My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 544
ตอนที่ 544 แม้หลับตา
ติดตามข่าวสารได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย
ในที่สุดหลิวเก้อก็เริ่มออกเคลื่อนไหว ตัวเขาที่เคลื่อนไหวไม่ต่างอะไรจากสายฟ้าที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ในอากาศ ดาบของหลิวเก้อไม่ได้ดูเปี่ยมไปด้วยพลังแต่อย่างใด ในขณะที่เขาเคลื่อนที่มันไม่ได้ส่องแสงสีแดงอย่างโดดเด่นออกมาเท่าไหร่
เนื่องจากทั้งสามคนจะต้องต่อสู้กันในระยะประชิด เพราะความวุ่นวายจึงไม่มีใครสังเกตเห็นดาบที่หลิวเก้อถือมาด้วย
หลิวเก้อพุ่งผ่านคู่ยี่หรานและขู่เฉิงไปราวกับดาวตก ตัวเขากำลังพุ่งไปหาหวางชื่อเจียอย่างรวดเร็ว
แคลึง!
ดาบแห่งความว่างเปล่าได้เข้าปะทะกับร่มสีดำ
ในตอนนั้นเองเกิดระเบิดพลังอันมหาศาลขึ้น
ทั้งสามคนต่างก็ถูกพลังอันแปลกประหลาดกระแทกจนถอยกลับมา
ที่ร่มสีดำเริ่มได้รับความเสียหาย หวางชื่อเจียที่เห็นร่มสีดำถูกเจาะทะลุหนาวไปถึงกระดูก การโจมตีในครั้งนี้สามารถเจาะผ่านพลังการป้องกันอย่างเต็มรูปแบบของเขาได้
ตุ้ม!
หวางซื่อเจียกระเด็นกลับมา
ร่มสีดำกระเด็นกลับมา
“เก้ากลีบอย่างงั้นเหรอ?” หวางชื่อเจียมองไปที่ร่มสีดำที่กระเด็นกลับมาอย่างตื่นตระหนก ไม่นานนักตัวเขาก็ได้กระอักเลือดออกมา การโจมตีที่ทำให้หวางซื่อเจียสามารถบาดเจ็บได้ภายในครั้งเดียวทำให้ตัวเขาอดคิดไม่ได้ว่าศัตรูจะเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ
ซูเฉิงและกู่ยี่หรานต่างก็ยืนนิ่ง พวกเขากำลังทักทายให้กับหลิวเก้อ “ฝ่าบาท”
เมื่อทั้งสองคนเห็นดาบแห่งความว่างเปล่าในมือของหลิวเก้อ ในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่ากล่องใบนั้นบรรจุดาบเอาไว้
“ข้าหวังว่าเจ้าจะต้านทานการโจมตีจากดาบข้าได้นะ” หลิวเก้อได้โคจรพลังลมปราณไปที่ดาบแห่งความว่างเปล่า ดาบเล่มนั้นกำลังสั่นสะเทือนด้วยตัวเอง
เมื่อหวางซื่อเจียมองเห็นดาบในมือของหลิวเก้อ หัวใจของเขาก็เริ่มสิ้นหวัง หวางซื่อเจียสัมผัสได้ถึงลางร้ายที่กำลังเพิ่มมากขึ้น
หมิงหยินที่เห็นการต่อสู้ดูจะเป็นกังวลเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วตัวเขาก็เป็นคนที่เรียกหวางซื่อเจียมาก ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับหวางชื่อเจียจริง ตัวเขาจะไปอธิบายเรื่องนี้ให้กับผู้เป็นอาจารย์ฟังได้ยังไงกัน?
ตุ้ม!
เกิดเสียงระเบิดดังมาจากทิศที่ศาลาปีศาจลอยฟ้าตั้งอยู่
ทุกๆ คนต่างก็จ้องมองไปทางนั้น
มันเป็นเสียงที่มาจากห้องลับ สู่โจวที่ถูกแสงสีฟ้าจางๆ ปกคลุมร่างกายได้พุ่งชนเพดานของห้องลับก่อนที่จะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ตัวเขาที่ลอยขึ้นมายังคงนั่งปิดตาทำสมาธิอยู่
“ท่านอาจารย์?”
“ปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าออกมาจากการเก็บตัวฝึกฝนแล้ว?”
สาวกของศาลาปีศาจลอยฟ้าต่างก็เงยหน้าขึ้นมอง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?”
ไม่มีใครเข้าใจเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดได้เลย
หลิวเก้อหยุดเคลื่อนไหวชั่วขณะก่อนที่จะมองไปทางสู่โจว
ชูเฉิงและกู้ยี่หรานเองก็มองไปทางสู่โจวเช่นกัน
เมื่อจู่โจวปรากฏตัว ผู้อาวุโสทั้งสี่ของศาลาปีศาจลอยฟ้าต่างก็ปรากฏตัวออกมาจากศาลาก่อนที่จะเหลือบมองขึ้นมา
สาวกคนอื่นๆ เองก็บินขึ้นมาจากศาลาทางใต้ก่อนที่จะเฝ้ามองจากในระยะไกล
หลิวเก้อเก็บดาบแห่งความว่างเปล่าเอาไว้ที่ด้านหลังก่อนที่จะคารวะให้กับลูโจว “พี่จี พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ”
“ผู้อาวุโสจี” ขู่เฉิงและกู้ยี่หรานต่างก็โค้งคำนับเช่นกัน
ทว่าดวงตาของลูโจวยังคงปิดอยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยินอะไรในที่ทั้งสามคนพูดเลย
หลิวเก้ออยู่ลอยอยู่ในระดับเดียวกับลูโจว ตัวเขายังคงเหลือบมองไปที่ลูโจว
ลูโจวไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
หลิวเก้อได้พูดซ้ำสอง “พี่จี พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ”
สู่โจวยังคงนิ่งเงียบ
ซูเฉิงได้พูดออกมาเบาๆ “ฝ่าบาท ได้โปรดระวังตัวด้วย”
ทันใดนั้นเองคู่ยี่หรานก็ได้ยกฝ่ามือก่อนที่จะปล่อยพลังฝ่ามือไป
พลังฝ่ามือพุ่งเข้าหาสู่โจวในทันที
ตุ้ม!
พลังฝ่ามือที่โจมตีไปกระจัดกระจายก่อนที่จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“หืม?”
เกิดอะไรขึ้นกัน?
คู่ยี่หรานงุนงง ตัวเขามองกลับไปหาหลิวเก้อก่อนจะพูดออกมา “ฝ่าบาท ข้าก็แค่พยายามไต่ถามผู้อาวุโสจีเท่านั้น ได้โปรดประทานอภัยให้ข้าด้วย”
“ไต่ถาม?” หลิวเก้อมองไปที่กู้ยี่หราน “ถ้าหากเจ้ายังคงทำอะไรเห็นแก่ตัวอีก ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าอีก”
หลังจากที่คู่ยี่หรานได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อ “ข้าน้อยไม่กล้า!”
นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับศึกภายใน
หลิวเก้อมองไปที่ลูโจวที่กำลังนั่งอยู่บนกลางอากาศ ที่ร่างกายของเขายังคงถูกแสงสีฟ้าจางๆ ปกคลุม
“ขอแสดงความยินดีด้วยที่พี่จีออกจากการเก็บตัวฝึกฝน” คำพูดของหลิวเก้อครั้งนี้เจือไปด้วยพลังลมปราณ คลื่นเสียงในทุกๆ คำของหลิวเก้อได้กระทบเข้ากับแสงสีฟ้าจางๆ
พลังคลื่นเสียงของหลิวเก้อถูกหักล้างไปในทันที! มันไม่มีผลอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
“ท่านอาจารย์ใช้วิชาอะไรกัน?” ดวงตาของซูฮ่องกงเบิกกว้าง ในตอนนี้ตัวเขากำลังเฝ้ามองลู่โจวอยู่ที่ศาลาทางใต้
“น่ามันเป็นวิชาการป้องกันตัวที่คล้ายกับพลังพุทธองค์กายาทองคำ แต่ข้าไม่เคยเห็นวิธีการแบบนี้มาก่อน”
ลูโจวยังคงไม่ได้สติ
เพื่อให้ได้มาซึ่งพลัง พลังที่จะทำให้ได้ยินทุกสรรพสิ่ง พลังที่ทำให้ได้ยินเสียงจากทุกดินแดน
นี่คือพลังแรกของคัมภีร์โลกา พลังหูสวรรค์กระจ่าง
พลังที่สามารถใช้กรองเสียงทุกอย่างได้ เสียงของโลกภายนอกจะถูกสกัดกั้นโดยสมบูรณ์ แน่นอนว่ามันรวมถึงวิชาคลื่นเสียงด้วย
สีหน้าของหลิวเก้อดูจริงจังมากกว่าเดิม “อย่างที่คิดไว้ พี่จีมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ”
ลูโจวเคยใช้พลังของเขาเพื่อเปิดการใช้งานชุดเกราะในก่อนหน้านี้มาก่อน เห็นได้ชัดว่าพลังวิเศษของเขามันอยู่เหนือพลังของผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ ไม่น่าแปลกเลยที่หลิวเก้อเองจะเห็นตรงกัน
หลิวเก้อพูดต่อ “ถ้าหากเป็นแบบนั้นจริง ท่านต้องยกโทษให้ข้าด้วยพี่จี เพื่อความปลอดภัยและความสงบสุขของโลกใบนี้ ข้ายินดีที่จะต้องถูกสาปแช่งก็เพราะต้องทรยศต่อพี่!”
หรืออ! หรืออ! หรืออ!
ดาบแห่งความเงียบสั่นอยู่ในมือหลิวเก้อ
ชูเฉิงและกู่ยี่หรานต่างก็จ้องมองหลิวเก้อย่างมีความหวัง เป็นธรรมดาที่ทุกคนจะอยากรู้ว่าหลิวเก้อจะโจมตีผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบด้วยวิธีการแบบไหน
หลิวเก้อพลิกมือข้างขวาก่อนที่จะใช้ดาบแห่งความเงียบขี้เข้าหาลู่โจว ในตอนนั้นเองพลังจากดาบก็พวยพุ่งออกมา
พรึบ!
สีหน้าของหลิวเก้อยังคงดูเคร่งขรึม ในตอนที่คลื่นพลังจากดาบพุ่งไปที่หน้าอกของลูโจวหลิว เก้อยังคงเฝ้ามองการโจมตีอย่างเยือกเย็น
สาวกของศาลาปีศาจลอยฟ้า ผู้อาวุโส ผู้ฝึกยุทธหญิง รวมไปถึงหวางชื่อเจียต่างก็เบิกตากว้างทุกคนต่างก็ร้องออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ท่านอาจารย์!”
“ท่านปรมาจารย์!”
“พี่จี!”
คลื่นพลังดาบดูเหมือนจะสามารถฟาดฟันได้แม้แต่กาลเวลา มันได้แล่นผ่านไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว มันรวดเร็วราวกับสายฟ้าก่อนที่จะเข้ามาใกล้สู่โจว
ตุ้ม!
คลื่นพลังดาบได้มาบรรจบกับแสงสีฟ้า
หลิวเก้อกระเด็นกลับไปซะเอง ตัวเขากระเด็นกลับไปก่อนที่จะตั้งหลักได้อีกครั้ง หลิวเก้อทึ่งหลักได้ยืนขึ้นก่อนที่จะเรียกดาบแห่งความเงียบกลับมา ดวงตาของเขาเบิกกว้างก่อนที่จะเหลือบมองไปยังลูโจว “พี่จีปัดป้องดาบแห่งความเงียบได้?”
เมื่อหลิวเก้อยังครองบัลลังก์ ในตอนนั้นตัวเขาได้ทดสอบพลังของดาบแห่งความเงียบอย่างลับๆ ตัวเขามั่นใจมากว่าดาบแห่งความเงียบสามารถทำลายอาวุธระดับสรวงสวรรค์ได้ ตั้งแต่นั้น เป็นต้นมาหลิวเก้อก็เก็บความลับของดาบแห่งความเงียบมาโดยตลอดดาบก็คือไพ่ตายของตัวเขา สุดยอดฝีมือลึกลับเคยว่าเอาไว้ในโลกใบนี้ไม่ควรจะมีผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบเมื่อผู้มี พลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบปรากฏขึ้น หลิวเก้อก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะใช้ดาบเล่มนี้เข้าหยุดยั้ง สุดยอดฝีมือผู้ลึกลับได้ทิ้งมนต์สะกดที่จะสามารถกระตุ้นเขตแดนพลังสีแดงบนดาบแห่งความเงียบเอาไว้ให้
หลิวเก้อมองไปที่ลวดลายสีแดงบนดาบ ตัวเขาไม่คิดลังเลอีกต่อไป
เพื่อชาวเมืองทุกคน เพื่อดินแดนหยาน เพื่อราชสำนัก หลิวเก้อไม่สามารถปล่อยให้ผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบมีชีวิตอยู่ต่อได้!
หลิวเก้อโจมตีอีกครั้ง ครั้งนี้ตัวเขาใช้ดาบผ่าไปที่กลางอากาศ
เมื่อคลื่นดาบเข้ามาใกล้ลูโจว พลังงานสีฟ้าก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง มันก่อตัวเป็นม่านพลังรอบตัวของลูโจว
ตุ้ม! ตุ้ม! ตุ้ม!
หลิวเก้อเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ตัวเขาไปทางซ้ายและขวาก่อนที่จะทิ้งภาพติดตาเอาไว้ การเคลื่อนที่ของเขารวดเร็วจนเกือบจะมองตามไม่ทัน ทุกครั้งที่เคลื่อนไหวหลิวเก้อจะปลดปล่อยคลื่นดาบพลังงานใส่พลังสีฟ้า
ตุ้ม! ตุ้ม! ตุ้ม!
คลื่นดาบพลังงานถาโถมเข้าใส่ลูโจวราวกับพายุเฮอริเคน! ทุกครั้งที่เคลื่อนไหว หลิวเก้อก็รวดเร็วขึ้น
ภาพที่ได้เห็นทำให้ทุกคนนึกถึงดาบปีศาจ ยู่ฉางดง
“ฝ่าบาท.” ขู่เฉิงกลืนน้ำลาย
ยี่หรานที่ดูการต่อสู้อยู่พูดออกมา “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฝ่าบาทจะกล้ามาถึงที่นี่”
ในตอนนั้นเองหลิวเก้อก็หยุดเคลื่อนไหวก่อนที่จะโฉบลงต่อหน้าลูโจว ตัวเขาที่โฉบลงมามาพร้อมกับดาบแห่งความเงียบ ที่ปากของหลิวเก้อกำลังท่องมนต์อะไรบางอย่าง
ลวดลายสีแดงบนดาบส่องสว่างมากขึ้น
หลิวเก้อรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ตัวเขาจับจ้องไปที่ลูโจวที่กำลังนั่งทำสมาธิอยู่บนกลางอากาศหลิวเก้อที่เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วได้กู้ร้องออกมาด้วยเสียงอันลึกล้ำ “ตายซะ!”
ดาบแห่งความเงียบที่มีอยู่ในมือขยายใหญ่ พลังงานที่ขยายใหญ่ได้ฟาดฟันลงบนพลังสีฟ้า!
ตูม!
ระลอกคลื่นจากการปะทะได้กระเพื่อมออกมาสู่ด้านข้าง
ตุ้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตุ้ม!
ในชั่วพริบตาหลิวเก้อ ซูเฉิง และคู่ยี่หรานต่างก็ถูกคลื่นกระแทก ทั้งสามคนกระเด็นกลับมา
เนื่องจากหลิวเก้อเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมากที่สุด เพราะแบบนั้นตัวเขาจึงถูกผลกระทบจากคลื่นกระแทกเข้าอย่างจัง หลิวเก้อกระอักเลือดออกมาในขณะที่กระเด็นกลับ
ทั่วทั้งภูเขาทองกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง
ดาบพลังงานขนาดใหญ่ได้หายไปเช่นกัน
ดาบแห่งความเงียบกระเด็นกลับมาอย่างช้าๆ ท้ายที่สุดแล้วมันก็กระทบเข้ากับม่านพลัง
ลวดลายสีแดงของมันเริ่มจางลง
เมื่อเห็นแบบนั้นหลิวเก้อก็รู้สึกสับสน ตัวเขาทั้งสับสนและหวาดกลัว ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้นจนจบ สู่โจวไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยซ้ำ ตัวเขาไม่แม้แต่จะป้องกันตัวเอง บางที่ลูโจวอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป ไม่มีใครสามารถทำให้ลูโจวขยับได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ความคิดของหวางซื่อเจียเต็มไปด้วยความสับสน ตัวเขาได้แต่ยืนมองการต่อสู้จากในระยะไกล “ถ้าหากพี่จีจะแข็งแกร่งถึงขนาดนั้น แล้วข้าจะมาทำไมกัน?” ตัวเขาตัดสินใจที่จะเฝ้ามองต่อ
ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสทั้งสี่ของศาลาปีศาจลอยฟ้าต่างก็อ้าปากค้าง พวกเขาอ้าปากค้างจนรู้สึกว่าปากของตัวเองกำลังเดือดแห้ง
“ท่านปรมาจารย์ไม่ได้เคลื่อนไหวเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ตาของเขายังคงปิดอยู่ด้วยซ้ำ”
“ หรือว่าเขาจะหลับอยู่กัน?”
“ข้าไม่เคยยอมใครมาก่อนในชีวิต ท่านปรมาจารย์เท่านั้นที่ข้าจะยอมจำนนให้”