My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 651 พันธมิตรทั้ง 12 ดินแดน
ลู่โจวก่าลังรอคอยการปรากฏตัวของเขาอยู่ก่อนแล้ว
หมิงซูหยิน เล้งลั่ว ฝานลี่เทียน และยู่เฉิงไห้ต่างก็ยืนอยู่ที่ด้านหลังของลู่โจว ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่กําลังจะเกิดขึ้น
อังก่ยพูดออกมาด้วยเสียงอันแหบแห้ง “ท่านราชครู นั่น…ท่านจริงๆอย่างงั้นเหรอ?”
การปรากฏตัวของราชครูทําให้อังก่ยตกตะลึง เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น ถ้าหากไม่มีผลงานของราชครูก็คงจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ลั่วหลานจะอยู่มาถึงทุกวันนี้
เจียงเหวินซ์พยักหน้าเล็กน้อย “ข้าเป็นคนสั่งให้ตระกูลโบน่าร์ปกป้องคริสตัลด้วยชีวิตเอง ฝ่าบาท หวังว่าท่านคงจะไม่ตําหนิข้านะ”
อังก่ยฝืนยิ้มอย่างเขินอาย “ข้าแน่ใจว่าราชครูแบบท่านจะต้องมีเหตุผลแน่ ข้าจะไปตําหนิอะไรท่านได้!”
หมิงซูหยินพูดไม่ออก “เจ้านี่เปลี่ยนข้างไปแล้วสินะ?” หมิงซีหยินยังไม่ยอมแค่นั้น “ฝ่าบาท แล้วค่าสัญญาที่ท่านตกลงกับอาจารย์ข้าล่ะ?”
“ข้าต้องรักษาสัญญาเป็นธรรมดา แต่ที่นี่มีราชครู ท่านราชครูของพวกเรามักจะตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในลั่วหลานมาโดยตลอด”
เจ้านี่เป็นนกสองหัวสินะ?”
อังกุยเปลี่ยนฝั่งอย่างรวดเร็ว
เล้งลั่ว ฝานลี่เทียน และลู่โจวคุ้นชินกับคนแบบนี้แล้ว ในอดีตจนถึงปัจจุบัน คนส่วนมากก็มักจะเลือกข้างของผู้ที่มีอานาจสูงสุดเสมอ การจะต่าหนไปก็คงจะไร้ความหมาย
ลู่โจวมองดูราชครูที่อยู่บนท้องฟ้า “เจียงเหวินซู..ข้ากําลังรอเจ้าอยู่”
“ข้าก็รอท่านอยู่เหมือนกัน”
“ยุคแห่งการตัดดอกบัวเริ่มต้นขึ้นแล้ว เจ้าจะไปหยุดพลังอวตารดอกบัวเก๋ากลีบได้ยังไงกัน?” ลู่โจวถาม
เสียงของเจียงเหวินซูที่ตอบกลับมาแหบแห้ง “ข้าใช้เวลากว่าหลายศตวรรษเพื่อหยุดยั้งดินแดนทั้ง 12 แห่งของดินแดนหยานไม่ให้สร้างผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ…มันจะเป็นแบบนั้นและจะเป็นตลอดไป”
“ทั้งหมดที่เจ้าทําไปก็เพราะความเห็นแก่ตัวอย่างงั้นสินะ?”
“เห็นแก่ตัวอย่างงั้นเหรอ?” เจียงเหวินซ์ขึ้นเสียง “ถ้าหากผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้า กลีบปรากฏตัวขึ้น ย่อมมีหายนะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นมนุษย์ทั้งหลายจะถูกกวาดล้าง แต่ถึงแบบนั้นท่านก็ยังไปถึงขั้นนั้น ใครกันแน่ที่เป็นคนเห็นแก่ตัว?”
“หายนะ?” ลู่โจวมองไปที่เจียงเหวินซูที่กําลังลอยอยู่บนฟ้า “ตั้งแต่ที่มนุษย์เกิดขึ้น มักจะมีภัยพิบัติและหายนะเกิดขึ้นอยู่เสมอ มนุษย์สามารถปรับตัวและเติบโตจากภัยพิบัติพวกนั้นได้ หลักฐานที่ยืนยันเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดีก็คือการมีอยู่ของพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบและสิบกลีบในดินแดนของดอกบัวสีแดง!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นดวงตาของเจียงเหวินซ์ก็เป็นประกาย “ท่านรู้เรื่องของดอกบัวสีแดง? แม้ว่าท่านจะรู้แต่ท่านก็รู้แค่บางส่วนเท่านั้น ท่านรู้รึเปล่าว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมากแค่ไหนเพื่อกลายเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบและสิบกลีบได้ ผู้คนนับไม่ถ้วนล้วนต้องเสียชีวิตไปก็เพื่อพลังที่ว่า ท่านจะให้ข้าเมินเฉยต่อสิ่งนั้นอย่างงั้นเหรอ?”
“เป็นเพราะพวกเจ้าไม่แข็งแกร่งพอต่างหาก” ลู่โจวตอบกลับไปอย่างไม่พอใจ ถ้าหากแข็งแกร่งพอก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว
“หม?” เจียงเหวินซูตกตะลึงและสับสน เขาเคยพบกับจีเทียนเด่มาสามครั้งแล้ว เมื่อไหร่กันที่จีเทียนเด๋าใช้คําพูดที่คมคายแบบนี้? นอกจากนี้จีเทียนเด๋ายังมีความรู้มากกว่าที่เขาคาดหมายไว้ “ก็ได้…ในเมื่อพวกเราคิดเห็นไม่ตรงกัน จะโต้เถียงกันไปก็เปล่าประโยชน์
ในตอนนี้มีผู้ฝึกยุทธมารวมตัวกันมากขึ้น ผู้ฝึกยุทธที่แข็งแกร่งจานวนมากบินตรงไปยังเจียงเหวินซู
“ดินแดนเฉินม่อยู่ที่นี่”
“ดินแดนขู่ฉางอยู่ที่นี่”
“ดินแดนเนียร์อยู่ที่นี่”
“ดินแดนฉางกอยู่ที่นี่”
“พวกเรายินดีที่จะทําตามคําสั่งของท่านราชครู” ทันทีที่ผู้ฝึกยุทธทั้งสี่โค้งคํานับ หัวหน้าตระกูลโบน่าร์หลานไร่ก็คุกเข่าลง “ท่านราชครู ได้โปรดช่วยครอบครัวของข้าด้วย!”
ข้ารับใช้ของหลานไห่คุกเข่าลงเช่นกัน “ท่านราชครู ได้โปรดช่วยครอบครัวของพวกเราด้วย!”
เจียงเหวินซูมองหลานไห่อย่างเฉยเมย “ย่อมได้
หลานไร่รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก “ขอบคุณท่านราชครู ตระกูลโบน่าร์จะทําตามคำแนะนําของท่านตลอดไป พวกเราจะปกป้องคริสตัลไปจนวันตาย!”
เจียงเหวินซูมองลงไปที่คนอื่นๆ ก่อนจะพูดออกมา “จีเทียนเด่…ท่านเคยสัญญาว่าจะไม่ใฝ่หาพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบเมื่อตอนนั้น ในเมื่อท่านคิดกลับค่า ข้าก็จะฆ่าท่านเอง! ดินแดนอีก 7 แห่งได้มุ่งหน้าไปยังดินแดนหยานแล้ว ส่วน 4 ดินแดนที่เหลือกาลังล้อมรอบนครหลวงลั่วหลานเอาไว้ หลังจากที่ท่านตายไป ข้าก็จะผนึกทุกอย่างที่นี่ไว้…ชื่อของท่านจะต้องถูกลบออกจากประวัติศาสตร์” หลังจากพูดจบเขาก็โบกมือ
อังก่ยโค้งคํานับลู่โจวอย่างเร่งรีบ “ข้าไม่มีทางเลือก ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย”
เมื่อเห็นแบบนั้นเจ้าหน้าที่คนอื่นๆก็เปลี่ยนข้าง “ฝ่าบาท ท่านราชครูพูดถูกแล้ว…”
“ท่านราชครูได้โปรดช่วยลัวหลานด้วย!”
ท่าทางของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
ผู้ฝึกยุทธจานวนมากบินมาใกล้ม่านพลังอย่างต่อเนื่อง
พันธมิตรดินแดนทั้ง 4 อยู่ในนครหลวงลั่วหลานแล้ว
ลู่โจวมองขึ้นไปบนฟ้า เขายกฝ่ามือก่อนจะพูดออกมา “ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่า เจ้าจะมีความสามารถแค่ไหน?” นิ้วของลู่โจวส่องแสงประกายสีฟ้าขึ้น ในตอนนั้นเองก็มีตัวอักษรส่องสว่าง
พรึบ!
พลังฝ่ามือสละปัญญาได้พุ่งเข้าหาเจียงเหวินซู พลังฝ่ามือพุ่งผ่านเจียงเหวินซูก่อนที่จะชนกับม่านพลังบนท้องฟ้า
ตุ้ม!
ระลอกคลื่นพลังได้แผ่กระจายไปบนม่านพลัง
เป็นไปตามที่ลู่โจวได้คาดไว้ นี่เป็นเพียงภาพเสมือนของเจียงเหวินซู มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ ข้อเสียก็คือลู่โจวจะไม่สามารถฆ่าเจียงเหวินซูได้ ส่วนข้อดีก็คือลู่โจวไม่ต้องกังวลที่จะปกป้องทุกคน
เจียงเหวินซูปล่อยพลังฝ่ามือให้ผ่านตัวเขาไป หลังจากนั้นเขาก็รีบสั่งการ “จัดการเขาซะ!”
บนท้องฟ้า เหล่าคนทรงต่างก็ยกมือขึ้น บอลแสงสีม่วงได้ส่องสว่างออกจากฝ่ามือของพวกเขา
พลังอวตารทั้งหลายเริ่มปรากฏตัวขึ้น มันมีทั้งพลังอวตารราชันย์หมาป่า พลังอวตารราชันย์เสือดาว และพลังอวตารราชันย์เสือ ทุกคนต่างก็มุ่งหน้ามาพร้อมกัน
แสงสีม่วงมารวมตัวกันที่ใจกลางของเขตแดนพลังมหาเวท
ลู่โจวมีประสบการณ์ในการเผชิญหน้ากับเขตแดนพลังเวทมนตร์มาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้วิธีที่จะทําลายม่านพลัง ลู่โจวผลักตัวออกจากม่านพลังก่อนจะพุ่งไปบนอากาศ
ลูกบอลแสงสีม่วงพุ่งเข้าใส่ลู่โจวในทันที
ลู่โจวในตอนนั้นกาลังท่องคัมภีร์อักษรสวรรค์อยู่ภายในใจ
เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังแห่งความเงียบ พลังที่จะรักษาไว้ซึ่งสมาธิ พลังที่เป็นดั่งเงาปกคลุมทุกสิ่งอย่าง!
ดอกบัวสีฟ้าเบ่งบานอยู่ใต้เท้าของลู่โจว!
พลังวิเศษได้แผ่ซ่านไปรอบตัว มันทําลายแสงสีม่วงที่อยู่บนท้องฟ้าไป
เมื่อพลังแสงสีม่วงเจอเข้ากับดอกบัวสีฟ้าพวกมันก็ไร้ความหมาย
พลังอวตารราชันย์หมาป่าที่กําลังจู่โจมลู่โจวก็ถูกผลักให้กระเด็นถอยไป!
คนทรงทั้งหลายที่บินอยู่บนท้องฟ้าก็ได้รับผลกระทบจากคลื่นพลังอันแข็งแกร่งของลู่โจว
เขตแดนมหาเวทถูกทําลายในทันที่ที่เพิ่งเริ่มใช้งาน!
อาคารบ้านเรือนหรือแม้แต่อิฐที่ปอยู่บนถนนต่างก็ถูกพลังทําลายล้าง!
พลังอันมหาศาลที่ลู่โจวปล่อยออกมาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าตัวเขามีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบอยู่
พลังแห่งความเงียบของลู่โจวบดขยี้ศัตรูอย่างง่ายดาย ลู่โจวได้สังหารศัตรูไปมาก กว่าครึ่งในการโจมตีครั้งเดียว ศัตรูที่เหลือต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ติ้ง! สังหารเป้าหมายผู้มีพลังขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์ 150 คน ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 15,000 สังหารผู้มีพลังขั้นศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้รับรางวัลแต้มบุญ: 1,200”
การโจมตีของลู่โจวเพียงครั้งเดียวทําให้เมืองทั้งเมืองเงียบสงบ
ท้องฟ้ากลับมาแจ่มใสอีกครั้ง
อังกุยสะดุดถอยหลังไป เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น เมื่อเหลือบมองลู่โจวที่กําลังลอยอยู่บนอากาศเขาก็ได้แต่สั่นไปทั้งตัว องครักษ์ชั้นยอดของเขาถูกบดขยี้ในการโจมตีครั้งเดียว!
เขตแดนมหาเวทได้หายไปแล้ว
หลานไร่เหลือบมองท้องฟ้าที่มีแต่ความว่างเปล่า
ในตอนนั้นเองลู่โจวก็ได้ลูบเคราของตัวเองราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขามองไปที่เจียงเหวินซูที่อยู่ตรงหน้า
เจียงเหวินซูก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน เขาเหลือบมองลู่โจวด้วยสายตาอันซับซ้อน “เป็นไปไม่ได้”
“นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น” ลู่โจวพูด
“ถูกต้อง มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น”