My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 590
ตอนที่ 590 ความเท่าเทียมที่ไม่เท่าเทียม
หลายคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็มองพลาดไป ทุกคนต่างก็คิดว่าตัวเองกําลังมองเห็นภาพหลอนสิ่งที่พอจะ ทําได้มีเพียงการขยี้ตาเท่านั้น
ไม่ว่าจะขยี้ตาอีกสักกี่ครั้งรอยพลังฝ่ามือที่ถูกทิ้งไว้ก็ยังไม่จางหายไปไหน หลิวคู่ยังคงถูกฝังอยู่ในกําแพงหลิวคู่ในตอนนี้มีเพียงแต่ความสิ้นหวัง
ในตอนนั้นเองทั่วทุกที่กลับเงียบสงบ ความเงียบที่มีมันกดดันทุกคนจนยากที่จะหายใจ
ผ่านไปครู่หนึ่งทุกคนต่างก็คิดอะไรที่เหมือนๆ กัน “จีเทียนเด่ใช้พลังฝ่ามือในเขตแดนพลังทั้งสิบได้ยังไงกัน?
เกิดอะไรขึ้นกับความเท่าเทียมภายในเขตแดนพลังทั้งสิบ? เกิดอะไรกับที่ที่ไร้พลังลมปราณกันแน่?ภายในเขตแดนควรจะมีแต่การต่อสู้โดยใช้กําลังและอาวุธไม่ใช่หรอ? หรือว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องโกหก?
หลายคนที่คิดว่าเขตแดนพลังได้รับความเสียหายต่างก็เริ่มพยายามโคจรพลังลมปราณแต่น่าเสียดายไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ไม่ว่าจะพยายามโคจรพลังลมปราณมากแค่ไหนแต่ก็ไม่มีใครใช้พลังลมปราณได้
ถ้าหากจะมีใครสักคนที่ใช้พลังลมปราณภายในเขตแดนพลังทั้งสิบได้ คนคนนั้นก็คงจะเป็นเหมือนกับเทพเจ้า!
หลิวคู่ยังคงติดอยู่ในกําแพงเมือง ตัวเขาไอออกมาด้วยความเจ็บปวด
เสียงไอของหลิวคู่ทําให้ทุกคนกลับมามีสติอีกครั้ง
และในที่สุดความหวังริบหรี่ในใจของทหารราชสํานักก็จางหายไป พวกเขาต้องสิ้นหวังเมื่อได้พบกับพลังฝ่ามือสีฟ้าอีกฝ่ามือที่กําลังลอยอยู่บนอากาศ มันไม่ใช่พลังฝ่ามือธรรมดาพลังฝ่ามือที่ได้เห็นก็คือพลังฝ่ามือสายฟ้าฟาด
หลิวคู่ที่เพิ่งจะลืมตาก็ได้เห็นพลังฝ่ามืออีกพลังเข้ามาหา “ข้า…จะต้องรอด!”
ความเร็วของพลังฝ่ามือที่ได้เห็นคล้ายกับพลังฝ่ามือก่อน พลังฝ่ามือได้พุ่งชนใบหน้าของหลิวก่อีกครั้ง
ตุ้ม!
เสียงระเบิดดังขึ้นก่อนจะเงียบสงบ
ด้วยพลังฝ่ามือที่ถูกปลดปล่อยออกมา หลิวก่จะต้องจบชีวิตลงแน่
เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังฝ่ามือ ไม่มีวิธีการแบบไหนเลยที่จะลบล้างพลังฝ่ามือได้ มีเพียงการใช้พลังฝ่ามือที่มีพลังที่ทัดเทียมกันเท่านั้นที่จะลบล้างพลังฝ่ามือได้
“ติ้ง! สังหารเป้าหมายสําเร็จ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 2,500”
เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน ลูโจวก็หันไปเหลือบมองหลิวอีกครั้ง เป็นเพราะความตายของหลิวคู่ครั้งนี้ไม่ได้ทําให้ลูโจวสูญเสียอะไรมากนัก จนถึงตอนนี้การ์ดการโจมตีของเพชฌฆาตมีมูลค่าสูงถึง 10,000 แต้มบุญแต่การสังหารหลิวก่ถึงสองครั้งได้ทําให้ลูโจวได้รับแต้มบุญกลับมาถึง 5,000 แต้มบุญ
การโจมตีที่แม่น้ําในก่อนหน้านี้ต้องทําให้หลิวกเสียชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากนั้นหลิวคู่ก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหลิวคู่ที่เพิ่งฟื้นคืนชีพก็ได้สูญเสียชีวิตไปในทันที
“ถ้าเลือกได้ฉันก็อยากที่จะทํามันอีกครั้ง….” ลูโจวได้แต่พึมพําอยู่กับตัวเอง
“???” ตัวนมู่เฉิงที่ได้ยินสับสน “ท่านอาจารย์…ครั้งนี้ข้าคิดว่าหลิวก่ตายแล้ว หลิวก่…ดูไม่เหมือนกับคราวที่แล้วครั้งนี้ร่างกายของเขาถูกทําลายไปอย่างสมบูรณ์แบบแล้วครับ”
“แต่ถึงแบบนั้นมันก็มีความเป็นไปได้ที่หลิวก่จะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง พวกเจ้าทุกคนห้ามประมาทเด็ดขาด”
พรึบ!
เมื่อตัวนมู่เฉิงได้ยินเช่นนั้น ตัวเขาก็ยกหอกราชันย์ก่อนจะชี้ไปยังหลิวกในทันที
อันที่จริงมันเป็นเพียงข้ออ้างของลู่โจวที่มีไว้เพื่อกลบเกลื่อนการพูดคนเดียว ไม่มีทางที่หลิวก่จะฟื้นคืนชีพได้เลย
ลู่โจวก้าวไปที่ด้านหน้าก่อนจะเหลือบมองทหารราชสํานัก
ทหารราชสํานักต่างก็โยนอาวุธทิ้งอย่างไม่ลังเล ทหารทั้งหมดไม่แม้แต่จะสบตากับลูโจว
ลูโจวหันไปหาผู้อาวุโสจากสถานศึกษาผืนฟ้าแทน “ทําหน้าที่ของพวกเจ้าต่อซะ”
อาวุโสล้มตัวลงในทันที “ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย…เป็นไปไม่ได้ เรื่องทั้งหมดมันจะต้องเป็นแค่ฝันร้ายแน่!ข้าฝันไปแน่ๆ !”
ทุกๆ คนต่างก็ประหลาดใจที่ผู้อาวุโสคนนั้นเคลื่อนไหวโดยพลการ
ลูโจวยกมือขึ้นมาอีกครั้ง
ตุ้ม!
ผู้อาวุโสที่ล้มตัวลงกระเด็นกลับไป!
ลูโจวไม่แม้แต่จะหันไปสบตา ตัวเขาหันกลับไปมองคนอื่นอย่างเกรี้ยวกราดแทน
“ผู้อาวุโสคนไหนมีปัญหาอีกไหม?”
ใครก็ตามที่พอจะมีสมองคงจะรู้ดีว่าการเคลื่อนไหวอะไรในตอนนี้เป็นสิ่งที่โง่เขลา ผู้อาวุโสทั้งหมดไม่มีทางเลยที่จะเทียบเคียงกับลูโจวได้มนุษย์เพียงคนเดียวที่ใช้พลังในเขตแดนพลังทั้งสิบไม่มีทางเลยที่ผู้อาวุโสที่เหมือนกับคนธรรมดาจะเอาชนะได้
ผู้อาวุโสที่เหลือเริ่มถอยกลับ
ผู้ฝึกยุทธที่รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทุกคนได้แต่สิ้นหวังจนอ้อนวอนขอความเมตตา
แต่ถึงแบบนั้นลู่โจวก็ไม่ได้เห็นใจอะไร
ในตอนที่ยู่เฉิงไห่โจมตีเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ในตอนนั้นเขาก็ได้ให้ทางเลือกกับทุกคนแล้ว ถ้าหากทุกคนกล้าพอที่จะแสวงหาเกียรติยศและความร่ํารวย ทุกคนก็ควรที่จะกล้าพอที่จะต้องเสี่ยงชีวิตด้วย ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
ลูโจวโบกแขนของตัวเอง “จัดการพวกมันซะ”
ผู้นําทัพย่อยแห่งสํานักอเวจีเค่อชิงไห่รู้สึกมีพลังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตัวเขารีบถ่ายทอดคําสั่งในทันที“จัดการพวกมันทุกคนซะ!”
ผู้ฝึกยุทธที่เข้าร่วมสงครามต่างก็ถูกจับมัดไว้โดยไร้ท่าทีที่จะต่อต้าน
ในทํานองเดียวกันผู้อาวุโสแห่งสถานศึกษาผืนฟ้าต่างก็สูญเสียความตั้งใจในการต่อสู้ไปเช่นกันทุกคนได้แต่นอนราบอยู่บนพื้น
“ในเมื่อทุกคนไม่จบชีวิตตัวเอง พวกเจ้าก็จะต้องถูกตัดหัวทั้งหมด”
เค่อชิงไห่พูดถ่ายทอดคําสั่งอีกครั้ง “ตัดหัวพวกมันซะ!”
สาวกจากสํานักอเวจีกว่าหลายสิบคนรีบเคลื่อนไหว
ผู้อาวุโสจากสถานศึกษาผืนฟ้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกซะจากยอมจํานนต่อโชคชะตาของตัวเอง
ภายในใจกลางของเขตแดนพลังทั้งสิบ ผู้อาวุโสทั้งสิบคนจากสถานศึกษากลุ่มดาวหมีใหญ่ได้แต่เสียใจพวกเขาได้แต่เสียใจที่ไม่ยอมฟังคําพูดของผู้เป็นประมุข ในช่วงเวลาสําคัญแบบนี้พวกเขาอยู่บนหลังเสือไปแล้วไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลังมันก็มีแต่เสียกับเสีย
ทั้งสิบคนได้แต่ชําเลืองมองกันก่อนจะออกจากใจกลางเขตแดนพลังทั้งสิบ
สีรู่หยาที่สังเกตเห็นรีบพูดขึ้น “ท่านอาจารย์!”
ลู่โจวมองไปยังจุดสูงสุดของเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ผู้ฝึกยุทธชุดขาวทั้งหลายได้หายไปแล้วลู่โจวหันกลับมามองทหารราชสํานักอย่างเย็นชาก่อนจะก้าวไปที่ด้านหน้า…
ทหารราชสํานักได้แต่ถอยกลับ ไม่มีพลังลมปราณภายในเขตแดนพลังทั้งสิบ ดังนั้นทหารทั้งหลายจึงไม่สามารถวิ่งหนีไปไกลได้ ทหารทุกคนไม่สามารถที่จะหนีออกจากเขตแดนพลังทั้งสิบได้
ด้วนมู่เฉิงที่เห็นแบบนั้นก็ได้ใช้หอกราชันย์กระแทกเข้ากับพื้น
แกรั้ง!
ด้วยพละกําลังที่ตัวนมู่เฉิงมีเพียงอย่างเดียวมันก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้ทุกคนต้องตกตะลึง การฝึกฝนอยู่ใต้น้ําตกมาอย่างยาวนานได้ทําให้ตัวนมู่เฉิงแข็งแกร่งกว่าคนส่วนใหญ่ “เจ้าจักรพรรดิชั่วหลิวก่ตายแล้ว…พวกเจ้าทั้งหมดยังพยายามที่จะต่อต้านอยู่อย่างงั้นสินะ?”
สบู่หยาก้าวไปที่ด้านหน้า ตัวเขาหยุดยืนอยู่ที่ข้างสู่โจวก่อนจะพูดออกมา “จริงๆ แล้วเจ้านั่นไม่ใช่จักรพรรดิของพวกเจ้า…”
สีรู่หยาจะไม่ยอมหยุดพักถ้าหากไม่ได้เปิดเผยความจริงที่น่าตกใจนี้ “หลิวก่ตัวจริงได้ตายจากไปนานแล้วหลิวคู่ที่พวกเจ้าได้เห็นก็คือตัวปลอมยังไงล่ะ”
คนจากพระราชสํานักทั้งหมดมักจะให้ความสําคัญกับสิทธิ์โดยกําเนิดของสายเลือดราชวงศ์เหนือสิ่งอื่นใด
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงอันแหบแห้งดังขึ้น “เป็นไปไม่ได้ มันไม่ใช่ความจริงแน่! จับอาวุธเข้าไว้…พวกเราต้องสู้!”
ลู่โจวเดินต่อไปยังประตูเมือง
ทหารราชสํานักทั้งหลายต่างก็ถอยกลับอีกครั้ง
ลู่โจวได้ใช้พลังฝ่ามือ…
พลังฝ่ามือสีฟ้าได้พุ่งไปในอากาศ!
ทุกคนต่างก็ดวงตาเบิกกว้างเมื่อได้เห็นพลังฝ่ามือ
ตุ้ม!
พลังฝ่ามือได้ชนเข้ากับพื้น และเพราะแบบนั้นจึงทําให้เกิดฝุ่นควันไปทั่ว
ทหารราชสํานักกว่าร้อยคนกระเด็นกลับเข้าไปในกําแพง
ลู่โจวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนก้าวเข้าไปในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ลูโจวที่เดินมาถึงกระทืบเท้าในทันที
ตุ้ม!
ที่ใต้เท้าของอู่โจวส่องแสงสว่างขึ้นมา การกระทืบเท้าของเขารุนแรงมากพอที่จะทําให้พื้นดินที่อยู่ใกล้เคียงได้รับแรงสั่นสะเทือน
คลื่นพลังจากการกระทืบเท้าได้ทําให้ทหารกว่า 1,000 นายได้รับแรงกระแทกจนกระเด็นลอยหายไป!
ทุกคนถึงกับต้องหยุดชะงักเมื่อได้เห็นแบบนั้น
จู่โจวเอามือไขว้หลังใบหน้าของเขาดไร้อารมณ์ในขณะที่เหลือบมองทหารจากราชสํานัก
ไม่นานนักทหารที่กระเด็นลอยก็ได้ตกลงสู่พื้น
ตับ! ตับ! ตุ๊บ! ตุ๊บ!
ทหารทั้งหลายต่างก็กระแทกเข้ากับพื้น ไม่มีใครเลยที่ต้านทานการโจมตีนี้ได้
สาวกจากสํานักอเวจีได้แต่มองดูภาพที่เกิดขึ้นอย่างตื่นเต้น
ภายในเขตแดนพลังทั้งสิบ ปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าคนนี้เป็นดั่งเทพพระเจ้า!
ตามท่านปรมาจารย์ไป
สาวกจากสํานักอเวจีทุกคนได้คิดในแบบเดียวกัน ลู่โจวสําหรับทุกคนเป็นได้ดั่งเทพพระเจ้า
ไม่นานนักสาวกจากสํานักอเวจีก็เริ่มเข้าสู่เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเข้ามาในเมืองทุกคนก็สังเกตเห็นพระราชวังรวมไปถึงอาคารที่สูงตระหง่าน
สาวกจากสํานักอเวจีทั้งหลายต่างก็ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทุกคนที่เข้าสู่เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ต่างก็เดินกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกคนรีบเดินไปทางตําหนักเขียวชอุ่ม ตําหนักนิรันดร์ ตําหนักต้าเฉิงและตําหนักจึงเหอที่อยู่ภายในพระราชวัง
ในตอนนี้สํานักอเวจีสามารถยึดเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์สําเร็จแล้ว
ตําหนักเขียวชอุ่มเป็นตําหนักที่อยู่ใจกลางของพระราชวัง ตําหนักเขียวชอุ่มมีแสงสีทองล้อมรอบอยู่มันดูคล้ายกับเขตแดนพลังประตูทั้งแปด
“นี่มันเขตแดนพลัง มีเขตแดนพลังประตูทั้งแปดอยู่ด้วย”
สีรู่หยาที่ได้ยินเช่นนั้นรีบวิ่งไปด้านหน้า
จู่โจวเองก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ ตัวเขาลอยขึ้นไปด้วยสีหน้าที่เย็นชา
พลังเขตแดนประตูทั้งแปดที่อยู่ภายในเขตแดนพลังทั้งสิบเป็นเหมือนกับม่านพลังที่โปร่งแสง มันเป็นม่านพลังที่เต็มไปด้วยลวดลายดอกไม้สีทองที่ดูสวยงาม
ทุกๆ คนต่างก็เหลือบมองตาม
ลูโจวในตอนนี้ลอยอยู่ที่ใจกลางของเขตแดนพลังประตูทั้งแปดแล้ว…
เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังแห่งความเงียบ พลังที่รักษาไว้ซึ่งสมาธิ พลังที่เป็นได้ดั่งแสงและเงา พลังที่สามารถอยู่ได้ทุกหนแห่ง
ดอกบัวสีฟ้าจงเบ่งบาน!