My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 627 พวกเราก็จะฝ่าไป
ทุกคนต่างก็คิดว่าลูกศรเวทมนตร์คาถาจะต้องถ่วงเวลาชายชราไว้ได้ แต่ชายชราก็ปรากฏตัวขึ้น ลูกศรเวทมนตร์ไม่ได้มีค่าอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้าชายชรา
พลังฝ่ามือสีฟ้าอยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน
ผู้ใช้เวทมนตร์คาถากว่าร้อยคนต่างก็โยนลูกแก้วเวทมนตร์คาถาเพื่อเผชิญหน้ากับพลังฝ่ามือ
แต่น่าเสียดาย พลังฝ่ามือสีฟ้าดูเหมือนจะไร้ขีดจํากัด มันได้ทําลายลูกแก้วพลังเวทมนตร์ม่วงลูกแล้วลูกเล่า
ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตื่นตกใจ ทุกคนต่างก็เฝ้ามองพลังฝ่ามือที่กําลังพุ่งตรงมา แม้จะต้องการถอยมากแค่ไหนแต่มันก็สายเกินไปแล้ว
ตุ้ม!
พลังฝ่ามือปะทะเข้ากับเหล่าคนทรง
ทุกๆ คนที่อยู่เบื้องหลังคนทรงต่างก็เงยหน้าขึ้นมอง พลังฝ่ามือที่กระทบกับคนทรงไม่ได้ต่างอะไรกับฝ่ามือที่กําลังบดขยิ้มดปลวก
เหล่าผู้ใช้เวทมนตร์คาถาถูกฉีกจนไม่เหลือชิ้นดี!
ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาทั้งหลายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสต่างก็ล้มลงกับพื้น แม้แต่ผู้ที่อยู่ไกลก็ยังไม่อาจหนีรอดไปได้
พลังฝ่ามือของชายชรากําจัดคนทรงไปได้เกือบร้อยคน!
พลังการป้องกันจากเวทมนตร์คาถาไม่อาจที่จะป้องกันพลังฝ่ามือได้เลย ทุกคนต่างก็กระเด็นลอยหายไป
ชายชราที่อยู่เหนือทุกคนมองลงมา รอบตัวของเขาเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยพลังชายชราลูบเคราเบาๆ อย่างสบายๆ
ผู้ที่เหลือรอดมาได้ต่างก็เฝ้ามองดูความหวาดกลัว ทุกคนได้แต่สงสัยในตัวตนของชายชราตรงหน้า
ลูโจวรีบสั่งการ “จัดการพวกมันซะ!”
“ข้าไปก่อนล่ะ!” หมิงหยินรีบชิงลงมือก่อน ตัวเขาพุ่งออกไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูง
ไม่นานหลังจากนั้นผ่านลี่เทียน เล้งลั่ว หยวนเอ่อ และตัวนมู่เฉิงก็ตามกันไป
หอยสังข์ยังยืนเคียงข้างสู่โจวอยู่ นางไม่กล้าที่จะโจมตีสาวน้อยคนนี้ไม่รู้จักวิธีการต่อสู้นั่นเอง
ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหล่ายอดฝีมือ พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรจากปลาเล็กปลาน้อย
เสียงร้องอันน่าสังเวชดังขึ้นทั่วฟ้า ทุกวินาที่มักจะมีผู้ใช้เวทมนตร์คาถาตกลงจากฟ้าอยู่เสมอ
เพียงเวลาไม่ถึงสิบห้านาที่คนทรงทั้งหมดก็ถูกจัดการ คนทรงส่วนใหญ่ตายจากการต่อสู้ คนทรงที่ยอมแพ้มีเหลือไม่กี่สิบคนเท่านั้น
“ขังพวกมันไว้ที่เรือนจําของมณฑลเหลียง ปิดผนึกพลังวรยุทธของพวกมันด้วยล่ะ” ลูโจวสั่ง
“ครับ!”
หลังจากนั้นจู่โจวก็หันไปมองจี้เหลียง
ชี้! ! ! ! ชี้!
จี้เหลียงบินไปด้านหลังของลู่โจวอย่างเชื่อฟัง แม้ว่าจะเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจแต่มันก็มีความสุขมากที่กลับมาหาผู้เป็นเจ้านายของมันได้
สู่โจวหันไปมองหอยสังข์ก่อนที่จะถามออกมา “ข้ามีค่าถามที่จะถามจี้เหลียง ช่วยถามให้ข้าที…”
“ค่ะ” หอยสังข์เดินไปหาจี้เหลียง นางรีบถามคําถามในทันที
จี้เหลียงส่งเสียงอี้ออกมาบางครั้งมันก็ร้องอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็ร้องออกมาสั้นๆ
แม้ว่าคนอื่นจะไม่เข้าใจสิ่งที่พูด แต่ดูเหมือนเด็กสาวคนนี้กําลังพูดคุยอยู่กับจี้เหลียง หอยสังข์หัวเราะเป็นครั้งคราว
“มันพูดว่าอะไร?” ลู่โจวถาม คนอื่นต้องคิดว่าฉันพยายามคุยกับม้าอยู่แน่ น่าอึดอัดซะจริง
หอยสังข์ตอบกลับ “ท่านอาจารย์…ขี้เหลียงบอกว่าได้พาศิษย์พี่รองไปยังที่ไกลแสนไกลมา…ที่นั่นมีคนมากมายที่ต้องการจะจับพวกเขา ดังนั้นเหลียงจึงอาสาดึงศัตรูออกไปก่อนที่จะแยกจากศิษย์พี่รองไปในที่สุด”
สู่โจวถามต่อ “แล้วรู้รึเปล่าว่ายู่ฉางตงอยู่ที่ไหน?”
“จี้เหลียงบอกว่าศิษย์พี่รองยังคงปกป้องบึงโคลนในตอนที่จี้เหลียงจากมา เมื่อมันกลับไปศิษย์พี่ก็หายไปแล้วจี้เหลียงไม่รู้ว่าศิษย์พี่ไปไหน”
“ไม่รู้อย่างงั้นเหรอ?” ลูโจวขมวดคิ้ว
หอยสังข์พูดต่อ “เหลียงรู้วิธีที่จะหาศิษย์พี่แต่มันไม่อยากบอกข้า”
ไม่น่าแปลกใจที่หอยสังข์จะหัวเราะออกมา จี้เหลียงอยากจะรักษาความลับอย่างงั้นเหรอ?
ลู่โจวมองไปที่จี้เหลียง “ถ้าเจ้าไม่บอกหอยสังข์แล้วข้าจะช่วยศิษย์ไม่รักดีนั่นยังไง?”
ชี้! ! ! !
“เจ้าน่ะรีบบอกมาเร็ว”
“…” สู่โจวได้แต่ขมวดคิ้ว “ไอมานี่มันเจ้าเล่ห์ซะจริง!” คลื่นเสียงที่ทรงพลังส่งไปยังอี้เหลียงเพื่อเป็นการตําหนิ
หอยสังข์เริ่มพูดกับเหลียงซ้ํา จี้เหลียงส่งเสียงร้อง มันเป็นเสียงที่คนอื่นๆ ไม่สามารถเข้าใจได้
หอยสังข์ที่ได้ค่าตอบรีบพูดออกมา “มันบอกว่าบเอี้ยนสามารถหาศิษย์พี่รองได้ นี่เอียนมีความสามารถในการตามกลิ่น!”
บีเอี้ยน?
“จี้เหลียงไม่ชอบนี่เอี้ยน”
เสื้อสองตัวมักจะอยู่ถ้ําเดียวกันไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเสื้อสองตัวนี้ยังต่างสายพันธุ์กัน
ลูโจวพยักหน้าก่อนจะโบกแขนเสื้อ
ในตอนนั้นเองขี้เหลียงก็กลับไปยังป่ามณฑลเหลียงเพื่อหาที่พักผ่อน
เมื่อเหลียงจากไปบีเอี้ยนก็เดินทางมาถึง
ในตอนนั้นเองสีว์หยาก็พูดออกมา “ข้อเสนอของจี้เหลียงถือเป็นข้อเสนอที่ดี…แต่ว่า…ชาวรั่วหรี่และคนจากลั่วหลานประจําการอยู่ที่ทางตะวันออกของคูสวรรค์กันหมดแล้ว พวกเขาเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ขวางกั้นไม่ให้พวกเราข้ามคูสวรรค์ไป”
“ถ้าหากเป็นแบบนั้นพวกเราก็จะฝ่าไป”
ณ ค่ายพักแรมของชาวลั่วหลาน
คนทรงกว่าหลายร้อยคนก็ยังไม่กลับมา เมื่อเห็นแบบนั้นทุกคนก็เริ่มกังวล
แม่ทัพสองคนกําลังเดินอยู่นอกเต็นท์พักแรม
“ท่านแม่ทัพ แย่แล้ว…คนทรงกว่าสามร้อยคนหายถูกจัดการหมดแล้ว!”
“พวกเขาแพ้แล้วอย่างงั้นเหรอ?”
แม่ทัพคนนี้เป็นคนที่ขึ้นแทนตําแหน่งบาซี่ เมื่อได้ยินแบบนั้นใบหน้าอันแก่ชราของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป “ถอย! ถอยเดี๋ยวนี้!”
ทัพของชาวลั่วหลานถอยออกจากตะวันออกคูสวรรค์ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ทุกคนบินไปทางเหนือก่อนที่จะกลับไปทางตะวันตก
ภายในค่ายของคาร์รอล
“ท่านแม่ทัพ พวกเราได้รับรายงานมาว่าคนทรงทั้งสามร้อยคนที่ไล่ตามม้าประหลาดไปถูกกําจัดไปแล้ว!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นแม่ทัพคาร์รอลกลับไม่ตกใจ เขาทําหน้าบึงก่อนจะพูดต่อ “เจ้าพวกนั้นสมควรตายแล้ว…แม้แต่บาซี่ก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไปยังดินแดนของศัตรู เจ้าพวกนั้นเข้าไปสินะ?”
“ส่วนที่เหลือถอยกลับจากคูสวรรค์แล้วครับ!”
“ถอยกลับ?” คาร์รอลตกใจ
ทันใดนั้นเองลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งมาหา “ท่านแม่ทัพแย่แล้ว! คนจากดินแดนหยานมณฑลเหลียงกําลังท้าทายท่านอยู่ที่นอกค่าย!”
คาร์รอลขมวดคิ้ว “ช่างกล้าหาญซะจริง! พวกมันควรจะขอบคุณที่ข้าไม่ท้าทายพวกมัน มากกว่าพวกมันกล้าดียังไงมาท้าทายข้า ข้าจะออกไปพบมันเอง!”
คาร์รอลเดินออกจากเต็นท์ไป ก่อนที่จะออกจากเต็นท์เขาก็ได้ยินเสียงกลองรบจากในระยะไกล นี่หมายความว่าค่ายชาวรั่วหรี่กําลังเสริมขวัญและกําลังใจของทหารอยู่คาร์รอลเดินออกมาด้วยท่าทีที่แสนจะภาคภูมิใจ
เมื่อก้าวออกจากค่ายทหารรองแม่ทัพทั้งสี่ก็โค้งคํานับให้อย่างพร้อมเพรียงกัน “ท่านแม่ทัพ”
“สถานการณ์เป็นไง?”
“มีคนมาท้าทายท่าน”
“เปิดประตู! ข้าจะออกไปพบมัน!”
“ครับ ท่านแม่ทัพ!”
ทหารต่างก็เปิดประตูค่ายทหาร
คาร์รอลและรองแม่ทัพต่างก็กระโดดขึ้นหลังม้า ทุกคนมุ่งหน้าไปยังหน้าค่ายทหาร
“วันนี้จะเป็นวันที่ข้าสังหารยอดฝีมือแห่งดินแดนหยาน!”
“พวกเราจะติดตามท่านไปจนตาย ท่านแม่ทัพ!”
ค่ายทหารของคาร์รอลตั้งอยู่ที่ทิศตะวันตก คาร์รอลมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกโดยที่มีดวงอาทิตย์อยู่ด้านหลัง
กีบเท้าของม้าศึกทําให้เกิดฝุ่นควันไปทั่ว
ที่หน้าค่ายทหาร
ชาวรั่วหลมากถึงหมื่นคนต่างก็ถือหอกก่อนจะวิ่งตามกันมาเป็นกลุ่ม
กลุ่มคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขามีไม่ถึงร้อยคน
“ท่านอาจารย์การยั่วยุได้ผล” สวีหยาเดินไปหาลูโจว
“ดี” ล่โจวลูบเคราในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งไขว้อยู่ที่ด้านหลัง ดวงตาอันดุร้ายของลู่โจวจับจ้องไปที่ด้านหน้า
นักรบชาวรั่วหรี่กว่าหมื่นคนกําลังเผชิญหน้ากับลูโจวอยู่
“ยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนหยานเอ๋ย! เจ้าคิดว่าตัวเองจะเผชิญหน้ากับกองทัพนับล้านของข้าได้อย่างงั้นเหรอ? เจ้าสุนัขเสนาแห่งดินแดนหยานสีปูหยาออกมาซะ!”
“แม่ทัพคาร์รอลอยู่ที่นี่แล้ว พวกเจ้าจงยอมจํานนซะ!” ทหารที่อยู่ด้านหลังพูดเย้ยหยันขึ้น
ในขณะที่ทหารชาวรั่วหรี่วิ่งไปด้านหน้า ทหารคนนั้นพูดเสริม “แม่ทัพคาร์รอลอยู่ที่นี่แล้ว!”
ทหารกว่าหมื่นนายรีบเปิดเส้นทางให้
คาร์รอลกําลังควบม้ามาก่อนที่จะก้าวมาสู่แนวหน้า ที่ด้านหลังของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นควัน
ทหารรั่วหรี่ต่างก็คุกเข่าลง “ยินดีต้อนรับท่านแม่ทัพคาร์รอล”
“ยินดีต้องรับท่านแม่ทัพ!”
เทพสงครามของชาวรั่วหรี่มาถึงแล้ว!