My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 548
ตอนที่ 548 ข้าจะเติมเต็มความปรารถนาเจ้าเอง
เสียงของหลิวเก้อแหบแห้ง ตัวเขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนที่จะพูดออกมา “เครื่องรางเหล่านี้ถูกสุดยอดฝีมือผู้ลึกลับคนนั้นทิ้งไว้ให้ ข้าในตอนนี้เป็นอมตะ…แต่เมื่อผลของเครื่องรางหมดไป ข้าเองก็ต้องตายเช่นกัน”
สู่โจวมองดูเครื่องรางที่ดูเหมือนจะละลายหลอมรวมเข้ากับร่างกายของหลิวเก้อไปแล้ว ตัวเขาได้แต่ส่ายหัว “ข้าก็คิดว่าเจ้าจะมีดีอยู่บ้าง แต่ที่ไหนได้มันก็เป็นแค่ของโบราณ”
“เท่านี้มันก็มากพอแล้ว” หลิวเก้อโต้กลับ “พี่จี…ดูเหมือนว่าท่านจะรู้ว่าพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบมันชั่วร้ายยังไง มิเช่นนั้นท่านก็คงไม่ปิดผนึกความทรงจําเอาไว้สินะ?”
“เจ้ารู้เรื่องคริสตัลความทรงจําของข้าอย่างงั้นเหรอ?”
“ข้าจะไม่ยอมให้ใครมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้…ไม่สําคัญว่าท่านจะเป็นพี่นองของข้ารึเปล่าถ้าหากข้าสามารถห้ามปรามท่านได้ ข้าก็คงจะเกลี้ยกล่อมท่าน แต่ในเมื่อข้าห้ามปรามไม่ท่านไม่ได้ข้าก็มีแต่จะต้องฆ่าท่าน” ทันทีที่หลิวเก้อพูดจบ ตัวเขาก็เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงเหลือเพียงริ้วรอยสีแดงเท่านั้นที่ยังส่องแสง ท่ามกลางการจับจ้องของเหล่าสาวกหลิวเก้อก็ได้พุ่งเข้าหาลู่โจวอย่างรวดเร็ว
“เร็วมาก!”
ทุกๆ คนต่างก็คิดว่าการต่อสู้นี้ทวีความรุนแรง
จู่ๆ จู่โจวก็ยกมือขึ้นมา ตัวเขาได้กางฝ่ามือขึ้นมา มือของลู่โจวได้ส่องประกายแสงสีฟ้าก่อนที่จะส่งพลังฝ่ามือขนาดใหญ่ออกมา พลังฝ่ามือขนาดใหญ่สีฟ้าได้พุ่งใส่หลิวเก้อ
สู่โจวประคองฝ่ามือไว้อย่างมุ่งมั่น ตัวเขาสัมผัสได้ว่าหลิวเก้อแข็งแกร่งจริงๆ นอกจากนี้จู่โจวยังสัมผัสได้ว่าพลังวิเศษที่ตัวเขามีก็แข็งแกร่งขึ้น พลังฝามือในครั้งนี้ได้กินพลังวิเศษไปหนึ่งในสี่ของตัวเขา
“อมตะอย่างงั้นเหรอ?” ลูโจวยกมือขึ้นก่อนที่จะมองไปที่มัมมีหลิวเก้อ ลูโจวมองเห็นเครื่องรางที่ละลายอยู่บนใบหน้าของหลิวเก้อ ที่บนตัวหลิวเก้อมีอักษรที่ดูปาเถื่อนสลักเอาไว้ มันเป็นภาพที่แปลกประหลาดจริงๆ
“ท่าน…ท่านฆ่าข้าไม่ได้หรอก!”
“ไม่ลองก็ไม่รู้”
นิ้วทั้งห้าตั้งตรงมากขึ้น!
พลังฝ่ามือของลูโจวกําลังปะทะเข้ากับหลิวเก้อที่กลางอากาศ
ผู้คนจากศาลาปีศาจลอยฟ้าไม่คิดว่าลูโจวจะใช้พลังฝ่ามือเข้าปะทะซึ่งหน้าแบบนี้ มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ทั้งเยือกเย็นและยังเหี้ยมโหดอีกด้วย แต่ถึงแบบนั้นมันก็เป็นการเคลื่อนไหวที่ตรงไปตรงมาและน่าพึงพอใจในเวลาเดียวกัน ทุกคนต่างก็ประทับใจในสิ่งที่ได้เห็น ไม่มีใครรู้เลยว่าแท้จริงแล้วผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่เมื่อได้เห็นพลังที่ลูโจวได้ใช้ออกมาทุกคนก็ถูกย้ําเตือนอีกครั้งว่าพลังของผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบมันทรงพลังเกินกว่าที่จะจินตนาการจริงๆ เมื่อใดก็ตามที่ทั้งสองคนเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวนั้นก็ดูยิ่งใหญ่อยู่เสมอมันดูเหมือนจะทําลายโลกทั้งใบได้เลย
นตนาการจริงๆ เมื่ออกครั้งว่าพลังของผู้มีพลังอาคายงใด แต่เมื่อได้เห็นพลังที่
นิ้วทั้งห้าของอู่โจวเกร็งตัวมากยิ่งขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่แม้แต่ลูโจวเองก็ยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน จู่โจวสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังฝ่ามือนักบวชปีศาจของตัวเขากําลังบดขยี้หลิวเก้อ บดขยี้ กระดูกและอวัยวะภายในทั้งหมดของอดีตจักรพรรดิเข้าไว้ด้วยกันแต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ไม่ได้ยิน เสียงการแจ้งเตือนจากระบบ
ไม่นานพลังฝ่ามือก็จางหายไป
หลิวเก้อตกลงจากท้องฟ้าก่อนที่จะกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
“ยังไม่ตายอย่างงั้นเหรอ?” สู่โจวรีบร่อนลงมา “หรือฉันจะใช้การ์ดการโจมตีของเพชฌฆาตด้วยเลยดี?”
จนถึงตอนนี้ลูโจวเหลือพลังวิเศษเพียง 1 ใน 4
ร่างกายของหลิวเก้อที่ตกลงสู่พื้นเริ่มสองแสงประกายสีแดงเข้มออกมา กระดูกของเขาขยับกลับเข้าที่ ร่างกายที่บิดเบี้ยวและอวัยวะภายในที่ได้รับความเสียหายเริ่มได้รับการรักษา อ่านนิยายได้ที่ wwwcat2auto.com
บนศาลาปีศาจลอยฟ้า ปากของหมิงซูหยินอ้าขึ้นเมื่อได้เห็นสภาพของหลิวเก้อ “นั่นมันวิชาโบ ราณบ้าบออะไรกัน?”
ทุกๆ คนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคําพูดของหมิงซี่หยิน
“ช่างน่าขยะแขยง!”
“ผู้คนในดินแดนหยานไม่มีใครเคยฝึกฝนวิชาอันชั่วร้ายที่นําคนตายกลับมาอีกครั้งได้ แม้ว่ามันจะเป็นวิชาลี้ลับก็ตาม แต่ข้าก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าวิชาแบบไหนที่จะมอบความเป็นอมตะให้กับใครได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตามแต่ข้าก็ไม่เคยได้ยินอยู่ดี”
“ลวดลายเขตแดนพลังนั่นเหมือนกับลวดลายบนโลงศพของชนเผ่าอื่นไม่มีผิด หรือว่านี่จะเป็นวิชาลี้ลับของชนเผ่าอื่นกัน?”
“ไม่น่าจะเป็นไปได้ ถ้าหากชนเผ่าอื่นมีวิชาลี้ลับแบบนี้จริง พวกเขาก็คงจะใช้มันจู่โจมจนพิชิตดินแดนหยานของพวกเราไปนานแล้ว”
ไพ่ตายของหลิวเก้อและวิชาลี้ลับอยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน
ลูโจวมองไปที่ “มัมมี่” มันกําลังฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง
หลิวเก้อพลิกตัวก่อนที่จะกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ตัวเขากําลังหายใจอย่างติดขัด แม้ว่าจะดูบาดเจ็บมากแค่ไหนแต่หลิวเก้อก็ไม่ได้ดูเจ็บปวดเลย ที่ใบหน้าของเขามีเพียงรอยยิ้ม เครื่องรางที่หลิวเก้อใช้ได้ผล! หลิวเก้ออยู่ยงคงกระพัน เขาเป็นอมตะ! นี่เป็นเพียงการพิสูจน์คําพูดของหลิวเก้อเท่านั้น หลิวเก้อมองดูท้องฟ้าก่อนที่จะหัวเราะออกมา “ข้า…ตายไม่ได้”
สู่โจวพยายามคิดหาจุดอ่อนของหลิวเก้อ ผู้ที่เป็นเจ้าของโลงศพได้บอกเอาไว้ว่าไม่มีใครอยู่ไปได้ตลอด ตัวเขาเหลือบมองไปที่หลิวเก้อก่อนจะพูดออกมา “เจ้าคงจะเชื่อสุดยอดฝีมือผู้ลึกลับคนนั้นสุดใจเลยสินะ…ข้าแน่ใจว่าเขาจะต้องบอกเจ้าแน่ว่าไม่มีใครสามารถอยู่ไปได้ตลอด”
หลิวเก้อที่ได้ฟังแบบนั้นตกใจราวกับถูกสายฟ้าฟาด ดวงตาของเขาเบิกกว้างก่อนจะเหลือบมองไปทางสู่โจว “ท่านเคยพบเขาอย่างงั้นเหรอ?!”
สู่โจวมองเห็นสีแดงเข้มที่ส่องอยู่บนร่างกายของหลิวเก้อ ตัวเขายกมือขึ้น ที่มือของเขามีอาวุธนิรนามปรากฏออกมา
อักษรสีดํากําลังหมุนวนไปรอบอาวุธนิรนาม
ดําและแดงกําลังเข้าน้ํานั่นกัน?
สู่โจวจําคําจารึกที่อยู่ภายในสุสานแห่งดาบของจักรพรรดิหย่งโชวได้ “เจ้าอยู่ในสุสานแห่งดาบมาโดยตลอดอย่างงั้นสินะ?”
หลิวเก้อยืนขึ้นก่อนจะตอบกลับมา “จะต้องใช้พลังหยินและหยางจํานวนมากก็เพื่อที่จะฝึกฝนให้ร่างกายให้ได้รับความอมตะ”
“ข้าไม่แปลกใจเลย” ลูโจวพยักหน้า ร่างกายก็เปรียบได้ดั่งเรือ ถ้าหากผู้ใดต้องการความแข็งแกร่งเรือลํานั้นก็จะต้องได้รับการปรับปรุงพัฒนา พลังจารึกที่อยู่ในสุสานแห่งดาบดูเหมือนกับพลังของเขตแดนพลังสีแดง
หลิวเก้อกางแขนออกมาก่อนที่จะหันหน้าไปบนท้องฟ้า “ไม่ว่าจะยังไงความจริงที่ข้าเป็นอมตะก็ยังเป็นความจริง!”
“เจ้าด่วนสรุปเกินไป” สู่โจวประสานฝ่ามือเข้าด้วยกัน ตัวเขาได้ส่งพลังวิเศษที่เหลือไปที่อาวุธนิรนาม อาวุธนิรนามได้เปลี่ยนไปเป็นดาบพลังงานนับไม่ถ้วน ดาบพลังงานทั้งหมดตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างไม่หยุดพัก
หลิวเก้อเงยหน้าขึ้นมอง ตัวเขาตั้งใจที่จะหลบ แต่น่าเสียดาย ดาบพลังงานมีมากเกินไปหลิวเก้อหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “จีเทียนเดํา ขีดจํากันอันยิ่งใหญ่ของข้าได้ผ่านพ้นไปแล้ว ข้าได้รักษาชีวิตเอาไว้ด้วยการดูดซับพลังชีวิตจากอักษรโบราณพวกนี้ข้าได้รู้ความลับของดอกบัวทองคําที่มันจะดูดกลืนพลังชีวิตตั้งแต่ 300 ปีก่อน แต่ข้าเลือกที่จะไม่บอกท่านเอง!”
พรึบ! พรึบ! พรึบ!
ดาบพลังงานกว่าหลายพันเล่มแทงทะลุหน้าอกของหลิวเก้อ
ทุกอย่างดูเหมือนจะหยุดนิ่ง
อาวุธนิรนามกลับมาอยู่ในมือของลูโจวอีกครั้ง ตัวเขาเหลือบมองอาวุธนิรนามที่มีอักษรโบราณสีดํา แม้ว่าจํานวนของมันจะลดลงแต่ อักษรสีดํายังคงอยู่ จู่โจวได้เฝ้ามองดาบพลังงานทั้งหลายที่แทงทะลุหน้าอกของหลิวเก้อต่อไป
หลิวเก้อมองไปที่หน้าอกของตัวเอง อักษรสีแดงบนหน้าอกของเขาถูกอักษรสีดําบางตัวลบเรือนไป บาดแผลหลิวเก้อไม่เยียวยาตัวเองอีก แผลที่ถูกดาบพลังงานแทงทะลุมีเลือดไหลรินหลิวเก้อไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น “ไม่จริง…”
สู่โจวย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนที่จะจ้องมองไปยังหลิวเก้อ “ไหน? ใครที่ไม่อาจถูกฆ่าได้”
หลิวเก้อมองไปรอบตัว ตัวเขากําลังพ่ายแพ้ ทุกสิ่งทุกอย่างกําลังเลื่อนลอยไป แม่น้ํา ภูเขาผู้คนทุกสิ่งทุกอย่างในโลกกําลังไหลผ่านความทรงจําของหลิวเก้อไป บาดแผลของเขายังคงไม่ถูกปิด หลิวเก้อเดินถอยหลังหลายก้าว สายตาตาของเขาดูว่างเปล่า หลิวเก้อได้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายกางแขนออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ต้องฆ่า ฆ่า ฆ่า!” ไม่นานนักหลิวเก้อก็เริ่มหวาดกลัว “อย่าเข้ามา!ไปให้พ้น…” เลือดของหลิวเก้อไหลรินลงสู่พื้นตัวเขาที่เดินถอยได้ทิ้งรอยเลือดเอาไว้เต็มทาง
“ข้าไม่อยากตาย…ข้าไม่อยากตายจริงๆ เจ้าโกหกเจ้าโกหกข้า” หลิวเก้อพูดต่อจนกระทั่งเสียงแหบแห้ง หลังจากคําพูดสุดท้ายของตัวเขา หลิวเก้อก็หยุดเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันเลือดได้ไหลออกมาจากรูทวารทั้งเจ็ด น้ําตาได้ไหลรินมาจากดวงตาบนใบหน้า
ลูโจวไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ ตัวเขาจ้องมองหลิวเก้ออย่างเย็นชา
“นี่ข้าผิดอะไร?”
เกิดความเงียบไปชั่วขณะ
หลิวเก้อดูเหมือนจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ ตัวเขาหัวเราะก่อนที่จะเอามือไขว้หลัง “พี่จีช่วยสงเคราะห์ข้าจะได้ไหม?”
“คริสตัลอยู่ที่ไหน?”
“ท่านควรไปถามจากพวกราชวงศ์ของลั่วหลาน…”
“ย่อมได้ ข้าจะเติมเต็มความปรารถนาของเจ้าเอง!” สู่โจวได้ใช้พลังฝ่ามืออีกครั้ง
พลังฝ่ามืออันใหญ่ยักษ์ได้ตกลงจากท้องฟ้า
หลิวเก้อได้ยืนหยัดสมชายชาตรี ตัวเขายิ้มพร้อมยอมรับพลังฝ่ามือ “ข้าหวังว่าชาติหน้าพวกเราจะกลายเป็นพี่น้องกันอีกครั้ง!”
ตุ้ม!
ฝามือสละปัญญาได้ปะทะเข้ากับร่างกายของหลิวเก้อ ร่างของเขาแหลกสลายไปตามสายลม
“ติ้ง! สังหารเป้าหมายสําเร็จ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 2,000”
ในขณะเดียวกัน
หวางซื่อเจียและภู่ยี่หรานได้ต่อสู้กันจนไปถึงทิศตะวันตกของภูเขาทอง ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาต่อสู้กันนานแค่ไหนแล้ว
ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต่อสู้กันจนใกล้ที่จะหมดพลังเต็มที
ในตอนนี้ทั้งสองคนกําลังยืนเผชิญหน้ากันอยู่
คู่ยี่หรานจ้องไปที่หวางชื่อเจียก่อนจะพูดออกมา “หวางซื่อเจีย เจ้าก็แค่คนแก่เท่านั้น ข้าสาบานว่าข้าจะฆ่าเจ้าในวันนี้เอง”
หวางซื่อเจียนั่งลงบนพื้นก่อนจะหัวเราะออกมา “โอ้ จริงๆ อย่างงั้นเหรอ?”
“เจ้า” ภู่ยี่หรานพยายามเหยียดร่างกายตรง ตัวเขาได้พูดออกมาอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นเจ้าเกาะแต่ทําตัวราวกับพวกอันธพาล ช่างน่าละอายซะจริง ข้าน่ะละอายแทนลูกเกาะของเจ้า!”
“ข้าจะบอกเจ้าตามจริง ข้าน่ะได้เรียนรู้เรื่องนี้มาจากสาวกของข้าเอง…ผู้ที่หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีมากไปจะอยู่ไม่ได้นาน ท่าทางของเจ้าเหนื่อยไม่ใช่เล่นนิ? เจ้าคงจะเหนื่อยแล้วสินะ…แต่ข้าไม่ข้าจะเป็นคนจัดการเจ้าเอง!”
“ข้าเองก็เช่นกัน! ข้าจะเป็นคนสังหารตาแก่เลอะเลือนแบบเจ้าเอง!” คู่ยี่หรานได้กระทืบเท้าก่อนที่จะประสานฝามือเข้าหากัน ตัวเขาได้ปลดปล่อยคลื่นพลังแผ่สวรรค์ออกมาจากตัว