงเซียจือแห่งรั่วหรี่เท่านั้น
เซียจือถอยห่างออกไป 100 เมตร แม้ว่าทุกคนจะได้รับการช่วยเหลือมาจากราชครู แต่ถึงแบบนั้นความแตกต่างระหว่างพวกเขากับลู่โจวก็ยังต่างก็ชั้นกันมากจนเกินไป หลังจากที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของลู่โจวก็ไม่มีใครคิดจะเอาชนะลู่โจวได้ด้วยจ้านวนอีกต่อไป “ท่านราชครู มันถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องปรากฏตัว!”
แต่น่าเสียดาย มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่เป็นค่าตอบให้กับเซียจือ ลู่โจวก้าวไปข้างหน้าก่อนที่จะเฝ้ามองรถม้าลอยฟ้าทั้งสี่ หลังจากโจมตีถึงสามครั้ง กองกําลังพันธมิตรทั้งสี่ก็ถูกกวาดล้างไปกว่าครึ่ง กองกําลังที่เสียไปเป็นกองกําลังหลัก แต่ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือทั้งสามหรือแม้แต่ผู้มีพลังขั้นมหาราชครูก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกัน สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นเช่นเดิม ในที่สุดลู่โจวก็หันไปมองเซี่ยจือ “เซี่ยจือแห่ง รั่วหรี่อย่างงั้นเหรอ?”
ฝานลี่เทียนพูดแทรก “เซี่ยจือแห่งรั่วหรี่ อันดับแปดของตระกูลเซียสินะ”
ลู่โจวยังคงเดินหน้าต่อไป
เซียจือที่เผชิญหน้ากับลู่โจวทําตัวเหมือนกับว่าเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย เขาขมวดคิ้วในขณะที่เฝ้ามองลู่โจวที่กําลังก้าวมาด้วยความกลัว
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้น “เซียคือ สู้ซะ!”
รถม้าลอยฟ้าทั้งสี่กําลังลอยขึ้น ผู้ฝึกยุทธที่สวมใส่หน้ากากกาลังปรากฏตัวออกมาจากรถม้าลอยฟ้าทั้งสี่ ทุกคนได้ผสานฝ่ามือเข้าหากันก่อนที่จะมีพลังแสงสีม่วงลอยขึ้น
บทสวดคืนชีพ!
เสียงสวดที่ฟังคล้ายกับเสียงแมลงบินได้ดังไปทั่วฟ้า
ซากศพที่ตกอยู่บนพื้นกระตุกก่อนที่จะกลับมาขยับอีกครั้ง
“มันเป็นบทสวดที่ผสมผสานระหว่างบทสวดของชาวพุทธกับวิชาหุ่นเชิดอย่างงั้น เหรอ?” ลู่โจวเหลือพลังวิเศษเพียงแค่หนึ่งในที่ เขาไม่สามารถบังคับให้เจียงเหวินซูออกมาต่อสู้ได้หลังจากสังหารยอดฝีมือไปถึงสามคน หรือว่าจะต้องใช้การ์ดการโจมตีของเพชฌฆาตกัน?
“ช่างเจ็บปวดอะไรขนาดนี้
ในขณะที่ลู่โจวกําลังใช้ความคิด ในตอนนั้นเซียจ๋อก็พุ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว ในขณะที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมือของเขาก็ยื่นออกมาข้างหน้า
ไม่นานนักพลังอวตารของเซี่ยจือก็ปรากฏขึ้น มันเป็นพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบครึ่งราชันย์หมาป่า
แปดกลีบครึ่ง!
ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นไม่สะทกสะท้าน “ในเมื่อเจ้าปรารถนาที่จะตายก็จงตายซะ”
นิ้วของลู่โจวส่องประกายแสงสีฟ้าออกมาอีกครั้ง ในไม่ช้าพลังฝ่ามือสละปัญญาก็ปรากฏขึ้น
พลังฝ่ามือของทั้งสองฝ่ายได้ประสานกัน!
ตุ้ม!
พลังที่เกิดจากการปะทะพุ่งไปรอบตัว
ทุกคนคิดว่าพลังฝ่ามือสละปัญญาของลู่โจวจะต้องโค่นเซี่ยจือได้อย่างง่ายดายแน่นอน
แต่เมื่อฝุ่นควันจางหายไป ลู่โจวก็เห็นเซียคือกําลังยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าของเขาว่างเปล่า
รถม้าลอยฟ้าทั้งสี่ไม่ได้ส่งเสียงดังอีกต่อไป
ยอดฝีมือทั้งหลายที่ถูกจัดการไปได้ถูกควบคุมโดยเวทมนตร์คาถาอีกครั้ง ตอนนี้ พวกเขากลายเป็นหุ่นเชิดก่อนที่จะจู่โจมลู่โจวเป็นครั้งที่สอง
ลู่โจวได้วัดพลังวิเศษที่เหลือ พลังวิเศษของเขาหมดลงแล้ว
ทันใดนั้นเองเซี่ยจือก็ก้าวไปด้านข้าง ในที่สุดเฉียงเหวินซูก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าเขา เฉียงเหวินซูซ่อนตัวอยู่หลังเซี่ยจือ! สีหน้าของเขาสงบและดูเยือกเย็น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความมั่นใจ มีเลือดเปื้อนอยู่ที่มือขวาของเขา มันเป็นเลือดของเซี่ยจือ
เซียจือได้ตายไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว!
ซูววว!
พลังอวตารที่สูงกว่า 150 ฟุตปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเจียงเหวินซ์ มันเป็นพลังอวตารที่มีดอกบัวสีแดงเบ่งบาน กลีบดอกบัวทั้งเก้ากลีบกําลังหมุนรอบดอกบัวเอาไว้ มันส่องประกายสว่างไสวท่ามกลางท้องฟ้า
ในที่สุดราชครูผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบก็ปรากฏตัวขึ้น
หมิงหยิน เล้งลั่ว ฝานลี่เทียนและยู่เฉิงไห่ต่างก็ตกตะลึง!
เจียงเหวินซูยิ้มจางๆ ก่อนจะพูดออกมา “ข้าสงสัยจริงๆ ว่าท่านพอใจกับเรื่องนี้เปล่า?”
เซี่ยจือเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบครึ่งอยู่แล้ว เขาใกล้ที่จะกลายเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบเต็มที่ แต่เมื่อรู้จักเจียงเหวินซู เจียงเหวินซก็บีบบังคับไม่ให้เซียจือฝึกฝนไปมากกว่านี้
ลู่โจวเหลือบมองลงไป ซากศพที่ถูกฟื้นคืนชีพกําลังพุ่งเข้าหาลู่โจวอย่างบ้าคลั่ง บางที่ซากศพเหล่านั้นอาจจะแข็งแกร่งกว่าในตอนที่มีชีวิตซะอีก ซากศพไม่กลัวตาย พวกมันไม่รู้สึกเจ็บปวดและมีอารมณ์อะไรอีก ซากศพที่รวมตัวกันเป็นดั่งฝูงตกแตนฝูงที่สอง
ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นไม่ได้ตื่นตกใจ เขาลูบเคราพร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้า…พอใจ!”
เจียงเหวินซูพูดต่อ “ท่านสามารถป้องกันการโจมตีจากกริชไร้มลทินได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังสีฟ้าของท่านจะต้องมีแหล่งกําเนิดที่พวกเราไม่รู้จัก เพื่อความได้เปรียบข้าก็เลยคิดจะบั่นทอนพลังนั้นของท่าน ท่านน่ะแพ้แล้ว”
ลู่โจวมองดูฝูงผู้ฝึกยุทธที่ใกล้เข้ามา เขาตั้งใจที่จะฆ่าเจียงเหวินซูด้วยการ์ดการโจมตีของเพชฌฆาต แต่การจะใช้การ์ดแค่ใบเดียวคงจะแก้ปัญหาที่เขากําลังเผชิญหน้าอยู่ไม่ได้
ในเวลาเดียวกันลู่โจวก็ได้ถือการ์ดระเบิดจุดสุดยอดเอาไว้
เจียงเหวินซูเก็บพลังอวตารไปก่อนที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาพุ่งตัวมาพร้อมกับฝูงผู้ฝึกยุทธพร้อมกับพลังฝ่ามือสีแดง
“ท่านอาจารย์!”
“ท่านปรมาจารย์!”
ถ้าหากเป็นการโจมตีของคนอื่น ก็คงจะไม่มีใครเป็นห่วงลู่โจว แต่การโจมตีนี้คือการโจมตีของผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ แล้วทุกคนจะสงบใจได้ยังไงกัน?
ในเวลาเดียวกันลู่โจวก็ได้ใช้การ์ดระเบิดจุดสุดยอด
จุดสะสมพลังลมปราณของเขาถูกเติมเต็มในทันที ลู่โจวสามารถใช้พลังของจุดสูงสุดได้อีกครั้ง
พลังอวตารร้อยวิถี!
พลังอวตารที่สูงกว่า 150 ฟุตตั้งตระหง่านอยู่ในอากาศ ดอกบัวสีทองที่อยู่ใต้เท้าของร่างอวตารมีกลีบดอกบัวทั้งเก้ากลีบล้อมรอบเอาไว้
ฝูงผู้ฝึกยุทธที่ไม่ต่างอะไรจากฝูงตกแตนถูกจัดการในทันที
ดวงตาของลู่โจวจับจ้องไปที่เจียงเหวินซูก่อนจะพูดออกมาอีกครั้ง “มาดูกันสิว่า เจ้าจะหนีไปไหนได้!”
เจียงเหวินซูโต้ตอบกลับมาอย่างไร้ความรู้สึก “ท่านมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบจริงๆ ด้วย แต่ท่านน่ะจบแล้ว ท่านจะต้องพ่ายแพ้!”
“ใครกันแน่ที่จบ!” ลู่โจวที่พูดเสร็จเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
สุดยอดเคล็ดวิชา!
การเคลื่อนไหวจากสุดยอดเคล็ดวิชาของผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบย่อมอยู่เหนือกว่าสุดยอดเคล็ดวิชาของผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบอย่างมหาศาล
เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวลู่โจวก็ปรากฏตัวต่อหน้าเฉียงเหวินซู “ฝ่ามือสละปัญญา!”
ตุ้ม!
พลังฝ่ามือที่มีขนาดเท่ากับพลังอวตารได้ทับลงบนตัวของเจียงเหวินซู
ฝ่ามือเจียงเหวินซูที่เป็นสีแดงได้เข้าปะทะกับฝ่ามือสละปัญญา
ตุ้ม!
การปะทะกันทําให้บรรยากาศรอบตัวผันผวน
“ถอยเร็วเข้า!”
“ถอย!”
ในที่สุดรถม้าลอยฟ้าทั้งสี่ก็ตระหนักได้ถึงความไร้พลังของตน พวกเขาก็เป็นเหมือนกับฝูงแมลงที่จะถูกลูกหลงจากการต่อสู้ไปซะเปล่าๆ
ในเวลาเดียวกันผ่านลี่เทียนเองก็รู้สึกตัว “ถอยเร็วเข้า!”
หมิงซี่หยินไม่มีเวลาจะมาพิธีรีตองอะไรอีกต่อไป เขาคว้าศิษย์พี่ใหญ่ก่อนที่จะรีบถอย “ยกโทษให้ข้าด้วยศิษย์พี่ใหญ่”
เล้งถั่วที่เชี่ยวชาญวิชาเตอําพรางเชี่ยวชาญการหลบหนียิ่งกว่าใคร
ฝ่ามือสละปัญญาทําให้ท้องฟ้าของลั่วหลานสว่างไสว มันเป็นแสงสว่างที่ไม่ต่างอะไรจากแสงจากดวงอาทิตย์
ผู้คนจากลั่วหลานทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้ฝึกยุทธทั้งหลายต่างก็เงยหน้าขึ้น ทุกคนที่อยู่ในนครหลวงต่างก็มองเห็นปรากฏการณ์แสนประหลาดนี้ดี
แสงบนท้องฟ้าเป็นแสงไฟสีแดงและสีขาวสลับไปมา
ลู่โจวมองลงมาก่อนที่จะใช้พลังฝ่ามืออีกครั้ง
พลังฝ่ามือผนึกทั้งเก้า!
ตัวอักษรที่เป็นตัวแทนของผนึกทั้งเก้หมุนเวียนกันก่อนที่จะจู่โจมเข้าใส่เจียงเหวินซู
ตุ้ม!
เจียงเหวินซูใช้พลังอวตารสีแดงอีกครั้ง เขายกมือขึ้นเพื่อต้านทานการโจมตีเอาไว้เจียงเหวินซูกระเด็นตกลงมา 100 เมตรก่อนที่จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงกลับไปยังตําแหน่งเดิมอีกครั้ง
ลู่โจวเคลื่อนไหวตาม เขาปรากฏตัวขึ้นอยู่เหนือเจียงเหวินซูก่อนที่จะใช้พลังฝ่ามืออีกครั้ง
พลังฝ่ามือสละปัญญาห้าครั้งติดต่อกันซัดเข้าใส่เจียงเหวินซู!
เคยเห็นพลังฝ่ามือนี่มาก่อนรึเปล่าล่ะ? พลังฝ่ามือห้าครั้งติดน่ะ!”
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงสีทอง
“จะหยิ่งผยองรับพลังฝ่ามือห้าครั้งไหม?”
ตุ้ม!
พลังฝ่ามือสีทองทั้งห้าตกกระทบเข้ากับพลังอวตารสีแดง สุดท้ายแล้วพลังอวตารสีแดงก็ร่วงลงมา
เจียงเหวินซูร้องคร่ครวญก่อนที่จะกระอักเลือดออกมาเฮือกใหญ่ ทันทีที่เรียกพลังอวตารกลับไปในหัวของเจียงเหวินซูก็เหลือเพียงแค่ความคิดเดียว
“ต้องหนี!”