My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 549
ตอนที่ 549 กระบี่โบยบิน
ติดตามข่าวสารได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย
พลังแผ่สวรรค์ของลัทธิขงจื้อ แม้ว่าจะดูอ่อนโยนแต่แท้จริงแล้วมันกลับทรงพลัง มันเป็นพลังที่มีทั้งความแข็งแกร่งและความนุ่มนวลอยู่ในตัว เมื่อพลังแผ่สวรรค์ถูกปลดปล่อยออกมา มันสามารถสร้างสรรค์ได้ตามความต้องการของผู้ใช้ พลังแผ่สวรรค์มีความคล้ายคลึงกับพลังลมปราณที่มีอยู่ในร่างกาย และเพราะแบบนั้นจึงมีคนจํานวนมากต้องการที่จะฝึกฝนวรยุทธในแบบฉบับของชาวลัทธิขงจื้อ
ที่เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์มียอดฝีมือมากมายหลายคน ในราชสํานักเองก็มียอดฝีมือชาวลัทธิขงจื้ออยู่เช่นกัน ในบรรดาแม่ทัพใหญ่ทั้งแปดทั้งขู่เฉิงและกู่ยี่หรานต่างก็เป็นยอดฝีมือจากลัทธิขงจื้อ
กู่ยี่หรานเคยช่วยจักรพรรดิหย่งโชวต่อต้านชนเผ่าอื่นจนสร้างสันติภาพให้กับชาวดินแดนหยานได้…เพื่อดินแดน เพื่อประชาชนแล้ว กู่ยี่หรานจะไม่ยอมให้ใครมาขัดขวางจักรพรรดิหย่งโชวของตัวเขาแน่
มีเสียงกระหึมดังขึ้นจากบนอากาศ มันเป็นเสียงของพลังแผ่สวรรค์ที่กําลังแผ่ขยายออกมาพลังแผ่สวรรค์ได้ก่อตัวกันจนกลายเป็นตัวอักษร ตัวอักษรทั้งหลายปรากฏตัวขึ้นรอบๆ ก่ยี่หรานเพียงแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้นตัวอักษรทั้งหมดก็หลอมรวมกันจนกลายเป็นมังกรตัวยาว!
“พลังผนึกอักษรมังกรทอง!” ภู่ยี่หรานได้ส่งเสียงร้องออกมาเมื่อผนึกอักษรมังกรทองของตัวเขาทะยานขึ้น
ดวงตาของหวางชื่อเจียเบิกกว้าง หวางชื่อเจียได้ยกแขนทั้งสองข้างอย่างสุดกําลังก่อนที่จะสร้างม่านพลังเพื่อปกป้องตัวเองเอาไว้
ตุ้ม!
การโจมตีครั้งแรกของพลังผนึกอักษรมังกรทองได้ทําลายม่านพลังของหวางซื่อเจียในทันทีตัวเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกซะจากจะต้องล่าถอย
แม้ว่าจะล่าถอยมาแล้วแต่พลังผนึกอักษรมังกรทองก็ได้ไล่โจมตีหวางซื่อเจียต่อ
ในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายนี้ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต่อสู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
หวางซื่อเจียรู้ดีว่าตัวเองจะต้องตายถ้าหากไม่ระวังตัวให้มากพอ
ยี่หรานในตอนนี้ได้ควบคุมพลังผนึกอักษรมังกรทองด้วยมือทั้งสองข้าง
พลังผนึกอักษรมังกรได้พุ่งเข้าใส่หวางซื่อเจียเป็นครั้งที่สอง
ดวงตาของมังกรทองดูคล้ายกับตัวอักษรอันใหญ่ยักษ์
หวางชื่อเจียขมวดคิ้ว ตัวเขาได้เคลื่อนไหวฝ่ามือก่อนที่จะป้องกันการโจมตีอีกครั้ง
“หวางซื่อเจีย เจ้าน่ะถูกหลอกแล้ว!”
พลังผนึกอักษรมังกรทองได้แยกออกเป็นสองส่วน มันได้จู่โจมหวางซื่อเจียจากทางซ้ายและ ทางขวาอย่างพร้อมเพรียงกัน
“แบบนี้แย่แน่!”
ตุ้ม!
เมื่อหวางซื่อเจียกําลังจะแยกฝ่ามือออกมา ทุกอย่างมันก็สายเกินไป ก่อนที่จะสร้างม่านพลังขี้นมาได้ หวางซื่อเจียก็ถูกหัวมังกรทองเข้าโจมตีซะก่อน หัวมังกรทองได้กระทบเข้ากับแขนของเขาหวางซื่อเจียที่ถูกโจมตีกระเด็นถอยกลับไป หวางซื่อเจียพยายามต่อสู้กับความเจ็บปวดในขณะที่ล้มลงกับพื้น
ยี่หรานพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ผนึกอักษรมังกรทองคู่กําลังพันรอบตัวเขา “เจ้าเกาะหวางเจ้ามีดีแค่นี้สินะ?”
“คู่ยี่หราน พี่จีได้ฝึกฝนจนมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบเมื่อนานมาแล้ว ทําไมกันเจ้าถึงต้องอด้านแบบนี้”
“หวางซื่อเจีย..ถ้าหากไม่มีหลักฐานกับตา ฝาบาทของข้าก็คงจะไม่เข้าถ้ําเสื้อโดยที่ไม่มีมูลแน่”
“หลิวเก้อเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบด้วยอย่างงั้นเหรอ?”
“ในโลกนี้จะมีผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบไม่ได้…ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ ข้าได้พูดในสิ่งที่ข้าต้องการพูดออกไปหมดแล้ว ได้เวลาส่งเจ้าแล้วล่ะ!” คู่ยี่หรานไม่อยากจะเสียเวลาพูดคุยอีก
ในตอนนั้นเองพลังผนึกอักษรมังกรทองก็ได้รวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว พลังผนึกอักษรมังกรทองได้หมุนวนอยู่บนอากาศก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของหวางซื่อเจีย
“ข้าน่ะไม่ใช่พวกที่กลัวตายหรอกนะ!” หวางซื่อเจียปลดปล่อยพลังลมปราณออกมา
ในตอนนั้นเอง
พรึบ! พรึบ!
มีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นมาจากด้านบน
เสียงที่ดังขึ้นฟังดูไม่เหมือนอะไร มันได้ดึงดูดความสนใจของทั้งสองคนเอาไว้ได้
บนท้องฟ้ากระบี่เล่มหนึ่งกําลังหมุนตัวลงมา เมื่อมองไปที่กระบี่ในแวบแรก มันไม่ได้ดูน่าสะดุดตาเท่าไหร่ แต่ถึงแบบนั้นความเร็วที่กระบี่มีก็ยังดูน่าตกใจ กระบีนิลโลหิตที่กําลังหมุนตัวลงมาส่งเสียงแตกต่างจากอาวุธชิ้นอื่นๆ ที่สําคัญที่สุดก็คือเป้าหมายของมัน เป้าหมายของมันอยู่ที่พลังผนึกอักษรมังกรทองตัวใหญ่
เมื่อกระบี่นิลโลหิตกําลังจะพุ่งเข้าใส่พลังผนึกอักษรมังกรทอง กระบี่นิลโลหิตก็ได้ปล่อยพลังงานออกมา
มันได้ตัดผ่านมังกรทองไป มังกรทองที่ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนสูญเสียการควบคุมไปในทันทีพลังผนึกอักษรมังกรทองได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่จะตกลงสู่พื้นภายในพริบตา อ่านนิยายได้ที่ wwwcat2auto.com
พลังผนึกอักษรมังกรทองที่ถูกทําลายไปได้ทําให้ท่าทีของคู่ยี่หรานเปลี่ยนแปลงไปด้วยภู่ยี่หรานเดินโซเซกลับไปสิบก้าวก่อนที่จะตั้งหลักได้อีกครั้ง เมื่อได้เห็นกระบี่ที่อยู่ตรงหน้าคู่ยี่หรานก็รู้สึกใจคอไม่ดี
กระบี่ที่ตัดพลังผนึกอักษรมังกรทองได้หมุนรอบตัวเองต่อไปก่อนที่จะปักลงบนพื้น
แสงแดดได้ส่องไปยังกระบี่เล่มนั้น ใครก็ตามที่มีสายตาที่แหลมคมจะบอกได้ทันทีว่ากระบี่เล่มนี้มีความพิเศษ เป็นที่รู้กันดีว่าอาวุธระดับสรวงสวรรค์จะสามารถทําลายพลังงานได้ กระบี่ที่สามารถสังหารพลังผนึกอักษรมังกรทองได้เช่นนี้มีอยู่เพียงไม่กี่เล่มเท่านั้น คงจะมีแต่ผู้เป็นเจ้าของกระบีนิลโลหิตเท่านั้นที่ปรากฏตัวในที่แห่งนี้ได้
ทั้งหวางชื่อเจียและกู้ยี่หรานต่างก็นึกถึงคนคนเดียวกัน คนคนนั้นก็คือยู่เฉิงไห่ ศิษย์คนแรกของศาลาปีศาจลอยฟ้า ชายผู้เป็นเจ้าสํานักอเวจีและเป็นยอดฝีมือผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบที่พยายามจะยึดครองโลก
มันจะต้องเป็นยู่เฉิงไห่แน่!
ภู่ยี่หรานรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ตัวเขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาดูหวาดหวั่นยู่ เฉิงไห่ที่กําลังสวมใส่ชุดออกรบได้บินลงมาจากท้องฟ้า ไม่นานนักตัวเขาก็ลงสู่พื้นดินได้อย่างสง่างาม
ตุ้ม!
เกิดคลื่นพลังกระเพื่อมไปทั่ว
กระบี่นิลโลหิตลอยขึ้น มันได้บินกลับไปที่ฝ่ามือของยู่เฉิงไห้อย่างรวดเร็ว
คู่ยี่หรานกลืนน้ําลาย แม้แต่ผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบด้วยกันก็ยังมีความแตกต่างกันแม้ว่าเขาจะเป็นแม่ทัพใหญ่และยังเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับยู่เฉิงไห่ ตัวเขาก็อดรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่ายู่เฉิงไห้ไม่ได้ คู่ยี่หรานไม่ได้ต้องการสู้กับคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจเช่นนี้
ยู่เฉิงไห่หันกลับมาช้าๆ ก่อนที่จะมองไปยังคู่ยี่หราน “คู่ยี่หรานอย่างงั้นสินะ?”
“ยู่…ยู่เฉิงไห่?”
ทันทีที่คู่ยี่หรานพูดจบ ยู่เฉิงไห้ก็ใช้พลังฝ่ามือของตัวเอง
ตุ้ม!
คู่ยี่หรานป้องกันการโจมตีด้วยแขนก่อนที่จะสะดุดถอยหลังกลับไปหลายก้าว
ยู่เฉิงไห่ส่ายหัว “แม่ทัพใหญ่มีดีแค่นี้?”
“เจ้าเจ้า…”
ยู่เฉิงไห้โจมตีอีกครั้ง พลังฝ่ามือที่ถูกผลักไปข้างหน้าจู่โจมไปที่แขนของคู่ยี่หรานอย่างแม่นยํา
ผัวะ!
คู่ยี่หรานถอยหลังไปอีกห้าก้าว
ยู่เฉิงไห้ได้พูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่เคร่งขรึม “เจ้ากล้าที่จะท้าทายศาลาปีศาจลอยฟ้าอย่างั้นสินะ?”
“ข้าข้า”
ยู่เฉิงไห้ได้โจมตีเป็นครั้งที่สาม
ตุ้ม!
ด้วยการโจมตีครั้งนี้ทําให้คู่ยี่หรานเสียหลัก ตัวเขาเลือกที่จะลอยขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่จะหันหลังกลับไป
“ต้องหนี!”
ช่วงเวลาที่กู้ยี่หรานมองเห็นยู่เฉิงไห่ ตัวเขาก็รู้ได้ทันทีว่าไม่อาจเอาชนะได้ การหนีจึงเป็นทางเลือกเดียวเท่านั้น คู่ยี่หรานที่คิดแบบนั้นรีบบินขึ้นไปบนอากาศ พลังแผ่สวรรค์ได้ปกคลุมร่างอวตารดอกบัวแปดกลีบของเขาเอาไว้
“เจ้าคิดจะหนีอย่างงั้นสินะ? นี่มันก็แค่เริ่มต้นเท่านั้น!” ยู่เฉิงไห่เหวี่ยงกระบี่นิลโลหิตอย่างรุนแรง
กระบี่นิลโลหิตได้หมุนตัวเองก่อนที่จะพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็ว กระบี่นิลโลหิตได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่มากกว่ากูยี่หราน
เมื่อกระบี่นิลโลหิตลอยไปได้ครึ่งทาง มันก็ได้ปล่อยพลังงานจากการหมุนอันทรงพลังออกมา
มันคือพลังจากเคล็ดวิชาอนุสรณ์สรวงสวรรค์แห่งความมืด พลังแสงดาวสรวงสวรรค์แห่งความมืดนั่นเอง
ต้นไม้และพืชพรรณทั้งหมดในระยะ 400 เมตรถูกโค่นล้มโดยพลังมหาศาลในทันที
ในที่สุดพลังแสงดาวสรวงสวรรค์แห่งความมืดก็ได้ตัดผ่านร่างv;9kของคู่ยี่หรานไป
นิ้วะ!
ร่างอวตารของคู่ยี่หรานเริ่มเกิดรอยร้าว ตัวเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเก็บร่างอวตารที่มีไป สีหน้าที่กู้ยี่หรานมีเริ่มหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น ตัวเขาเตรียมพร้อมป้องกันอย่างเต็มตัวในขณะที่ยู่เฉิงไห่เข้ามาใกล้ “ข้าไม่ได้ต้องการที่จะสู้กับเจ้า!”
“การต่อสู้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการเจ้าหรอกนะ” ยู่เฉิงไห่เอามือข้างหนึ่งไขว้หลังก่อนที่จะเดินไปหากู้ยีหราน
ภู่ยี่หรานเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ทั้งแปด ในขณะที่ยู่เฉิงไห้เป็นเจ้าสํานักอเวจี ยังไงซะยู่เฉิงไห่ก็ต้องพิชิตเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะยังไงพวกเขาก็เป็นศัตรูกัน แล้วพวกเขาทั้งคู่จะไม่ต่อสู้กันได้ยังไง?
กูยี่หรานเดือดดาลด้วยความโกรธ “ข้ายอมรับว่าพลังวรยุทธของเจ้าสูงส่งกว่าข้า…แต่ถึงแบบนั้นเจ้าก็ไม่ได้เปรียบอะไรข้าหรอกถ้าหากพวกเราจะสู้กันจนตัวตาย”
ยู่เฉิงไห่มองไปที่กู้ยี่หรานราวกับหมาปาที่กําลังจ้องมองเหยื่อ “ของอย่างนี้ไม่ลองก็ไม่รู้” ยู่เฉิงไห่ที่พูดจบได้สะบัดมือข้างขวา
พรึบ!
กระบี่นิลโลหิตหมุนตัวกลับมาอีกครั้ง
ปราณกระบี่!
กระบี่พลังงานหลายเล่มถูกสร้างออกมา พลังงานทั้งหลายทั้งดูลึกลับและดูแปลกประหลาดในเวลาเดียวกัน
คู่ยี่หรานไม่ได้คาดคิดว่ายู่เฉิงไห่จะโจมตีในทันทีแบบนี้ กู่ยี่หรานที่เห็นแบบนั้นก็ได้ปรับท่าทีของตัวเองอย่างรวดเร็ว พลังแผ่สวรรค์ของเขาได้ขยายตัวออกมาอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกันยู่เฉิงไห้ก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง มันเป็นความเร็วที่เหนือไปกว่ากระบี่นิลโลหิตซะด้วยซ้ํา
สุดยอดเคล็ดวิชา!
เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวยู่เฉิงไห้ก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้าคู่ยี่หราน ตัวเขาได้โจมตีอีกฝ่ายด้วยพลังฝ่ามือในทันที
ตุ้ม!
พลังฝ่ามือกระทบเข้ากับหน้าอกของคู่ยี่หราน
คู่ยี่หรานกระเด็นลากไปกับพื้น
ตุ้ม!
ภู่ยี่หรานกระเด็นไปจนชนเข้ากับต้นไม้
กระบี่นิลโลหิตไม่ได้โจมตีแต่อย่างใด มันได้บินกลับมาในมือของยู่เฉิงไห้แทน
คู่ยี่หรานเอามือกดหน้าอกก่อนที่จะเหลือบมองยู่เฉิงไห่อย่างตื่นตกใจ แม้ว่าการโจมตีนี้จะไม่ได้รุนแรงอะไร แต่มันก็ถูกควบคุมมาเป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้มีประสบการณ์การต่อสู้ที่มากแค่ไหน
ยู่เฉิงไห่พูดต่อ “เจ้าไม่ละอายใจตัวเองบ้างเหรอ? หนึ่งในแปดแม่ทัพใหญ่กําลังกลั่นแกล้งชายชราน่ะ?”
“” ภู่ยี่หรานอยากจะบอกว่าตัวเองก็เป็นชายชราเช่นกัน
หวางซื่อเจียอึดอัดเล็กน้อยเมื่อได้ยินคําพูดของยู่เฉิงไห่
ยู่เฉิงไห่ยังคงเดินหน้าต่อไป
ดวงตาของคู่ยี่หรานแดงก่ําในขณะที่พูดตอบกลับมา “เจ้าก็แค่พวกฉวยโอกาส ซ้ําคนเจ็บก็เท่านั้น”
“ถ้าหากเจ้าคิดแบบนั้น ข้าจะเปิดโอกาสให้เจ้าโจมตีข้าได้สามกระบวนท่า” ยู่เฉิงไห้ได้ยื่นมือข้างซ้ายออกมา ตัวเขากําลังทําท่าทางเชิญชวนอยู่นั่นเอง
“เจ้าพยายามจะดูถูกข้าอย่างงั้นสินะ?” ในตอนนี้คู่ยี่หรานก็ได้ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของยู่เฉิงไห้ได้ ยู่เฉิงไห่สามารถสังหารตัวเขาได้ด้วยกระบวนท่าเดียวแน่ แต่ถึงแบบนั้นยู่เฉิงไห่กลับไม่ได้ทําแบบนั้น
“อืม” ยู่เฉิงไห่พยักหน้า
“ทหารฆ่าได้หยามไม่ได้”
“คนบางคนน่ะไม่ควรค่าที่จะได้รับความเคารพหรอก”
“ย่อมได้ ย่อมได้ ย่อมได้” คู่ยี่หรานได้พูดคําๆ เดิมซ้ําแล้วซ้ําเล่า ดูเหมือนว่าตัวเขาใกล้ที่จะจิตใจแตกสลายแล้ว