My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 709 ความโกรธของฉิงเฟิง

　　ทุกคนต่างมีสีหน้าไม่อยากเชื่อเมื่อพวกเขาได้เห็นอาวุโสเทียนหมิงคุกเข่าลงต่อหน้าฉิงเฟิงและเรียกเขาว่า‘นายน้อย’
　　อาวุโสเทียนหมิงเป็นจ้าวนิกายชะตาฟ้าเมื่อ 15 ปีก่อนเขาเป็นถึงยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของเขาถดถอยลงอย่างมากหลังจากถูกลอบทำร้าย ว่ากันว่าตอนนี้เขามีพลังในระดับเหนือสวรรค์เท่านั้น แต่ทว่า ในฐานะอดีตแกรนด์มาสเตอร์ เขามิอาจดูแคลนได้อย่างแน่นอน
　　ยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์ไม่อาจดูหมิ่นพวกเขาทุกคนมีความเย่อหยิ่งและศักดิ์ศรีที่สูงส่งเทียมฟ้า ดังนั้นเป็นเหตุผลที่ทุกคนต่างตะลึงงันเมื่อได้เห็นอดีตยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์คุกเข่าลงต่อหน้าฉิงเฟิง มันพลิกผันความเข้าใจของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง
　　การที่เหลิงเสวี่ยและคนอื่นๆต่างกล้าที่จะบุ่มบ่ามเข้ามาในนิกายชะตาฟ้าก็เพราะความแข็งแกร่งของอาวุโสเทียนหมิงลดลงอย่างมาก
　　หัวใจของฉิงเฟิงกระตุกเมื่อเขาเห็นอาวุโสเทียนหมิงที่คุกเข่าอยู่ตรงเท้านี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอย่างมากสำหรับเขา เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยว่าอาวุโสเทียนหมิงจะเป็นหนึ่งในสิบอสูรที่จงรักภักดีต่อบิดาของเขา
　　เขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบนองเลือดในวันนี้เนื่องจากยอดฝีมือทั้งสามต่างก็ล้อมกรอบเขาแต่ตอนนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องหวั่นเกรงเหลิงเสวี่ยและคนอื่นๆอีกต่อไป เพราะอาวุโสเทียนหมิงเป็นคนของเขา
　　ทันใดนั้นอาวุโสเทียนหมิงก็หันหลังไปและกล่าวกับลู่อิงและเด็กสาวข้างๆว่า “ทำไมพวกเจ้าถึงยังยืนเฉยอยู่อีก รีบคำนับนายน้อยสิ”
　　การแสดงออกของสองพี่น้องกลายเป็นอึดอัดเมื่อได้ยินคำพูดของอาวุโสเทียนหมิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งลู่อิง ผู้ซึ่งทะเลาะกับฉิงเฟิงอยู่หมาดๆ ดังนั้นมันเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดอย่างสุดซึ้งที่ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา
　　สำหรับเด็กสาวคนนั้นเธอเป็นหลานสาวของอาวุโสเทียนหมิงโดยปกติจะมีแต่คนมาเลียแข้งเลียขาเธอ มันจึงเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับเธอไม่น้อยที่จะต้องคุกเข่าลงต่อหน้าผู้อื่น
　　อาวุโสเทียนหมิงโกรธมากเมื่อเห็นสองพี่น้องไม่เชื่อฟังคำพูดของเขาเขากล่าวอย่างดุร้ายว่า “เจ้าพวกเด็กบัดซบ ! ท่านผู้นี้คือนายน้อยของข้า ถ้าพวกเจ้ายังไม่ยอมคุกเข่าก็ออกจากนิกายชะตาฟ้าไปซะเดี๋ยวนี้ และไม่ต้องมาเรียกข้าว่าท่านปู่อีกต่อไป !”
　　อาวุโสเทียนหมิงโกรธกริ้วอย่างมากเนื่องจากเมื่อ 15 ก่อน เขาถูกตามล่าโดยกองกำลังลึกลับจนเกือบจะต้องตาย ที่เขายังคงมีชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะราชันผู้พิชิตเอาตัวเข้าเสี่ยงช่วยเขาไว้ ในการช่วยชีวิตเขาครั้งนั้น ราชันผู้พิชิตได้รับบาดเจ็บจากชายลึกลับในผ้าคลุมดำ
　　อาวุโสเทียนหมิงรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของราชันผู้พิชิตมากดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะรับใช้และกลายเป็นหนึ่งในสิบอสูร
　　สองพี่น้องสีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเซียวทันทีที่ได้ยินคำพูดตัดขาดของอาวุโสเทียนหมิง
　　ปังปัง !
　　ชายหนุ่มหล่อเหลาขบฟันแน่นและคุกเข่าลงต่อหน้าฉิงเฟิงพร้อมกับเด็กสาวข้างๆ
　　“คารวะนายน้อยข้าคือลู่อิง”
　　“คารวะนายน้อยข้าคือลู่ผิง”
　　สองพี่น้องพูดอย่างสุภาพเพื่อที่จะรักษาความสัมพันธ์กับปู่ของตน พวกเขาทำได้เพียงต้องยอมคุกเข่าต่อหน้าฉิงเฟิงและยอมรับเขาเป็นนายน้อย
　　ฉิงเฟิงมองไปที่พวกเขาและกล่าวว่า“ราชาอสูรเทียนหมิงและพวกนายทุกคนยืนขึ้นเถอะ ไม่ต้องคุกเข่าแล้ว” 　　“ขอรับนายน้อย”อาวุโสเทียนหมิงกล่าวพร้อมกับพยักหน้าขณะที่เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับสองพี่น้อง จากนั้นเขาก็เดินไปอยู่ข้างๆฉิงเฟิง
　　กัวซื่อเว่ยตามมาสมทบกับฉิงเฟิงในอีกไม่นานเขามองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความชื่นชมพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เมื่อเขาได้เห็นสถานการณ์
　　อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าอำนาจ นี่สิอำนาจอย่างแท้จริง ! หัวหน้านิกายชะตาฟ้าคุกเข่าลงทันทีที่เห็นตราผู้พิชิตในมือของฉิงเฟิง
　　เหลิงเสวี่ยและไป๋หวู่ชางมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความประหลาดใจในสายตาของพวกเขาก่อนหน้านี้พวกเขาล้อมกรอบด้วยเจตนาฆ่าฉิงเฟิงและแย่งภรรยาของเขามา แต่เพียงพริบตาสถานการณ์ก็แปรเปลี่ยนไปเป็นคนละขั้ว ฉิงเฟิงได้พิชิตอาวุโสเทียนหมิงและนิกายชะตาฟ้าไว้เรียบร้อย มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
　　“เหลิงเสวี่ย,ไป๋หวู่ชาง วันนี้เป็นวันตายของพวกแก !” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างเย็นชาหลังจากที่เขาวางหลินเสวี่ยไว้บนเตียงน้ำแข็ง
　　ฉิงเฟิงขุ่นเคืองพวกเขามานานคำพูดของพวกเขาปลุกเร้าเจตนาฆ่าของฉิงเฟิงให้ปะทุขึ้น วันนี้เขามุ่งมั่นที่จะฆ่ายอดฝีมือทั้งสองคนนี้ให้จงได้
　　“ฮ่าๆๆน่าขันนัก ! ข้าเป็นยอดยุทธ์เหนือสวรรค์ขั้นสูงสุด ข้าคืออันดับหนึ่งในรายชื่อเหนือสวรรค์ อย่างแกถ้าไม่พึ่งพาคนอื่นจะมีปัญญาอะไรมาฆ่าข้า !” เหลิงเสวี่ยหัวเราะลั่นและเยาะเย้ยออกมา
　　เหลิงเสวี่ยแข็งแกร่งอย่างไม่ธรรมดาเขาถึงกล้าบุกเดี่ยวเสนอหน้าขึ้นมาบนภูเขาชะตาฟ้าโดยไร้ผู้ติดตาม เขาคือหมายเลขหนึ่งในรายชื่อยอดยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์ เขาเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะยอดฝีมือไร้พ่าย เขาไม่เคยพ่ายผู้ใดนอกจากยอดยุทธ์ระดับแกรนด์มาสเตอร์ที่หาได้ยากยิ่ง
　　ทุกคนในห้องโถงใหญ่ต่างก็เป็นยอดฝีมือขั้นเหนือสวรรค์เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่หวั่นเกรงฉิงเฟิงแม้แต่น้อย　　“ราชาอสูรเทียนหมิงสังหารเหลิงเสวี่ยให้ฉัน”
　　ฉิงเฟิงออกคำสั่งกับราชาอสูรเทียนหมิงด้วยรอยยิ้มอันหนาวเย็น
　　วูบ
　　!
　　ไม่ทันขาดคำอาวุโสเทียนหมิงปรากฏตัวต่อหน้าเหลิงเสวี่ยราวกับภูตผี เขาฟาดผังแปดทิศที่อยู่ในมือเข้าใส่เหลิงเสวี่ยในทันที
　　ผังแปดทิศเป็นสมบัติที่ไม่เพียงแค่สามารถทำนายอนาคตได้แต่มันยังสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้อีกด้วย
　　“
　　หมัดโลหิตอสูร
　　!!”
　　เหลิงเสวี่ยคำรามด้วยเสียงต่ำเขาเหวี่ยงหมัดที่ก่อตัวเป็นสีแดงโลหิตตรงเข้าปะทะกับอาวุโสเทียนหมิงทันที　　เปรี้ยง
　　!!
　　ผังแปดทิศปะทะกับหมัดโลหิตอสูรจนเกิดเสียงดังตูมทั้งคู่ต่างถอยหลังไปคนละหลายก้าว
　　พวกเขาทั้งสองคนเสมอกันในการปะทะครั้งแรก
　　“สหายเก่าข้าคาดไม่ถึงเลยว่าพลังของท่านจะฟื้นฟูกลับมาถึงขั้นสูงสุดเหนือสวรรค์แล้ว” เหลิงเสวี่ยกล่าวอย่างเย็นชาเมื่อรู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งภายในร่างของอาวุโสเทียนหมิง
　　“หึถ้าหากเป็นเมื่อ 15 ปีก่อน เพียงกระบวนท่าเดียวของข้าก็สังหารเจ้าได้นับสิบครั้งแล้ว เจ้าไม่มีโอกาสมาทำตัวโอหังเช่นนี้ต่อหน้าข้าหรอก”
　　อาวุโสเทียนหมิงกล่าวอย่างเย็นชา
　　“
　　ตาย　　!
　　“
　　เหลิงเสวี่ยและอาวุโสเทียนหมิงคำรามออกมาพร้อมกันและปะทะกันอีกครั้งพวกเขาทั้งสองคนต่างก็เป็นยอดฝีมือขั้นเหนือสวรรค์ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะหาผู้แพ้ชนะได้ในเวลาอันสั้น
　　ฉิงเฟิงไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ระหว่างทั้งสองคนนี้เขาเดินตรงไปหาไป๋หวู่ชาง
　　ในขณะที่ฉิงเฟิงกำลังจะลงมือต่อไป๋หวู่ชางเจียงไป่เต๋าก็กล่าวขึ้นมาทันทีว่า
　　“หลี่ฉิงเฟิงไป๋หวู่ชางไม่ได้เจตนาที่จะแย่งภรรยาของเจ้า ทำไมเจ้าไม่ปล่อยเขาไปจะได้จบเรื่องกันดีๆ”
　　ปล่อยมัน
　　ฉิงเฟิงฉีกยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของเจียงไป่เต๋าเขายิ้มอย่างหยิ่งยโสและกล่าวว่า “เจียงไป่เต๋า ฉันจะฆ่าไป๋หวู่ชางให้ได้ ใครขวางทางฉันจะฆ่าให้สิ้น”
　　“หลี่ฉิงเฟิงข้ากำลังออกหน้าช่วยเจ้า อย่ามาเนรคุณ ! เจ้าไม่ใช่คู่มือของไป๋หวู่ชางแม้แต่น้อย” เจียงไป่เต๋าขมวดคิ้วและกล่าวด้วยความดูหมิ่น
　　เจียงไป่เต๋าและไป๋หวู่ชางต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเทียนจิงตระกูลเจียงและตำหนักโกสคิงเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันในอดีต เขาจึงอยากยุติความขัดแย้งนี้ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าฉิงเฟิงจะไม่สนใจคำพูดเขาและไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่น้อย
　　“เจียงไป่เต๋าความหวังดีของนายไม่มีค่าในสายตาฉัน ฉันตั้งใจแน่วแน่ที่จะฆ่าเจียงไป่เต๋าในวันนี้” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆขณะที่เขาไม่สนใจคำพูดของเจียงไป่เต๋าและก้าวไปเผชิญหน้ากับไป๋หวู่ชาง
　　สีหน้าของเจียงไป่เต๋ามืดครึ้มลงเมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงไม่แยแสเขาเดินออกมาเพื่อเตรียมจะสั่งสอนฉิงเฟิง
　　ทันใดนั้นลั่วหนี่ซางก็กล่าวว่า“หยุดอยู่ตรงนั้น เจียงไป่เต๋า นี่เป็นเรื่องระหว่างหลี่ฉิงเฟิงกับไป๋หวู่ชาง นายไม่เกี่ยว”
　　“ถูกต้องแล้วเจียงไป่เต๋านี่เป็นเรื่องระหว่างพวกเขา ท่านเป็นหนึ่งในสามยอดยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์ อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขา”
　　ฉินเซียนจื่อกระพริบขนตายาวของเธอและกล่าวเสริม