cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 328

  1. Home
  2. All Mangas
  3. My Disciples Are All Villains
  4. ตอนที่ 328
Prev
Next

น้ำตกตามธรรมชาติได้ไหลตกมาตามแรงโน้มถ่วง แสงของดวงตะวันที่ทอแสงระยิบระยับกำลังจะหมดลง

 

ในตอนนี้ลู่โจวกำลังนั่งอยู่บนรถม้า ตัวเขานั่งลูบเคราในขณะที่นั่งชมวิวทิวทัศน์ในขณะที่เดินทาง

 

รถม้าลอยฟ้าลอยส่ายไปส่ายมา แต่ถึงแบบนั้นอุปสรรคเพียงเท่านี้ก็ไม่อาจทำให้ลู่โจวหยุดชมวิวทิวทัศน์ได้

 

รถม้าลอยฟ้าได้บินเข้ามาใกล้ยอดเขาเมฆากระจ่างในตอนที่แสงอาทิตย์หมดไป “ท่านผู้อาวุโส พวกเราถึงหุบเขาเมฆากระจ่างแล้ว ข้าคิดว่าลูกศิษย์ของท่านจะต้องปรากฏตัวในอีกสองวันข้างหน้าแน่” ต้วนชิงได้เดินมาพูดกับลู่โจวจากทางด้านหน้า

 

“พวกเรามาถึงแล้วอย่างงั้นสินะ?”

 

ต้วนชิงเกาหัว ‘นี่มันจะเร็วเกินไปรึเปล่า? แต่พวกเราก็เดินทางมานานแล้ว เดินทางมาจนพระอาทิตย์ตกดินไปซะด้วยซ้ำ…’ อันที่จริงการเดินทางจะต้องเร็วกว่านี้มากถ้าหากทุกคนมาที่นี่ด้วยตัวเอง ในท้ายที่สุดต้วนชิงก็ตัดสินใจที่จะตอบกลับมาเพื่อเอาหน้า “ข้าได้ควบคุมพังงารถม้าเป็นการส่วนตัวเองท่านผู้อาวุโส ข้าไม่อยากให้ท่านเสียเวลามากไปก็เลยเร่งความเร็วมาน่ะ…”

 

ลู่โจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ตัวเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่กลับโบกแขนอย่างหงุดหงิดแทน

 

ต้วนชิงรู้สึกอึดอัดใจ ตัวเขากำลังสงสัยว่าทำอะไรผิดไปรึเปล่า ตัวเขาไม่ได้พูดในระหว่างการเดินทางเลยเพราะกลัวว่าจะรบกวนลู่โจวที่กำลังเพลิดเพลินไปกับการชมทิวทัศน์ แต่ถึงแบบนั้นท้ายที่สุดแล้วลู่โจวก็ยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ดี

 

ลู่โจวได้ลุกขึ้นยืนก่อนที่จะจ้องมองไปยังยอดเขาเมฆากระจ่าง ในตอนนั้นเองภาพจินตนาการอะไรบางอย่างจากส่วนลึกในจิตใจของเขาก็ได้ปรากฏขึ้นมา “วิหารเมฆาของเหล่าแม่ชี” ลู่โจวได้เหลือบมองไปยังใจกลางหุบเขา ตัวเขาเกือบจะลืมไปแล้วว่าวิหารเมฆาของเหล่าแม่ชี้ถูกสร้างขึ้นมาที่นี่ วิหารอยู่ห่างจากเมืองหลวงทางตอนเหนือกว่า 1,000 ไมล์ด้วยกัน ที่แห่งนี้เป็นที่ที่เงียบสงบและยังดูโดดเดี่ยวเหมาะที่สำหรับฝึกฝนตน บางทีทั้งนักบวชกับเหล่าแม่ชีผู้ก่อตั้งเดิมอาจจะไม่ได้สนใจเรื่องทางโลกจริงๆ

 

“ท่านผู้อาวุโสยังความรู้กว้างขวางไม่เปลี่ยน วิหารแห่งนี้ถูกเรียกว่าวิหารเมฆา มันเป็นวิหารที่จะมีแต่แม่ชีอาศัยอยู่” ต้วนชิงพูดเสริม หลังจากนั้นตัวเขาก็ครุ่นคิดถึงการหาที่พักพิงอย่างวิหารเมฆา แต่ถึงแบบนั้นที่แห่งนั้นก็มีเพียงแต่แม่ชี มันคงจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่ผู้ชายอย่างเขาจะเข้าพักที่นั่น

 

ผู้ฝึกยุทธที่แท้จริงต้องสามารถค้างคืนได้ในทุกๆ ที่ สถานที่ไม่ได้มีความหมายอะไรกับเหล่าผู้ฝึกยุทธมากนัก เนื่องจากร่างกายของพวกเขาทั้งแข็งแกร่งและสามารถทนต่อความหนาวเย็นได้ การที่จะสามารถพักผ่อนที่ไหนก็ได้ไม่เว้นแต่กิ่งไม้ก็ยังเป็นเรื่องที่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

 

“ลดระดับซะ” ลู่โจวพูดออกมาอย่างห้วนๆ

 

“ลดระดับรถม้าเร็วเข้า” ต้วนชิงรีบสั่งการเพื่อเอารถม้าลง

 

ที่บริเวณนี้ไม่มีร่องรอยอารยธรรมใดในขอบเขตกว่า 100 ไมล์โดยรอบเลย มีเพียงวิหารเมฆาและต้นไม้สูงตั้งอยู่เท่านั้น

 

เมื่อรถม้าลอยเข้าสู่ป่า ทุกๆ คนก็ไม่อาจที่จะเห็นท้องฟ้าอีกต่อไป ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้หนาทึบ

 

ลู่โจวได้ฟื้นพลังพิเศษส่วนหนึ่งในระหว่างที่พักผ่อนอยู่บนรถม้าลอยฟ้ามาแล้ว ตัวเขาที่ไม่มีธุระอะไรกับรถม้าลอยฟ้าอีกจึงกระโดดลงจากมัน

 

คนอื่นๆ เองก็เช่นกัน เหลือเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่รับหน้าที่คุ้มกันรถม้าลยอฟ้า ไม่นานหลังจากนั้นลู่โจวและคนอื่นๆ ก็อยู่ที่ด้านนอกวิหารเมฆา

 

ต้วนชิงได้อาสาช่วยเหลือลู่โจวออกมา “ข้าน้อยจะเป็นคนเคาะให้เอง” ตัวเขาได้เคาะประตูของวิหารเมฆาอย่างแข็งขัน

 

ประตูวิหารเปิดออก มีแม่ชีชราคนหนึ่งได้เดินออกมา

 

“เป็นเจ้านี่เอง?” ลู่โจวจำแม่ชีคนนั้นได้

 

เสวียงจิ้งสะดุ้ง นางได้เหยียดฝ่ามือออกมาก่อนที่จะโค้งคำนับไปในทันที “ท่านผู้อาวุโสจี…ได้โปรดอภัยสำหรับการต้อนรับของข้าที่หละหลวมแบบนี้ด้วย ข้าไม่คิดว่าท่านจะเดินทางมาไกลถึงที่นี่ด้วยตัวเองแบบนี้” นางรีบเปิดประตูของวิหารจนสุด

 

ลู่โจวรู้สึกงุนงง ‘ในวิหารเมฆานี่ไม่มีใครคนอื่นๆ เหลืออีกแล้วอย่างงั้นหรอไงกัน? ทำไมเจ้าวิหารแม่ชีเสวียงจิ้งถึงได้ออกมาเปิดประตูวิหารเป็นการส่วนตัวกันแน่?’ ลู่โจวได้จ้องมองไปยังลานกว้างที่อยู่ด้านใน มันเต็มไปด้วยวัชพืชรกร้างรวมไปถึงใบไม้แห้ง ดูเหมือนว่าที่นี่จะถูกทิ้งร้างก็ไม่ผิด “เชิญทางนี้ท่านผู้อาวุโส”

 

เมื่อเข้ามาในลานวิหาร ลู่โจวก็ได้ถามออกมา “เจ้าอยู่ที่นี่คนเดียวอย่างงั้นสินะ?”

 

“วู่เหนียนได้จากไปนานแล้ว ในตอนนี้ข้าจึงเป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในวิหารเมฆาแห่งนี้” เสวียงจิ้งได้ตอบกลับมาพร้อมกับพนมมือ

 

ลู่โจวลูบเคราพลางพยักหน้าไปด้วย ‘ถ้าหากเป็นแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน แม่ชีที่อยู่คนเดียวคงจะไม่มีกฎเกณฑ์วุ่นวายอะไร’

 

สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่มากพอที่จะให้ผู้อยู่อาศัยได้พักพิง “ข้าจะอยู่ที่นี่สักสองสามวัน” ลู่โจวได้พูดออกมา

 

เมื่อได้ยินแบบนั้นเสวียงจิ้งเลยกล่าวออกมา “ท่านผู้อาวุโส เชิญทางนี้…” แม่ชีคนนี้ไม่มีเวลาที่จะช่วยเหลือคนอื่นๆ แม้ว่านางจะเป็นเจ้าของที่นี่แต่นางก็มีแค่ตัวคนเดียวเท่านั้น

 

ต้วนชิงได้แต่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ตัวเขามองไปที่สหายที่อยู่ข้างกายของตน ‘ไม่ต้องมองมาที่ข้า ช่วยไม่ได้ที่นี่ไม่มีแม่ชีหลงเหลืออีกแล้ว ไปเก็บกวาดด้วยตัวเองซะ’

 

ลู่โจวได้เดินตามเสวียงจิ้งไปยังห้องที่แสนจะเงียบสงบ สถานที่แห่งนี้ดูสะอาดสะอ้านเหนือกว่าห้องอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด

 

เสวียงจิ้งได้พูดต่อ “ทางนี้”

 

ลู่โจวพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย หลังจากนั้นตัวเขาก็เดินเข้าไปในห้องพร้อมกับเอามือไขว้หลัง

 

สภาพแวดล้อมภายในห้องทั้งมีเอกลักษณ์และดูสวยงาม มันมีชั้นหนังสือรวมไปถึงโต๊ะตัวใหญ่ตั้งอยู่ รอบห้องเองก็มีหน้าต่างทรงกลมที่จะทำให้ลู่โจวมองเห็นทัศนียภาพเหนือหุบเขาเมฆากระจ่างได้ “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นเพราะท่านผู้อาวุโสได้เปิดหูเปิดตาอดีตเจ้าวิหารของพวกเรา และเพราะแบบนั้นนางจึงได้สร้างห้องแห่งนี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะฝึกฝนตนเอง” เสวียงจิ้งพูดออกมา

 

จีเทียนเด๋าและแม่ชีแห่งวิหารเมฆาเคยได้พบปะพูดคุยกันมาก่อน ทั้งสองได้เฝ้ามองดวงจันทร์บนหุบเขาสีม่วง และยังได้เฝ้ามองปลาในทะเลสาบร้อยกลีบอีกด้วย เมื่อลู่โจวนึกออกตัวเขาก็ได้แต่ส่ายหัวพลางถอนหายใจออกมา “จิงหยานเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์มาก แต่น่าเสียดาย นางน่ะเป็นคนที่มีความคิดที่ฟุ้งซ่านมากไปหน่อย”

 

“ท่านพูดถูกแล้วท่านผู้อาวุโส ท่านอาจารย์เองก็พูดเกี่ยวกับตัวเองเช่นนั้นเหมือนกัน”

 

“นางตายได้ยังไงกัน?”

 

“ท่านอาจารย์ของข้าได้ใช้ชีวิตของตัวเองไปถึงอายุขัยที่มีอยู่อย่างจำกัดแล้ว ท่านได้ตายจากไปในสองศตวรรษก่อน…” เสวียงจิงได้ส่ายหัวพลางถอนหายใจออกมา

 

ลู่โจวที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ใช้ความคิด โดยปกติแล้วผู้ฝึกยุทธขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์จะสามารถอยู่ได้ถึง 600 ปีด้วยกัน แต่ถ้าหากคนคนนั้นสามารถฝึกฝนตัวเองจนมีพลังอวตารที่ผลิกลีบดอกบัวขึ้นมาได้อายุของคนคนนั้นก็จะเพิ่มกลีบละ 50 ปี ไม่เคยมีใครฝึกฝนตัวเองจนมีดอกบัวเก้ากลีบมาก่อน และเพราะเหตุนั้นเองจึงไม่มีใครที่เอาชนะขีดจำกัดของอายุขัย 1,000 ปีที่มีมานานนี้ได้ มันเป็นขีดจำกัดที่ยากเกินกว่าจะข้ามผ่าน

 

ถ้าหากผู้ฝึกยูทธไม่ได้รนหาที่ตายเองก็คงจะสามารถอยู่ได้ถึง 900 ปีหรืออาจจะอยู่ได้ถึง 1,000 ปีบวกลบนิดหน่อย เหตุใดกันขีดจำกัดของอายุขัยถึงมีเท่านี้กันแน่?

 

“ท่านอาจารย์ของข้าพยายามก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดฝึกฝนตัวเองเพื่อที่จะมีอวตารดอกบัวเก้ากลีบ แต่สุดท้ายนางก็ล้มเหลวไป ด้วยเหตุนี้ทำให้นางสูญเสียแก่นแท้ชีวิตและเลือดจนเสียชีวิตไปในที่สุด” เสวียงจิ้งได้ตอบกลับมา

 

ลู่โจวลูบเคราก่อนที่จะพยักหน้า “เก้ากลีบอีกแล้วสินะ” ตัวเขาจำได้ดีว่าอัจฉริยะแห่งดาบจากเมืองหลวงทางตอนเหนือหยวนดู่เองก็พบกับขีดจำกัดแบบนี้เช่นกัน ชายคนนั้นได้พูดแบบเดียวกันก่อนที่ตัวเขาจะเสียชีวิตไป ในความเป็นจริงการที่ใครสักคนสูญเสียแก่นแท้ชีวิตและเลือดไป คนคนนั้นก็จะสูญเสียอายุขัยไปด้วย

 

ไม่ว่าจะมีขีดจำกัดอยู่แต่ตามกฎทั่วไปของวิถีแห่งการฝึกยุทธ สิ่งที่เรียกว่าอายุขัยจะสามารถเพิ่มได้ตามระดับพลังของผู้ที่ฝึกฝนตน แล้วเหตุใดกัน การที่จะฝึกฝนตัวเองเพื่อไปถึงขั้นที่เก้ากลับทำให้ชีวิตของคนคนนั้นสั้นลงแทน?

 

“ก่อนที่ท่านอาจารย์จะจากไป นางได้เตือนทุกคนว่าไม่ให้ใครฝึกฝนตัวเองเกินไปกว่าขั้นที่แปดได้ คนที่ริอาจทำแบบจะต้องจบชีวิตในแบบเดียวกัน” เสวียงจิ้งได้พูดเสริม

 

“ในครั้งสุดท้ายที่ข้าได้คุยกับนางก่อนจะจากกัน ในตอนนั้นนางก็ยังดื้อรั้นอยากที่จะฝึกฝนตัวเองไปให้ถึงขั้นที่เก้าให้จงได้…” ลู่โจวได้พูดออกมาอย่างเวทนา

 

“ตอนนี้ท่านอยู่ที่จุดสูงสุดของอวตารดอกบัวแปดกลีบมานานมากแล้วผู้อาวุโสจี…ท่านย่อมมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้และจะต้องเข้าใจมันมากกว่าอาจารย์ของข้าแน่”

 

ลู่โจวไม่ได้พูดอะไร สิ่งที่เสวียงจิ้งได้พูดออกมามีเหตุผล เนื่องจากจีเทียนเด๋าได้อยู่ในจุดสูงสุดของผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบมานานแล้ว ลำพังจีเทียนเด๋าเองก็คงจะพยายามก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดไปให้ได้ด้วยเช่นกัน หรือนั่นจะเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้จีเทียนเด๋าต้องตาย?

 

“พักผ่อนให้สบายเถอะท่านผู้อาวุโส ข้าน้อยขอลา” เมื่อเสวียงจิ้งเห็นลู่โจวกำลังจมอยู่ในความคิด นางก็ไม่อยากที่จะรบกวนอีกต่อไป นางได้คารวะลู่โจวก่อนที่จะกล่าวคำอำลา

 

ลู่โจวยังคงใช้ความคิดของตัวเองต่อไป จะมีผู้ฝึกยุทธที่มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบที่อดทนไม่ให้ตัวเองฝึกฝนตัวเองไปถึงอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้จริงๆ อย่างงั้นหรอ?

 

ลู่โจวจำการ์ดพลังชีวิตที่ตัวเขามีได้ ถ้าหากความพยายามทำให้ตัวเองข้ามผ่านจนมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบจะทำให้อายุของตัวเขาสั้นลงจริงๆ ลู่โจวเองก็ยังมีการ์ดพลังชีวิตอยู่ดี นั่นหมายความว่าในตอนนี้ตัวเขาไม่เหมือนกับคนอื่นๆ อีกต่อไป บางทีลู่โจวอาจจะเป็นคนแรกที่สามารถฝึกฝนตัวเองจนมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบก็เป็นได้

 

ลู่โจวได้คิดเรื่องนี้สักพักผ่อนที่จะส่ายหัวละทิ้งความคิดที่มี ‘ในตอนนี้ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันจะต้องฟื้นฟูพลังของตัวเองให้ได้ซะก่อนก่อนที่จะคิดหาวิธีการจับศิษย์ทรยศทั้งสามกลับมาให้ได้’

 

ลู่โจวจำเป็นจะต้องพักที่นี่ต่อไปอีก 5 วันด้วยกัน ตัวเขาได้แต่หวังว่ายู่เฉิงไห่และยู่ฉางตงจะไม่ปรากฏตัวออกมาเร็วจนเกินไป ในตอนนี้การ์ดทั้งหมดของเขายังติดคูลดาวน์อยู่ ถ้าหากการ์ดของเขายังเป็นอยู่แบบนี้สิ่งเดียวที่ลู่โจวจะพึ่งพาได้นั่นก็คือพลังพิเศษที่ได้จากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์เท่านั้น

 

เมื่อคิดแบบนั้นลู่โจวก็เดินไปที่เตียงก่อนที่จะนั่งลง ตัวเขาจ้องมองภาพทะเลสาบร้อยกลีบที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์ก่อนที่จะหลับตาทำสมาธิ

 

ณ ยามราตรี ใกล้ๆ กับทะเลสาบร้อยกลีบ

 

ค่ำคืนนี้ดวงจันทร์ได้ส่องสว่างก่อนที่จะสะท้อนเข้ากับสายน้ำของทะเลทสาบแห่งนี้

 

ยู่ฉางตงกำลังแทงดาบยืนยาวลงบนพื้นก่อนที่จะเอามือวางบนด้ามจับของมัน ตัวเขาได้ถอนหายใจก่อนที่จะพูดออกมา “หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ข้าควรที่จะปกปิดตัวตนของตัวเองก่อนที่จะทิ้งชีวิตที่เหลือที่ทะเลสาบแห่งนี้ดีไหม?”

 

ใกล้ๆ กันสีวู่หยาพยายามโคจรพลังลมปราณของตัวเองอยู่ ตัวเขาที่ได้ยินแบบนั้นจึงตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม “ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ แต่น่าเสียดาย หุบเขาเมฆากระจ่างอยู่ใกล้เกินไป” คำพูดของเขาเป็นแค่การเปรียบเปรยเท่านั้น ที่แห่งนี้เป็นที่อาจารย์ของพวกเขามักจะใช้เวลาอยู่

 

ยู่ฉางตงได้เดินออกห่างจากดาบยืนยาวก่อนที่จะเดินไปยังทะเลสาบร้อยกลีบ ตัวเขาได้เดินบนผิวน้ำอย่างช้าๆ ราวกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่บนบก “ที่ที่อันตรายที่สุดก็ย่อมที่จะเป็นที่ปลอดภัยที่สุดด้วยเช่นกัน…” ยู่ฉางตงไม่ได้เปียกน้ำเลยสักนิด ตัวเขาที่พูดเสร็จก็ได้สะบัดแขนเบาๆ

 

ชิ๊ง!

 

ดาบยืนยาวของตัวเขาที่ปักอยู่มันกลับเข้าฝึกที่หลังเอง ใบดาบที่ส่องแสงสีแดงออกมาดูโดดเด่นเป็นพิเศษในยามค่ำคืน

 

ยู่ฉางตงยังคงเดินอยู่เหนือผิวน้ำ ตัวเขาไม่ได้ใช้พลังป้องกันใดๆ ออกมา ยู่ฉางตงได้เหวี่ยงดาบยืนยาวไปรอบๆ ก่อนที่ดาบของเขาจะส่งพลังทำลายล้างไปโดนผิวน้ำที่อยู่บนทะเลสาบ

 

ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!

 

หยดน้ำที่ถูกแรงกระแทกของการโจมตีได้สะท้อนเข้าหาต้นไม้ใกล้ๆ ก่อนที่จะทิ้งรูโหว่เอาไว้บนลำต้นเหล่านั้น

 

ทะเลสาบที่สั่นไหวได้กลับกลายมาสงบอีกครั้ง ทักษะดาบที่ยู่ฉางตงได้ใช้ออกมาอยู่ในพื้นฐานของความสมบูรณ์แบบ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถใช้ทักษะดาบต่อสู้ได้โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้พลังลมปราณหรือดาบพลังลมปราณเข้าช่วย

 

แคล๊ก! เอี๊ยดดด

 

ต้นหมายหลายต้นที่ถูกลูกหลงได้โค่นล้มลงไปกับพื้น ในตอนนั้นเองดาบยืนยาวก็กลับคืนสู่ฝักอีกครั้ง

 

ยู่ฉางตงได้พูดออกมาอย่างแผ่วเบา “ศิษย์น้องเจ็ด ในแง่ของทักษะการใช้ดาบ เจ้าจะให้คะแนนกับกระบวนท่าของข้าอย่างไร?”

 

สีวู่หยาได้ตอบกลับมาอย่างจริงจัง “ไม่มีใครเทียบเคียงทักษะดาบกับท่านได้หรอกศิษย์พี่รอง”

 

“นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าจะตอบเจ้า…แม้ว่าท่านอาจารย์อยู่ที่นี่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลไป”

 

ในทางกลับกันสีวู่หยาไม่ได้รู้สึกมั่นใจเหมือนกับยู่ฉางตง สีวู่หยามักจะรับรู้ข่าวคราวของผู้เป็นอาจารย์มาโดยตลอด และเพราะแบบนั้นเขาจึงไม่เหมือนกับยู่ฉางตง ซู่จินฉาน นักบุญแห่งดาบ, ซู่ปิงจากแห่งเมืองรูหนาน ยู่ฉางตงล้วนแต่ไม่เคยกลัวใคร การที่ยู่ฉางตงไร้ความกลัวแบบนี้ยิ่งทำให้สีวู่หยาเสี่ยงที่จะวิ่งเข้าหาผู้เป็นอาจารย์ของตัวเอง

 

ในท้ายที่สุดสีวู่หยาก็ได้ถามออกมา “ศิษย์พี่รอง ข้าไม่อยากที่จะตั้งคำถามเกี่ยวกับความแข็งแกร่งที่ท่านมีหรอกนะ…แต่ดูเหมือนว่าพลังของท่านอาจารย์เองก็ยังเพิ่มพูนขึ้นมากเช่นกัน”

 

ยู่ฉางตงขมวดคิ้ว เท้าของเขาได้จุ่มลงไปในน้ำกว่าครึ่งนิ้วได้ ตัวเขาได้ดีดตัวออกมาจากทะเลสาบภายในการเคลื่อนไหวเดียว ในตอนนั้นคลื่นน้ำก็ได้กระเพื่อมขึ้นจากพลังที่ยู่ฉางตงใช้ไป เท้าของเขาไม่ได้เปียกน้ำแม้แต่นิดเดียว ตัวเขาจ้องมองไปที่สีวู่หยาเพื่อที่จะรอฟังคำอธิบายต่อไป

 

สีวู่หยาได้พูดขึ้น “ที่ด้านนอกหมู่บ้านเมื่อตอนนั้น ข้าเห็นพลังของท่านอาจารย์กับตาตัวเอง ท่านอาจารย์กำลังยืนอยู่บนดอกบัวสีฟ้า…ในตอนแรกข้าคิดว่ามันเป็นพลังจากม่านพลังของภูเขาทอง แต่ข้าคิดผิด พลังนั่นสามารถลบล้างพลังผนึกมนตราที่อยู่บนร่างกายของข้าได้ ถ้าหากเป็นพลังจากม่านพลังจริงมันคงจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้แน่…”

 

“เจ้าแน่ใจแล้วหรอ?” ยู่ฉางตงถามกลับมา

 

“ข้ามั่นใจ” สีวู่หยาตอบกลับไปอย่างจริงจัง “บางทีท่านอาจารย์อาจจะค้นพบวิธีที่จะเอาชนะอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ได้แล้วก็เป็นได้”

 

สีหน้าที่ดูอ่อนโยนและสุภาพของยู่ฉางตงยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไป แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไม่พอใจเท่าไหร่ “ศิษย์น้อง ถ้าหากเจ้าพยายามห้ามไม่ให้ข้าต่อสู้กับศิษย์พี่ใหญ่ด้วยวิธีนี้ ข้าเกรงว่าเจ้าจะต้องได้แต่ผิดหวังแน่”

 

“ท่านเข้าใจข้าผิดแล้วศิษย์พี่ นั่นไม่ใช่ความหมายที่ข้าจะบอกท่านเลย” สีวู่หยาตอบกลับ

 

“ข้าเองก็หวังว่าเจ้าจะไม่ทำแบบนั้น”

 

“ข้าสาบานกับสวรรค์ว่าข้าไม่มีเจตนาที่จะทำเช่นนั้น” สีวู่หยาชูนิ้วขึ้นฟ้า

 

ยู่ฉางตงยอมปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป ตัวเขาหันไปรอบๆ อย่างช้าๆ ก่อนที่ดาบยืนยาวจะลอยเข้าหาฝ่ามือของตัวเขาเอง “ศิษย์น้องเจ็ด เจ้าคิดว่าระหว่างช้ากับศิษย์พี่ใหญ่ใครกันที่จะเป็นผู้ชนะ?”

 

‘คำถามชักจะยากขึ้นไปทุกที’ สีวู่หยาที่ได้ยินคำถามแบบนั้นพูดไม่ออก ตัวเขาพยายามเก็บสีหน้าเอาไว้ให้ดีที่สุดก่อนที่จะพูดออกมา “ท่านต้องชนะแน่นอน”

 

“ข้าเองก็คิดแบบนั้น” ยู่ฉางตงได้พูดออกมาเบาๆ “นี่ก็ดึกแล้ว ศิษย์น้องเจ็ดเจ้าก็พักผ่อนซะเถอะ”

 

ไม่ทันที่เสียงของยู่ฉางตงจะเงียบหายไป ในตอนนั้นก็มีประกายแสงสีฟ้าส่องสว่างจากทิศทางที่หุบเขาเมฆากระจ่างตั้งอยู่ มันเป็นแสงที่ดูเหมือนกับหิ่งห้อย น่าเสียดายที่มันอยู่ไกลเกินไป ด้วยความมืดเช่นนี้คงจะไม่มีใครสังเกตเห็นแสงที่อยู่ไกลไปกว่าหลายไมล์นั่นได้

 

สีวู่หยายังคงนั่งสมาธิต่อไป ตัวเขากำลังโคจรพลังของตัวเองกลับมา ในหลายวันต่อจากนี้สีวู่หยาจะต้องฟื้นคืนพลังให้ได้มากที่สุด ตัวเขาไม่อยากที่จะเสียเวลาไปแม้แต่นิดเดียว สีวู่หยาได้โคจรพลังต่อไปทั้งคืน

 

เช้าวันรุ่งขึ้น

 

เมื่อดวงอาทิตย์กลับมาทอแสงอีกครั้ง สีวู่หยาก็ได้ตื่นขึ้นจากหยดน้ำค้างที่ไหลอาบใบหน้า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นตัวเขาก็เห็นศิษย์พี่รองของตัวเองยืนอยู่ด้านข้างแล้ว

 

ยู่ฉางตงได้ชี้ไปยังทิศที่วิหารเมฆาตั้งอยู่ “ที่นั่นมีควันไฟจากปล่องควันครัว”

 

สีวู่หยาอยากจะเตือนผู้เป็นศิษย์พี่ว่าการยืนอยู่ข้างๆ ของใครสักคนในขณะที่เขาคนนั้นนอนอยู่เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกซะจากเก็บคำพูดนั้นไป ท้ายที่สุดตัวเขาก็ได้พูดออกมา “ข้าเคยสืบเรื่องของวิหารเมฆามาแล้ว หลังจากที่แม่ชีวู่เหนียนเสียพลังวรยุทธไป นางก็ได้จากวิหารเมฆาไปด้วย แม่ชีที่เหลือไม่มีอะไรให้น่าห่วง แม่ชีของวิหารเมฆาได้ทิ้งที่นั่นกันไปหมดแล้ว ในตอนนี้ก็คงจะมีแต่เสวียงจิ้งเท่านั้นที่อยู่ที่นั่น แล้วทำไมถึงมีควันไฟลอยออกมาจากปล่องครัวกัน?”

 

“ช่างน่ายินดีจริงๆ” ยู่ฉางตงได้พูดต่อ “เจ้าน่ะยังไม่เข้าใจความน่ายินดีของโลกใบนี้หรอกนะศิษย์น้อง”

 

“บางทีข้าอาจจะเป็นแบบนั้น” สีวู่หยาได้ตอบกลับมา

 

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ต้องการที่จะพูดอะไร…” ยู่ฉางตงได้หัวเราะออกมาเบาๆ หลังจากนั้นตัวเขาก็กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับชักดาบยืนยาวออกมา

 

ร่างอวตารดอกบัวแปดกลีบได้ปรากฏขึ้น มันมีความสูงกว่า 100 ฟุตด้วยกัน ที่ด้านหลังของร่างอวตารมีดอกบัวสว่างจ้าหมุนรอบตัวเองอยู่

 

ยู่ฉางตงยืนอยู่ท่ามกลางพลังอวตารของตัวเอง ตัวเขาได้กอดอกก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์น้อง นอกจากศึกครั้งนี้ข้าก็คงจะไม่มีคู่ต่อสู้ไหนที่คู่ควรกับข้าอีกต่อไปแล้ว” หลังจากนั้นตัวเขาก็ได้พูดเสริมออกมา “จะมีก็แต่ท่านอาจารย์เท่านั้น”

 

สีวู่หยามองร่างอวตารอันใหญ่ยักษ์ก่อนที่จะคิดถึงอะไรบางอย่าง บางครั้งตัวเขาก็รู้สึกว่าศิษย์พี่รองคนนี้ช่างเป็นคนที่โง่เขลาเอามากๆ ตัวเขาไม่เข้าใจเลยว่าฉายาดาบปีศาจจะสร้างชื่อเสียงและทำให้เหล่าผู้คนรู้สึกหวาดกลัวได้ยังไงกันแน่

 

ภายในวิหารเมฆา

 

ลู่โจวได้ลืมตาขึ้นมาก่อนที่จะมองไปทางอวตารที่สูงกว่าร้อยฟุต แม้ว่ามันจะอยู่ไกลกว่าหลายไมล์แต่ตัวเขาก็มองเห็นมันได้อย่างชัดเจน

 

“ทะเลสาบร้อยกลีบสินะ?”

 

‘ศิษย์ทรยศแน่ๆ’ ตอนนี้เหลือเวลาอีก 4 วันด้วยกันกว่าที่คูลดาวน์การ์ดจะหายไป ไม่จำเป็นจะต้องรีบร้อนอะไร ไม่มีอะไรที่ตัวเขาทำได้อยู่ดีถ้าหากออกไปตอนนี้

 

ในตอนนั้นเองเสียงของต้วนชิงก็ได้ดังออกมาจากด้านนอก “ท่านผู้อาวุโส เกิดเรื่องขึ้นแล้ว! มีร่างอวตารดอกบัวแปดกลีบปรากฏขึ้น!”

 

“ข้ารู้แล้ว” ลู่โจวได้พูดออกมาอย่างไม่แยแส

 

ในตอนแรกต้วนชิงวางแผนเอาไว้ว่าจะถามลู่โจวถึงวิธีการรับมือ แต่ในตอนนั้นเองตัวเขาก็คิดอะไรได้ ในตอนนี้มันเร็วจนเกินไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผู้อาวุโสก็คงจะตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าได้เอง อีกอย่างมันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเขา ดังนั้นต้วนชิงจึงคำนับให้ก่อนที่จะตอบกลับมา “ผู้อาวุโส ข้าจะรอฟังข่าวดีจากท่านเอง”

 

ไม่ว่าจะยังไงต้วนชิงและชาววิหารปีศาจก็เป็นแค่ผู้ชมที่จะมาชมการต่อสู้เท่านั้น ยังไงซะตัวเขากับพรรคพวกก็ไม่อาจที่จะทำอะไรได้อยู่ดี พลังตรงหน้าที่เห็นก็คือพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ ใครก็ตามที่ใช้พลังนี้ขึ้นมาคงจะไม่มีใครอยากเข้าใกล้เป็นแน่ หลังจากที่พลังอวตารหายไปทะเลสาบร้อยกลีบก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

 

ลู่โจวหลับตาก่อนที่จะทำสมาธิเพื่อทำความเข้าใจเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ต่อ

 

อีกหนึ่งวันได้ผ่านพ้นไป

 

ลู่โจวรู้สึกว่าพลังพิเศษของตัวเองมันเพิ่งจะฟื้นคืนมาเพียงแค่ 1 ใน 5 เท่านั้น พลังระดับนี้คงจะทำได้เพียงขับไล่ยอดฝีมือผู้ที่มีพลังขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่คนเดียวได้เท่านั้น พลังมันยังไม่มากพอ ลู่โจวมีเวลาน้อยเกินไป ในตอนนี้ตัวเขาไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว ไม่ว่าจะทำยังไงตัวเขาก็เร่งความเร็วในการทำความเข้าใจเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ไม่ได้

 

ในตอนนั้นเองเสียงของใครบางคนก็ได้ดังออกมาจากด้านนอกอีกครั้ง

 

“ท่านผู้อาวุโส รถม้าของสำนักอเวย์จีมาถึงที่นี่แล้ว”

 

ลู่โจวลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะตอบกลับ “เอาล่ะ” ตัวเขาได้ยืนขึ้นก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง

 

ต้วนชิงและคนอื่นๆ ยืนรออยู่ที่ด้านนอกอยู่ก่อนแล้ว ต้วนชิงที่เห็นลู่โจวก็ได้พูดออกมา “ท่านผู้อาวุโส พวกเราได้รับการยืนยันแล้วว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นที่ทะเลสาบร้อยกลีบ มันเป็นการต่อสู้ระหว่างศิษย์คนแรกกับศิษย์คนที่สองของท่าน”

 

ลู่โจวไม่ได้สนใจอะไรต้วนชิง ตัวเขาได้เดินออกมายังลานวิหาร ลู่โจวในตอนนี้ต้องการที่จะหาสถานที่ที่เหมาะสมกว่านี้เพื่อเฝ้ามองดูการต่อสู้ แต่ภายในห้องที่เขาอยู่มันมีมุมมองไม่มากนัก แม้ว่าตัวเขาจะเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบร้อยกลีบแต่สำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในระยะที่ไกลออกไปกว่าหลายไมล์นี้คงจะไม่เห็นการต่อสู้อย่างชัดเจนแน่

 

ลู่โจวตัดสินใจที่จะเดินไปยังยอดเขาเมฆากระจ่างแทน

 

ในเวลาเดียวกันรถม้าลอยฟ้าสีดำอันใหญ่ยักษ์ก็กำลังพุ่งตรงไปยังทะเลสาบร้อยกลีบ

 

 

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

Bringing-The-Farm-To-Live-In-Another-World-Cover
Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ)
24 เมษายน 2023
download
Zui Qiang Wu Shen – เทพยุทธ์สะท้านภพ
5 พฤศจิกายน 2021
คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ
คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ
9 เมษายน 2023
ปก-2-696×193
Rise of the White Dragon การตื่นขึ้นของมังกรขาว
5 กรกฎาคม 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 328"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF